Tags:
Node Thumbnail

นอกจาก Gigafactory 3 ที่เซี่ยงไฮ้แล้ว Tesla ก็กำลังสร้างโรงงานใหม่อีกแห่งที่เบอร์ลินในชื่อ Gigafactory 4 ด้วย โดยเริ่มงานก่อสร้างมาตั้งแต่ต้นปี 2020 แต่ก็เจอกับกระแสต่อต้านจากหน่วยงานและกลุ่มต่างๆ อยู่เรื่อยมา ซึ่งเหตุผลหลักก็คือเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ชาวเยอรมันให้ความสำคัญค่อนข้างมาก

ล่าสุดงานก่อสร้างมีอันต้องชะงักอีกแล้ว หลังสมาคมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งบรานเดนบวร์ก (Naturschutzbund Brandenburg - Nabu) ได้ร้องเรียนว่าการถางป่าเพิ่มอีก 82.9 เฮกแตร์หรือราว 829,000 ตารางเมตร จะกระทบกับงู smooth snake และจิ้งเหลนทราย (sand lizard) ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานท้องถิ่นแถบยุโรป และเป็นไปไม่ได้ที่จะไล่จับสัตว์เหล่านี้แล้วย้ายไปปล่อยที่อื่น

อย่างไรก็ตาม คำสั่งศาลข้างต้นเป็นเพียงการให้หยุดถางป่าชั่วคราวเท่านั้น เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับผลกระทบกับทั้งสองฝ่าย ดังที่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นแล้ว และครั้งนั้น Tesla ก็ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างต่อได้

การก่อสร้าง Gigafactory 4 ต้องถางป่าเป็นพื้นที่ใหญ่มาก แต่ Tesla ก็เคยให้คำสัญญาว่าจะปลูกต้นไม้คืนให้สามเท่า นอกจากนี้ภาครัฐก็มีท่าทีสนับสนุนการเข้ามาตั้งโรงงานของ Tesla เพราะจะช่วยสร้างงานหลายพันตำแหน่ง

ที่มา - Electrek

ภาพเรนเดอร์โรงงาน Gigafactory 4 หากสร้างเสร็จ | ภาพโดย Tesla

Get latest news from Blognone

Comments

By: ppJr
iPhoneAndroidUbuntu
on 9 December 2020 - 00:24 #1189087

0.829 ตารางกิโลเมตร
ถ้าเป็นจัตุรัสกว้าง x ยาวเกือบกิโล

By: hail_to_the_thief
iPhone
on 9 December 2020 - 03:32 #1189094

"...ซึ่งเหตุผลหลักก็คือเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ชาวเยอรมันให้ความสำคัญค่อนข้างมาก..."
ย้อนอ่านข่าว VW โกงผลทดสอบ....

อืมมม จร้าาาาาาาาาาาา

By: OrangeJuice
iPhone
on 9 December 2020 - 09:13 #1189109 Reply to:1189094

ในข่าวนั้น มีอะไรที่บ่งชี้ ว่าชาวเยอรมันไม่สนใจสิ่งแวดล้อมเหรอครับ

By: toooooooon
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 9 December 2020 - 09:16 #1189110 Reply to:1189094

มองอีกด้านคือ ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมมากๆๆๆๆ และมาตราฐานสูงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้บริษัทมีข้อจำกัดที่ต้องข้ามผ่านไปได้ยากขึ้น จนถึงจุดนึงก็เลยโกงผลทดสอบซะเลย

By: waroonh
Windows
on 9 December 2020 - 09:32 #1189113 Reply to:1189094

เอางี้เลย มีรายการ Top Gear UK ประมาณปี 2010 ช่วง EURO 5
Jeremy Clarkson ทดสอบรถ Porsche แล้วบอกว่า..

ใน London UK ของเราทุกวันเนี่ยค่าอากาศที่หายใจเข้าออก ทุกวันแม่ม
สกปรกสูงกว่า EURO 3 อีก แล้วเมิง test ผ่าน EURO 5 ออกมาขายได้
.. รถเมิงเป็นเครื่องฟอกอากาศเหลอ ? แบบ สกปรกเข้าไป ระเบิดในเครื่อง
ตูมตามๆๆ ออกมา สะอาดกว่าเดิม ..เงี้ยเหลอ ?

น่านแหละ ผมเลยเชื่อว่า ไม่มีใครทำได้ เกิน EURO 3 มาตั้งนานแล้ว
ไม่เฉพาะเครื่องดีเซลนะ ทั้งหมดนั่นแหละ ทุกยี่ห้อเลยด้วย

By: soullz
AndroidUbuntu
on 9 December 2020 - 09:41 #1189118 Reply to:1189113
soullz's picture

อัจฉระยิ

By: OrangeJuice
iPhone
on 9 December 2020 - 10:30 #1189128 Reply to:1189113

ตอบแบบกำปั้นทุบดิน ก็ใช่ครับ รถคือเครื่องฟอกอากาศ บางยี่ห้อถึงกับโปรโมทไปแบบนั้นเลยก็มี ตั้งแต่ปี 2001 แล้วที่บางค่ายเคลมว่า ค่าไอเสียที่รถตัวเองทำได้สะอาดกว่าอากาศที่คนสูด ซึ่งตัวเลข co ทดสอบในแล็บมันออกมาต่ำมากจริง แต่ไปยืนดม มันก็เหม็นอยู่ดี เหม็นเปรี้ยวๆ รึนั่นคือกลิ่นของอากาศดีไม่รู้

By: iPongHD
iPhoneAndroidUbuntuIn Love
on 9 December 2020 - 11:25 #1189142 Reply to:1189113
iPongHD's picture

ถ้าอิงผลค่าตัวเลขก็คือเขาค่อนข้างเชื่อใจมากกว่าวิทยาศาสตร์นะครับ เฉลี่ยแล้วค่า NOx ที่อยู่ในบรรยากาศ London เนี่ย ประมาณ 43-46 μg/m3 ซึ่ง EURO 3 กำหนดไว้ว่า Diesel นี่ต้องมีค่า NOx น้อยกว่า 0.50 g/km ซึ่งมันถือว่าต่างกันกับค่าบรรยากาศพอสมควร งั้นจะบอกว่ารถเป็นเครื่องฝอกอากาศไม่ได้ครับ แต่มันมีนัยสำคัญต่างๆเช่นค่าความชื้น อุณหภูมิ ไฟฟ้าสถิต ผมว่าสามารทำเกิน EURO 3 ได้นะ