ไมโครซอฟท์ปรับเงื่อนไขด้านฮาร์ดแวร์ของ Windows 10 May 2020 Update (v2004) บังคับให้ผู้ผลิตพีซี OEM ต้องใช้ซีพียูแบบ 64 บิตทั้งหมดแล้ว โดยจะไม่มีอิมเมจแบบ 32 บิตให้กับ OEM อีกต่อไป
ส่วนผู้ใช้ตามบ้านเดิมที่ยังใช้ซีพียู 32 บิตอยู่ ไมโครซอฟท์ยังไม่ยกเลิกการออก Windows 10 แบบ 32 บิต เงื่อนไขนี้มีผลเฉพาะกับผู้ผลิตพีซีเท่านั้น
ในทางปฏิบัติแล้ว พีซีใหม่ที่ใช้ซีพียู 32 บิตไม่น่าจะหาได้แล้วในสมัยนี้ จึงไม่น่ามีผลกระทบมากนัก แต่ก็แสดงให้เห็นการผลักดันโลกให้ไปทาง 64 บิตของไมโครซอฟท์นั่นเอง
ก่อนหน้านี้ Ubuntu เคยพยายามยกเลิกอิมเมจแบบ 32 บิต แต่ไม่สำเร็จ เพราะติดปัญหากับซอฟต์แวร์หลายตัว โดยเฉพาะฝั่งเกม
Comments
เครื่องไม่ถึงหมื่นยังให้ ram 4GB กันหมดแล้ว รุ่นใหม่ ram 2GB นี้แทบจะหาไม่ได้แล้ว
แถมแรม 4 ยุคนี้ใช้จริงไม่พอ แค่เปิดโครมแป๊ปเดียว แรมเต็ม
เออดีมากเลย ไมโครซอฟท์ เดินเกมได้แบบเนียน ๆ คนใช้ไม่รู้สึก นักพัฒนาจะได้ไป 64 อย่างเดียวให้หมด แล้ว32 ได้หายไปสักที ฮ่า ๆๆๆ
ในขณะที่ Surface Pro X รัน x64 ไม่ได้ รันได้เฉพาะ x86 ?
ได้ข่าวลือว่ากำลังทำให้ run x64 บน ARM ได้อยู่นะครับ (ขอให้ได้จริงเหอะ)
ตอนลดราคาเหลือ 30k พร้อมคีย์บอร์ดและปากกานี่ผมก็มือสั่นไปหมดแล้วครับ เกือบแล้ว ? แต่ไทยไม่เอารุ่นแรม 16 มาขายนี่สิ
รอดูงาน Build ละกัน ถ้ามีจริงก็ถือว่าเฮระดับหนึ่ง
Coder | Designer | Thinker | Blogger
Windows 10 ARM ยังรันแอพ x86-32 ผ่าน Emulator ใช้งานแก้ขัดได้ แต่ iPad OS รัน x86 ของ Mac OS ไม่ได้เลย (ไม่เห็นมีใครจะบ่นบ้าง) อุปกรณ์ชนิดเดียวกัน แต่ทำไมคาดหวังให้มันทำโน้นทำนี่ได้แตกต่างกัน?
ก็อาจจะไม่ได้สนใจ Mac OS ใครสนก็บ่นไป
ฝั่งวินโดส์นนี่จุดขายวินโดส์คงเหมือน Android ทีเปิดกว้าง แล้วแอพเด่นวินโดส์คือฝั่ง x86 ทั้งนั้นนะครับ
วินโดส์จะย่อตัวเองมาลง Tablet ส่วน iPad เองจะพยามทำตัวเป็น PC เต็มตัว ความน่าสนใจผมว่าต่างกันที่สิ่งเล็กๆ ทำงานใหญ่ได้ ส่วนของใหญ่ๆ ไปทำงานแบบในที่เล็กๆ แล้วก้ทำไรไม่ได้เลย ไม่มีแอพ ใช้ไรไม่ค่อยได้
เพราะตลาดของโปรแกรมไง คนใช้ windows ลง ผ่าน store กี่แอปกันเชียว
ก็ตอนขายเค้าโฆษณาว่ามันจะรันโปรแกรมที่ทำงานบน Windows 10 ได้ด้วย (แต่บน ARM) เค้าก็คาดหวังกันแบบนั้นครับ ส่วน iPad เค้าไม่ได้โฆษณาแบบนั้น คนก็ไม่คาดหวัง
แล้ว windows อะไรนะ ที่รันแอปได้แต่ x86 ??
Windows 10 for ARM
ตัว OS เป็น ARM64 นะครับ ไม่ใช่ 32 บิต
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เว้นแต่ถ้า Microsoft สามารถ Port x86-64 App ให้ทำงานบน WoA ได้ตั้งแต่แรก เหมือนกับที่ Apple ทำกับ Rosetta ที่ไม่มีปัญหา และใช้เวลาไม่กี่ปีจาก PPC > Intel แค่ให้ Complie ให้ใช้งานได้ทั้งคู่ไปเลยในคราวเดียว
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ประเด็นคือ กรณีของไมโครซอฟท์ทำ Windows NT ซึ่งเป็น base หลักของ Windows หลายเวอร์ชัน โดยอ้างอิงจากซีพียูกลุ่ม x86/x64 มาตั้งแต่แรก (ส่วน ARM จะใช้ base เป็น Windows CE ไม่ใช่ Windows NT)
และเนื่องจากประเด็นในส่วนตรงนั้น นักพัฒนาส่วนมากเลยพัฒนาแอปพลิเคชันให้รองรับ instruction set ของ x86/x64 และไม่จะทำตัวโค้ดให้รองรับตัว ARM เพราะช่วงนั้นไม่มี Windows NT ตัวไหนที่รองรับ ARM เลยสักตัว (กว่าจะรองรับก็ตอน Windows 8 โน้น ซึ่งตอนทำออกมาก็ง่อยเปลี้ยเสียขาพอสมควร เพราะแอปรองรับแค่ WinRT ไม่ใช่แบบ Win32)
ตอน Windows 10 เขาเลยต้องทำแก้ปัญหาตัวนี้ (เพราะนักพัฒนาหลายรายเขาก็ไม่พอร์ตแอปมาให้รันใน ARM64 เพราะผู้ใช้มันน้อยอยู่ ซึ่งนั่นแหละ ปัญหาไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน) ด้วยการทำ compatibility layer มาชดเชยแทน แต่ด้วยข้อจำกัดในตอนนี้ ที่ว่า ระบบมันรองรับแค่ Win32 แบบ 32-bit เท่านั้น
เคสนี้ต่างจากของแอปเปิลชัดเจน เพราะ
นั่นแหละครับ จึงเป็นประเด็นว่าทำไมตัว Windows 10 on ARM มันเลยทำได้แย่กว่าตอนแอปเปิลย้าย Mac OS X จาก Power PC มา Intel x86 (และ ARM ในอนาคต)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ทุกโปรแกรมหลักๆ จริงก็ x86 นะครับ แค่แยก 32bit , 64 Bit เฉยๆ x86-32 x86-64
เครื่องผมนี่ram2gb ติดwindows10 64bitจากโรงงาน เพิ่มramไม่ได้ เปิดchromeทีอืดเป็นเรือเกลือ สามารถย้ายไป32bitได้ไหมครับ
ไม่ได้ครับ เพราะไลเซนส์ผูกไว้เป็น 64 บิต
แรมเท่าเดิมเปลี่ยน OS ไม่น่าจะช่วยอะไรเท่าไรนะครับ
ถ้าเพิ่ม ram ไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องหา ssd มาใส่แล้วเพิ่ม page file แก้ขัดไปครับ
แล้วเราจะไปถึง 128 Bit ไหมครับ
คิดว่ายังอีกนาน เพราะตอนนี้ตัว 64-bit ยังไม่ถึงลิมิตเท่าไร (ยกเว้นในกลุ่ม super computer ที่น่าจะเลยไปแล้ว)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เป็นที่น่าแปลกใจการที่ windows 32-> 64 bit ความเร็วของคอมไม่ได้เร็วขึ้นเลย
แต่ยุคเปลี่ยนผ่านของ มือถือ 32-> 64 กลับทำให้มือถือ แรงต่างกันเยอะมาก
เกี่ยวกับคอขวดตรง HDD ด้วยรึเปล่าครับ?
ผมว่า 32->64 bit ไม่ได้จะทำให้คอมเร็วขึ้นซะทีเดียวนะครับ
สำหรับผม ผมมองว่าเป็นแค่การเพิ่มนิ้วให้นับเลขทดเลขได้ครั้งละมากขึ้นแค่นั้นเองครับ
ถ้าอยากให้เร็วขึ้นต้องอยู่ที่ซีพียูแล้วล่ะ
เพิ่มจำนวน core = การเพิ่มนิ้วให้นับเลขทดเลขได้ครั้งละมากขึ้น
32->64 = มีผลตอนมีการคำนวนตัวเลขที่มีค่ามากๆ ได้ในตัว CPU มันเองเลยครับ โดยไม่ต้องแบ่งข้อมูลคำนวนพักใน main memory ถ้าใครเคยเขียนภาษา assembly จะรู้เลยว่า 64bits มันช่วยลดรอบการทำงานจริงๆจาก 3 รอบได้ผลผลลัพธ์ เป็น 2 รอบได้ผลลัพธ์ และเรื่องการคำนวนตัวเลขตำแหน่งบน main memory เพื่อจะเขียนหรืออ่านข้อมูล เพราะไม่ต้องใช้เทคนิคพิเศษในการคำนวนในเวลาที่ตัวเลขจำนวนมีค่าเกินว่าที่ register ของ CPU จะรับได้
น่าจะเพราะเลข 16bit มันแค่ 65535
แต่การใช้งานปกติมันเยอะกว่านั้น
มันเลยเป็น cpu 16bit ที่ต้องทำงานกับเลข 32bit ซะส่วนใหญ่
พอขึ้นเป็น 32bit เลยเร็วขึ้นมาก
ถ้าพูดถึง 8 -> 16 -> 32 ล่ะก็ช่วยได้เยอะทีเดียวเลยล่ะครับ กำหนดตัวทดน้อยลง ลด instruction set ลงได้เยอะ
แต่ถ้า 32 -> 64 นี่เห็นผลน้อย เพราะตัวเลขของ 32 bit นี่ก็เยอะพอตัวเหมือนกัน (int +-2,147,483,647) แต่จะเห็นผลว่าเร็วขึ้นจริง ๆ คือตอนไปประมวลผล floating point ที่ 32 บิตยังคอขวดตรงนี้ แถมมีข้อผิดพลาดได้ง่ายอีกด้วย ฉะนั้น เท่าที่ผมคิด 64 -> 128 คงจะเห็นผลชัดเฉพาะกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์
ผมว่าช่วยได้เยอะมากนะครับเรื่อง Ram คิดดูว่าถ้าคอมสมัยนี้จำกัดการใช้งานแค่แรม 4 กิก แค่นี้ก็หนาวละครับ
ส่วนมือถือที่ทำให้แรงขึ้นจริง ๆ เลยคือจำนวน Core มากกว่า เช่นเดียวกับ PC ไม่ได้เกี่ยวกับ 32-64 Bit เท่าไร