รายงานของ Kaspersky บอกว่าประเทศไทยถูกโจมตีทางไซเบอร์สูงที่สุดในอาเซียน โดยเฉพาะแรนซัมแวร์เพิ่มขึ้นเป็นปีละ 109,315 ครั้ง ซึ่งองค์กรที่ตกเป็นเป้าหมายหลักคือ หน่วยงานรัฐ-กองทัพ อุตสาหกรรมพลังงาน-สาธารณูปโภค และบริษัทที่ปรึกษา-สถาบันการเงิน
การโดนโจมตีครั้งเดียว อาจทำให้องค์กรเสียหายเยอะมาก เพราะมีทั้งค่าไถ่ข้อมูล ค่ากู้คืนข้อมูล ค่าชดเชย และความเสียหายต่อชื่อเสียง ซึ่งทำให้ธุรกิจต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว เช่น MGM Resorts ของสหรัฐฯ ที่เคยถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์จากกลุ่ม Scattered Spider ธุรกิจสูญเสียกว่า 100 ล้านดอลลาร์ฯ ในไตรมาสที่ 3/2023
ทั้งนี้ องค์กรต้องเร่งป้องกันข้อมูล และเพิ่มทรัพยากรด้านไอที เพื่อรับมือกับภัยคุกคาม และป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหลหรือระบบล่มเมื่อถูกโจมตี ตามผลสำรวจของ Synology พบว่า เกือบ 50% ขององค์กรในไต้หวันไม่สามารถฟื้นฟูระบบได้เต็มที่ หลังโดนโจมตีทางไซเบอร์ เพราะขาดทรัพยากรด้านไอที
ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์
Comments
ของภาครัฐ อัพเดทไม่ทันต่อสถานะการณ์โลก
น่าจะเรื่อง งบ และ ใต้โต๊ะ สินะ
ที่เหลือก็คือ ซอฟต์แวร์ ที่ช่วยกันได้แค่ไหน
ของรัฐไทย สกมช. บอกชัดเจนว่า ขาดคน ซึ่งคนทำงานหรือเก่งสายนี้ในไทยมันน้อย คนต้องการเยอะ และเขาก็ไปเอกชนหมด ดูสภาพขั้นเงินเดือนของข้าราชการ ก็ตามนั้นแหละ
กระเป๋าเงินดิจิตอลของรัฐบาลจะรอดไหมนะ
อะไรนะเป็นแสนเลยเหรอ ข่าวแรนซัมแวร์ในไทย ก็หายไปมากแล้ว
ไม่อ่าน, อ่านไม่ออก, เลยไม่อ่านดีกว่า กด next ไปจบๆ, โดเมนจด .com รัวๆไว้หมดอายุช่างมัน ไม่เกี่ยวกับกรู ไม่ใช่เรื่องของกรู สิ้นเดือนรับค่าจ้างแค่นั้น, ไม่ชอบคนคิดลบ เน้นพลังบวก, ถ่ายรูปลงเฟสเน้นแต่คำคม
mindset ใครวะเนี่ย
ส่วนใหญ่โดนจากไฟล์แนบในemailไม่เน้นอ่านเน้นเปิดไว้ก่อน ขนาดเพิ่งอบรมและส่งจดหมายเตือนพร้อมจดหมายเวียนให้เซ็นต์รับทราบก็ไม่วายมีคนทำอีก จะมาหวังพึ่งantivirusไม่ทันกินหรอกพวกนี้มันเน้นโจมตีzero dayแพทไม่ทันมนุดป้ามือไวหรอก ดีว่ายุคหลังwindowsมีระบบป้องกันransomwareเพิ่มขึ้นมาเลยโดนกันน้อยขึ้นแต่การเปิดระบบป้องกันransomwareบางทีก็มีปัญหากับการทำงานแอพไม่สามารถเข้าถึงไฟล์อีก