คุณสฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระด้านการเงิน เผยแพร่เอกสารการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงกลาโหม, กสทช., และตัวแทนบริษัทโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ AIS, dtac, Truemove H, TOT, และ CAT โดยเป็นการประชุมเพื่อขอข้อมูลพิกัดโทรศัพท์มือถือ
ข้อมูลที่กรมควบคุมโรคร้องขอนั้นมี 3 กลุ่ม ได้แก่
- ข้อมูลพิกัดผู้ติดเชื้อ เป็นการขอพิกัดทุกๆ 10 นาทีย้อนหลัง 14 วัน
- ข้อมูลผู้เข้าพื้นที่เสียง เป็นข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ทุกหมายเลขที่เข้าในกรอบพื้นที่เสี่ยง ในช่วงเวลาที่กำหนด
- ข้อมูลกลุ่มเสี่ยงสูงและต้องกักตัว เป็นข้อมูลรายชั่วโมงย้อนหลัง 24 ชั่วโมง
ข้อมูลทั้งหมดเป็นการขอแบบ batch โดยกำหนดช่วงเวลาส่งรายการให้และช่วงเวลาที่ผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ต้องส่งข้อมูลผ่านทาง SFTP
รูปแบบการส่งข้อมูลแบบนี้เป็นรูปแบบเดียวกับเกาหลีใต้ที่ใช้สอบสวนโรคมาก่อนหน้านี้ ทำให้เกาหลีใต้สามารถแจ้งเตือนและตามคนมาตรวจเชื้อ SARS-CoV-2 ได้เป็นวงกว้าง โดยเกาหลีใต้นั้นยังใช้ข้อมูลการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตและภาพกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม แต่เอกสารที่เปิดเผยมานี้พบว่าการใช้ภาพกล้องวงจรปิดนั้นทำได้ยากโดยเฉพาะเมื่อประชาชนส่วนมากใส่หน้ากากอนามัย
ที่มา - Facebook: Sarinee Achavanuntakul, Scribd
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
แล้วจะทำ ไทยชนะเพื่ออะไร...
เอาหน่อย ได้ผลงาน ได้งบ
แต่ใช้ทางลัด ง่ายดี
ใช้เพื่อไล่ตามหาคนที่เข้าไปในสถานที่เดียวกัน มาตรวจหาโรคไงครับ . . . .
concept ก็น่าจะเป็นแบบนี้ไมใช่เหรอ
ก็ถ้าจะเอาข้อมูลแบบนี้อยู่แล้ว จะใช้ไทยชนะทำไมอีกละ?
ผมคิดว่าไม่แปลกใจเท่าไหร่นะครับ ข้อมูลเครือข่ายโทรศัพท์นี่มันจำกัดมาก บางเสารัศมีหลายกิโลเมตร การใช้ข้อมูลร่วมเป็นเรื่องปกติ (ขึ้นกับงบประมาณการตรวจด้วย เราตรวจหว่านมาก ก็ไม่ต้องการข้อมูลแม่นอะไร)
แต่ที่น่าแปลกคือไม่มีการแถลงว่าใช้ข้อมูลนี้ประกอบ กลายเป็นเอกสารออกมาแบบนี้แทน
lewcpe.com, @wasonliw
น่าจะไม่ละเอียดพอครับ แล้วก็คงจะไม่สะดวกรวดเร็วเท่า
เพราะขนาดไทยชนะยังต้อง check-in รายร้านเลย
ไม่ใช่แค่ check-in ตอนเข้าห้าง
นั่นนะสิ และเดี๋ยวนี่สัญญาณมือถือก็มีใช้ร่วมกับ GPS ด้วย เลยยิ่งแม่นยำกว่าเดิม ไม่จำเป็นต้องใช้แอพเลย แต่ติดตรงกลาโหมว่าทำไม่ต้องเข้ามาร่วมด้วย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เดาว่า... การสอบสวนแบบนี้ต้องขอความร่วมมือจากทาง Operator โดยตรงในการขอข้อมูลตำแหน่งโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเวลานั้นๆ
เพื่อความสะดวกและไม่ง้อใคร เค้าเลยทำแพลตฟอร์มไทยชนะขึ้นมาแทน เพื่อขอเก็บข้อมูลด้วยตนเองซะเลย
ได้ตั้งแต่ปลายเมษา ก่อนออกไทยชนะอีกนะ
ถ้าไล่ตามไทม์ไลน์ ก็ถูกแล้วนะครับ ตอนยังไม่มีไทยชนะก็ต้องขอข้อมูลแบบนี้ ตอนหลังเลยทำไทยชนะรวบรวมข้อมูลเองเลย และมันก็น่าจะเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ร่วมกันได้ด้วย
นั่นแหละครับ... ถ้าไม่คิดเรื่อง Conspiracy หรือวะระแอบแฝงอะไรก็ตาม... ผมก็คาดว่า อาจจะเป็นเพราะไม่สะดวกในการติดต่อตามสายบริหารควบคุม ก็เลยทำฐานข้อมูลเองซะเลย
เข้าใจว่าเอาไว้ระบุตำแหน่งให้แคบลง
สมมุตไปห้างนี้ได้เข้าร้านไหนบ้าง ก็จะได้ตีกรอบให้แคบลงได้ เช่น เข้าซุปเปอร์ที่ชั้นใต้ดิน หรือขึ้นชั้นบนมาดูหนัง
ไม่ต้องมาปิดทั้งห้าง
ซึ่งของพวกนี้เหมาะกับประชากรมีคุณภาพ&ความรับผิดชอบมากกว่า
กลาโหม??
ทำให้นึกเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยจริงๆ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
+44
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
สงสัยว่าข้อมูลแบบนี้ความแม่นยำกี่เมตร และกรณีอยู่พื้นที่เดียวกันแต่คนละชั้น มันแยกได้ใช่ไหม?
ในสถานที่ปิด ถึงคนละชั้นแต่ก็อนุมานได้ว่าอยู่ในสถานที่เดียวกันได้นี่ครับ เมื่ออยู่สถานที่เดียวกัน ก็ตรวจหมดทุกคนอยู่แล้ว ถ้าบนถนนทางด่วนหลายชั้นก็ว่าไปอย่าง แต่อาคารสถานที่ น้อยมากที่อยู่คนละชั้นแต่ตีเป็นคนละสถานที่
แบบนี้ยิ่งสมควรมีไทยชนะแหละครับ ไม่งั้นกลุ่มเสี่ยงมากิน MK ที่พารากอน คงต้องไล่ตรวจกันทั้งห้าง เอาไทยชนะมาช่วยวิเคราะห์คงจำกัดกลุ่มเสี่ยงได้โขเลย
ใช่สิครับ ถ้าทำให้ถูกต้องก็ต้องตรวจกันทั้งห้างสิ ไม่งั้นคุณจะลงทะเบียนไทยชนะตอนเข้าห้างทำไมล่ะครับ ลงทะเบียนตอนเข้า MK ก็พอแล้วสิ
แต่ไปห้างก็คงไม่จำกัดเส้นทางไป mk อย่างเดียวหรอกมั๊ง
การขอดึงข้อมูลออกไปแบบนี้ จะถือว่าผิดพ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล ที่เลื่อนออกไปด้วยหรือเปล่าครับ?
เท่าที่อ่านคร่าวๆ เค้าใช้อำนาจตามกฎหมายในการขอข้อมูลนี้นะ ไม่น่าจะไปขัดกับ PDPA มั้ง
กฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลเปิดให้ใช้ข้อมูลตามกฎหมายอื่นได้อยู่แล้วครับ อย่างพวกคำสั่งศาล สอบสวนคดี ฯลฯ อย่างกรณีนี้ระบุกฎหมายควบคุมโรคก็ไม่น่ามีอะไรขัดกัน
lewcpe.com, @wasonliw
คืออย่างน้อยก็น่าจะมีการแจ้งให้เจ้าของข้อมูล ได้รับทราบหน่อยก็ยังดีนะครับ แบบนี้เราซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูล จะไม่รู้เลยว่า ข้อมูลหลุดออกไปที่ไหนแล้งบ้าง
ขอแค่นี้ จิ๊บๆ เดี๋ยวจะขยาย พรก. ต่อ อีก 2-3 เดือนด้วยนะจ๊ะ เพราะเรื่องเยอะไปหมด การบินไทย จ่านายสิบร้องเรียนอมเงิน อุ้มนาย..(ตุ๊ดดด)..ที่เขมร พรรคพลังประชารัฐแตก ปารีนาปวีนา อะไรไม่รู้ ตุงนังไปหมด เหมือนหนังกำลังภายใน ม้วนท้ายๆ ดูแล้วอยากดมยาดม
อื้อ หือ … สกิลการโยงระดับสุดยอด
ที่เขมรนี่ ข่าวแว่วๆว่า ไปทำอะไรกับบ่อนการพนันแล้วโดนอุ้ม ต้องรอดูข่าวต่อไป รัฐไม่จำเป็นต้องอุ้มเลย ไม่มีผลอะไรสำหรับกรณีนี้
จริงๆแล้วควรจะต้องเปิดเผยให้เจ้าตัวรู้ด้วยนะครับ ว่าเบอร์ตัวเองถูกตรวจสอบข้อมูล
งี้เกิดกรมควบคุมโรคอาศัยช่วงเวลานี้ ขอข้อมูลเบอร์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรค COVID-19 ก็ทำได้
แถมไม่ต้องออกเป็นเอกสารราชการด้วย เล่นส่งข้อมูลการหลังบ้านเลย
หลังจากผลักดัน PDPA กันเสร็จแล้ว ก้าวต่อไปก็คงต้องผลักดัน transparency law กันต่อครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
แล้วที่โฆษกกลาโหมออกมาชี้แจงว่าไม่เคยขอข้อมูล นี่คืออะไร หรือเพจปลอม?
https://www.facebook.com/304086039798233/posts/1328225827384244/