การใช้ซอฟต์แวร์ระดับองค์กรที่ใช้งานกับธุรกิจที่รับผิดชอบธุรกรรมมูลค่ามหาศาล จำเป็นต้องได้รับการดูแลต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดูแลความปลอดภัยที่อาจจะมีคนค้นพบช่องโหว่ใหม่ๆ ได้ทุกเวลา การดูแลซอฟต์แวร์เหล่านี้เป็นเรื่องปกติที่ผู้ผลิตจะกำหนดระยะเวลาดูแลเอาไว้ล่วงหน้า และดูแลรับผิดชอบแก้ไขช่องโหว่เหล่านั้น และหากมีโอกาส องค์กรก็ควรวางอัพเกรดไปใช้งานเวอร์ชั่นใหม่ๆ เพื่อให้ซอฟต์แวร์ได้รับการซัพพอร์ตและมีการดูแลต่อไป แต่หลายครั้งการอัพเกรดซอฟต์แวร์ไปใช้งานเวอร์ชั่นใหม่ๆ ก็เป็นเรื่องใหญ่ ที่ต้องการการลงทุนและระยะเวลาแก้ไขความเข้ากันได้ต่างๆ
SQL Server นับเป็นระบบฐานข้อมูลยอดนิยมในโลกองค์กร และไมโครซอฟท์ซัพพอร์ตแต่ละเวอร์ชั่นนานถึง 10 ปี แต่ตอนนี้ SQL Server 2012 ก็ครบกำหนดช่วงซัพพอร์ต และไมโครซอฟท์ก็เพิ่งออกแพตช์ชุดสุดท้ายให้กับ SQL Server 2012 ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ซอฟต์แวร์ที่หมดอายุซัพพอร์ตยังคงทำงานต่อไปได้ แต่การใช้งานซอฟต์แวร์ที่ไม่มีการดูแลจะเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ ตามช่วงเวลาที่จะมีคนพบช่องโหว่ใหม่ๆ ความเสี่ยงเช่นนี้ระบบไม่เป็นไปตามมาตรฐานควบคุมความมั่นคงปลอดภัยระบบไอทีจำนวนมาก โดยเฉพาะมาตรฐานระบบไอทีด้านการเงิน และยังมีกฎหมายเช่นพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุให้ทั้งผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลต้องจัดให้มีการรักษาความมันคงปลอดภัยที่เหมาะสม การปล่อยให้ซอฟต์แวร์ที่หมดอายุทำงานต่อไปโดยไม่มาตรการป้องกันจึงกลายเป็นความเสี่ยงขององค์กร
ไมโครซอฟท์เปิดทางเลือกให้กับองค์กรที่ไม่พร้อมสำหรับการอัพเกรด SQL Server 2012 ไปยังเวอร์ชั่นใหม่กว่า ไว้หลากหลายเส้นทาง ได้แก่
ทางเลือกที่หลากหลายเช่นนี้เปิดทางให้องค์กรสามารถวางแผนตามเงื่อนไขการใช้งาน เช่น ระบบฐานข้อมูลผูกติดกับระบบที่อยู่ภายในองค์กรอย่างมากก็สามารถเลือกซื้อ ESU หรืออัพเกรดไปใช้ Azure Arc ที่ถือเป็นการอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานไปพร้อมกัน หรือองค์กรอาจจะถือโอกาสนี้ในการย้ายระบบขึ้นคลาวด์
สนใจรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือปรึกษาถึงแนวทางการรักษาความปลอดภัยให้ SQL Server 2012 หลังหมดซัพพอร์ตตามแนวทางการใช้งานและเงื่อนไขขององค์กร ติดต่อคู่ค้าของไมโครซอฟท์ได้แล้ววันนี้ที่ https://partner-apac.ingrammicro.com/TH-MSCSP