By: sunnywalker 
on 26 January 2021 - 09:20
Tags:
Topics:
รัฐบาลของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่าจะใช้ยานพาหนะของรัฐบาลกลางเป็น EV ทั้งหมด โดยการประกาศดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของคำสั่งบริหาร "Made in America" ซึ่งกำหนดให้การใช้จ่ายส่วนใหญ่ของรัฐบาลต้องไปถึงธุรกิจอเมริกันและผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในอเมริกา กระตุ้นการสร้างงานในประเทศ
ยานพาหนะของรัฐบาลกลางในปัจจุบันคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 645,000 คัน โดยรัฐบาลไม่ได้บอกรายละเอียดไทม์ไลน์ชัดเจนว่าจะเริ่มเปลี่ยนรถเมื่อไร ซึ่งนี่อาจเป็นข่าวดีของผู้ผลิตรถในสหรัฐฯ เช่น Tesla, Rivian, Lordstown รวมถึง Ford และ General Motors ที่เริ่มลงทุนในรถ EV โดย Ford เคยประกาศจะลงทุนกว่าหมื่นล้านดอลลาร์ในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ส่วน GM จะทุ่มงบ 27,000 ล้านดอลลาร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองไปจนถึงปี 2025
ไบเดนยังบอกด้วยว่า จะเพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้รถ EV แต่ยังไม่มีแผนการเพิ่มเติม
Pres. Biden: "The federal government also owns an enormous fleet of vehicles, which we're going to replace with clean electric vehicles made right here in America, by American workers."https://t.co/figJbDMrpt pic.twitter.com/racgwk9VGw
— ABC News Live (@ABCNewsLive) January 25, 2021
ที่มา - The Verge
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ตลาดหุ้น EV ระเบิดอีก คืนนี้
นึกภาพรถของ FBI ไล่ตามคนร้าย...
Tesla roadster ต้องมา....
จากเสียงเครื่อง V8 กระหึ่มเป็นเสียงวี้~ของมอเตอร์ไฟฟ้า
ก็ต้องใช้วิธีสร้างเสียงเทียมเข้าไปแทน เพราะเหมือนจะมีกฎหมายว่ารถไฟฟ้าต้องส่งเสียงที่ดังพอให้คนข้ามถนน คนขับในพื้นที่ และคนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงได้ยิน เพื่อความปลอดภัยทั้งผู้ขับขี่และคนเดินครับ
แต่รถ FBI, รถตำรวจ ก็มีชุดไฟ Siren กับเสียงหวอที่ดังอยู่แล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
Siren มันไม่ได้เปิดตลอดนี่สิครับ ยังไงก็ต้องมีเสียงเทียมอยู่ดี
รถไฟฟ้ามีเสียงเครื่อง หรือเสียงเครื่องเทียม ด้วยเหรอครับ ?
มีครับ ของยุโรปนี่เป็นกฏหมายเลย
ไวไวนี้เพิ่งได้ดูคลิป ว่ารถมันต้องมีเสียงเทียม เพื่อให้ผู้พิการทางสายตาสามารถรับรู้ได้ว่ามีรถมาใกล้น่าจะเป็นของ US
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
นอกจากนั้นยังมีในเรื่องของ brand identity ด้วยครับ ของบางอย่างมีการทำเสียงเลียนแบบขึ้นมาให้เป็นเอกลักษณ์ อย่างเสียงเครื่องมอเตอไซค์บางรุ่นก็แต่งเสียงเอาให้มันดังกระหึ่มๆ เอาไว้เรียกลูกค้าเลยอ่ะ
Nissan Kicks e-POWER ขายในประเทศไทย ก็มีครับ
Kick ยังมีเครื่องยนต์อยู่ครับ แลพเป็น Hybrid ไม่ใช่ไฟฟ้าล้วน ส่วนที่กำลังพูดอยู่นี่ คือสร้างเสียงเทียมใส่ในรถไฟฟ้าล้วนครับ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
"Made in America" in ใช้ไอตัวเล็กครับ
รัฐบาง > รัฐบาล
แบบนี้แปลว่า รถ EV จากต่างประเทศที่ผลิตในสหรัฐฯ ก็มีสิทธิ์แข่งประมูลรถ EV เข้ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้ด้วยนะสิ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ก็ถ้าโฟกัสว่าต้องผลิตในประเทศก็แบบนั้น ก็เหมือนบ้านเราที่รถญี่ปุ่นผลิตในไทย
มันเป็นเรื่องส่งเสริมการจ้างงานในประเทศที่มีปัญหาอยู่
มาถึงก็ปั่นหุ้นกันเลยทีเดียว
เวลายิงกัน ถ้าหาที่หลบไม่ได้จริงๆ ตรงจุดที่เครื่องยนต์เพราะมันกันลูกปืนระดับปืนสั้นได้
แล้วพอรถ EV นี่ทำไงเนี่ย
I need healing.
เสริมเอาก็ได้ครับ
ไม่น่าจะเอารถตลาดเข้าประจำการนะครับ คงเป็น Custom to order (ใช้คำถูกไหมเนี่ย) บุโน่นแปะนี่เข้าไปให้มันเหมาะกับลักษณะงาน/หน่วยงาน
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
มันไม่ขัดกับระเบียบการค้า เช่นการกีดกัน หรือการแข่งขันไม่เป็นธรรมเหรอครับ
ถ้าประเทศอื่นทำอาจจะโดนหรือเปล่า
ปล. ใช้หลักทั่วๆ ไปนะครับ ไม่นับว่าอเมริกาออกกฏอะไรก็ได้
เป็นเรื่องปรกติในการทำการค้าระหว่างประเทศนะ ทำกันทุกประเทศ ไทยเราก็ทำ เพราะมันทำให้สร้างงานในประเทศได้ อย่างไทยเราส่งออกไปกลุ่ม EU หรือ US ก็โดนเหมือนกัน หรือของเข้าไทยมาขายก็มีการกำหนดสิทธิ์หรือจำกัดการนำเข้าเหมือนกัน
ก็ไม่รู้ต้องผลิตในเมกากี่% รถจีนผลิตเมกาสัก10%งี้ได้เปล่าหล่ะ ฮา
ผมเข้าใจว่าเรื่องพวกนี้มันขึ้นอยู่กับ "เจตนา" มากกว่า "การกระทำ" ครับ
ก็คือ.. สมมติว่ามีการฟ้องร้องขึ้นมาจริงๆ เขาก็จะอ้างว่าไม่ได้กีดกันแต่ทำไปเพราะส่งเสริมการจ้างงานในประเทศ ซึ่งก็แล้วแต่ศาลว่าจะมองว่ามันเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นหรือเปล่าครับ (ในกรณีนี้ผมว่ามันฟังขึ้นนะครับ)
ในทำนองเดียวกัน การกระทำเดียวกัน(หรือคล้ายกัน) แต่ในบริบทหรือเจตนาที่แตกต่างกันก็อาจจะถูกตัดสินว่าผิดได้เช่นเดียวกันครับ จะอ้างแบบว่า "เขาก็ทำเหมือนกันทำไมไม่โดน" ไม่ได้ครับ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเปลี่ยนจาก "ซื้อ Made in America เท่านั้น" เป็น "ไม่ซื้อ Made in China" ขึ้นมา ถึงแม้แบบหลังจะเปิดกว้างมากกว่าเสียอีก แต่เจตนามันดิ้นให้หลุดค่อนข้างยากว่าไม่ได้กีดกัน ถ้าฟ้องขึ้นมาจริงๆก็รอดยากกว่าแบบแรกครับ
ปัจจุบันกำแพงภาษีนำเข้า ก็ถือเป็นการกีดกันผู้ผลิตจากนอกประเทศนะครับ
การให้ประโยชน์ในประเทศก่อน ก็ต้องคุยกันว่า ถ้าเปิดเสรีจะกระทบต่อการจ้างงานในประเทศมากแค่ไหน หรือถ้าไม่เปิดจะทำให้ประเทศขาดการพัฒนา หรือตามเทคโนโลยีไม่ทันอย่างไร ฯลฯ
ซึ่งเรื่องพวกนี้ควรจะอภิปรายในสภาฯครับ ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน ตัวแทนของประชาชนก็ย่อมมีสิทธิ์ตั้งคำถามเสมอ
ไม่น่าจะขัดนะครับ เขาไม่ได้ "ห้ามนำเข้าหรือจำหน่ายในประเทศ" หรือระบุว่า "รถทุกคันที่จะขายต้องผลิตในประเทศ"
ผมไม่รู้ว่าเปรียบเทียบได้ไหม แต่บริษัท XY ที่เลือกใช้เฟอนิเจอร์จากบริษัท acb เท่านั้น บริษัท XY ไม่น่าจะถูกฟ้องจากบริษัทเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้นะครับ
ถ้าจะมีการขัดแย้งใดๆ คงเป็นระดับ "ภายในประเทศ" มากกว่า "ระหว่างประเทศ" เช่นบริษัท T มีกำลังผลิตภายในประเทศ 100% ส่วนบริษัท B และ C มีกำลังผลิตภายในประเทศเพียง 30% เช่นนี้ หากมีการยื่นซองประกวดราคา รัฐบาลอาจถูกฟ้องจากบริษัท B และบริษํท C ในข้อหาล็อกสเปคอะไรก็ว่าไป (ในกรณีที่มีกฎหมายรองรับ)
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ไทยเราก็ทำนะครับ
ถ้าซื้อของที่ผลิตในประเทศได้และที่มีคุณสมบัติหรือคุณภาพเทียบเท่ากัน ให้ซื้อของที่ผลิตในประเทศก่อน
แล้วนี่เป็นเรื่องรัฐบาลซื้อของมาใช้เองครับ จะซื้ออะไรก็เป็นเรื่องของรัฐบาลนั้น ๆ ไม่ใช่เรื่องห้ามเอกชนซื้อขายเลยไม่เป็นกีดกันครับ
A smooth sea never made a skillful sailor.
บ้านเราเห็นเช่ารถ Tesla ใช้แล้ว นี่ขนาดยังไม่เปิดขายในไทยจากบริษัทแม่เลยนะเนี่ย ถ้าบริษัทแม่มาเองสงสัยเต็มประเทศ
ประเทศไทยก็ควรทำแบบนี้แหละ
สงสัยว่าทำไมรถ Fuel Cell ถึงไม่เกิด ทำไมถึงไม่ผลักดันเห็นมี Toyota Mirai ไหมอะที่ทำออกมา 2 รุ่นแล้ว
เราคิดว่าน่าจะลดมลพิษได้จริงๆกว่ารถไฟฟ้าอีก แต่ทำไมกระแสถึงมาทางรถไฟฟ้าหมดเลย แล้วพูดแต่ด้านดีด้านเดียวด้วยส่วนใหญ่
หลักๆ คือสถานีเติม fuel cell มันมีน้อยมาก ในขณะที่รถไฟฟ้านั้นถึงจะบอกว่าสถานีชาร์จไม่ได้มีเยอะเหมือนปั้มป์น้ำมัน แต่มันต้องการแค่เต้าเสียบไฟฟ้าที่แทบจะมีทุกที่ (เยอะกว่าปั้มป์แน่นอน) แถมโตโยต้าเองก็ไม่ทำตลาด Mirai แบบจริงจังเหมือนที่ Tesla เค้าดันรถไฟฟ้าครับ (เพราะขายแค่รถไฟฟ้าจริงๆ)
เราแค่คิดต่อนะ ถ้าเกิดผลักดันรถไฟฟ้าจนคนใช้อย่างแพร่หลายเหมือนรถน้ำมันแล้วแบตเตอรี่จะกำจัดอย่างไร และโรงงานไฟฟ้าที่บางประเทศยังใช้ความร้อนอยู่อัตราการปล่อยมลพิษจะน้อยกว่ารถยนต์จริงหรอ ถ้าเราโยนความผิดไปให้รถดีเซลทำไมเราไม่ผลักดันไปใช้ EURO 7 ละ เราแค่อยากรู้ว่ามีคนศึกษาทำวิจัยจริงๆจังๆรึป่าวไม่ใช่แค่เอาตามกระแสนะ เรากลัวว่าจะกลับกลายเป็นทำลายธรรมชาติมากกว่าเดิมโดยที่เราไม่รู้ตัว
ทำลายธรรมชาติมากกว่าเดิมหรือไม่ผมไม่รู้
ผมรู้แค่ว่า มลพิษกระจายน้อยลงมากแน่นอน
เพราะมันปล่อยแค่ที่โรงไฟฟ้า ไม่ปล่อยไปทั่วแบบท่อไอเสียรถทุกวันนี้
https://energypost.eu/hydrogen-fuel-cell-cars-competitive-hydrogen-fuel-cell-expert/
https://www.carthrottle.com/post/engineering-explained-5-reasons-why-hydrogen-cars-are-stupid/
อาจจะต้องลองหาแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้เอาเองนะครับ แต่หลักๆ
กระบวนการผลิต / การะบวนการจัดเก็บ - ต้องมี 'ปั๊มไฮโดรเจน' ต้องมีการขนส่งมีการจัดเก็บ วิธีการผลิตไม่ได้เขียวอย่างที่อวย
ความสะดวก - ชาร์จที่บ้านไม่ได้ ต้องหาปั๊มเติมเหมือนเดิม
โอ้วว ขอบคุณมากสำหรับข้อมูล
แค่หาปั้มก็เติมยากละครับ รถไฟฟ้าชาร์ทตามบ้านยังได้อยู่ , แล้วถ้าคิกแบบบ้านเราก็รถ Gas นี่จะ รั่วเปล่า ไฟไหม้เปล่า แถม ไฮโดรเจนนี่เคยสมัยเรือเหาะไฟไหม้ก็มีมาแล้ว คนเลยกลัวกันด้วย
แถม Toyota พี่แกเน้นทำดี แต่ไม่เน้นขายของดี
รถไฟฟ้าจริงลดมลพิษอยู่นะครับอย่างน้อยในเมืองก็ลดได้ ซึ่งก็ชอบมีข้อโจมตีจากฝั่งรถ ICE ที่บอกแค่ย้ายที่ก่อมลพิษเฉยๆ จริงไอเสียไปเกิดที่แหล่งกำเนินไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าได้ประสิทธิภาพดี แถมดัก กรอง มลพิษดีกว่าของที่ติดรถ
ข้อเสียน่าจะตรงแบตเวลาผลิตกับหลังแบตเสื่อม
แ
น่าจะเป็นที่วิธีผลิต Fuel Cell มันต้องการไฮโดรเจน
- แยกไฮโดรเจนจากน้ำปาทิ้งไปได้เลย waste
- เอาพลังงานจากแสง, ลม, เขื่อน มาใช้ไม่ได้เพราะต้องการไฮโดรเจน
- สุดท้ายก็ต้องไปพึ่งพลังงานฟอสซิล น้ำมัน ถ่านหิน เอามาผลิตไฮโดรเจนอยู่ดี
ข้อดีของ Fuel Cell คือความจุสูงกว่าแล้วก็เติมเร็วกว่า แต่การผลิดนี่สิ้นเปลื่องพลังงานกว่า
น้ำ+ไฟฟ้า>fuel cell>ไฟฟ้า
เอาแค่ว่า ต้องขนไฮโดรเจนไปเติมตามปั๊มต่างๆแค่นี้ก็ไม่ซื้อแล้ว แถมปั๊มไฮโดรเจนต้องสร้างใหม่ในราคาแพงมหาศาลเพราะมันอันตรายมาก ป้องกันในรถเท่าไหร่ ต้องป้องกันในปั๊มล้านเท่า ใครจะลงทุน ถ้าคิดว่าค่าเชื้อเพลิงต้องถูกหรืออย่างน้อยก็เท่ากับน้ำมัน แค่นี้ก็ตายแล้ว หัวจ่ายไฟฟ้าง่ายกว่าเยอะ ตั้งเสาบุญเติมหน้า 7-11 ยังได้เลยมั้ง ฮา
เท่าที่เคยฟังมาไฮโดรเจนนี่ความดันสูงมากครับ ถังแก๊สในรถต้องหนามาก ๆ ๆ ๆ ถังในปั้มยิ่งต้องหนาใหญ่
การแยกไฮโดรเจนในน้ำออกมาต้องใช้ไฟฟ้า
เท่ากับต้องผลิตไฟฟ้า เอาไฟฟ้ามาแยกไฮโดรเจนจากน้ำ เอาไฮโดรเจนไปเก็บใส่ถัง เอาใส่รถหรือท่อไปส่งตามปั้ม แล้วแต่ละขั้นตอนต้องเกิด lost สรุปไม่คุ้มค่าพลังงานที่เสียไปครับ สู้เอาไฟฟ้ามาชาร์จแบตทีเดียวคุ้มกว่า
A smooth sea never made a skillful sailor.
ยังไม่ล้ำพอ...ท่านต้องเซ็นตั้งหน่วยPre-Crimeเลย