By: mk 
on 17 February 2022 - 09:33
Tags:
ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 22557 ให้ทดสอบใน Dev Channel มีของใหม่ชุดใหญ่ ซึ่งหลายอย่างเป็นการอัพเดตฟีเจอร์ของ Windows 11 ที่เดิมมีใน Windows 10 มาก่อนแล้วหายไปใน Windows 11 เวอร์ชันแรก เช่น Taskbar รองรับ drag & drop แล้ว ลากไฟล์ไปทับไอคอนแอพเพื่อเปิดไฟล์ได้
สร้างโฟลเดอร์ใน Pinned Apps ที่ปักหมุดบน Start Menu
กรณีที่ประชุมผ่าน Microsoft Teams แสดงสัญลักษณ์ว่าหน้าต่างไหนกำลังถูกแชร์จออยู่
เพิ่มไอคอน Cast ที่ Taskbar กดแล้วเปิด Cast Quick Settings สำหรับหยุดแสดงผล
Quick Settings เพิ่มปุ่มสลับโปรไฟล์สี Color Profile หากมีโปรไฟล์มากกว่า 1 ชุด
ปรับปรุงโหมดการแจ้งเตือนใหม่ เดิมทีเรียก Focus Assist ที่ไม่มีใครอ่านแล้วเข้าใจ ตอนนี้ถูกจับแยกเป็น 2 ส่วน พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่
- Do not disturb ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมดเลย สามารถตั้งเวลาให้เปิด-ปิดโหมดนี้ได้ และอนุญาตการแจ้งเตือนบางอย่างได้
- Focus (ไม่มี Assist แล้ว) ปิดแอนิเมชันรบกวนสายตาบางอย่าง เช่น ไอคอนที่ทาสก์บาร์กะพริบเรียกร้องความสนใจ และตั้งให้แสดงนาฬิกาจับเวลาช่วงที่ต้องการโฟกัสได้
Live Caption สามารถทำซับไตเติลถอดเสียงที่เล่นในเครื่องได้ (ทั้งจากเบราว์เซอร์, ไฟล์วิดีโอ และการพูดผ่านไมโครโฟนแบบเรียลไทม์) โดยข้อความจะแสดงที่ขอบบนสุดหรือล่างสุดของหน้าจอ ตอนนี้ยังใช้ได้เฉพาะภาษาอังกฤษ
Quick Access ใน File Explorer สามารถคลิกขวาที่ไฟล์ใดๆ แล้วเลือกเมนู Pin to Quick Access ได้แล้ว (ก่อนหน้านี้ทำได้แต่ปักหมุดโฟลเดอร์)
แสดงโควต้าพื้นที่ OneDrive ใน File Explorer เพิ่มปุ่ม OneDrive ที่มุมขวาบนของแถบเครื่องมือ กดแล้วดูโควต้าพื้นที่และสถานะการซิงก์ได้
File Explorer แสดงภาพพรีวิวไฟล์ที่อยู่ในโฟลเดอร์
เพิ่ม touch gesture ใหม่ สำหรับการใช้งานบนจอสัมผัส เช่น
- ลากนิ้วขึ้นจากตรงกลาง Taskbar เพื่อเปิด Start Menu
- ปัดซ้าย-ขวาบน Start Menu เพื่อสลับระหว่างหน้า Pinned กับ All Apps
- ลากนิ้วที่ขอบด้านขวาของ Taskbar เพื่อเปิด Quick Settings
- ปัดจากขอบขวาของหน้าจอเข้ามา เพื่อเปิด Notification Center (มีอยู่แล้ว ปรับแอนิเมชันใหม่)
- ลากหน้าต่างไปที่ขอบบนของหน้าจอ เพื่อเปิดใช้ Snap Layouts
Task Manager ปรับดีไซน์ใหม่ รองรับ Dark Mode
รายการเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นๆ สามารถอ่านได้จากที่มา
ที่มา - Microsoft
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
น้ำตาแทบไหล เอา category ออกทำไมตั้งแต่แรก ใส่โฟลเดอร์ก็ยังดี
Task Manager -Dark Mode- !! เกือบตายตาหลับแล้วครับ!
เหลือแค่ option ปรับให้คลิกขวาเป็นแบบ classic ได้มาก็ครบสำหรับผมแล้ว ;w;
เครื่องไม่ไหวจริง Win 11 ช้าจัด ๆ i5 8520U Ram 8 ตอนนี้กลับมา Win 10 ละ ลื่นปรื้ด
8250U รึเปล่าครับ พอดีผมก็ใช้ซีพียูตัวนี้เหมือนกัน 5555
ของผม 8250u+mx150 ssdหรือเครื่องช้าลงรู้สึกได้ แต่ชอบ ui ลงตัวกว่า10ครับ
ใช่ครับ ผมสเปกนี้เลยครับ
เอาออกไปแล้วใส่กลับมา : น วั ต ก ร ร ม
สงสัยกลัวเพื่อนข้างบ้านโดนล้อคนเดียว
น วั ต ก ร ร ม
จริงๆครับ ??
เลือกเอาสักอย่างระหว่าง Control Panel กับ Setting มันยากมากนักหรือ ทำตรงนี้ก่อนไหม และก็ซ่อนเมนูเก่งเรือหาย แต่ก่อนคลิกขวาแล้วเจอทุกอย่างที่ต้องการ ตอนนี้กลายมาต้องกดสองครั้งเพื่อจะเจอสิ่งที่ค้นหา เสียเวลา ไหนว่าพัฒนามาเพื่อการทำงานที่ราบรื่นไง กลายเป็นยุ่งกว่าเดิม ยังไม่รวมพวก UI เช่น Windows Explorer เอาของไปซ่อนหมด ต้องกดสามสี่ครั้งกว่าจะเจอการตั้งค่าที่ต้องการ
เมนูคลิกขวานี่คือซ่อนให้คลีนๆ ก็ดีนะครับ แต่อยากให้เลือกได้ว่าจะให้เมนูไหนโผล่ไม่โผล่
ใน Edge ก็เหมือนกัน จอ 4k โผม กดคลิกขวาทีสูงพรวดเกือบเต็มจอ ใช่หราา
ผมก็ไม่เห็นจำเป็นว่าต้องเลือกอย่างใดอย่างนึงเลย
ตอนนี้ setting ที่ใช้บ่อย ๆ หลาย ๆ ตัวก็เริ่มเข้าไปอยู่ในของใหม่แล้ว
ส่วน Control panel ต่อให้มันมี Function บางอย่างซ้ำกับของใหม่ ก็ไม่เห็นต้องไปทิ้งมันเลยนี่ครับ ปล่อยไว้เผื่อคนอยากใช้ก็ใช้ได้
การที่ทุกอย่างยังไม่อยู่กับ Setting มันก็จะงง ๆ ก็จริง แต่มันไม่ได้ว่าจะทำให้ใช้งานไม่ได้หรือขั้นคอขาดบาดตายขนาดนั้นนี่ครับ ค่อย ๆ เอาเข้าไปก็ได้ เอาเวลาส่วนใหญ่ไปเก็บงานอย่าง bug หรือ Function ที่คนส่วนใหญ่ Request ดีกว่าครับ ทีมที่มีหน้าที่เอา Control Panel menu เข้าไปอยู่ใน Setting ก็น่าจะมีอยู่แล้ว
ผมเห็นด้วยกับความเห็นนี้นะครับ แต่ประโยคสุดท้ายนี่ไม่คิดว่ามันนานไปหน่อยเหรอครับ ?
ถ้าคิดว่าเริ่มทำใหม่อีกทีตอน Windows 11 ก็ดูไม่นานครับ แต่คนน่าจะติดภาพจากสมัย Windows 8, Windows 10 กันเยอะว่า settings มันมานานมากแล้วและยังไม่ครบสักทีด้วย orz
มันก็นานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน จริง ๆ แหละครับ ถถถถถถถถถถถถ
แต่ก็ส่วนใหญ่ผมเน้น Search มากกว่า ถ้ามันมีที่ Setting มันก็จะพาผมไปนั่นแหละ ถ้าไม่มีผมก็กลับไปที่ Control Panel ซึ่งส่วนใหญ่ที่กลับไปที่ Control panel มักจะเป็นการ Setting อย่างพวก Pen calibrate หรือ Power option เท่านั้นแหละครับ
ทำไมถึงยังต้องกลับไปใช้ Control panel ก็เพราะมันมีฟัง่ชั้นไม่ครบไงครับ ถ้ามันไปทำ Setting ให้ครบก็ไม่จำเป็นต้องมี 2 ที่มั้ยครับ อย่างที่ข้างบนเขาบอกครับ ว่าเอาอะไรก็เอาซักอย่าง ทำมาตั้งแต่ Win8 แล้ว Setting ยังไม่เสร็จสักที
The Dream hacker..
จากเมื่อเคยเป็น pro user ตอนนี้เป็นแค่ end user (หมายถึงสำหรับ Windows นะ) ก็ใช้งาน setting ได้สะดวกอยู่นะครับ
อาจจะเป็นก็ปรับไปตาม OS เหมือนตอนใช้ android/iOS
แต่ก็เห็นใจคนที่ต้อง setting แบบ advance จริงๆแหละ เคยเซ็งตอนใช้ Win 10 ใหม่ๆ
ยากอยู่ครับ
cpl มันคนจะใส่อะไรเพิ่มเข้าไปก็ได้ ตรงนี้คิดว่าจะเขียน Settings ให้รองรับน่าจะยากนิดนึง
แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนเขียน .cpl กันละมั้ง??
ในฐานะคนทำงานดีไซน์ น้ำตาจะไหล นึกว่าจะไปแล้วไปลับ
Windows 11 หมดสถานะ Beta หรือยังครับ จะได้อัพเกรดซักที..
น่าจะสิ้นปีครับ ความ Beta (ในการใช้งานไม่ใช่ชื่อเวอร์ชั่น) น่าจะหมดไป
ประมาณ Windows 13 ครับ
ลำบากชีวิตมากๆ เวลาต้องไปแก้งานใน win10 เสียเวลาชีวิต
แรม 8 รู้สึกไม่พอใช้แล้ว
ช่วงนี้คอม win 11 ผมเจอบัคจอลายมาสองเครื่องแล้ว ต้องปิดเปิดใหม่ตลอด ไม่รู้แก้หรือยัง