Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายเดเมียน วอง รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพแห่งภูมิภาคอาเซียน (GEMs) ของเร้ดแฮท ได้เดินทางมาพบสื่อมวลชนในกรุงเทพฯ และตอบคำถามถึงความเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ไอบีเอ็มได้เข้าซื้อเร้ดแฮท โดยยืนยันเหมือนประกาศของทั้งสองบริษัทก่อนหน้านี้ว่าทั้งสองบริษัทยังแยกกันอยู่ต่อไป แม้แต่สำนักงานก็ยังมีสำนักงานใหญ่แยกกันอยู่เหมือนเดิม

เดเมียนพูดถึงการเข้าซื้อของไอบีเอ็มว่า เป็นการประสานกัน (synergy) ไม่ใช่การรวมตัวเข้าด้วยกัน (integration) โดยสิ่งที่เร้ดแฮทจะได้จากไอบีเอ็มคือขนาดของบริษัทที่มีพนักงานถึง 381,000 คนทั่วโลก ยอดขายรวมถึง 78,000 ล้านดอลลาร์

ความร่วมมือที่เกิดขึ้นแล้ว คือการเปิด Fast Track ตั้งแต่เริ่มประกาศเมื่อปีที่แล้ว เป็นโครงการให้กับพันธมิตรเดิมของไอบีเอ็มให้เข้ามาเป็นพันธมิตรช่วยขายซอฟต์แวร์ของเร้ดแฮทได้เร็วขึ้น โดยกระบวนการนี้จะลดภาระทางเอกสารให้พันธมิตรของไอบีเอ็มที่มีศักยภาพอยู่แล้ว และหลังจากนี้จะมีคู่ค้าเข้ามาขายซอฟต์แวร์ให้กับเร้ดแฮทมากขึ้น โดยน่าจะช่วยพาเร้ดแฮทเข้าไปยังตลาดที่ไอบีเอ็มแข็งแกร่งอยู่ก่อน เช่น ตลาดทางการเงิน และตลาดด้านสุขภาพ

ในแง่ของสินค้าที่ทั้งสองทับซ้อนกันนั้น เดเมียนระบุว่าทั้งสองบริษัทยังคงจัดการพอร์ตซอฟต์แวร์ของตัวเองตามความเหมาะสมต่อไป

ประกาศของไอบีเอ็มเรื่องการเข้าซื้อเร้ดแฮทนั้นเน้นย้ำถึงกลยุทธ์ คลาวด์ไฮบริดเป็นอย่างมาก โดยตัวเร้ดแฮทเองก็มี OpenShift ชุดซอฟต์แวร์ Container Orchestration ที่เจาะตลาดองค์กรขนาดใหญ่ได้ค่อนข้างมากแล้ว ขณะที่ไอบีเอ็มมี Cloud Private อยู่ก่อน ที่แม้จะมีตลาดอยู่แต่ก็ตามหลัง OpenShift อยู่ โดยก่อนหน้าไอบีเอ็มประกาศเข้าซื้อเร้ดแฮทเพียงสองสัปดาห์ ทางเร้ดแฮทก็ยังเผยแพร่รายงานของ Forrester ว่าตนเองนั้นนำไปไกล ทำให้น่าสนใจว่าหลังจากการควบรวมเริ่มเข้าที่แล้ว จะมีกระบวนการลดความซ้ำซ้อนของสินค้าทั้งสองฝั่งหรือไม่

No Description

Get latest news from Blognone