By: sunnywalker 
on 1 July 2019 - 18:40
Tags:
Topics:
สัปดาห์ที่แล้ว Jonathan Ive หัวหน้าฝ่ายออกแบบของแอปเปิล ประกาศลาออกหลังจากทำงานกับแอปเปิลมาเกือบ 30 ปี โดยเขาจะไปตั้งบริษัทออกแบบใหม่ชื่อ LoveFrom
WSJ และ Bloomberg รายงานจากแหล่งข่าวใกล้ชิดบอกว่า Ive รู้สึกท้อแท้ใจที่ Cook ขาดความสนใจในการออกแบบ ซึ่งเมื่อพิจารณากับการที่ Ive ได้เคยร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับ สตีฟ จ็อบส์ ในรายงานยังบอกด้วยว่าหลังๆ มานี้ Ive เข้าบริษัทน้อยกว่าแต่ก่อน และยังพลาดการประชุมสำคัญบ่อยๆ
ในรายงานบอกด้วยว่า นอกจาก Ive จะท้อใจใน Cookที่ดูไม่ค่อยสนใจงานดีไซน์ผลิตภัณฑ์แล้ว บอร์ดบริหารก็มีหลายคนที่ไม่ได้มีประสบการณ์ในธุรกิจของแอปเปิลมาก
ภาพจาก Apple Newsroom
ผลงานดีไซน์ของ Ive ที่เป็นที่จดจำได้แก่ iPhone, iPad, iPod, MacBook Air, Apple Watch และสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของแอปเปิล ซึ่งในระยะหลัง แอปเปิลไม่ได้เน้นที่งานดีไซน์อย่างเดียวแต่เน้นการพัฒนาซอฟต์แวร์ และของเดิมที่มีอยู่ให้ดีกว่าเดิม
ตั้งแต่ จ็อบส์ เสียชีวิตในปี 2011 Ive ก็ได้กลายมาเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญมากในการตัดสินใจทิศทางของการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เขายังรับผิดชอบทีมงานดีไซน์ที่มีจำนวนราวสองโหล แต่หลังจากการเปิดตัว Apple Watch ในปี 2015 บทบาทของทีมดีไซน์ก็เริ่มน้อยลง
ในรายงานยังระบุด้วยว่า Ive มีความเห็นคัดค้านกับผู้บริหารคนอื่นเรื่อง Apple Watch ด้วยโดยเขาตั้งใจจะให้มันเป็นผลิตภัณฑ์แฟชั่น ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ส่วนเสริมของ iPhone ซึ่ง Apple Watch ก็มียอดขายต่ำกว่าที่บริษัทคาดหวังไว้
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
สนใจแต่ยอดขายอ่ะป่าว
เน้นผลกำไร ก็อย่างนี้แหล่ะ งานดีไซด์ของ Ive ค่อนข้างผลิตยากด้วยโดยเฉพาะช่วงแรกๆ ที่ออก iMac, Macbook Air ตัวแรกๆ ถ้าไม่ได้ Job หนุนหลังคงไม่มีใครกล้าลงทุนผลิต แทบจะต้องสร้างเครื่องจักรกันใหม่ มาเจอทิมที่เป็นสาย Supply Chain เน้นผลิตไม่ยาก กำไรต่อเครื่องสูง เพื่อจะได้ไม่ต้องปรับ Mold ใหม่ ลดต้นทุนเพียบ ไม่แปลกที่ดีไซด์ไม่ค่อยเปลี่ยน ผมว่าระยะยาวน่าจะลำบากนะ บริษัทที่โตมาด้วยงานดีไซด์ และนวัตกรรม แต่มาเน้นลดต้นทุนเพื่อทำกำไร ทดแทนยอดขายเครื่องที่ลดลง อาการแบบนี้ไม่ค่อยจะดี กินบุญเก่าไปนานๆ ลูกค้าหายหมด
+1
วันก่อนคิดเล่นๆ ถ้าจ็อบส์ยังอยู่ไอฟ์จะออกเร็วขนาดนี้มั้ย
Macbook ที่ใช้บอดี้ชิ้นเดียวขึ้นรูป สมัยนั้นถือว่าปฏิวัติวงการผลิตด้วยซ้ำ ผมก็ชอบดูเวลา Ive บรรยายกระบวนการออกแบบและผลิตในคลิป แต่อย่างว่าต้นทุน เวลา ความรู้ อื่นๆ ไม่ถูกใจฝั่งลงทุน
เมื่อจุดเด่นเรื่องดีไซน์หายไป ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อ หาอย่างอื่นทดแทนได้ ยกเว้น ipad ไว้พอ
ก็เลยใช้ iPhone ทรงนี้ลากยาวมาตั้งแต่รุ่น 6
Tim Cook ไม่สนใจ นวัตกรรม สนใจเฉพาะกำไรอย่างเดียว
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
จริง ๆ งานออกแบบของ Ive ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่สร้างมูลค่าให้ Apple จนถึงทุกวันนี้นะ
ในฐานะดีไซเนอร์ตัวเล็กๆ ในบริษัทที่เน้นยอดขายเป็นหลัก บางครั้งมันก็ห่อเหี่ยวจริงๆ นะ เวลาผู้บริหารไม่เห็นคุณค่าในงานที่เราทำ เค้าคงไม่รู้ว่าศาสตร์การดีไซน์มันไม่ใช่แค่การ "ทำอะไรสวยๆ" แค่นั้นแล้วจบ ฮ่าๆ
แต่ก็ชินแล้ว ถือซะว่าเป็นงาน ไม่เครียดกับมัน
พูดถึง Apple Watch ตอนแรกก็พยายามดันเป็นผลิตภัณฑ์แฟชั่นนิ แต่ยอดขายต่ำกว่าที่คาดเลยเปลี่ยนมาเน้นเป็นส่วนเสริมของ iPhone แทน - -"
Tim ชำนาญสายงานใด แม้แต่Jobยังชื่นชม..แน่นอนไม่ใช่สายJob
การให้ทิมคุกขึ้นผมว่ามันเหมือนตอนบิลเกตุให้บอลเมอร์ขึ้นมาเลยนะครับ คือมันคล้ายกันมากว่าบริษัทที่เติบโตจากการสร้างเทคโนโลยีเปลี่ยนมาเป็นเน้นกำไรมันไปยาก คือถ้าเน้นกลางๆระหว่างกำไรกับเทคโนโลยีผมว่าโอเคกว่านะอย่าง Macbook pro ถ้าดีไซส์ดีๆ เน้นสมดุลระหว่างความร้อน Spec ความบางและ Port ใช้งานดีๆ ผมเชียร์ให้หลายๆคนซื้อนะถ้าสามารถซื้อไหว
มายุคสัตยา แกเปิดทุกอย่างเลยแถมบริษัทผลิกฟื้นกลับมาปังได้อีก คงต้องเลยยุคทิมไปก่อนถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแน่นอนแบบนี้
สรุปว่าที่แอปเปิ้ลเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณทิมเลยสินะ
บริษัทน่ะ เขากลัวผู้ถือหุ้น กลัวนักลงทุน ไม่ได้กลัวลูกค้าครับ
I need healing.
ไม่มีลูกค้า บริษัทจะอยู่ยังไงครับ
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
ผมว่าน่าเป็น กลัวผู้ถือหุ้น กลัวนักลงทุน แต่กลัวลูกค้าน้อยกว่า
Ive รับร่วมงานใหม่กับ Xiaomi จะเป็นอะไรที่ว้าวมาก
แนวทางการออกของ Xiaomi กับ Ive เหมือนมีอะไรที่คล้ายกัน น่าใช้ทุกอย่างมีครบตั้งแต่ไม้ตักขี้แมวยันเครื่องใช้ไฟฟ้า
555
- xiaomi จะมีตังค์จ้างป่าว แล้วถ้ามีก็ขายของแพงตามต้นทุนจะเอากลุ่มสาวกอยู่รึเปล่า?
- แนวทางการออกแบบเหมือน ไม่ใช่มั้ง ตั้งหน้าตั้งตาก็อปมากกว่า ทั้งรูปแบบงานพรีเซ้นท์ เว็บไซต์ จนสินค้า
Xiaomi มีอะไรที่มากกว่าโทรศัพท์ครับ
ลองท่องโลกไปดูสินค้า Xiaomi หมวดอื่นก่อนแล้วค่อยว่าเค้าก็อป หม้อหุงข้าว โคมไฟ ถาดอึแมว แปรงสีฟัน ไขควง โคมดักยุง และอีกเยอะมาก พวกนี้ Apple ไม่น่าจะมีขาย
หม้อหุงข้าวผมคิดว่าเจ้านี้ไปลอก Tefal มานะ
สมัยก่อนหูฟังก็ก็อป Grado มาอีกที
เจ้านี้สินค้าที่ทำมาก็อปมาหรือดีไซน์เอง ถ้าขุดน่าจะได้ที่มาของแรงบันดาลใจแทบทุกอย่างเลยมั้ง
ล่าสุดที่เตะตาผมและกำลังเล็งๆ ไว้คือเครื่องดูดฝุ่นครับ แรงบันดาลใจมาจาก dyson เต็มๆ ราคามันน่าโดนจริงๆ
ผมใช้ Grado อยู่ พึ่งรู้ว่าโดนกีอป
ผมก็ยังงงๆว่านอกจากเสียงแล้ว Grado มันมีอะไรน่าก็อปบ้าง เพราะงานประกอบกับดีไซน์ มันOTOPสุดๆ 555
แนวทางก๊อบ จะถูกกกว่า
อย่าว่าเขาก็อป มันคือ inspiration!!!
คนละทางเลยครับ ถึงแม้ผมจะเคยใช้ผลิตภัณฑ์ของ Xiaomi มาบ้าง จะว่าผมปรามาสยี่ห้อนี้ก็ได้ แต่ในความเห็นของผม แนวทางของแบรนด์นี้คือ พยายามออกผลิตภัณฑ์อะไรก็ได้ที่ทำราคาถูกกว่า original + แนวทางการออกแบบของแอปเปิลในยุค 200x - 201x มาปรับใช้ ซึ่งหลายอย่างมันโอเคเพราะเรื่องราคานำจริงๆ
ถ้า Ive มาอยู่คงอกแตกตายเพราะต้องติดกับเงื่อนไขของ cost ที่น่าจะสาหัสกว่าแอปเปิลมากๆ
ล่าสุดสดๆ ร้อนๆ ก็อป memoji เปลี่ยน e เป็น i
= mimoji
555+
ถ้าจ๊อบยังอยู่.....
The Last Wizard Of Century.
ไม่ว่า Jobs อยู่ไหน
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ไม่ว่า Jobs เป็นเป็นใคร
ได้โปรดจำ Jobs ไว้
Tim จะเป็นเด็กดี
:-)
ชิพกับเดล
//โดนลากเข้ามุมมืด
พอจ็อบส์ไม่อยู่คิดถึงทิมหน่อยหนา ทิมขอสัญญาว่า ทิมจะหน้าเลือดอย่างดี
ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันรับมุกครับ^^"
The Last Wizard Of Century.
เพราะเรา ...อยู่ร่วมสังคมเดียวกัน
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
แบ่งปันรอยยิ้มมมมมมมม
ผมว่ายังต้องดูหลังจากนี้นะครับ เพราะผมไม่รู้ว่า Ive เสนออะไรไปบ้าง
ถ้าแกติสส์แตกหลุดโลก หรือทำอะไรที่งาน Engineer ทำไม่ได้หรือแพงกว่านี้มันก็สมควรนะครับ เอาจริงๆมันน้อยไปด้วยซ้ำ
Apple Watch ผมมองว่ามันควรจะเป็นตัวต่อเพิ่มความแข็งแกร่งของ Ecosystem ของ Apple นะถูกแล้ว ส่วนเรื่องแฟชั่นนั้นรองลงมา ถ้าจะเหนือกว่าถ้ามันสามารถทำงานกับ Ecosystem ทุกตัวได้อย่างราบลื่น (ถ้าเป็น Satya อาจมาท่านี้)
จริงๆที่ Ive บอกว่า Apple Watch ควรเป็นผลิตภัณฑ์แฟชั่นโดยไม่เป็นส่วนหนึ่งของ iPhone นั้นหมายความว่ายังไง ต่อมือถือไม่ได้ หรือเป็น Heath Monitoring Watch แบบไฮโซ ราคาจะเท่าเดิม / แพงขึ้น / ถุกลง คือถ้าฟังเฉยๆ ผมมองไม่เห็นทางรอดของ Apple Watch แบบแฟชั่นนะ
ผมเป็นคนนึงที่ใช้ Apple Watch ด้วยเหตุผลเดียว คือแฟชั่นครับ ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรมากมายเลย แต่แฟชั่นล้วนๆ
ออกแบบผลิตภัณฑ์ หลายชิ้นผมก็ยอมรับในตัวของคุณ Ive นะ ว่าสวยจริง ๆ แต่เอาเข้าจริง ถ้าไม่ได้ Jobs กดดันให้ปรับจะได้แบบนี้ไหม
ผมมองว่าหลังจากการจากไปของ Jobs งานของ Ive ก็ลดคุณภาพลงด้วยนะ อย่าง Apple Watch หรือ HomePod ที่ออกมาก็มีแต่คนบ่นเรื่องดีไซน์ แล้วพอให้ไปจับงานคุมงานออกแบบ UI/UX ซอฟต์แวร์อย่าง iOS 7 หรือ OS X 10.9 Mavericks ที่เจ็บ ๆ โดนเอาไปล้อกันลูกบวช ไปจน iTunes, Music App ที่ปรับจนหาอะไรยากไปหมด
ผมมองว่าคุณ Ive ต้องไปหา Steve Jobs คนต่อไปมาสร้างสภาวะการทำงานแบบนั้นให้ตัวแกเอง เพื่อให้ผลงานดีขึ้น
ในเรื่อง OS คิดเหมือนกันเลยครับรุ่นก่อนๆ จัด UX/UI ดีกว่า
รู้สึกเหมือนกัน Ive ออกแบบดีแต่ก็ยังขาดอะไรไปบางส่วน ส่วนที่ทำให้เกิดความสมบูรณ์แบบ ซึ่ง Jobs ก็เติมเต็มส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี แต่พอขาดคนแบบ Jobs ไปงานของ Ive ก็เลยรู้สึกไม่สมบูรณ์ไป
เคยอ่านเจอคลับคล้ายว่า ปิแอร์ บาลแมง มั้งนะ แกพูดไว้ทำนองว่า นักออกแบบเก่งๆมีเยอะ เก่งกว่าแกก็มี แต่ที่สำคัญคือ ไม่รู้ว่าจะหยุดงานออกแบบไว้ที่จุดไหน จุดที่พอดีนี่แหละ ทำให้มีชื่อเสียงได้ขนาดนี้
เคสปูด เคส5c สงสัยพี่แกจะไม่ได้ออกแบบมั้ง
แต่แมคโปรกับจอล่าสุด สวยจัด
ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ เอา Scott Forstall กลับมาได้มั้ย
ถ้า Apple ยังหลงไหลกับวิธีเดิมๆ สมัยเปิดตัว iPhone คงรอดยากในยุคถัดไป ดีที่ได้คุกมาเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร และเน้นซอฟท์แวร์กับการใช้งาน และสุดท้าย งานออกแบบที่ Perfect ก็ไม่มีจริง เพราะวันหน้าต้องทำให้ดีกว่าวันนี้เสมอ
เรื่องแบบนี้เถียงกันไปมายังไงก็ไม่จบ สู้ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่า
วิสัยทัศน์ของแต่ละช่วงเวลามันก็ไม่เหมือนกันต้องรอดูยาวๆไปว่าทิศทางต่อๆไปจะเป็นยังไง
แต่ที่แน่ๆจากยอดขาย Iphone รุ่นล่าสุด กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็เริ่มบอกละว่าอะไรๆมันไม่เหมือนเดิมแล้วตรงนี้แหละเป็นบททดสอบฝีมือ ทิมคุก