บริษัทไอทีขนาดใหญ่ได้แก่ ไมโครซอฟท์, AWS, ซิสโก้, Salesforce, และ Telstra ส่งหนังสือแสดงความกังวลหลังรัฐบาลออสเตรเลียเสนอกฎหมายเพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ในการับมือเหตุความมั่นคงไซเบอร์
ร่างกฎหมายให้อำนาจเจ้าหน้าที่ติดตั้งซอฟต์แวร์, เข้าถึง/สำเนา/เพิ่ม/กู้/แก้ไข/ลบ ข้อมูล และยังดัดแปลงฮาร์ดแวร์หรือยึดฮาร์ดแวร์ เพื่อรับมือเหตุภัยไซเบอร์ในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญยิ่งยวด โดยกำหนดว่าจะใช้อำนาจได้ต่อเมื่อเกิดเหตุภัยไซเบอร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญยิ่งยวดและไม่มีหนทางการกำกับดูแลอื่นที่รับมือปัญหาได้
บริษัทไอทีขนาดใหญ่ล้วนออกมาแสดงความกังวลกับกฎหมายนี้
เมื่อเทียบร่างกฎหมายนี้กับ พ.ร.บ.มั่นคงไซเบอร์ของไทย อาจบอกได้ว่ากฎหมายของไทยนั้นให้อำนาจกว้างกว่ามาก แม้จะเข้าถึงสถานที่, ข้อมูล, และฮาร์ดแวร์ต่างๆ ได้เหมือนกัน แต่มาตรา 66 ของพ.ร.บ.มั่นคงไซเบอร์ให้อำนาจทั้งในกรณีการป้องกัน และลดความเสี่ยงเอาไว้ด้วย
ที่มา - IT News
ภาพโดย dlohner
Comments
ประชาชน เค้าเห็นด้วยกันไหม
เอาจริง ๆ รบ.ทั่วโลกทั้งเผด็จการ/ประชาธิปไตย พยายามจะ “ควบคุม” อินเตอร์เน็ตกันทั้งนั้นละครับ แทบจะเป็นธรรมชาติของความเป็นรัฐเลยละครับที่จะรู้สึก “ไม่มั่นคง” ถ้าไม่ได้ควบคุมเอาไว้ทุกอย่าง
แต่มากน้อยแค่ไหน ภาคประชาชนค้านได้แค่ไหนก็อีกเรื่องนะครับ
อย่างกรณี NSA ของสหรัฐที่พอความแตกก็โดนสวดยาว ๆ นั้นก็ได้ครับ
NSA นี่อย่างว้าวอ่ะ 5555
ถ้าเป็นรัฐเสรี ประชาชนรับรู้ จะเห็นด้วยไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องของผู้แทนราษฎร ยกเว้นว่ามีประชาชนที่ไม่ใช่ผู้แทนไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก ถึงจะทบทวน
ยังไม่ชินอีกหรอ ตั้งแต่ NASA ละ ใครๆ เขาก็ทำกัน
ใจเย็นครับ อันนั้นเขาสำรวจดาวอังคารอยู่
lewcpe.com, @wasonliw
อย่างฮา 55555+++
NASA บอกตรูเผียดอะไร
พิมพ์ A เกินเปล่าครัฟ
อันนั้นเอาไว้เก็บหนังญี่ปุ่นป่าวครับ
?