คริปโตเคอเรนซี และสกุลเงินดิจิทัล เริ่มกลายมาเป็นคำศัพท์ที่เราได้ยินกันบ่อยครั้งขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ และเริ่มกลายเป็นอีกช่องทางการลงทุนที่มีหลายคนสนใจ เริ่มศึกษาหาความรู้ และอีกหลายคนที่เริ่มลงเงินและลงทุนไปแล้ว ซึ่งการลงทุนผ่านคริปโตเคอเรนซีก็มีหลายแบบ และมีข้อได้เปรียบและความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป แต่ในวันนี้วิธีการลงทุนที่เราจะพูดถึงคือแบบ ICO กับ DESTINY TOKEN โทเคนเปิดตัวของ Kubix ในฐานะ ICO Portal ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Kubix เปิดตัวได้เปิดตัวเป็น ICO Portal อย่างเป็นทางการ และเปิดตัว DESTINY TOKEN ที่เรียกว่าเป็น “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน” คู่ไปกับภาพยนตร์ “บุพเพสันนิวาส ๒” ร่วมกับ บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด และ บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด

การลงทุนแบบ ICO หรือ Initial Coin Offering นี้ เป็นอีกช่องทางการลงทุนบนบล็อกเชน ที่เรียกได้ว่าคล้ายคลึงกับการซื้อหุ้นแบบ IPO แต่ในแบบที่ผู้ลงทุนไม่ได้ถือ “หุ้น” ของบริษัท แต่เป็นการถือ “สิทธิ”การรับผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์จากโครงการ ซึ่งก็มีประโยชน์และความเสี่ยงที่แตกต่างกันพอสมควร โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ ก.ล.ต.

DESTINY TOKEN นี้เป็นโครงการที่บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด และ บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด ทำร่วมกับ Kubix โดย Kubix เป็นธุรกิจให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) เต็มรูปแบบที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อย่างถูกต้อง และเป็นบริษัทในเครือของธนาคารกสิกรไทย อยู่ในกลุ่มกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) โดยมีธนาคารกสิกรไทยถึอหุ้นอยู่ในสัดส่วน 100% ผ่านบริษัท กสิกร เอกซ์ จำกัด ที่เป็นบริษัทในเครือของ KBTG

จากซ้ายไปขวา คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ประธาน KBTG
คุณจินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด
คุณอรุโณชา ภาณุพันธุ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
คุณอภิญญา เรืองทวีคูณ Managing Director บริษัท คิวบิกซ์ ดิจิทัล แอสเสท จำกัด (Kubix)

Managing Director บริษัท คิวบิกซ์ ดิจิทัล แอสเสท จำกัด (Kubix) คุณอภิญญา เรืองทวีคูณ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าหลัง Kubix ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ให้สามารถประกอบธุรกิจให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) เต็มรูปแบบแล้ว Kubix ก็ได้ร่วมกับ GDH และ บรอดคาซท์ ไทยฯ ในการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (หรือที่เรียกกันว่า Whitepaper) เพื่อขาย “เดสทินี โทเคน” (DESTINY TOKEN) จากภาพยนตร์ “บุพเพสันนิวาส ๒” เป็นโทเคนแรก โดยปัจจุบันสถานะของโทเคนนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานก.ล.ต. และจะเปิดให้มีการจองซื้อผ่านแอป Kubix ในอนาคต เมื่อโครงการได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว

คุณอภิญญา เรืองทวีคูณ Managing Director บริษัท คิวบิกซ์ ดิจิทัล แอสเสท จำกัด (Kubix)

มาดูในส่วนมูลค่าของการเสนอขายโทเคนครั้งนี้กันบ้าง แผนเสนอขายโทเคนดิจิทัลนี้ ประกอบไปด้วยโทเคนจำนวนทั้งหมด 16,087 โทเคน รวมมูลค่าระดมทุนกว่า 265 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุนไม่เกิน 2 ปี รับผลตอบแทน 2.99% ต่อปี พร้อมบวกพิเศษอีก 2.01% หากรายได้ภาพยนตร์ในประเทศไทยสูงถึง 1,000 ล้านบาท พร้อมแฟนๆ ภาพยนตร์ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ ด้วย

เรียกได้ว่าโทเคนนี้ไม่ใช่คริปโตเคอเรนซีที่ต้องไปกังวลกับราคาขึ้นๆ ลงๆ แบบ Bitcoin หรือ ETH แต่เปรียบเหมือนการซื้อหุ้นกู้แบบดิจิทัลที่เมื่อครบกำหนดเวลาก็ได้รับเงินต้นคืนพร้อมดอกมากกว่า แต่ในกรณีนี้ก็มีดอกเบี้ยโบนัสอีก 2.01% ที่มีเงื่อนไขเป็นรายได้ของภาพยนตร์มาด้วย ซึ่งหากภาพยนตร์ทำรายได้ในไทยถึง 1,000 ล้านบาท ก็จะได้ดอกเบี้ยรวมเป็น 5.00% ต่อปี ในระยะเวลา 2 ปี พร้อมกับมีสิทธิประโยชน์ให้กับแฟนๆ ภาพยนตร์ที่ลงทุนซื้อเหรียญไว้

ผู้ลงทุนสามารถเลือกร่วมลงทุนกับ DESTINY TOKEN ได้ 3 รูปแบบ ดังนี้

• I am Glad Token ราคา 5,559 บาท จำนวน 15,559 โทเคน
• I am Delighted Token ราคา 155,559 บาท จำนวน 459 โทเคน
• I am Happy Token ราคา 1,555,559 บาท จำนวน 69 โทเคน รวมทั้งหมด 16,087 โทเคน

ทั้งหมดนี้รวมเป็นมูลค่าระดมทุนกว่า 265 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุนไม่เกิน 2 ปี โดยผู้ถือโทเคนทุกรูปแบบจะได้รับเงินผลตอบแทนพื้นฐานที่ 2.99% ต่อปี และจะได้ผลตอบแทนพิเศษเพิ่มอีก 2.01% ต่อปี ตามที่กล่าวไปข้างต้น ส่วนสิทธิประโยชน์จากภาพยนตร์ ก็จะได้รับแตกต่างกันไปตามชนิดของโทเคนที่ถืออยู่ เช่น สิทธิการร่วมชมภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ รอบพิเศษร่วมกับผู้กำกับและนักแสดง หรือการได้มีชื่ออยู่ในเครดิตท้ายภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ ในฐานะ Special Destiny Executive Producer ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในความฝันเล็กๆ ของคอภาพยนตร์ ที่จะได้มีประสบการณ์เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ที่ตนเองชื่นชอบ

ในด้านความเห็นจากทีมผู้สร้าง คุณจินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ระบุเพิ่มเติมว่าจากความสำเร็จของ “ออเจ้าฟีเวอร์” ที่สร้างปรากฏการณ์โด่งดังไปทั่วเมือง ทางจีดีเอชจึงต้องการต่อยอดมอบความสุขให้กับผู้ชมอีกครั้ง ด้วยการนำไอเดียของคำว่าบุพเพสันนิวาสที่ต้องเกิดมาเจอกันทุกชาติทุกภพ มาสร้างเป็นภาพยนตร์ไทย โดยมีทีมงานมืออาชีพอย่างพี่เก้ง, จิระ มะลิกุล มาเป็นโปรดิวเซอร์ และได้ ปิ๊ง, อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม (จากภาพยนตร์ แฟนฉัน) รับหน้าที่ผู้กำกับ รวมทั้งยังได้นักแสดงคู่ขวัญ โป๊ป-ธนวรรธน์ และ เบลล่า-ราณี ร่วมด้วย ไอซ์-พาริส มาร่วมแสดง ทำให้มั่นใจมากว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะตราตรึงใจของผู้ชมทั่วประเทศอีกครั้ง

คุณจินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด

ในการต่อยอดที่จะทำให้ภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ ประสบความสำเร็จ ได้มีการปรึกษาหารือกันว่า อยากทำอะไรที่พิเศษและแตกต่าง อยากให้ผู้ชม และแฟนๆ ภาพยนตร์ ได้มีส่วนร่วมกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เป็นผู้ชมเพียงอย่างเดียว จึงเกิดจุดเริ่มต้นของโทเคนดิจิทัลที่มานำเสนอในตลาด เพื่อให้แฟนๆ และผู้ชมคนดูหนังไทยได้มีโอกาสเป็นผู้ร่วมลงทุนในภาพยนตร์ไทยที่ตนเองชื่นชอบ เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

ด้านคุณอรุโณชา ภาณุพันธุ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด ได้ระบุไว้เพิ่มเติมอีกว่า จากความสำเร็จของละคร ทำให้จีดีเอชได้ติดต่อมาว่าอยากทำเป็นภาพยนตร์ รู้สึกดีใจมากและเชื่อมั่นว่าจะต้องมีความแปลกใหม่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะจะเป็นการเล่าเรื่องราวในชาติภพต่อไป ที่บุพเพสันนิวาสนำพาให้ทั้งสองได้กลับมาเกิดและเจอกันอีกครั้งในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น รวมทั้งได้มีการปรึกษากันที่จะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมาครองใจผู้ชมอีกครั้ง สำหรับโทเคนตัวนี้ให้สิทธิประโยชน์หลายอย่าง ทั้งมีสิทธิ์ชมภาพยนตร์ก่อนใคร ได้ของพรีเมี่ยมที่หาซื้อไม่ได้ไว้เก็บเป็นที่ระลึก จึงอยากให้แฟนๆ ออเจ้าเข้ามาเป็นส่วนร่วมกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ร่วมกันผลักดันธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ให้เติบโตมากขึ้นในอนาคต

คุณอรุโณชา ภาณุพันธุ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด

สุดท้ายคุณญาณวิทย์ รักษ์ศรี Managing Director บริษัท คิวบิกซ์ ดิจิทัล แอสเสท จำกัด กล่าวในตอนท้ายเพิ่มเติมอีกว่า Kubix ให้ความสำคัญกับผู้ลงทุนเป็นอันดับหนึ่ง ดังนั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงและเป็นจุดประสงค์หลักในการออกแบบ DESTINY TOKEN คือ “โทเคนดิจิทัลแบบไหนที่จะตอบโจทย์ทั้งกลุ่มผู้ลงทุนและกลุ่มแฟนภาพยนตร์ไทย?”

ทำให้การลงทุนใน DESTINY TOKEN ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงคำว่า “ผู้ลงทุน” เท่านั้น ยังรวมไปถึง “แฟนภาพยนตร์” ที่สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ภาพยนตร์ที่ชื่นชอบได้ด้วย ซึ่งแอปพลิเคชัน Kubix จะมารองรับการลงทุนในโทเคนดิจิทัลที่เป็นมากกว่าแค่เรื่องของเงิน โดยผู้ใช้งานสามารถรับผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์สุดพิเศษต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนในแอปเดียว ช่วยสร้างสรรค์ประสบการณ์การลงทุนรูปแบบใหม่ และทำให้การลงทุนและการใช้ชีวิตเป็นเรื่องเดียวกัน ตามคอนเซ็ปต์ของ Kubix ที่ว่า Invest Earn Experience

คุณญาณวิทย์ รักษ์ศรี Managing Director บริษัท คิวบิกซ์ ดิจิทัล แอสเสท จำกัด

ผู้สนใจ DESTINY TOKEN สามารถเตรียมจองซื้อโทเคนได้ โดยการลงทะเบียนสร้างบัญชีบนแอปพลิเคชัน Kubix โดยตัวแอปจะเป็นเหมือนแอปการลงทุน ICO ส่วนตัว ที่ครอบคลุมการใช้งานทั้งการซื้อโทเคนดิจิทัล การจัดการพอร์ตโฟลิโอ และการแลกสิทธิประโยชน์ต่างๆ
และจะเปิดให้ดาวน์โหลดภายในช่วงเดือนมีนาคม 2565 ปัจจุบันสามารถติดตามข้อมูลของ Kubix และ DESTINY TOKEN เพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บไซต์ https://bit.ly/3LQCPEk, www.facebook.com/kubix.digitalasset หรือติดต่อ Kubix Call Center ที่เบอร์ 02-844-8488

*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน