Tags:
Node Thumbnail

นอร์เวย์เป็นหนึ่งในประเทศที่ก้าวหน้าที่สุดในแง่กฎหมายและโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (ไล่ดูข่าวเก่าได้จากแท็ก Norway) ซึ่งก็สอดคล้องกับจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนที่มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างล่าสุดกรมการขนส่งนอร์เวย์ (Norwegian Road Federation - NRF) เปิดเผยว่า เดือนมีนาคมที่ผ่านมา รถยนต์ที่ออกใหม่เป็นรถไฟฟ้าถึง 58%

NRF ระบุด้วยว่า Tesla Model 3 เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมที่สุด คิดเป็น 30% ขอรถยนต์ที่ถูกซื้อเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่ยี่ห้ออื่นๆ มีสัดส่วนไม่ถึง 10% ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าแบบ full electric มีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์นอร์เวย์ในปี 2018 ที่ 31.2% ขึ้นจากปี 2017 ที่อยู่ที่ 20.8%

ขณะที่ข้อมูล Global EV Outlook จากทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency - IEA) เผยสัด่ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า (รวมปลั๊กอินไฮบริด) ระหว่างประเทศต่างๆ ที่ขายได้เมื่อปี 2017 โดยนอร์เวย์มีส่วนแบ่งสูงสุดที่ 39% นำไอซ์แลนด์ที่นำมาห่างๆ ที่ 12% และสวีเดน 6% ขณะที่จีนที่ก็ดูจริงจังเรื่องนี้มีสัดส่วนแค่ 2.2% และสหรัฐที่ 1.2% เท่านั้น (ส่วนของ 2018 น่าจะออกราวเดือนพฤษภาคม)

No Description

ที่มา - Rueters

Get latest news from Blognone

Comments

By: Jirawat
Android
on 7 April 2019 - 13:40 #1104947
Jirawat's picture

ไปไกลละ

By: IDCET
Contributor
on 7 April 2019 - 15:22 #1104952

นโยบายดี มีคนสนับสนุน ประชากรก็น้อย เงินหนา และระบบสาธารณูปรโภคบ้านเขาพร้อม ไหฟ้าก็เหลือ มันถึงเกิดง่ายและไวไง


ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว

By: A4
iPhoneAndroidRed HatSUSE
on 7 April 2019 - 15:44 #1104953
A4's picture

ถ้าวันนึง รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น น้ำมันจะถูกหรือแพงขึ้นครับ

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 7 April 2019 - 15:52 #1104954 Reply to:1104953
put4558350's picture

ควรจะถูกลง เพราะ demand ลดครับ

ฝั่ง supply ที่มักจะลดกำลังการผลิตตามเพื่อให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นคงต้องยอมเพราะมันเป็นการแข่ง


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: dangsystem
iPhoneAndroidBlackberryWindows
on 7 April 2019 - 18:17 #1104971 Reply to:1104954
dangsystem's picture

เขาลดกันทั้งสมาคมการค้าผมว่าลดการผลิตจน ราคาน่าจะเท่าๆเดิม

By: readonly
iPhone
on 7 April 2019 - 19:07 #1104972 Reply to:1104971
readonly's picture

มันไม่ได้พร้อมใจกันลดจริงๆ นี่ครับ ที่ผ่านๆ มา มีคนแหกคอกไม่ยอมลดกำลังการผลิตอยู่เรื่อย บางประเทศรายได้หลักมาจากการขายน้ำมันอย่างเดียว ลดกำลังการผลิตก็ได้เงินน้อยลง จะให้รอราคาน้ำมันขึ้นมันไม่ทันใจ เงินไม่พอใชจ่ายก็ดื้อขายมันซะเลย

ช่วง 4-5 ปีหลังจากนี้ demand มันจะค่อยๆ ร่วง ฝั่งประเทศผู้ผลิตน้ำมันก็ลด supply ตามเพื่อให้ราคามันสู่สมดุล แต่เป็นไปในทางลดลงเรื่อยๆ แถมลดแบบลดแล้วลดเลยเสียด้วย

By: Architec
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 7 April 2019 - 19:20 #1104974 Reply to:1104972

จำได้ว่าเรียนมหาลัยปี 51 เติมน้ำมันรถมอไซค์เต็มถัง 120 บาท เป็นครั้งเดียวที่เคยเห็น

และเป็นช่วงจุดจบของข้าวราดแกงจานละ 20 บาทด้วย แล้วก็ขึ้นแม่มทะลุ 40 บาทในอีกสามปีหลัง

By: OXYGEN2
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 7 April 2019 - 20:50 #1104978 Reply to:1104974
OXYGEN2's picture

น่าจะปี 2007 เคยเติมเบนซิน 95 ลิตรละ 40 กว่าบาท ดีเซลก็ราคาประมาณนี้

ตอนนั้นรถเบนซินที่บ้าน จับติดแก๊สหมดเลย


oxygen2.me, panithi's blog

Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6

By: pepporony
ContributorAndroid
on 7 April 2019 - 16:05 #1104960 Reply to:1104953

นอร์เวย์เป็นผู้ส่งออกน้ำมัน ในประเทศใช้รถไฟฟ้าเยอะ แต่ถ้าจำไม่ผิด น้ำมันแพง :D

By: nessuchan
iPhoneAndroidWindows
on 8 April 2019 - 14:00 #1105030 Reply to:1104953
nessuchan's picture

ถึงวันนั้น น้ำมันจะถูกหรือแพง ผู้บริโภคคงไม่สนใจเท่าไร เพราะไม่ได้เติม ^^

By: whitebigbird
Contributor
on 8 April 2019 - 14:47 #1105043 Reply to:1105030
whitebigbird's picture

มันไม่หนีไปไหนครับ โรงงานต่างๆ ยังใช้น้ำมันอยู่ดี ภาคเกษตรกรรมก็ยังใช้น้ำมัน

By: lancaster
Contributor
on 8 April 2019 - 17:09 #1105054 Reply to:1105043

แถมโรงไฟฟ้าด้วยครับ

By: whitebigbird
Contributor
on 8 April 2019 - 19:23 #1105064 Reply to:1105054
whitebigbird's picture

อ้าวเหรอ ผมนึกว่าใช้แก๊สธรรมชาติครับ

By: lancaster
Contributor
on 8 April 2019 - 20:47 #1105069 Reply to:1105064

ผมเขียนไม่เคลียร์เอง ไม่ได้หมายถึงโรงไฟฟ้าใช้น้ำมันโดยตรงครับ แต่ในภาพใหญ่ ราคาแก๊สธรรมชาติมันก็สัมพันธ์กับราคาน้ำมัน ซึ่งก็จะส่งผลไปถึงต้นทุนของไฟฟ้าอยู่ดีครับ

By: whitebigbird
Contributor
on 8 April 2019 - 21:23 #1105073 Reply to:1105069
whitebigbird's picture

อ้อ ขอบคุณมากครับที่มาอธิบาย

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 8 April 2019 - 19:32 #1105065 Reply to:1105054
big50000's picture

คิดว่าไม่น่ามีแล้วมั้งครับ เพราะตอนนี้แพงมาก เชื้อเพลิงดึกดำบรรพ์ที่ยังใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าจะเป็นถ่านหินและแก๊สธรรมชาติ เพราะถูกกว่า

By: nessuchan
iPhoneAndroidWindows
on 9 April 2019 - 09:36 #1105094 Reply to:1105043
nessuchan's picture

อ้อ ผมอาจจะพูดไม่เคลีย ผมหมายถึงคนที่ใช้น้ำมันเติมรถยนต์เพื่อวิ่งครับ คงไม่ได้สนใจราคาน้ำมันเท่าไร ถ้าเค้าเปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้าแล้ว ไปสนใจค่าไฟฟ้ามากกว่า

ส่วนน้ำมันจะถูกจะแพงแล้วมันไปกระทบกับอะไรบ้างอันนั้นก็สุดแล้วแต่กลไกทางการตลาด ส่วนตัวผมก็ไม่ค่อยเชื่อว่า ถ้าน้ำมันถูกลงแล้วสินค้าเกษตรก็จะถูกลงไปด้วยนะ

By: chollathee
AndroidSymbianWindows
on 7 April 2019 - 17:12 #1104968

เทียบเป็นจำนวนคัน จีน 2.2% นี่มากกว่านอร์เวย์ที่ 39% หรือเปล่าครับ

By: nismod
TraineeWriteriPhoneAndroid
on 7 April 2019 - 17:33 #1104970 Reply to:1104968
nismod's picture

ไม่ได้เทียบแบบ per capita ครับ มันคือส่วนแบ่งจากยอดขายรวมกันทั่วโลก

คือเทียบแบบ per capita นอร์เวย์ก็เหมือนจะสูงที่สุดในโลกอยู่ดีครับ

By: Ultimize
Android
on 7 April 2019 - 20:04 #1104976

Norway ส่งออกน้ำมันไปประเทศที่ล้าหลังกว่า
ในประเทศตัวเอง ด้วยการส่งเสริมสนับสนุนของรัฐบาลทำให้รถไฟฟ้าได้ข้อเสนอดีกว่า เช่น ชาร์จไฟฟรี รวมไปถึงที่จอดและราคาที่รัฐช่วยอุดหนุน เพราะมันส่งผลดีต่อภาพรวมของสภาพสิ่งแวดล้อมในประเทศ ประเทศเค้าฉลาดคิดได้ทำได้จริง

By: whitebigbird
Contributor
on 7 April 2019 - 21:30 #1104981
whitebigbird's picture

ถ้าไทยจะเริ่มควรเริ่มยังไงดี? ผมเข้าใจว่าไทยมีบ่วงของการเป็นฐานผลิตรถยนต์อยู่ด้วย น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลไม่อยากสนับสนุนรถไฟฟ้ารึเปล่าครับ?

By: IDCET
Contributor
on 7 April 2019 - 21:40 #1104983 Reply to:1104981

มีอีกหลายปัจจัย ทั้งราคา ค่าซ่อมบำรุง สภาพแวดล้อม กำลังการผลิตไฟฟ้า และการสนับสนุนคนงานในประเทศที่อยู่ในโรงงานรถยนต์อีก


ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว

By: whitebigbird
Contributor
on 8 April 2019 - 01:30 #1104996 Reply to:1104983
whitebigbird's picture

เรื่องสนับสนุนคนงานน่าจะรวมๆ เกี่ยวกับเรื่องฐานการผลิตนะครับ

By: 7elven
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 7 April 2019 - 22:03 #1104984 Reply to:1104981

ผมว่าที่รัฐบาลไม่ผลักดันมาก เพราะมันมีงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสันดาบเยอะ คนงานตามโรงงานผลิตชิ้นส่วนเยอะ ถ้าย้ายไปไฟฟ้าเลย คนจำนวนมากก็จะตกงาน เพราะรถไฟฟ้านี่ใช้ชิ้นส่วนน้อยกว่ารถสันดาบเยอะ

By: whitebigbird
Contributor
on 8 April 2019 - 01:32 #1104997 Reply to:1104984
whitebigbird's picture

ผมคิดว่าถ้ารัฐฯ สนับสนุน มันน่าจะเป็นการเพิ่มโรงงานสำหรับรถไฟฟ้ารึเปล่าครับ แบบว่าสร้างโรงงานใหม่ ประชากรก็มีงานเพิ่ม

By: MaxxIE
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 8 April 2019 - 08:20 #1105005 Reply to:1104997
MaxxIE's picture

เพิ่มโรงงานสำหรับรถไฟฟ้าไป มันก็ชดเชยกับจำนวนคนที่ตกงานจากรถสันดาป ไม่พออยู่ดีครับ
เพราะรถสันดาปมันมีชิ้นส่วนเยอะกว่ามากๆ

ที่ควรจะโยกย้ายได้ก็คือ โยกไปลงโรงงานไฟฟ้าเพื่อผลิตไฟเพิ่ม แต่ก็นั่นแหละ ประเทศเรามันคงสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าไม่ได้อีกแล้วละ

By: whitebigbird
Contributor
on 8 April 2019 - 09:19 #1105008 Reply to:1105005
whitebigbird's picture

อันนี้ถามด้วยความไม่รู้

ถ้าเปิดโรงงานสำหรับรถไฟฟ้าแล้วต้องปิดโรงงานรถยนต์และโรงงานผลิตชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องเหรอครับ? คือผมถาม เพราะอ่านตรงที่บอกว่า "มันก็ชดเชยกับจำนวนคนที่ตกงานจากรถสันดาป ไม่พออยู่ดี" แล้วผมตีความได้แบบนั้นครับ

By: Hoo
AndroidWindows
on 8 April 2019 - 17:05 #1105053 Reply to:1105008

เข้าใจว่าแล้วแต่ดีไซด์
พวกช่วงล่างอย่างโชค์ก็ยังเลี่ยงไม่พ้นที่ต้องใช้ในรถไฟฟ้า

แต่ส่วนประกอบหลักของเครื่องสันดาป ตั้งแต่ส่งน้ำมันยันไอเสีย และส่วนส่งแรงไปตามล้อ จะหายไปหมด
เพราะเค้าเอามอเตอร์หลายๆตัวไปส่งแรงที่ล้อโดยตรง

ชิ้นส่วนยิบย่อยในระบบสันดาป
จากเดิม 100 ชนิดชิ้น × จำนวนโรงงาน × คนทำงาน
อาจกลายเป็นแค่ 30 ชนิดชิ้น ในรถไฟฟ้า
อีก 70ชนิดชิ้น × จำนวนโรงงาน × คนทำงาน คือตำแหน่งงานที่จะหายไป

By: lancaster
Contributor
on 8 April 2019 - 17:12 #1105055 Reply to:1105008

ถ้า assume จำนวนรถยนต์ในถนนมีเท่าเดิม แปลว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ชิ้นส่วนน้อยกว่ามาก จะกินตลาดของรถยนต์สันดาปที่ใช้ชิ้นส่วนเยอะ ดังนั้นคำตอบคือใช่ครับ

By: MaxxIE
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 8 April 2019 - 18:38 #1105063 Reply to:1105008
MaxxIE's picture

ลองไล่ดูเท่าที่ผมทราบนะครับ บ้านผมทำคว้านเสื้อสูบรถมอเตอร์ไซค์อยู่

รถยนต์สันดาป มันมีทั้ง หัวฉีดน้ำมัน วาล์วไอดี วาล์วไอเสีย แคลมป์คุมจังหวะวาล์ว บ่าวาล์ว ฝาวาล์ว บูชขาวาล์ว สปริงขาวาล์ว หัวเทียน ลูกสูบ แหวนลูกสูบ เสื้อสูบ โซ่ราวลิ้น ข้อเหวี่ยง จานไฟ คลัช อันนี้คือไล่เท่าที่ผมนึกออกนะครับ เพราะบ้านผมไม่ได้เป็นคนรื้อ ช่างซ่อมเค้าจะรื้อมาทำที่บ้านผมอีกที

นี่ขนาดยังไม่ไล่ถึงส่วนที่ใช้ส่งกำลังให้ล้อเลยนะครับ ไหนจะพวกระบบอากาศ เช่น พวกท่อไอเสีย ตัวควบคุมการป้อนอากาศ กรองอากาศ อีก หรือพวกหม้อน้ำต่างๆที่คอยระบายความร้อนในห้องเครื่อง ผมก็เข้าใจว่ารถไฟฟ้าก็ไม่น่าจะมีส่วนนี้เหมือนกัน เพราะมันไม่มีการจุดระเบิดที่คอยสร้างความร้อนสูงภายในห้องเครื่องเลย

เยอะไม่เยอะก็ลองพิจารณาดูละกันครับ ข้างบนนี่ผมพยายามไล่สิ่งที่มันไม่น่าจะมีในรถไฟฟ้าแล้ว มาให้ดูครับ ซึ่งชิ้นส่วนที่ว่ามานี่ มันมีโรงงานผลิตกันเป็นล่ำเป็นสัน แยกยี่ห้อแยกเกรด กันเพียบเลยนะครับ ไม่ได้มีขายแต่ของแท้จากผู้ผลิตรถอย่างเดียว

ปล.อะไหล่บางยี่ห้อทนกว่าของแท้ก็มีนะครับ
ปล2.อะไหล่แท้เหมือนกันก็ใช่ว่าจะออกจากโรงงานเดียวกันเสมอไปนะครับ

By: Bigkung
iPhoneWindows Phone
on 7 April 2019 - 23:56 #1104988 Reply to:1104981
Bigkung's picture

ความคิดเห็นส่วนตัว จากที่เคยอ่านๆข้อมูลความรู้มาตามเว็บนานแล้ว

เอาตามที่ผมเข้าใจมีอย่างหนึ่งคือ เรื่องแบตเตอร์รี่ ใช้ในเมืองร้อนจะมีปัญหามาก อายุสั้นเพราะร้อนไวพังง่าย เหมือนเซลพลังงานแสงอาทิตย์ที่พอร้อนแล้วกำลังการจ่ายไฟจะตกลงอีกต่างหาก แบตทนร้อนหน่ะมีผมเคยเห็นแล้วแต่แพงมาก

ของนอร์เวย์อยู่ในเขตโครตหนาวแบตจะมีอายุอยู่นานแต่จะเก็บพลังงานได้น้อยหรือสตาร์ทรถติดยากเพราะแบตเย็นจัด ต้องทำให้อุ่นๆก่อนไม่ก็ต้องกระตุ้น(ส่วนนี้หมายถึงแบตที่ใช้ในรถทั่วไปด้วย)

แบตปกติอยู่ได้เป็นสิบปี แต่อายุการใช้งานจะหาร 2 ทุกๆความร้อนที่เพิ่มขึ้น 7 องศา จากอุณหภูมิ 25 องศา(อุณหภูมิของแบตเตอร์รี่นะไม่ใช่อุณหภูมิรอบๆมัน) ส่วนถ้าเย็นลงทุกๆ 7 องศา การเก็บประจุไฟจะทำได้น้อยลง(อันนี้ไม่แน่ใจแต่หาร 2 ลงไปเรื่อยๆเหมือนกันมั้ง)

สรุปผมคิดว่ารถยนต์บุคคลธรรมดาในไทยใช้ battery เป็นพลังงานหลักไม่น่าจะรอดเพราะต้องคอยเปลี่ยนแบตถี่มากบางทีอาจสั้นกว่า 2 ปีด้วยซ้ำ เหมือนโซล่าเซลล์ของบ้านคนทั่วไปที่ไม่ค่อยอยากจะใช้แบบ off grid เพราะต้องใช้ battery แต่จะอยากต่อแบบ on grid เพราะเป้าหมายจริงๆคือต้องการลดค่าไฟที่เป็นค่าใช้จ่าย แต่ถ้าต้องเอามาลงกับ battery ที่ใช้ในไทยที่เป็นเมืองร้อนแล้วอายุแสนสั้น มันก็ไม่คุ้มกับส่วนต่างค่าไฟที่ประหยัดได้มาด้วยซ้ำ

คงจะมีแต่รัฐหล่ะที่ทำได้เพราะคงจะลงทุนกับระบบระบายความร้อนได้อยู่แล้ว หรือเอกชนที่รวยๆหน่อยและสามารถหารายรับมาชดเชยตรงส่วนนี้ได้ แบบสนามกอล์ฟนั่นไง มีค่าบริการอื่นที่กำไรเยอะๆมาชดเชยตรงส่วนของการเปลี่ยน battery ได้ แต่ธุรกิจอื่นอาจจะหายากเอาที่แบบใช้รถไฟฟ้าแล้วธุรกิจยังอยู่ได้ยาวๆนะ

By: McKay
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 8 April 2019 - 00:41 #1104991 Reply to:1104988
McKay's picture

+1 นอกจากเรื่อง economic ก็มีเรื่องนี้แหละครับ

เพิ่มเติม


Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)

By: whitebigbird
Contributor
on 8 April 2019 - 01:36 #1104998 Reply to:1104988
whitebigbird's picture

ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลยแฮะ โมเดลที่ขายในไทยต้องมีระบบ cooling พิเศษรึเปล่าครับ นี่แยกออกมาเป็นอีกไลน์สินค้าแบบวงการ PC เลยนะ อันนี้ผมคิดจริงนะคิดได้ตะกี้ไม่ได้พูดเอาฮา

ฟังเรื่องเมืองร้อนกับแบตแล้วรู้สึกว่าประเทศไทยความหวังน้อยลงแฮะ ภาษีก็แพงทำให้รถแพงมาก ถ้าต้องเปลี่ยนแบตบ่อยๆ อีกก็เละเลย

รู้สึกว่าการเป็นคนรักษ์สิ่งแวดล้อมนี่ค่าใช้จ่ายสูงกว่าเป็นคนไหลไปตามกระแสแฮะ ผักออแกนิคก็แพงระยับ

By: l2aelba
iPhoneAndroid
on 8 April 2019 - 14:56 #1104986
l2aelba's picture

2020(หรือ2025 จำไม่ได้) นอร์เวย์ไม่สามารถซื้อขายรถที่ใช้น้ำมันได้ละครับ

By: port on 7 April 2019 - 23:19 #1104987

รอบนี้ไม่มีใครใช้คำว่า ecosystem -o-?

By: icez
ContributoriPhoneAndroidRed Hat
on 8 April 2019 - 00:56 #1104994

อยากเห็นสภาพการใช้ไฟฟ้าของประเทศนอร์เวย์จัง

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 8 April 2019 - 12:06 #1105019
panurat2000's picture

คิดเป็น 30% ขอรถยนต์ที่ถูกซื้อเมื่อเดือนที่แล้ว

ขอรถยนต์ => ของรถยนต์

เผยสัด่ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า (รวมปลั๊กอินไฮบริด)

สัด่ส่วน => สัดส่วน