ตอนแรกดูคลิปผมก็คิดนะ แต่ผมมีเครื่องรูดของธนาคารเจ้านึง ผมก็เริ่มการทดลองแตะหาระยะว่า ความระยะห่างที่เครื่องจะอ่านได้สำเร็จ? และหลักเกณฑ์การอ่านบัตร สรุปสั้นๆ คือ ระยะ 1-2 cm. ครับ และเครื่องจะ error ถ้ามีบัตรมาแตะ 2 ใบพร้อมกัน และถ้าบัตรรถไฟฟ้า เครื่องก็ฟ้อง error เหมือนกัน

ผมคิดว่า
1.การได้มาซึ่ง NFC EDC นั้น ร้านค้าจะต้องไปยื่นเอกสาร และผ่านการประเมิน ตรวจเอกสารหลายรอบ ซึ่งสุดท้ายแล้วได้เครื่อง EDC มา ธนาคารก็สามารถติดตามได้ คำถามคือมันไม่ดูโง่ไปหน่อยเหรอครับ? ที่ร้านค้าจะเอา EDC ไปโกงหรือขโมยเงินชาวบ้าน เพราะสุดท้ายแล้วถ้าลูกค้ายืนยันว่ายอดนี้ไม่ได้จ่าย ธนาคารก็เข้ามาสอบสวน และสามารถตามยึดเงินที่โกงมาได้อยู่ดี ดังนั้น ซัมซุงทำ SoftPOS ผมคิดว่า มันต้องมีการยืนยันตัวตน และยื่นเอกสารพิจารณาก่อนแหละครับ

2.PayWave หรือ PayPass ไม่ได้พึ่งเอามานะครับ มันออกมานานมาแล้ว อย่างน้อยๆ ก็ 10 ปีกว่า มีคิดว่าธนาคารจะพัฒนาวิธีป้องกันได้หรือครับ? อย่างที่ผททดลอง ถ้าอยู่กรุงเทพ ก็ต้องมีบัตรรถไฟฟ้า บัตรเครื่องเล่นเกม บัตรแรบบิท เราเอาบัตรพวกนี้ใส่ในกระเป๋าตัง เครื่อง EDC ก็ไม่อ่านหรือ แสดงค่า error แล้วครับ

3.หลักเดียวที่ผมคิดได้ว่า เงินจะสามารถหายได้คือ ผมทำบัตรหาย ซึ่งการทำบัตรหาย ธนาคารจะสงวนเวลาก่อนช่วงเวลา 5 นาทีที่เราแจ้งธนาคารรับทราบว่าบัตรหาย เรายังต้องรับผิดชอบหนี้ที่เกิดขึ้นครับ แต่ก็วกกลับไปอ่านข้อ 1 ครับ ผมก็รู้อยู่ดี ว่าคนขโมยบัตรเอาไปรูดที่ไหน? รูดเมื่อไหร่? แล้วก็ตามไปขอบันทึก CCTV ครับ ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ซึ่งก่อนจะไปถึงตรงนั้น เดี๋ยวธนาคารพัฒนาระบบระงับการใช้บัตรมาให้บริการบนแอปแล้ว ดังนั้นทันทีที่รู้ตัวว่าหาย ก็เปิดแอประงับได้เลยครับ

ดังนั้นจะเห็นว่า มันไม่ได้น่ากลัวอย่างในคลิปนะครับ นอกจากคุณพกบัตรใบเดียว

ผู้ใช้ต้องปรับตัวครับ

บนโลกนี้มีนวัตกรรมกระเป๋าสตางค์ที่เป็น RFID Protection ซึ่งพวกเครื่องแตะบัตรทั้งหลายจะใช้งานไม่ได้เมื่อบัตรอยู่ในกระเป๋าสตางค์

เราอยู่บนโลกที่มีการเคลื่อนไหวของนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว ถ้าอยากอยู่ได้ ต้องรู้จักผรับตัว และป้องกันตนเองครับ

ในฐานะคนทำงานด้านระบบชำระเงิน และคลุกคลีอยู่กับเรื่อง Contactless มาจะสิบปี
คำถามลักษณะนี้มีคนถามอยู่้เยอะ
ซึ่งคนมักจะคิดว่าแค่แตะก็ได้เงินไปแล้ว
แต่โลกความเป็นจริงการที่คุณจะได้เครื่องลักษณะแบบนี้มาใช้งาน ต้องผ่านการตรวจสอบโดยธนาคาร มีการเปิดบัญชีร้านค้า มีการพิสูจน์ตัวตน
ถ้าร้านค้าจะเอาเครื่องไปแตะดูดเงินจาก คนนู้นคนนี้ ธนาคารก็สามารถตามได้ว่า ใครทำ รวมถึงสามารถ hold เงินในการโอนร้านค้าได้

เหมือนว่าที่โดนๆกันนี่จะใช้มือถือหรืออุปกรณ์อย่างอื่นอ่านค่า NFC แล้วไปทำบัตรปลอมนะ อย่างนี้ก็ตามตัวยากอยู่ เพราะคนทำผิดไม่ใช่เจ้าของเครื่องรูดบัตร

อันนั้นเป็นเรื่องของธนาคารครับ ปกติธนาคาร กับตัวกลางอย่าง VISA/MC เป็นคนได้ % ตรงนี้ อันนี้เป็นตัวเครื่องน่าจะไม่ได้ค่าธรรมเนียมอะไรครับ
อาจจะฟรีค่าเช่าเครื่องเฉย ๆ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่เราจัดหามาเอง แต่ยังเสียค่าธรรมเนียมให้ธนาคาร
ปล.แอบอยากให้ไทยทำเหมือนยุโรปที่ปรับลดค่าธรรมเนียมลงเหลือ 0.3% ทำให้ร้านค้ารับบัตรกันมากขึ้นส่งเสริมสังคมไร้เงินสด
แต่บัตรเครดิตเลิกทำโปรโมชั่น เพราะได้ค่าธรรเนียมไม่คุ้มทุน