มีบันทึกภายในของ Intel ที่โพสต์ในเว็บพอร์ทัลสำหรับพนักงาน (ชื่อ Circuit News) หลุดออกมาสู่สาธารณะ โดยบันทึกนี้พูดถึงการกลับมาของ AMD และวิเคราะห์ว่าทำไม AMD กลับมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Intel อีกครั้ง (Why AMD is now a formidable competitor)

เนื้อหาในบันทึกนี้เริ่มต้นด้วยการย้อนประวัติศาสตร์ทั้งบริษัทว่าก่อตั้งไล่เลี่ยกัน (1968/1969) แต่ปัจจุบัน Intel มีขนาดโตกว่า AMD ถึง 10 เท่า (วัดจากรายได้ต่อปี) และ AMD ถือเป็นคู่แข่งที่โดดเด่นที่สุดของอินเทลในช่วงหลัง

จากนั้นบันทึกเล่าถึงการกลับมาของ AMD ในปี 2018 ที่มีรายได้ต่อปีเติบโต 20% ติดกันเป็นเวลาสองปีแล้ว โดย AMD มีผลิตภัณฑ์ที่น่าจับตาดังนี้

• ซีพียู ซึ่งเป็นคู่แข่งตรงกับ Intel ทั้งในฝั่งไคลเอนต์และเซิร์ฟเวอร์
• AMD เริ่มได้รับความสนใจจากธุรกิจผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ โดยเฉพาะตลาดคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (HPC) ซึ่งจำนวนคอร์และแบนด์วิดท์ของหน่วยความจำเป็นสิ่งสำคัญ
• ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen จะเข้ามาแข่งกับ Intel อย่างหนัก โดยเฉพาะ "Matisse" หรือ Ryzen Gen 3
• Intel จะยังได้เปรียบในตลาดโน้ตบุ๊ก และพีซีสำหรับธุรกิจ
• AMD ใช้โรงงานของ TSMC และกระบวนการผลิต 7 นาโนเมตร ช่วยให้ได้เปรียบในการแข่งขันมากกว่าโรงงาน Globalfoundries ของตัวเองในอดีต

ภาพจาก [@AMD](https://twitter.com/AMD/status/1133855684083245057)

ในบันทึกยังเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ของทั้งสองบริษัทดังนี้

• เบนช์มาร์คของซีพียู Intel 9th Gen Core จะยังเหนือกว่า Ryzen สำหรับงานที่ใช้เธร็ดน้อยๆ แต่จะแพ้ในงานที่ต้องใช้เธร็ดมากๆ
• AMD จะนิยมวัดประสิทธิภาพด้วย Cinebench เพราะได้เปรียบในแง่จำนวนคอร์/เธร็ด แต่อินเทลจะมองว่า Cinebench ไม่สามารถเป็นตัวแทนของงานในโลกความเป็นจริงได้ และนิยมเบนช์มาร์คด้วยแอพพลิเคชันจริงๆ มากกว่า
• Xeon จะถูกท้าทายโดย EPYC Rome ในแง่จำนวนคอร์ แต่ยังได้เปรียบในแง่แคชและ memory latency

บันทึกนี้มองว่า Intel ยังได้เปรียบในแง่ซอฟต์แวร์ที่ปรับแต่งประสิทธิภาพมาดีกว่า ปัจจุบัน Intel มีพนักงานด้านซอฟต์แวร์กว่า 15,000 คน ซึ่งเยอะกว่าพนักงานทั้งหมดของ AMD ด้วยซ้ำ นอกจากนี้ การแข่งขันระหว่าง Intel vs AMD ไม่ใช่การต่อสู้กันเรื่องซีพียูอย่างเดียว แต่ Intel ยังมีสินค้าอื่นๆ ที่หลากหลายกว่า เช่น ชิปหน่วยความจำ Optane, Wi-Fi, Thunderbolt, Turbo Boost รวมถึง Project Athena ที่เกิดจากหลายส่วนมาประกอบกัน

ที่มา - Tech Powerup