เหตุการณ์แฮกบริษัท Colonial ผู้ดูแลท่อส่งน้ำมันฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ, Microsoft Exchange และเหตุการณ์ SolarWinds ผู้ผลิตซอฟต์แวร์มอนิเตอร์เครือข่าย ถูกแฮกเกอร์ฝังมัลแวร์ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างกลายมาเป็นปัญหาระดับชาติแล้ว ล่าสุด โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งปรับปรุงประสิทธิภาพ Cybersecurity ในประเทศ
ผลของคำสั่งมีมากมาย เริ่มจากการแบ่งปันข้อมูลระหว่างหน่วยงาน รวมถึงการแชร์ข้อมูลเหตุการณ์น่าสงสัยหรือรายงานข้อมูลหลุดต่างๆ เพื่อประโยชน์แก่การป้องกันในอนาคต กำหนดนโยบายเพื่อปกป้องเครือข่ายของรัฐบาลกลาง ต้องใช้การป้องกันที่ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นการเข้ารหัส การยืนยันตัวตนหลายชั้น
ภาพจาก Facebook ทำเนียบขาว
กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยซอฟต์แวร์ในหน่วยงานรัฐ ต้องเพิ่มการจัดซื้อจัดจ้างซอฟต์แวร์ที่ปลอดภัย เพื่อสร้างแรงจูงใจในตลาด เปิดตัวโครงการนำร่องสร้างฉลากระบุซอฟต์แวร์ปลอดภัยผ่านมาตรฐาน
ปรับปรุงการตอบสนองต่อการละเมิดโดยสร้างคู่มือที่จะเป็นมาตรฐานซึ่งจะได้รับการตรวจสอบโดยผู้อำนวยการ CISA, ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความปลอดภัยทางไซเบอร์ซึ่งมีผู้นำทั้งภาครัฐและภาคเอกชนร่วมเป็นประธาน เพื่อวิเคราะห์เหตุการณ์แฮกในแต่ละครั้งที่เกิดขึ้น และให้คำแนะนำที่เป็นรูปธรรม
ที่มา - ทำเนียบขาว, Engadget
Comments
เห็น ลุงไบเดน ปรับปรุงแต่ละเรื่องแล้วชื่นชมมาก ถ้าไปแก้ระบบสาธารณสุขได้จบจริงๆ ของอเมริกา นี่จะกลายเป็นประเทศที่น่าย้ายไปสุดๆเลย
/me หันมามองแถวบ้านแล้วถอนหายใจเบาๆ
ผมว่าตอนช่วงทรัมป์ เค้าวางแผนมาดีจะเอาใจคนเมกายังไง อยู่ยาวๆไป8ปี
อย่างว่าประเทศประชาธิปไตย ฐานเสียงใหญ่คือคนชั้นกลาง + ล่าง ยังไงทำนโยบาย support ไว้ก่อนถ้าไม่โดนนายทุนสั่งเก็บ ก็น่าจะชนะได้ไม่ยาก แต่ผมชื่นชมการแก้ปัญหาแกนะ คือแก้ที่โครงสร้างพื่นฐานแบบ
ไม่มีงานใช่ไหม >> ไปไล่บี้ USA Tech Com ให้มาลงทุนสร้างงานนะ
ร้านอาหารกระทบ >> ชดเชย
วัคซีน >> ไล่ฉีดทั้งประเทศ + จะปล่อยให้ประเทศอื่นผลิตได้เพื่อช่วยโลกก่อน (ให้ลองใช้ของดีๆ ไม่ติด Petent ช่วงสั้นๆ 2-3 ปี) เดี๋ยวคนติดใจหลังวิกฤติ ก็ต้องมาซื้อของที่เค้าผลิตอยู่ดี
ถ้าประเทศแถวนี้ ก็จะเป็น
ลงนามคำสั่งตรวจจับผู้วิพากษ์วิจารณ์ท่านผู้นำ