IDC เผยยอดส่งมอบอุปกรณ์ VR ในไตรมาสสองปี 2018 ตกฮวบลงอีก 33.7% แต่ IDC มองว่าจะเป็นปรากฏการณ์ชั่สคราว เมื่อแบรนด์ต่างๆ อย่าง Oculus Go, HTC Vive Pro หรือแม้แต่แบรนด์ใหม่ถ้าทำสินค้าใหม่ๆ ออกมาจะช่วยให้ยอดขายเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
IDC เผยเพิ่มเติมว่า อุปกรณ์ที่ยอดขายลดลงส่วนใหญ่เป็นแว่น VR แบบสแตนด์อะโลนเพิ่มขึ้น 417.7% ซึ่งเป็นผลจากการเปิดตัว Oculus Go / Xiaomi Mi VR มียอดส่งมอบ 212,000 หน่วย แม้ว่าอุปกรณ์จะเป็นชุดหูฟังย่อย ราคา 200 ดอลลาร์ ราคาเฉลี่ยต่ออุปกรณ์ที่ขายได้เพิ่มขึ้นจาก 333 ดอลลาร์ เป็น 442 ดอลลาร์ ส่วนแว่น VR แบบมีสายยอดส่งมอบหดตัว 37.3% เป็น HTC 111,000 หน่วย, Oculus 102,000 หน่วย และ Sony 93,000 หน่วย
ยอดส่งมอบหดตัวอาจเป็นผลจากมีผู้บริโภคสื่อ VR กันน้อยลง โดย IDC ระบุว่าผู้ใช้ลดลงจาก 1 ล้านรายเหลือ 409,000 และ IDC ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าผู้บริโภคมีความติดขัดตรงสถานที่ที่จะเล่น VR
อ่านตัวเลขไตรมาสที่แล้วได้ ที่นี่
ภาพจาก Sony
ที่มา - IDC
Comments
แพงและเวียนหัว ก็ไม่รู้จะซื้อมาให้ทรมานสังขาลทำไมเหมือนกัน
เราไม่เวียนหัวค่ะ แต่ไม่มีเงินซื้อ
แพงอะ ฮ่าๆ อยากลองสักครั้งอย่าพึ่งเจ๊งละ
ไม่มีตังซื้อ เหตุผลเดียวเลย
ถ้าอยากลอง
ผมเชื่อว่า เดี๋ยวถ้าตลาดวาย น่าจะมีขายมือสองออกมาถูกๆ
ไม่ใช่วาตลาดมันเริ่มจะอิ่มตัวแล้วหรอ พวกคนที่อยากได้และมีเงินซื้อก็ซื้อกันเรียบร้อยแล้ว ส่วนพวกที่ไม่สนใจก็ไม่ได้มีอะไรดึงดูดให้มาสนใจ พวกที่อยากได้แต่ไม่มีเงินซื้อก็น่าจะมีส่วนน้อยที่เก็บเงินจนซื้อได้ บางส่วนก็เลิกคิดจะซื้อไปแล้ว
เน้นโฆษณาจับคู่กับอุปกรณ์ 18+ แล้วยอดขายจะเพิ่ม! หมดปัญหาเรื่องสถานที่แคบเกินไป
อย่างน้อยก็ได้ 1 ชุดจากผมแหละ คำนวณระยะยาวแล้วใช้คุ้มครับ
คำนวน เมื่อเทียบกับอะไรครับ 5555
เทียบกับทุกครั้งที่ไปแถวรัชดา…
555 ถ้าเทียบกับ Oculus ($350+tax)x33 = ราวๆ 12,400 บาท ก็คงต้องใช้มากกว่า 12400/1500 = 8 ครั้ง ถึงจะคุ้ม
บางคนอาทิตย์เดียวก็คุ้มแล้ว:P
บางที่ก็แค่ 2 ครั้งครับ ฮ่าๆ
ส่งเข้ามาโดนยึดทั้งแว่นทั้งอุปกรณ์ 18+
IDC น่าจะตั้งข้อสังเกตว่าผู้บริโภคมีความติดขัดตรงราคา VR ที่จะซื้อมาเล่นมากกว่านะ
เมื่อไหร่ที่สามารถทำให้มันใช้งานง่าย ไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เยอะ ไม่เกะกะเวลาใช้งานได้ ก็อาจจะทำให้กลับมาบูมได้อีกครัง ถ้าถามว่าง่ายขนาดไหน ก็ต้องง่ายกว่าการใช้แว่นสามมิติดูทีวีหรือไม่ก็ง่ายกว่า Google Glass ครับ
เวียนหัว หลักๆคือเกิดจาก Performance ของเครื่องไม่พอ ถ้าทำได้เกิน 200FPS/Hz ก็จะแก้ปัญหาได้เยอะอยู่
(หลักๆแล้วบางคนอ่อนไหวกับ Flickering สูง FrameRate ต่ำ และบางคนก็จะเกิดความเมาถ้าฟิสิกส์ไม่สมจริง)
http://mtechgames.com/downloads/PhysicsandFramerateBeatingmotionsicknessinVR.pdf
มีเพื่อนที่ motion sickness หายหลังจากได้ใช้จอ Framerate/Hz สูง
จริงๆมีเปเปอร์ด้วยมั๊งแต่คงไม่หา
ส่วนที่ไม่บูม
ราคาขนาดนี้ แถมน้ำหนักขณะใช้งานอีก
VR จะเกิดได้จริงๆ น้ำหนักต้องใกล้เคียงกับแว่นสายตา หนักกว่าได้นิดเดียวแหล่ะ
ขนาดใส่แว่นบางคนยังรำคาญเลย ... แล้วราคาต้องอยู่ใน range มือถือกลางๆด้วย
(ย้อนกลับไปที่ Motion sickness จาก performance ซึ่งขัดกัน)
เอาจริงๆมันน่าจะข้ามยุค VR ไปเป็น 3D/4D Projection ล่ะ
ทั้งหมดนี้ยังไม่นับว่า Content ที่ต้องผลิต ต้นทุนจะเพิ่มอีกเป็นหลายสิบเท่า
มันมี 3D/4D projection ดีๆ ที่เอามาใช้เสพเนื้อหาได้แล้วเหรอครับ?