Digital Crime Unit ของไมโครซอฟท์เอเชียในสิงคโปร์ ได้เผยผลสำรวจจากสุ่มทดลองซื้อพีซีใหม่จากร้านค้าที่ไม่ใช่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (อาทิ ร้านตู้) ใน 9 ประเทศได้แก่อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซียและไทย ปรากฎว่า 83% ของพีซีที่ซื้อมาใน 9 ประเทศนี้มาพร้อมซอฟต์แวร์ผิดลิขสิทธิ์ ที่ส่วนใหญ่จะติดมัลแวร์มาด้วยอีกทอด
ในส่วนของประเทศไทยทางทีมไมโครซอฟท์ทดลองซื้อพีซีมาทั้งหมด 21 เครื่อง ก่อนจะพบว่าทุกเครื่อง (100%) มาพร้อมซอฟต์แวร์ผิดลิขสิทธิ์และในจำนวนนี้ 20 เครื่อง (95%) มาพร้อมมัลแวร์หรือโทรจัน ขณะที่ในภาพรวมของ 9 ประเทศพบมัลแวร์หรือโทรจันบนพีซีที่มาพร้อมซอฟต์แวร์ผิดลิขสิทธิ์ถึงกว่า 84%
ปัญหาเรื่องซอฟต์แวร์ผิดลิขสิทธิ์ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิก ทั้งกับคนทั่วไปและ SMBs เพราะถูกกว่าซอฟต์แวร์แท้หรือบางครั้งก็ฟรี ทว่าสิ่งที่แลกมาแต่กลับไม่ค่อยมีคนรู้หรือสนใจ คือความปลอดภัย ไม่ว่าจะจากมัลแวร์หรือโทรจัน ที่เข้ามาล้วงข้อมูลส่วนตัวหรือเปลี่ยนพีซีเป็นเครื่องขุดบิทคอยก็มี
คำแนะนำของไมโครซอฟท์กรณีนี้คือซื้อพีซีจากตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ, ใช้ซอฟต์แวร์แท้, อัพเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด, ไม่ใช้ระบบปฏิบัติที่ไม่ได้รับการซัพพอร์ทแล้ว (end of life) และศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์
Comments
ก็ซอฟแวร์พี่ขึ้นราคาตลอดนี่ใครจะจ่ายไหว ถึงจะไม่สนับสนุนเถื่อก็ตาม แต่เล่นขึ้นราคาทุกปีแบบนี้ไม่ไหวนะ
เพิ่งเห็นขึ้น Office แบบขายขาดเองนี่นา นอกนั้นก็เท่าเดิมนะจากที่จ่ายแบบ 365
ສະບາຍດີ :)
MS ไม่ได้ขึ้นราคาทุกปีนิครับ สองสามปีขึ้นทีด้วยซ้ำ แถมขึ้นแค่บาง Product เท่านั้นเอง อย่าง office standalone ขึ้นก็จริงแต่ก็ไม่ขึ้น office 365
มันเป็นนโยบายให้คนย้ายไป 365 มากขึ้นครับ ดูอาจจะน่าเกลียดแต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดยอมรับไม่ได้นิ 365 นี่ใช้ก็จ่าย ไม่ใช้ก็ไม่ต้องจ่าย
อย่างวินโดว์เอง ก็ซื้อตั้งแต่ 8 อัพเกรดมาใช้ยาวๆ ยัน 10 พอถัวราคามาก็คุ้มแล้วล่ะ
ก็ต้องแก้ไขด้วยการไปไม่ใช้ครับ การใช้ของละเมิดลิขสิทธิ์มันฟังไม่ขึ้นครับ คุณปล้นร้านทอง เพราะบอกว่าทองขายแพงได้หรือครับ?
แต่ hardware ออกใหม่ ขึ้นราคา เราซื้อ เพราะของมันต้องมี ...
ของ MS นี่ใช้จริงๆ ก็มีแค่ Windows กับ Office เองครับ ผมว่าหลายๆ คนจ่ายไหวนะ แต่พอดีมีแบบเถื่อนไม่เสียตังให้ใช้เลยไปทางนั้นกันซะเยอะ
นึกถึงตอนซื้อ notebook เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว
คนขายถามว่า จะให้ลง windows กับโปรแกรม มาให้เลยไหม คิดเพิ่ม 500 บาท
บอกไปว่าไม่เอา
สุดท้ายเปิดเครื่องมา ก็มี windows+program ต่างๆ ลงมาให้อยู่แล้ว... แน่นอนว่าเถื่อนทั้งหมด
สมัยก่อนน่ะมันไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่เพราะว่าคนยังไม่ค่อยใช้ Computer ซื้อของหรือทำธุรกรรมสำคัญๆหรอก รวมถึง Internet ที่เข้าถึงยากแล้วก็ช้ากว่าหอยทากคลานต่ำ นี่ทำให้คนไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
แต่สมัยนี้มันไม่ใช่แล้วล่ะ เพราะ Internet เข้าถึงง่ายแล้วการทำธุรกรรมหลายๆอย่างก็เกิดในคอมเนี่ยแหละ เลยพยายามแนะนำคนให้ใช้ของแท้มากขึ้น
แต่ที่ผมเลิกของปลอมเพราะหลังๆของปลอมห่วยกว่าของแท้อีก เคยซื้อเกมมาแล้วใช้ไม่ได้ เสียเวลากว่าจะได้เล่น Load bit file พัง ห้าหกวันหายไปเฉยเลย
อ่านรีวิวก่อนสิครับ ถถถถถ
ไม่ได้ใช้ของปลอมนานแล้ว ยกเว้นบางโปรแกรมจริงๆ จ่ายไม่ไหว
คือโปรแกรมทางเลือกบางสายมันก็ไม่ไหวจริงๆ
อย่าง photoshop นี่ของเค้าดีจริงๆ แต่เพราะไม่ใช่งานหลักและไม่ได้ทำกราฟฟิคบ่อย(ใช้ในบางเดือนและใช้งานราวๆ 2-3 วัน)ก็ยังทนใช้ gimp อยู่
productivity ต่ำกว่าตอนใช้ PS มากมาย
ผมแนะนำพวก affinity หรือ clip studio พอใช้แทนได้แล้วราคาก็ไม่แพง gimp นี่ผมก็ลองหลายรอบละทนใช้ไม่ไหวทุกที
affinity ไม่รองรับ Unicode ดีเท่า Adobe ใช้ ๆ ไปอาจจะเจอปัญหาภาษาไทยพอสมควร (ผมเปิดบั๊กรีพอร์ตไปละ)
ส่วน Clip ผมว่าถ้าไม่ใช้วาดรูปอาจจะไม่ค่อยเวิร์คครับ
gimp ถ้าใช้แต่งรูปเล่นๆ ไม่ได้ทำงาน ผมว่าสบายๆนะ แต่ถ้าทำงาน อาจจะไม่ไหว
..: เรื่อยไป
ของ Adobe ถ้าใช้แค่ Photoshop กับ Lightroom ก็มีเดือนละ 300 นะครับทโอเคอยู่นะ
/ ของผมเหลือแค่ navicate อันเดียวที่ยังซื้อไม่ไหว ทำได้แค่ไม่พยายามเปิดใช้ เก็บไว้ใช้แค่ตอนฉุกเฉิน เพราะที่ทำงานเขาใช้กัน crack ยับ ?
มาพร้อมมัลแวร์หรือโทรจัน ไม่แปลกนะ
ถ้าใช้ของเถื่อนพ่วง crack,keygen พวกนี้โดนโปรแกรมป้องกันเตือนหมดอยู่แล้ว ลงเสร็จก็จับสแกนไวรัส
ก็พี่เอาพวก cracker,patcher , bypass , auto renewal ไปนับไว้เป็น malware หมด (ไม่ใช่ trojan หรือ virus ซึ่งจริงๆ ควรนับตรงนี้มากกว่า)
มันจะไม่ถึง 84% ได้ไง ที่เหลือคงเป็นพวกใช้แบบ ไม่ activate แล้วแหละ
+1
มันก็เป็นมัลแวร์จริง ๆ นะ เพราะบางตัวมันไปแก้ไขซอฟต์แวร์คนอื่น
มันควรแยกตามผลกระทบต่อผู้ใช้สิ
Microsoft น่าจะลองพิจารณาออกวินโดว์แบบรายเดือนสำหรับผู้ใช้ตามบ้านทั่วไป ราคาสัก 350 บาทรวม Office 365 พื้นฐานมาเรียบร้อยคิดว่าน่าจะมีคนยอมจ่ายไม่ใช่น้อย
เอาแบบผ่อน 350 บาท ครบ 12 เดือน (4200 บาท) แล้วได้สิทธิ์การใช้งานแบบ retail ไปเลยน่าจะดีกว่าครับ
ถ้าจ่ายวินโดวส์รายเดือนราคานั้นผมว่าแพงนะ อย่างผมซื้อ 8.1 แบบลงเครื่องใหม่ได้เรื่อยๆ (ใช่ FPP มั้ย) 4000 กว่าบาท ก็ใช้มาตลอดจนเป็นวินโดวส์ 10 เฉลี่ยมาก็คุ้มนะ ส่วน office 365 ก็จ่ายรายปีเหมือนกัน (แบบซื้อขาดแพงเกิน)
มี Microsoft 365 ไงครับ แต่ราคาก็อีกเรื่องนึง
เหมือนผมจะตกข่าวนี้ไปเพิ่งได้ทราบก็จากคอมเม้นนี้ กดเข้าไปดูเหมือนจะเน้นไปภาคธรุกิจ ถ้ามีให้ผู้ใช้ตามบ้านทั่วไปน่าจะดีไม่น้อย
365 มีตัว Personal (ใช้คนเดียว 1 เครื่อง) กับ Home (ใช้ได้มากสุด 5 คน รวมกันเป็น 5 เครื่อง) ครับ
ราคาสองตัวนี้ต่างกันราว ๆ 20%
Microsoft 365 นะครับไม่ใช่ Office 365
365 ราคาปีละสองพันกว่าบาท (ถูกกว่าเดือนละ 350 ที่คุณว่ามาอีกนะครับ) หรือถ้าจะใช้หลายเครื่องหรือหลายคน 365 Home ก็ยังแค่สองพันปลาย ๆ นะ
แล้วถ้าหาดี ๆ ราคาที่ขายกันในตลาดจริง ๆ ต่ำกว่าราคาตั้งประมาณ 20% ครับ
ปล. ผมเพิ่งซื้อ 365 Home 1 ปี มาในราคาสองพันหนึ่งร้อยกว่าบาท ร้านจิ๊บ
365 Home แชร์กัน 6 คน สบาย ๆ ฮา ปกติผมหาช่วงลดสุด ๆ อยู่แถว 1800-2000 ร้านเดียวกัน
Windows แท้สมัยนี้ก็ FPP หมดแล้วคนนึงซื้อทีเดียวก็ใช้กันไปเถอะยาว ๆ ไป ก็ใช่จะแพงสักเท่าไร
หรือถ้าไม่แคร์ ก็ลง Windows แบบไม่ต้อง Activate ไปก็แค่นั้น มันก็ใช้ได้อยู่แล้ว(ระหว่างนั้นก็หยอดกระปุกสักปี 3-4 พันไม่น่าจะยากอะไร เอามา Activate ทีหลัง)
อ่านไปอ่านมาแล้วนึกถึงสมัยใช้ชั่วโมงอินเตอร์เน็ต
ถ้ามีบริษัทไหน ทำแบบซื้อชั่วโมงใช้Softwareคงจะดีมิใช่น้อย ผู้ใช้จะได้จ่ายตามที่ใช้ พอชั่วโมงหมดก็วิ่งไป7-11 ซื้อมาเติม
365 นี้คืออะไรใครรู้มั่งครับ ms เปิดมา 365 ปีแล้วหรอไม่น่าใช่ ฮ่า ๆ
ลองลง Linux สิ สมัยนี้ใช้งานได้แทบทุกอย่างแล้วนะสำหรับผู้ใช้งานบ้านๆ ถ้าไม่อยากเสียเงินและละเมิดลิขสิทธิ์ ยกเว้น MSOFFICE และกราฟฟิกหนักๆ ที่ยังไงก็ต้อง WINDOWS
Server ที่บ้านผมเอาคอมเก่ามาทำลง Linux แหล่มมากๆ
เล่นเกมส์ก็ Linux แต่งรูปง่ายๆก็ Linux ฟรีหมด ที่สำคัญปลอดภัยมาก เข้าเวปที่WINDOWSเข้าแล้วติดมัลแวร์ แต่ Linux มันไม่ติด
ผมยังใช้ License ของ Win7 อยู่เลยครับซื้อมาสมัยตอน win7 มีโปร พันกว่าๆ สมัยเปิดตัวใหม่ๆ ก็อัพมาได้จนถึงตอนนี้เรียกได้ว่า โคตรคุ้ม
The Dream hacker..
มองในมุมชาวบ้านทั่วไปเลยนะครับ
ซื้อ pc 10,000 ยังต้องผ่อนกันเป็นปีๆ
เจอค่า office + windows อย่างต่ำๆก็ปาไปเกินครึ่งหมื่น
เขาไม่จ่ายหรอกครับ
เงินแค่นี้พวกฝรั่งเขาไม่ยี่หระหรอก
แต่สำหรับประเทศไทยหรือประเทศโซนนี้
ค่า software มันแทบจะเทียบเท่าเงินเดือน 1 เดือนเลย
office ก็นานๆทีใช้
ใช้ 365 ไม่คุ้มแน่นอน
windows รายเดือนยิ่งไม่ต้องพูดถึง
สำหรับทางแก้ไข
ผมว่า ms ปล่อยฟรีเถอะครับ
แล้วไปหารายได้จากช่องทางอื่น
ทำเหมือน IOS mac-OS android chrome-OS ก็ได้
ป.ล.
ผมไม่สนับสนุนการละเมิดลิขสิทธิ์
แค่วิเคราะห์ตามเรื่องราวครับ
Windows ก็เกือบจะฟรีแล้วหรือเปลาครับเห็นติดมากับคอมใหม่ๆ มันก็ใช่ที่ราคามันแพงกว่า แต่ราคามันก็ถูกกว่าซื้อแยกเยอะเลยครับ
คือถ้า Windows กะ Office ไม่ได้หาของเถื่อนง่ายๆแบบนี้ ผมว่าราคาขายปัจจุบันก็ไม่ได้ถึงกับซื้อไม่ได้นะครับ
อยากได้แบบ mac หรือ chrome ก็ surface ไงครับ
hardware + OS มาในตัว
แต่พอดีว่า PC มันเป็นอุปกรณ์ที่ DIY ได้ การทำแยกเป็น software ที่ไม่ยึดติดกับ hardware จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมไงครับ
office ประเภทนานๆ ใช้ทีนี่มักจะไม่ได้ใช้ฟีเจอร์อะไรมากและใช้ตัวออนไลน์ฟรีก็เพียงพอนะครับ
คน it ทั่วๆไป ทำได้หมดแหละครับ ใช้ google office ก็ได้ ฟรีด้วย
ที่ผมวิเคราะห์คือกรณีชาวบ้านทั่วไป งบจำกัดและไม่ค่อยรู้เรื่อง it
ที่ยังใช้ office + windows เถื่อนอยู่
ผมสะท้อนมุมมองว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เอาจริงๆ ที่ผมคิดนะ ... สิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือ มีของเถื่อนให้ใช้ แค่นั้นล่ะครับ
ลองมี hardware เถื่อนที่ใช้งานได้เหมือนของแท้ ผมว่า ก็คงซื้อมาใช้กัน
ของหนีภาษี ของหิ้ว งี้นับว่าเถือนเปล่าครับ
ก็น่าจะเถื่อนนะครับ คือมันไม่ใช่ของปลอมน่ะ แต่ก็ไม่แท้ เหมือนๆ ซอฟแวร์เถื่อน
แต่แบบนั้นปริมาณมันน้อยกว่าซอฟแวร์เถื่อน เข้าถึงยากด้วย ...
ซอฟแวร์เถื่อนนี่ อยู่ระดับแถมมากะเครื่องเลย
ของฟรี ที่ใช้งานทั่วๆ ไปมีให้ใช้ครบๆ ก็มี แต่คนคงจะคิดกันว่า ทำไมต้องไปปรับตัวใช้กะของที่ไม่ชินด้วย ในเมื่อมีของชินๆ ให้ใช้ฟรีๆ
วงการจักรยานช่วงกำลังพีคๆ นี่ของเถื่อนแรงมากครับ ขนาดอันนี้เสี่ยงกันถึงชีวิตก็ยังใช้กันเกลื่อนเลย ข่าวแตกหักเสียหายลงไปกลิ้งก็มีไม่ใช่น้อย
จริงๆ อย่าว่าแต่แค่ความเร็วจักรยานเลย ล็อแม๊กซ์รถยนต์นี่ก็ยังใช้กันไม่น้อย เห็นข่าวหัก ดุ้ง แตกกันเป็นพักๆ เหมือนกันครับ
เอาจริง ๆ ชาวบ้านทั่วไป ผมแนะนำให้ซื้อแลปท็อปหมดแล้วนะครับ ไม่ต้องเถื่อน ถ้าจะประกอบคอมเราก็ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจว่า ตรงนี้ต้องซื้อ เหมือนพวกฮาร์ดแวร์ ซึ่งราคามันพอ ๆ กับการ์ดจอรุ่นล่าง ๆ ตัวนึง ซื้อได้อยู่แล้ว และคนซื้อคอมประกอบก็ต้องมีเงินเยอะประมาณนึงอยู่แล้วครับ (เพราะบอกตรง ๆ ราคาคอมแบรนด์เนมตอนนี้ถูกกว่าคอมประกอบพอสมควรนะ)
แล้ว 365 ปีละสองพันกว่าบาทนี่ ผมว่ามันต่ำกว่าเงินเดือนเยอะเลยนะ
คนประเภทไหนที่เงินหมื่นเดียวค้องผ่อนเป็นปีแล้วดันอยากได้ pc ครับ และคนแบบนี้มีเยอะแค่ไหน?
.
ไม่ได้กวนตีนนะ แต่นึกไม่ออกจริง ๆ ว่าสมัยนี้คนที่จนเลเวลนั้นจะอยากได้ pc ไปทำอะไร ปกติน่าจะอยากได้มือถือไปใช้มากกว่า ติดตัวตลอดเวลา ชักขึ้นมาเล่นเมื่อไหร่ก็ได้ ดูคุ้มกว่าตั้งเยอะ pc นี่คนจนสุด ๆ เค้าเอาไปทำอะไร ผมนึกไม่ออกจริง ๆ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
อีกตัวเลือกคือ format ลง Linux
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ตอนนี้ที่ยังใช้ windows ก็เพราะ directx อย่างเดียวเลย -..-
จะรู้ได้ยังไงว่าเครื่องเราเข้าข่ายนั้น หรือ ติดมัลแวร์รึเปล่า
ลบของเก่าทิ้งแล้วติดตั้งซอฟท์แวร์ที่สะอาดลงไปเอง จึงจะรู้ว่าในเครื่องมีแต่ซอฟท์แวร์ที่เราติดตั้งลงไป
ใช้ วินแท้ ลง แต่ คีย์ แคร็ก มันติดมัลแวร์ไหม
ผมก็ใช้แต่ของแท้กับโปรแกรมที่เป็นฟรีแวร์เอา ที่ต้องซื้อก็แค่ Windows กับ Office นี่แหละ อย่างอื่นไม่ต้องใช้ ดีหน่อยว่างานที่ทำ ไม่ต้องซื้อซอร์ฟแวร์แพงๆ
..: เรื่อยไป
ผมนี่ตอนนี้ไม่ใช้ของเถื่อนในเครื่องแล้ว ไม่แท้ก็ฟรีหมด
พยายามใช้ LibreOffice กับ FreeCAD สุดท้ายก็ไม่ไหวครับ
มันไม่ compatible กับไฟล์งานบางไฟล์ของในบ.
แถมครั้งนึงเป็นตอนสำคัญที่ต้องพรีเซนต์เจ้านายด้วย
บางทีก็อยากให้ software บางตัวขายแบบ pay per day บ้าง อย่างเช่นของ Adobe CC ตัว Photography plan เดือนละ 10$ ก็อาจจะมีให้เช่า 1 วันราคา 1$ อะไรแบบนี้ คือบางโปรแกรมนี่นาน ๆ ทีกว่าจะได้ใช้ เพราะไม่ได้ทำเป็นอาชีพ แต่เวลาจะใช้ทีก็อยากใช้ตัวที่มันทำให้เราสะดวกและงานออกมามีคุณภาพเหมือนกันนะ
อันนี้ผมก็แอบคิดเหมือนกันถ้ามีพวก Day Pass นี้จะดีไม่น้อย
เครื่องผม windows แท้ แถมมากับเครื่อง
สมัยที่ลง windows ไม่เป็น
เอาไปจ้างร้านทำ
มันลงเถื่อนมาให้เฉยเลย
ทั้งๆที่เขาก็รู้ว่ามีของแท้อยู่ข้างใน
ให้เหตุผลว่า
pro ดีกว่า home นะน้อง
ส่วนตอนนี้เท่าที่ทราบ
ตามต่างจังหวัดบ้านผม
ร้านคอมหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมลง win10
อย่างไงก็ลง 7 สถานเดียว 5555
Win 10 มันแครกยากหรือเปล่า
ที่ผมเดานะ
1. มันช้า (ต้อง ssd สถานเดียว)
2. มันใช้ยากกว่า (โดยเฉพาะคนที่ชินกับรุ่นเก่า)
3. มันชอบอัพเดตเอง (ปิดได้ แต่เซ็ตยาก สำหรับคนที่ใช้แบบงูๆ ปลาๆ คงไม่มานั่งปรับหรอก)
ไม่หรอก ผมว่าคนลงลงไม่เป็น :)
win 10 นี่ spec เท่าๆกัน บูตเร็วกว่า win 7 อีกนะครับ
win 10 นี่ spec เท่าๆกัน บูตเร็วกว่า win 7 อีกนะครับ
ผมว่าพอมี ssd คนกระแดะว่าใช้ hdd ช้า
นี่ใช้ 5400 ไม่ได้หนักหนาอะไรเลย
Minimum Hardware requirements ของ 7 กับ 10 นี่เท่ากันเลยนะครับ ออกห่างกัน 3 ปี
ส่วนตัว win 10 สร้างแต่หายนะ โดยเฉพาะหลังๆ ชอบพัง vpn ทำลาย Registry อยู่ๆจะเอาไอนั้นไอนี้ออก ก้เอาออกไปเฉยๆเลย โดยเฉพาะ พวก control panel
จริงๆไม่ชอบ ต้องแต่ calculator มีหน้าจอให้ rate app ขึ้นมาดื้อๆ
kmspico ไม่น่ายาก
พี่ ๆ ลงแอพให้หน่อย
พี่ ๆ ลงโปรแกรมให้หน่อย
พี่ ๆ ลงวินโดว์ใหม่ให้หน่อย
พี่ ๆ ลงหนังให้หน่อย
พี่ ๆ ลงเกมให้หน่อย
ETC....
ถ้าไม่เล่นเกมนี่ ผมคงใช้ Linux ไปยาวๆแล้ว
ผลิตแบบสำเร็จรูปมาสิครับ
Windows น่าจะทำแบบผ่อนจ่ายเดือนละ 2-300 บาทครบปี ก็ได้สิทธิ์ใช้งานเต็มที่ไปเลย ส่วนพวก Office ก็ใช้ O365 ได้น่าจะดีครับ