Tags:
Node Thumbnail

Android Authority อ้างแหล่งข่าวภายในกูเกิล ให้ข้อมูลของชิป Tensor G3 โค้ดเนม zuma ที่น่าจะใช้ใน Google Pixel 8 ช่วงปลายปีนี้ ภาพรวมของ Tensor G3 เป็นการอัพเกรดใหญ่ ต่างจาก Tensor G2 ที่เปลี่ยนจาก Tensor G1 ไม่มากนัก

การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ Tensor G3 จะใช้ซีพียู 9 คอร์ สูตร 1+4+4 คือคอร์ใหญ่ Cortex-X3 1 คอร์, คอร์กลาง Cortex-A715 4 คอร์ และคอร์เล็ก Cortex-A510 4 คอร์ แตกต่างจากรุ่นพี่ Tensor G1/G2 ที่ใช้สูตร 2+2+4 เหมือนกัน

การอัพเกรดมาใช้คอร์ของ Arm รุ่นปี 2022 เป็นสถาปัตยกรรม ARMv9 (แม้ยังไม่ใช่ตัวใหม่สุดของปี 2023) ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นในภาพรวม รวมถึงได้ใช้ฟีเจอร์ความปลอดภัยหน่วยความจำ Memory Tagging Extensions (MTE) ที่คาดว่า Android จะรองรับใน Pixel 8 เป็นรุ่นแรกด้วย

จีพียูของ Tensor G3 ยังเป็นจีพียูระดับเรือธง Arm Immortalis-G715 รองรับ ray tracing ในตัว โดยคาดว่ากูเกิลจะเลือกใช้รุ่น 10 คอร์

แหล่งข่าวของ Android Authority ยังบอกว่า Pixel 8 จะเป็นมือถือ Android รุ่นแรกที่เป็น 64 บิตล้วนแบบไม่มีไลบรารี 32 บิตมาให้ด้วยเลย ต่างจาก Pixel 7 ที่รันแอพ 32 บิตไม่ได้ แต่ตัว OS ยังมีไลบรารี 32 บิตมาให้อยู่ โดยตัวไบนารีของ Pixel 8 เป็น 64 บิตทั้งหมดแล้ว

นอกจากนี้ ชิป Tensor G3 จะเป็นชิปมือถือตัวแรกที่รองรับการเข้ารหัส (encoding) วิดีโอเป็น AV1 ได้ด้วย ต่างจากชิปในท้องตลาดตอนนี้ที่รองรับแค่การถอดรหัส (decoding) วิดีโอแบบ AV1 เพียงอย่างเดียว ตรงนี้เป็นผลมาจากชิปวิดีโอตัวใหม่โค้ดเนม BigWave ที่พัฒนาขึ้นจาก BigOcean ใน Tensor G2

ส่วนชิปประมวลผล AI หรือ TPU จะใช้เวอร์ชันสาม โค้ดเนม Rio ที่สัญญาณนาฬิกา 1.1GHz แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดอื่นๆ, มีชิปประมวลผลสัญญาณ (DSP) ที่กูเกิลเรียกว่า GXP ตัวใหม่โค้ดเนม callisto ที่สัญญาณนาฬิกา 1065MHz เพิ่มขึ้นจาก GXP รุ่นแรก โค้ดเนม amalthea ที่ใช้ใน Tensor G1/G2

ข้อมูลอื่นของ Pixel 8 คือยังใช้ชิปโมเด็ม Exynos Modem 5300 ตัวเดิมของ Pixel 7 และเปลี่ยนมาใช้สตอเรจ UFS 4.0 ความเร็วสูง เทียบเท่ากับมือถือเรือธงของซัมซุง

ที่มา - Android Authority

Get latest news from Blognone