Tags:
Node Thumbnail

Facebook รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2012 เนื่องจากบริษัทอยู่ในช่วงการยื่นขอจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นจึงต้องเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการด้วยเช่นกัน มีรายได้รวม 1,058 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 44.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากโฆษณา 872 ล้านดอลลาร์ รายได้ทางอื่นรวมทั้งการซื้อสินค้า 186 ล้านดอลลาร์ โดยมีกำไรสุทธิ 205 ล้านดอลลาร์

ส่วนของรายจ่ายนั้นก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปีก่อนรวม 677 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่นักวิเคราะห์ต่างกังวลว่า Facebook อาจเติบโตด้านรายได้เร็วก็จริง แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหลายอาจเพิ่มขึ้นเร็วมากกว่า ส่งผลให้กำไรถดถอยลงเรื่อยๆ

สำหรับในรายงาน S-1 นี้นอกจากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดแล้ว ก็ยังมีข้อมูลและสถิติที่น่าสนใจนี้ดังนี้ครับ

* ราคาหุ้นประเมิน ณ เดือนมกราคมอยู่ที่ 30.89 ดอลลาร์ต่อหุ้น
* รายได้จากตลาดนอกอเมริกาคิดเป็น 49% ของรายได้รวม
* ส่วนแบ่งรายได้จาก Zynga คิดเป็น 11% ของรายได้รวม ลดลง 13% จากปีก่อน
* ผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือนมีถึง 901 ล้านคน
* ผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน 526 ล้านคน
* 3.2 พันล้าน Like และแสดงความเห็นต่อวัน
* มีรูปภาพอัพโหลดวันละ 300 ล้านรูป
* คำนวณรายได้ต่อเดือนต่อผู้ใช้งานหนึ่งคนคิดเป็น 1.21 ดอลลาร์
* ดีลซื้อ Instagram จ่ายเป็นเงินสด 300 ล้านดอลลาร์ และหุ้น Facebook 23 ล้านหุ้น

สำหรับสถิติที่ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ดูได้จากข่าวเก่าครับ

ที่มา: Facebook Form S-1, Bloomberg และ TechCrunch

Get latest news from Blognone

Comments

By: banktp106
Android
on 24 April 2012 - 13:53 #411864

รายจ่ายมาจากการซื้อ instragam ป่าว

By: narasak
iPhoneAndroidUbuntu
on 24 April 2012 - 15:47 #411894

รายได้ facebook ท่านว่าสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกเยอะไหมครับ
ช่วยวิเคราะห์ให้อ่านหน่อย

By: arjin
WriteriPhoneWindows
on 24 April 2012 - 16:00 #411903 Reply to:411894
arjin's picture

ใน S-1 มีการระบุไว้เลยโดยเป็นความเห็นของ FB เองครับว่า อัตราการเติบโตปีเทียบปี (% Growth YoY) นั้นลดลงเรื่อยๆ ช่วงแรกๆ โตปีละหลายร้อยเปอร์เซนต์ แต่ 2010 โตเทียบ 2009 อยู่ที่ 100 กว่าเปอร์เซนต์ ส่วน 2011 เทียบ 2010 โต 88% ซึ่งนับจากนี้แนวโน้มก็จะมีอัตราเติบโตต่ำลงเรื่อยๆ

ปล. ความเห็นส่วนตัวผมนะ Facebook ยังขาดตลาดอีกบางประเทศเช่นจีน ซึ่งถ้า Facebook เข้าไปทำตลาดได้สำเร็จจริง ก็จะเหมือนคำถามว่า iPhone จะขายได้เพิ่มอีกแค่ไหน ผลคือการได้จีนแค่ที่เดียวก็ทำให้โตได้อีก...เยอะ

By: narasak
iPhoneAndroidUbuntu
on 24 April 2012 - 18:41 #411974 Reply to:411903

ถ้ารายได้ ไม่มีโอกาสเพิ่มแบบทวีคูณได้อีก
นักลงทุนที่ซื้อหุ้นราคานั้น...ก็คงเสี่ยงมากๆ เลยสิครับ

By: juliusds
AndroidUbuntuWindows
on 24 April 2012 - 16:50 #411926
juliusds's picture

รายได้มันน้อยไปป่าวเมือเทียบกับราคาหุ้น

By: Be1con
ContributorWindows PhoneWindowsIn Love
on 24 April 2012 - 20:36 #412029
Be1con's picture

Zynga ลดลงเพราะกำลังย้ายไปฐานตัวเอง


Coder | Designer | Thinker | Blogger

By: ginhub
ContributoriPhoneWindows
on 25 April 2012 - 01:56 #412175

การซื้อ Instagram ถือเป็นงบลงทุนครับ
Capital Expenditure (CAPEX)

คิดแยกทีหลัง ไม่รวมอยู่ในรายจ่าย ซึ่งอยู่ในงบกำไรขาดทุน (P/L)