By: arjin 
on 27 December 2020 - 06:21
Tags:
Topics:
Lei Jun ซีอีโอ Xiaomi กล่าวผ่านบัญชี Weibo ว่า Mi 11 สมาร์ทโฟนตัวใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในวันพรุ่งนี้ จะไม่มีที่ชาร์จไฟมาให้ในกล่อง ด้วยเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้กล่องมีขนาดเล็กลง โดยเขาหวังว่าลูกค้าจะให้การสนับสนุนแนวทางดังกล่าว
เท่ากับว่า Xiaomi เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายล่าสุด ที่ตามแนวทางของแอปเปิลโดยไม่แถมที่ชาร์จไฟมาให้ในกล่อง ซึ่งตอนนั้นแอปเปิลให้เหตุผลว่า ผู้ใช้งานส่วนใหญ่มีหัวชาร์จอยู่แล้ว และการไม่ใส่ที่ชาร์จทำให้ขนาดบรรจุภัณฑ์เล็กลง สามารถขนส่งสินค้าต่อรอบด้วยจำนวนที่มากขึ้น เป็นผลดีด้านสิ่งแวดล้อม
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Galaxy S21 ของซัมซุงอาจไม่ให้ที่ชาร์จมาด้วยเช่นกัน ซึ่งเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นเมื่อซัมซุงลบโพสต์ที่แซวตอนเปิดตัว iPhone 12 ซึ่ง Xiaomi เองก็โพสต์แซวในตอนนั้นเช่นกัน
ที่มา: The Verge
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
พวกชอบล้อนี่ลอกเร็วกว่าคนที่อยู่เฉยๆอีก แต่ผมก็คิดว่าที่ทำอย่างนี้เหนว่าเปนผลดีต่อตัวเองมากกว่าเปนผลดีต่อผู้บริโภคโดยอ้างสิ่งแวดล้อม(และappleก็ทำ)
คำว่า "เปน" -> "เป็น"
ผมขี้เกียจพิมครับอ่านออกเหมือนกัน
มันเป็นบอทในเว็บครับไม่ต้องไปสนใจ
จะไม่ให้Appleเป็นผู้นำในด้านสมาร์ทโฟนได้ไง
เล่นมาเดินตามกันซะทุกแบรนด์แบบนี้
ถ้า Apple กล้าเปิด แต่เหลือจะรออะไรละครับ
ต้องรอดูครับว่าเทรนด์นี้จะอยู่นานได้แค่ไหน เพราะตอนนี้ติ่งก็แทบจะหายไปหมดและ 3.5mm ก็เริ่มกลับมากันแล้ว
ผมละรอเทรนด์ "แบตถอดไม่ได้" หายไป
บางอย่างก็อยู่ยาวบางอย่างก็หายไป แต่ที่แน่ๆคือตาม Apple ไว้ก่อน 55+
ก็ต้องรอดูกันต่อไป ถึงส่วนตัวผมจะคิดว่าเทรนด์นี้จะอยู่ยาวก็เถอะ เพราะมันไม่ส่งผลกับการใช้งาน และการไม่แถมที่ชาร์จมันก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไร แค่ใหม่สำหรับมือถือแค่นั้นเอง (พวก Gadget ต่างๆนี่ไม่แจกกันมานานแล้ว)
mi ก็รักสิ่งแวดล้อมเหมือนกันสินะ
xiaomi ลงทุนในบริษัทจีนไปแล้วครับ
น่าจะยี่ห้อ xpeng นะครับ
ทำไมต้องรอ Apple ทำก่อนตลอดนะ ไม่มีแนวทางของผู้นำด้วยตัวเองหรือไง นอกจากราคาถูก
M1 A1,A2,A3, Redmi นี่ไม่แถมหูฟังนะครับ
Apple พอเข้าใจได้แบบงงๆ ว่า fast charge มาตรฐานปกติจะซื้อของใครก็ได้ แต่ mi นี้ถ้าจะ fast charge แบบเต็มสูบต้องใช้ของ mi เองเลยนิ
ก็ซื้อสิครับ มีขาย อิอิ ไม่งั้นก็ใช้ที่ชาจเร็วธรรมดาไปถ้าซื้อยี่ห้ออื่น
ชาวแซะก่อนหน้าเนียนเงียบเลยนะ
เสียหมาทุกตัวไปเลยแบบนี้ -,,,,-
เลียนแบบเนียนลดต้นทุน? จำได้ว่ามันเคยล้อappleนิหว่า?
ต้องดูราคา เพราะขึ้นชื่อว่า"ของแถม"ถ้าไม่แถมไม่จำเป็นต้องลดราคา
ปกติมีค่ายนึงทำ แล้วสาวกยอมรับได้ มันขายได้ ย่อมเป็นการสร้างมาตรฐานราคาใหม่
จริงๆมันคือการขึ้นราคาโดยใช้สิ่งแวดล้อมเป็นข้ออ้างนั่นละ
ไปแล้วหนึ่งสำหรับยี่ห้อที่ยอมตัดจุดขายของตัวเองออกไปหนึ่งอย่างเพื่อลดต้นทุน (เรื่องชาร์จเร็ว) รอดูยี่ห้ออื่นๆที่มีชาร์จเร็วเป็นจุดขายว่าจะเอายังไง
เลิกแข่งระบบชาร์จเร็วไฟแลบแล้วใช่ไหม
เลิกไปก็ดี ใช้ PD นะดีแล้ว
ค่อย ๆ ต่อต้านรุ่นที่ตัดของแถมไปเรื่อย ๆ
ข่าวลง blognone วันที่ 24 January 2019
Meizu Zero เปิดตัว มือถือไร้ปุ่ม, ไร้พอร์ท, ใช้ eSIM, ชาร์จไร้สายเท่านั้น
https://www.blognone.com/node/107714
มีคอมเมนต์นึงมาก่อนกาล
"ถ้าเปลี่ยนเป็นโลโก้รูปผลไม้แหว่ง น่าจะมีคนมาเยินยอว่าเป็น Innovation และ พร้อมที่จะปรับตัวให้ใช้ได้ทันที"
ของบางอย่างมันต้องพิสูจน์ตัวเองก่อนครับ อย่างในข่าวนั้นก็พิสูจน์แล้วว่ามันไปต่อไม่ได้ ด้วยเหตุผลจากอะไรไม่แน่ใจ อาจจะด้วยเทคโนโลยีที่ยังไม่พร้อม แต่ก็ไม่แปลกใจเพราะฝั่งแอนดรอยด์มันแข่งกันหนัก มีอะไรที่พอเข็นออกมาได้ก็ต้องรีบทำ ใช้ได้ไม่ได้ค่อยมาว่ากันอีกที แต่ที่แน่ๆ ก็สามารถเอาเครดิตตรงที่ทำออกมาขายคนแรกได้
มือถือไร้ปุ่ม, ไร้พอร์ท, ใช้ eSIM, ชาร์จไร้สายเท่านั้น
ทุกอย่างในนี้ทุกคนก็ทำได้หมดนะครับถ้าอยากทำ มันจะเรียกว่าเป็น innovation ได้ยังไง
และการตัด adapter นี่ก็ไม่ได้มีใครเรียกว่าเป็น innovation ซักหน่อย เรื่องยอมรับไม่ยอมรับนี่เป็นอีกเรื่องนึง แต่ผมว่าลูกค้า Apple หลายคนชินกับเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว Apple เป็นเจ้าที่ตัดฟีเจอร์สำหรับปัจจุบันออกเร็วมาก และตัดจริงๆ ไม่ใช่ตัดลองตลาด ไม่เผื่อแบบที่หลายๆ คนชอบว่าใส่มาก็ดีกว่าไม่ใส่ ตั้งแต่ตัด floppy disk, optical disk drive ฯลฯ
แต่การตัดพวกนี้ออกมันก็เร่งให้คนเปลี่ยนผ่านเร็วขึ้น ถ้ามองถูกทาง และทำถูกช่วงเวลานะ การยอมรับขึ้นกับกลุ่มลูกค้าด้วย ลูกค้าแต่ละกลุ่มก็ยอมรับต่างกัน การที่กลุ่มลูกค้า Apple มันแคบกว่ามันก็ทำให้การยอมรับง่ายกว่า
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ต่อให้มีสาวกควายๆ โง่ที่สุดในโลกก็คงไม่มาคิดว่าการไม่ให้หัวชาร์จมาในกล่องเป็นนวัตกรรมหรอกนะครับ
ไม่ได้มาก่อนกาลอะไรหรอก
นั่นน่ะ
สาวกสาวนักแซะ ขาประจำ 55555
เหน็บแนม จนบริษัทเขาเติบโตๆไม่หยุด อิอิ
ถถถถถ
ก็ดีแล้ว ขายที่จีนได้เยอะ ลดขยะประเทศตัวเองได้มากโข
เรื่องนี้ผมกะไว้แล้วว่าต้องทำตามกันหมด เพราะเป็นการลดต้นทุนแบบง่ายๆเลยไม่พอยังเพิ่มโอกาสขายที่ชาร์จแยกอีกต่างหาก มันไม่ใช่การดีไซน์หรือ innovation อะไรทั้งนั้น และเป็นสิ่งที่บริษัททุกแห่งอยากทำอยู่แล้ว แค่รอคนเปิดไปโดนด่าลองตลาดก่อนแค่นั้นถ้าเสียงตอบรับเชิงลบมันไม่มากบริษัทอื่นก็พร้อมตามแน่ๆ
แต่บริษัทที่ทำตลาดเน้นด้านราคาแล้วมาตัดตรงนี้ออกถือว่ากล้ามากเลยนะครับ (แม้ว่า mi จะพยายามบอกว่าตัวเองจะโดดมาทำตลาดในอีกระดับ แต่ความเป็นบริษัททำของสเป็คเด่นคุ้มราคา ก็ยังเป็นภาพลักษณ์ที่ยังสลัดไม่หลุดอยู่ดี)
ไม่ได้กล้าอะไรหรอกครับ ลองสังเกตหลายๆ อย่าง เมื่อก่อนเรือธงมือถือราคาไม่ได้ทะลุขนาดนี้ นับตั้งแต่ไอโฟนดันเรื่อยๆๆๆๆ จนสุดมากๆ ตอน ix แบรนด์อื่นก้อกล้าตั้งราคามาแพงแต่ไม่แพงเท่า แถมตั้งไว้เผื่อลดอีกตกฮวบๆ กรณีนี่ก็คล้ายๆ กัน เอาเปรียบผู้บริโภคมากขึ้นแล้วไงยังไงคงก็ยังโฟกัสที่ว่าแอปเปิ้ลมันเลวทรามอยู่ดี เพราะแพงสุด ฟังก์ชั่นของแถม เลขสเปคกระดาษดูน้อยสุด ยังไงคนก็รับได้อยู่ดีแค่การตัดหัวชาร์จของหมี่
ถ้าเป็นfirst move ต้องเรียกว่ากล้าสุดล่ะครับ เพราะถ้าตลาดไม่ยอมรับ คือเจ๊งก่อนเพื่อนเลยนะ
แต่คนกล้าจริงๆต้องยกให้ iphone ตะหากนั่นแหละ ของmi นี่น่าจะเรียกว่าเดินเกมการตลาดตามคนอื่นตลอดด้วยซ้ำ
ไม่ว่ายังๆง iphone มันเป็นsmart phoneจอสัมผัสแบบcapacitive เจ้าแรกสุดในตลาดเลยนะ มีandroidตามมาตัดราคาขายถูกกว่าทีหลัง ต้องยอมรับว่าคือfirst move เกือบจะตลอดก็ว่าได้(ไม่ว่าแง่ดีหรือร้าย)
ส่วนเรื่องราคาแพง ถ้าเคยใช้ nokia series 8, N series,Windows mobile รุ่นแรกๆ ตอนนี้smart phoneที่แพงที่สุดก็ไม่เรียกว่าแพงเท่าไร แต่มันดูแพงเพราะมีandroidราคาถูกมาตัดราคามากกว่า
ส่วนmi ผมว่าเดินเกมการตลาดเลียนแบบ samsungมากกว่า เปิดตัวด้วยราคาถูกคุ้มค่าสเปคเทพ(ให้นึกถึง galaxy s2) แล้วค่อยๆอัพราคามาเรื่อย จนคนเคยชินกับระดับราคา ในแง่นึง huaweiก็ทำแบบเดียวกัน ไม่น่าเรียกว่าเจ้าแรกหรือกล้าอะไรเลย
ป.ล. ผมไม่มีapple deviceเลยสักอัน
สำหร้บผมในประเด็นนี้คือมองแยกกัน ในเรื่อง first move อันนี้มันคือความเสี่ยงที่ทุกคนมองเห็นอยู่แล้ว แต่การเล่นกับความ brand loyalty ที่มักจะต่ำอยู่แล้วในกลุ่มอ่อนไหวกับราคา เพราะทุกบาทที่มันเพิ่มหรือลดเข้าไปในราคาขายสุดท้ายมันมีผลต่อการตัดสินใจค่อนข้างมาก อันนี้คือความกล้าที่ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมเขาถึงกล้า
ค้าตัดออกเพื่อให้แข่งขันด้านราคาได้ ก็ถูกแล้วนี่ครับ คิดดูว่า เจ้าใหญ่ ๆ ไม่แถมมาหมด แต่ของ mi ยังแถมอยู่ แถมยังต้องทำราคาให้ถูกกว่าเจ้าใหญ่อีก กำไรจะอยู่ตรงไหน
ผมว่ามันก็ต้องมีบางคนที่มองว่า mi ถูกกว่าเจ้าอื่น ยอมไม่เอาที่ชาจก็ยังถูกกว่าอยู่ดี(เพราะเจ้าอื่นก็ไม่แถม) แถมสมัยนี้ที่ชาจ android ผมว่าเกลื่อนตลาดมาก ที่ชาจ mi ซื้อแยกก็ใช่ว่าจะแพงเลือดสาดเหมือน Apple ผมว่ากลยุทธตัดที่ชาจออกไปนี่ เหมาะกับ mi มากเลยครับ
ผมมองอีกด้านครับ คู่แข่ง mi ไม่ใช่เจ้าใหญ่ ไม่ใช่ apple ด้วย แต่เป็นแอนดรอยด์ที่ขายเครื่องระดับล่างถึงระดับกลางพวกนี้ ไปดูมือถือแยกตามรุ่นที่ขายดีที่สุดในโลกได้เลยครับ ซึั่งเจ้าอื่นในที่นีี้นอกจาก Samsung แล้วก็ยังไม่มีเจ้าไหนที่ประกาศว่าจะไม่แถมมาในกล่องเลย ซึ่งถ้าใช้กลยุทธ์นี้ลามไปถึงเครื่องล่างๆ โดยที่เจ้าอื่นๆ ยังแถมมา ผมว่าหืดขึ้นคอแน่นอน แต่ก็ไม่แน่ครับอาจจะไม่ใช่อย่างที่ผมคิดก็ได้ อาจจะตัดแค่ในรุ่นสูงๆ แต่ยังแถมในรุ่นล่าง อันนั้นก็ไม่น่าจะกระทบอะไรมาก
น่าจะใช่ เคยนั่งคุยกับเพื่อนที่ซื้อมือถือพวกนี้ คือ เขาไม่สนใจแบรนด์ ในประเทศผู้ผลิต รึอะไรทั้งนั้น สนแค่บาทต่อสเป็ค เปิดกล่องมาได้อะไรบ้าง ต่างกันบาท สองบาทก็ไปเอาอีกเจ้านึงแล้ว
มีคนกลุ่มหนึ่งที่เคยเจอคือประมาณนั้นครับ เขาจะสนใจราคา ของแถม ส่วนลดมากกว่าคุณค่าหลักของสิ่งที่จะซื้อ โดยไม่ได้สนใจว่าของที่แถมมาคุณภาพจะเป็นไง ใช้ได้จริงมั้ย เห็นได้บ่อยตามงานมือถือ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีออกมาประกาศแล้วว่าถ้าไม่แถมจะย้ายไปค่ายอื่นแน่นอน(ไม่รู้ถึงเวลาซื้อจริงจะย้ายอย่างที่พูดมั้ย)
เคยทำงานในบริษัทมือถือแบรนด์เล็กที่ต้องสู้อยู่ในตลาดนี้ แค่ฟิล์มถูกๆที่แถมมาด้วยก็มีผลเยอะมากแล้วครับ บางทีแถมมาเป็นฟิล์มห่วยๆ ติดยังไงก็มีฟองอากาศ แต่คนซื้อไม่สนขอแค่มีฟิล์มพร้อมติดให้ด้วย
สุดท้ายก็ตามเขา
ที่ชาร์จ xiaomi มันสองสามร้อยบาทเองนะ
แค่สองสามร้อบบาทก็ใส่กล่องมาไม่ได้เลยครับ
ค่าขนส่ง ค่าจัดเก็บก็ลด เพราะขนาดกล่องเล็กลง ถ้ากล่องบางลงครึ่งนึงใช้พื้นที่ขน พื้นที่เก็บครึ่งเดียว ค่า packaging และอื่นๆ อีก
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
จริงๆไอ้ที่ไร้ประโยชน์สุดๆสำหรับตัวเอง คือ คู่มือการใช้งาน
จำเป็นต้องให้คู่มือการใช้มานั่นแหละถูกต้องแล้ว มันจำเป็นเมื่อใครก็ตามจะต้องรู้จักวิธีการใช้งานผลิตภัณฑ์ด้วยวิธีที่ถูกต้องจากผู้ผลิต เช่นบางคนแค่ขับรถเป็นแต่ไม่เคยอ่านคู่มือการใช้รถ อันนี้จะทำให้ผู้ใช้ดูแลรักษารถด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องได้เลยนะ
ผมว่ามันคือสิ่งสำคัญที่คนมองข้ามเป็นอันดับต้นๆเลยน่ะ ของทุกอย่างยังไงควรจะเปิดอ่านคู่มือมันนิดนึง สั้นๆ ใช้เวลาไม่กี่นาที ถึงแม้มือถือมันจะใช้งานเหมือนๆกันก็เหอะ
จะสำคัญยังไงแต่มีคนอ่านไหม.... ? ก็อีกเรื่องหนึ่ง อันนี้ในความเห็นของตัวเองเฉยๆนะ เพราะผ่านมาหลายรุ่นก็ไม่เคยเปิดอ่านมันสักครั้ง หรือต่อให้คนที่ไม่รู้จริงๆ ส่วนใหญ่เขาก็ถามจากปากมากกว่าจะอ่านจากคู่มือสะอีก
เป็นเรื่องดีงามสำหรับธุรกิจที่สามารถด้นทุนค่าขนส่ง
เพิ่มจำนวนส่งสินค้าขึ้นสองเท่า (ปริมาตรบรรจุภัณฑ์ลดขนาดลง)
อ้างเหตุผลรักษ์โลกสวยๆในรายงานประจำปีได้ด้วย
ก็เป็นหนทางลดต้นทุนที่เห็นผลชัดๆอ่ะครับ แต่ผู้บริโภคก็รับไป แต่ก่อนเครื่องชาร์จเร็วหลายๆวัตแต่ให้ชาร์จช้ามาก็บ่นแล้ว
ตอนนี้กลายเป็นอยากชาร์จเร็วหรือช้าก็ซื้อแยกหรือใช้ของเก่า ถถ :v
.
ของ apple ตัด adapter ออกผมว่ามัน โอเคนะ เพราะมันได้ adapter กากมา ยังไงก็ต้องเปลีย่น
แต่ของ android นี่. มันแถม adapter ค่อนข้างดี ไม่อยากให้ตัดเท่าไหร่
จริงๆ Lei Jun (CEO) เคยตั้งคำถามใน Weibo เมื่อปี 2015
ว่าจะยกเลิกแถม Adaptor ที่มากับเครื่องดีไหม
ตอนนั้นคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย Xiaomi เลยยังต้องแถมอยู่
แล้วพอ iPhone 12 ไม่แถม Xiaomi ก็ไปแซะ Apple เค้า
พอมาเป็น Mi 11 ก็ไม่แถมเหมือนกัน
https://www.phonearena.com/news/Xiaomi-CEO-considers-not-bundling-chargers-with-new-phones_id70533