Tags:
Node Thumbnail

สัปดาห์นี้แอป Clubhouse กลายเป็นแอปยอดฮิตของประเทศไทย โดยวันนี้ห้องที่ตั้งโดยนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการไทยผู้ตั้งกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส มีคนเข้าฟังเต็มความจุ 6,000 คนถึงสองห้อง และช่วงค่ำห้องที่ตั้งโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนาคตใหม่ก็มีผู้เข้าฟังจนเต็มและมีการเปิดห้องเพิ่มเติมอีกเช่นกัน

แต่ขณะที่ความนิยมในตัวแอปกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนหลายคนอาจจะตัดสินใจหาซื้ออุปกรณ์ iOS เพื่อมาใช้งานแอปนี้โดยเฉพาะ เราควรตระหนักว่าแอป Clubhouse มีแนวทางความเป็นส่วนตัวที่ต่างจากแอปอื่นๆ พอสมควร ผมแนะนำ 4 ประเด็นความเป็นส่วนตัวสำหรับการใช้งาน Clubhouse ที่ควรตระหนัก

No Description

บังคับใช้หมายเลขโทรศัพท์ พยายามดึงหมายเลขติดต่อ

Clubhouse ใช้หมายเลขโทรศัพท์มากกว่าบริการสื่อสังคมออนไลน์อย่างอื่นมาก การลงทะเบียนต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์เท่านั้น เทียบกับทวิตเตอร์ที่สามารถอีเมลได้ (หากใช้งาน Gmail ยังสามารถใช้ alias ได้ด้วย)

สิ่งที่ทำให้ Clubhouse ต่างจากแอปอื่นอย่างชัดเจนคือระบบการชวนเพื่อนในช่วงนี้ ผู้ที่จะชวนเพื่อนให้เข้าไปใช้งาน Clubhouse ได้จะต้องส่งรายชื่อติดต่อ (contact) ทั้งหมดให้กับ Clubhouse และทาง Clubhouse จะใช้หมายเลขติดต่อนี้แนะนำคนอื่นๆ ที่เข้ามาใช้งานให้เราไป follow อย่างต่อเนื่อง

เปิดเผยการนั่งฟังเฉยๆ

โดยทั่วไปแล้วแพลตฟอร์มต่างๆ มักแนะนำคอนเทนต์ให้เพื่อนหรือผู้ติดตามของเราต่อเมื่อเรา "กระทำ" กับคอนเทนต์ในแพลตฟอร์ม เช่นการกดรีทวีตหรือกดไลค์บนทวิตเตอร์, การคอมเมนต์หรือกดไลค์บนเฟซบุ๊ก หรือ YouTube Live ที่จะรู้ว่าใครดูวิดีโอใดต่อเมื่อแชตในระบบเท่านั้น แต่กรณีของ Clubhouse นั้น การกดเข้าไปร่วมฟังในห้องหนึ่งๆ จะเป็นการเปิดเผยว่าเรากำลังฟังทันที ผู้ที่ follow เราอยู่บน Clubhouse จะเห็นว่าเราอยู่ในห้องใดบน timeline ของแอป รวมถึงผู้ร่วมห้องจะเห็นรายชื่อของผู้ที่ฟังในห้องอยู่ทั้งหมด

No Description

ไม่เข้ารหัสหมายเลขผู้ใช้ และหมายเลขห้อง ทำให้อาจถูกดักฟังว่าฟังหรือพูดในห้องใดอยู่

ตัวแอป Clubhouse ใช้แพลตฟอร์ม Agora เพื่อกระจายเสียงไปยังผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้เข้าห้องในแอป ตัวแอปจะเชื่อมต่อตรงไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Agora เช่น qos-america.agoralab.co โดยแพ็กเก็ตที่เชื่อมต่อนั้นไม่เข้ารหัสข้อมูลการเชื่อมต่อ (metadata) ทำให้ผู้ที่สามารถดักฟังการเชื่อมต่อจะเห็นหมายเลขประจำตัวผู้ใช้ และหมายเลขห้องในแอปได้

ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุด หากผู้ดักฟังสามารถเข้าฟังห้องเดียวกับเหยื่อที่ถูกดักฟังได้ก็จะรู้ว่าหมายเลขไอพีต้นทางของผู้พูดคือชื่อผู้ใช้ใดในแอป

มีการอัดเสียงเก็บไว้

Clubhouse ประกาศในนโยบายความเป็นส่วนตัวระบุว่าบริษัทจะเก็บเสียงของแต่ละห้องไว้ชั่วคราว เพื่อสอบสวนในกรณีที่มีการร้องเรียน โดยทั่วไปแล้วไฟล์เสียงของแต่ละห้องจะถูกลบเมื่อห้องปิดตัวลงและไม่มีการร้องเรียนใดๆ แต่หากมีการร้องเรียนในห้อง ทางแอปก็จะเก็บไฟล์เสียงไว้จนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น

ข้อจำกัดเหล่านี้อาจจะไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับคนจำนวนมาก (หลายคนอาจจะอัพโหลดรายชื่อติดต่อในทุกแอปแชตอยู่แล้ว) แต่ก็ควรตระหนักว่าแอปยังไม่มีตัวเลือกความเป็นส่วนตัวที่ละเอียดเท่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ในกรณีที่มีการพูดคุยในเรื่องอ่อนไหวก็ควรตระหนักว่าแพลตฟอร์มยังมีประเด็นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ควรปรับปรุงอีกหลายจุด

Get latest news from Blognone

Comments

By: vevysang on 17 February 2021 - 08:07 #1199311

ไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจถูกมั้ยนะครับ
1. สามารถรู้ได้ว่าใครพูดใครฟังในห้องนั้นได้
2. ดักฟัง อัดเสียง(ได้อยู่ละ)
3. รู้ชื่อ รู้ IP ของผู้พูดได้
เคสตลาดหลวง มีผู้พูดที่ผิด 112 จริง (แสดงความอาฆาตจริง)
ก็ถึงบ้าน พร้อมหลักฐาน พร้อมหมาย ได้ง่ายๆ ใช่ไหมครับ

By: illuminator
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 17 February 2021 - 09:47 #1199323
illuminator's picture

ใน Play Store นี่คนไทยไปรุมด่าให้ 1 ดาวแอพ Clubhouse ของบริษัท Clubhouse กันเต็มเลยทั้งๆที่แอพเขาไม่ได้ทำอะไรผิด
สงสารคนทำแอพเลย
Google Play ควรจะช่วยลบให้แบบของ Robinhoodนะ

By: crucifier
iPhoneAndroidUbuntu
on 17 February 2021 - 09:57 #1199325 Reply to:1199323

หลายครด่าเพราะหา invite ไม่ได้ ถ้าคนพวกนี้ได้เข้า ch จริงๆ ต่อไปสังคม ch จะเป็นยังไงนะ

By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 17 February 2021 - 10:01 #1199327 Reply to:1199325
Ford AntiTrust's picture

ก็คงต่างคนต่างอยู่แหละ ไม่มีอะไรหรอก

By: illuminator
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 17 February 2021 - 10:17 #1199328 Reply to:1199325
illuminator's picture

เห็นหลายคนด่าเพราะไม่ใช่แอพ Clubhouse อันนี้
เป็นแอพคนละตัว แค่ชื่อเหมือนกัน
อีพอย่างแอพตัวนี้ยังไม่ได้ลง Play Store

By: KuLiKo
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 17 February 2021 - 10:34 #1199337 Reply to:1199325
KuLiKo's picture

ใจเย็นครับ เค้าหมายถึงใน Android มันเป็นแอพที่ชื่อเดียวกันแต่ไม่ใช่เฉยๆ (ซึ่งมีมานานแล้ว)

By: crucifier
iPhoneAndroidUbuntu
on 17 February 2021 - 12:09 #1199352 Reply to:1199337

เข้าใจครับ แต่พอดีผมไปอ่านรีวิวแล้วเห็นคนด่าแค่เพราะตัวเองใช้งานไม่ได้เนื่องจากต้องใช้ invite เลยแวะมาแชร์แกมบ่นครับ (อันนี้หมายถึงแอพจริงนะ ไม่ใช่แอพปลอมเลียนแบบชื่อ)

By: luna777
AndroidWindows
on 17 February 2021 - 16:18 #1199411 Reply to:1199325

แอพจะ mass ขึ้น แบบ fb yt พอ mass มันก็ไม่ geek อยู่ที่เจ้าของแอพเขาอยากให้ geek หรือ mass

By: phenocalypse
ContributorAndroidWindows
on 17 February 2021 - 09:49 #1199324

ไม่แน่ใจว่ามีเคสมิจฉาชีพทำ invite ปลอม หลอกเอาเบอร์โทร+เงิน เกิดขึ้นบ้างรึยังนะครับ เพราะความต้องการเข้าใช้แอพนี้สูงมาก

By: canconan
iPhone
on 17 February 2021 - 10:28 #1199336 Reply to:1199324

ใน Shopee มีขายเต็มเลยครับ ไม่รู้ว่าจ่ายเงินแล้วจะได้หรือไม้ได้

By: jakapong
iPhoneAndroidBlackberryWindows
on 17 February 2021 - 12:15 #1199356

คนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ใช้แอปที่คิดว่ามีความเป็นส่วนตัว เพื่อจะโดนดักข้อมูลความเป็นส่วนตัว

By: tom789
Windows Phone
on 17 February 2021 - 12:34 #1199366

แอพมันก็ต้องเก็บข้อมูลอยุ่แล้วนะ แต่อยุ่ที่จะเก็บยังไง เอาไปใช้ยังไงต่อ ตัวแอพยังไม่มีโฆษณาสินะ แล้วหาเงินจากอะไรนะ

By: zerost
AndroidWindows
on 17 February 2021 - 13:35 #1199376
zerost's picture

ถ้าเป็นตามนี้แอพมันก็ไม่ได้ปลอดภัยเท่าไรนะครับ ทำไมคนจีนถึงเชื่อว่ามันจะหลบตอนนินทาเขาได้ละ

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 17 February 2021 - 14:19 #1199385 Reply to:1199376
lew's picture

เช่นเดียวกับคนไทยเชื่อว่า Starlink จะทำให้ไม่ต้องอยู่ใต้กฎหมายไทย


lewcpe.com, @wasonliw

By: ravipon
iPhoneWindows
on 17 February 2021 - 15:03 #1199404 Reply to:1199385
ravipon's picture

คิดว่าหลายคนคงมองกรณี Starlink เป็นถ้าไม่เข้ามาทำตลาดไทย(หรือทำตลาด แต่ไม่มี gateway ในไทย) แล้วคนที่ใช้แอบใช้ หรือหิ้วมาจากนอก(ไม่ผ่านกสทช.) ละมั้งครับ? ซึ่งมันก็จะไปเวย์ผิดกม. เลยแต่รัฐบาลควบคุมการเข้าถึงเนื้อหาไม่ได้

By: Azymik on 17 February 2021 - 17:48 #1199432

ตอนนี้สังคมเริ่มตำหนิ app ว่าเป็น exclusive privileged แต่ผมมองว่า ผู้พัฒนาเค้าน่าจะเขียน app มาใช้เพื่อคุยเล่นกับเพื่อนตอน WFH เมื่อปีที่แล้วรึเปล่าครับ (จากการสังเกตที่ลักษณะ app เป็น invite-only และใช้ได้กับ iOS ซึ่งค่อนข้างใช้เยอะในอเมริกา)
ยิ่งพอพิจารณาจากการจัดการ privacy ยิ่งรู้สึกเลยว่า ก็ดีแล้วที่เป็น invite-only จะได้พอช่วยป้องกัน user ที่อาจจะไม่สนใจ privacy เข้ามาใช้งานแล้วเกิดความเสียหายกับตัว user เองภายหลังครับ
ทางเลือกก็มี discord ให้ใช้เนอะ