SoftBank กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ที่ลงทุนสตาร์ตอัพจำนวนมากผ่านกองทุน Vision Fund เริ่มเข้มงวดกับการลงทุน และถอยออกจากสตาร์ตอัพที่ไม่สร้างผลกำไร ทำให้มีสตาร์ตอัพกลุ่มหนึ่งเริ่มประสบปัญหาทางการเงิน หนึ่งในนั้นคือ Light บริษัทสตาร์ตอัพด้านกล้องอัจฉริยะ ที่อาจถึงขั้นต้องยุติกิจการ

Light เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทสตาร์ตอัพผลิตกล้อง 16 เลนส์ รุ่น L16 สร้างความตื่นเต้นให้กับอุตสาหกรรมทั้งฝั่งโทรศัพท์มือถือ และการถ่ายภาพ แต่เพื่อการเติบโตทำให้ Light ต้องการแหล่งเงินทุนเข้าเลี้ยงธุรกิจ และกลุ่มทุนที่เข้ามานั้นคือ SoftBank

SoftBank เข้าลงทุนใน Light เมื่อปี 2018 ด้วยเงินมูลค่ากว่า 121 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,100 ล้านบาท ได้หุ้นมา 30% ซึ่ง SoftBank ไม่ได้มองว่า Light คือสตาร์ตอัพด้านการถ่ายรูป แต่มองไปไกลกว่านั้น พร้อมกำหนดให้ Light เป็นหนึ่งในบริษัทที่ SoftBank เข้าไปลงทุนเกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ

จุดนี้เอง Light จึงต้องเปลี่ยนต้วเอง ไล่ตั้งแต่การยุบทีมพัฒนากล้องถ่ายรูป พร้อมปลดพนักงานครึ่งบริษัทเพื่อเดินหน้าพัฒนากล้องอัจฉริยะที่ใช้ในรถยนต์ไร้คนขับตามที่ SoftBank ต้องการ ซึ่งการแลกครั้งนี้เหมือนจะไม่คุ้ม เพราะสุดท้ายกลายเป็น Light เองที่กำลังประสบปัญหาทางการเงิน

แหล่งข่าวรายหนึ่งแจ้งกับ Bloomberg ว่า Light อยู่ระหว่างหารือกับบริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับจะดำเนินธุรกิจต่อไป หรือจะยุติกิจการเพียงเท่านี้ เนื่องจากสถานะการเงินของบริษัทกำลังมีปัญหา และการจะได้เงินทุนก้อนใหม่ SoftBank แจ้งว่า Light ต้องหานักลงทุนรายใหม่มาให้ได้ก่อน ซึ่งมันไม่ง่ายเลยในเวลานี้

ในทางกลับกัน Masayoshi Son ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SoftBank เคยแจ้งว่า จะให้การสนับสนุนสตาร์ตอัพที่เข้าไปลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มบริษัทรถยนต์ไร้คนขับที่ SofatBank เข้าไปลงทุนมีทั้ง Cruise, Uber และ Grab ทั้งปัจจุบันเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และต้องอาศัยระยะเวลาในการทดสอบ

มีรายงานว่า บริษัทสตาร์ตอัพที่ SoftBank เข้าไปลงทุนกว่า 300 บริษัท มีมากกว่า 2 บริษัทที่กำลังถูกมองว่าอาจไม่ทำเงินให้กับ SoftBank ได้ในอนาคต ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่า บริษัทเหล่านั้นจะมีแนวโน้มถูกลอยแพเหมือนกับ Light หรือไม่

อ้างอิง // Japan Times, ภาพทั้งหมดจาก Light