เหตุการณ์รถ Tesla X ของวิศวกรแอปเปิลชนบนทางหลวงจนคนขับเสียชีวิตเมื่อเดือนมีนาคม นับเป็นเหตุการณ์ที่ระบบ Autopilot ของ Tesla ถูกตั้งคำถามว่าปลอดภัยเพียงใด ตอนนี้ NTSB หน่วยงานดูแลความปลอดภัยทางหลวงที่เข้ามาร่วมสอบสวนแต่ต้นก็ปล่อยรายงานเบื้องต้นออกมา
รายงานเบื้องต้นเป็นการสรุปเหตุการณ์นาทีท้ายๆ ก่อนเกิดการชน โดยระบุว่ารถถูกตั้งความเร็วแบบคำนึงถึงสภาพการจราจรไว้ที่ 75 ไมล์ต่อชั่วโมง แม้ความเร็วบนถนนจะจำกัดที่ 65 ไมล์ต่อชั่วโมง
คนขับถูกพบในสภาพคาดเข็มขัดนิรภัยอยู่กับที่นั่งคนขับ มีพลเมืองดีช่วยนำตัวออกมาจากรถก่อนรถจะลุกไหม้ แต่คนขับก็เสียชีวิตในโรงพยาบาล
ตัวรถ Tesla ที่ลุกไหม้ ต้องใช้น้ำและโฟมรวม 200 แกลลอนเพื่อดับเพลิง และต้องรอจนรถเย็นลงจึงนำรถออกจากที่เกิดเหตุได้ หลังจากนำรถไปเก็บในโรงเก็บ ยังพบว่าแบตเตอรี่รถร้อนขึ้นมาอีกครั้ง และมีเสียงก๊าซ หลังจากเกิดเหตุ 5 วัน แบตเตอรี่ก็ลุกไหม้อีกรอบจนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องมาดับอีกครั้ง
รายงานฉบับนี้เป็นรายงานเบื้องต้น และตอนนี้ NTSB กำลังสอบสวนหาสาเหตุที่เป็นไปได้ และจะออกรายงานแนะนำเพื่อป้องกันเหตุแบบเดียวกันในอนาคต
ที่มา - NTSB, The Register
Comments
ดับยากกว่าน้ำมันอีกนะเนี่ย
ข้าขอทรยศต่อคนทั้งโลก ดีกว่าให้ใครมาทรยศข้า
พฤติกรรมคนขับดูแปลกๆ
วิศวกร Waymo ขึ้นพูดไม่กี่วันก่อนว่ารถที่มีระบบช่วยขับ(ระดับ 2-3) ไร้สาระมาก จากการทดสอบภายในของ Google เองว่าพนักงานในรถยนต์ไร้คนขับไม่สนใจสภาพแวดล้อม บางคนเอาโน้ตบุ๊คขึ้นมาทำงาน บางคนแต่งหน้าทาปาก บางคนหลับในรถเลย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Waymo ข้ามไปทำรถไร้คนขับระดับ 4
ขนาดขับเองยังเป็นกันเลย
คนเราชอบความสบาย จะขับให้เมื่อยทำไม
มันคือการบอกให้มนุษย์ทำงานที่ไม่ต้องการความสนใจไปเรื่อยๆ จนกระทั่งนานๆ ที จะต้องการความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งแนวทางนี้มนุษย์ทำได้แย่ครับ (ความสนใจลดลงเรื่อยๆ พอถึงเวลาจำเป็นก็ไม่ทันแล้ว)
คล้ายๆ คนตรวจความปลอดภัยสนามบิน ที่ถ้ามาตรฐานดีๆ จะต้องสลับหน้าที่บ่อยๆ เพื่อไม่ให้เบื่อไปก่อนแล้วเริ่มละเลย ไม่สนใจอะไรนอกจากเสียงเตือนอัตโนมัติจากเครื่องตรวจแล้ว
lewcpe.com, @public_lewcpe
ตอนผมไปลองขับ CHR เลยไได้ใช้ อะไรนะ .. อะไรไดนามิก อะไรซักอย่างที่มัน เบรค-เร่ง เองตามรถคันหน้าตอนรถติดอ่ะ
เอาจริง ๆ ในใจลึก ๆ ผมว่า ถ้ากะซื้อมาใช้จริงจัง ผมว่าอันตราย เอาแค่เส้นลาดพร้าวก็ไม่รอดแล้ว ราคาตั้งล้านสอง เอาไปซื้อ Camry ดีกว่า โชคดีนะที่ไม่มีเงินซื้อ ไม่งั้นปวดหัวไปแล้ว
ของโตโยต้านี่คนละเรื่องกับอันนี้นะครับ มันแค่เรื่องความเร็วเอง เป็นระบบช่วย ไม่ได้บังคับพวงมาลัย และไม่เคยมีบอกนะครับว่าใช้ตอนรถติด มีแต่ใช้ตอนขับใช้ความเร็ว เป็น cruise control ที่เพิ่มความสามารถเข้าไปแค่นั้น ให้รักษาความเร็ว และลดความเร็วตามรถหน้าได้
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เกี่ยวสิครับ ระบบพวกนี้ถ้าใช้ ๆ ไปจะทำให้ คนขับระวังตัวน้อยลง อย่างรถติด ๆ หรือ ขับรถทางไกลก็เปิดดู YouTube มันซะเลย ไม่น่าจะเป็นไร เพราะมันเบรคให้เอง หรือเลี้ยวให้เองนี่ จริงมั้ย ? ถึงได้มีข่าวบ่อยขึ้นไงครับ ว่าระบบทำงานผิดจึ๊กเดียว ชนเละเลย แต่อย่างว่า ก็เหมือนมอเตอร์ไซบ้านเรา ช่องว่างพอดีแฮนซ้ายรถเมล์ขวารถยนต์นั่ง มันยังแทรกตัวเข้ามาชนกระจกมองข้าง แล้วขี่หนีไปได้ นั่นก็เหมือนกัน ระวังตัวน้อยลง ถ้าวันใหนพลาดตูมเดียวไปอยู่ใต้ล้อรถเมล์ กลับบ้านเก่าไปเลย ไม่มีโอกาศเรียนรู้ด้วยความเจ็บปวดและปรับปรุง
โตโยต้าไม่ได้มีเลี้ยวตามเลนเองนะ เรื่องความเร็วมันลดความเหนื่อยล้าจากการเหยียบคันเร่งแต่ปล่อยพวงมามัยไม่ได้ มันคือ cruise control
ระบบเรื่องเลนมันเป็น safety เพิ่มมา มันแค่เตือนและหน่วง ไม่ใช่เลี้ยวไปตามถนนเอง
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
น่าจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับระบบหลาย ๆ ระบบที่ว่ามานะครับ
https://www.facebook.com/ovwwwwvo
ผมเจอcomment ในเวบเกี่ยวกับรถชื่อดังของไทยที่นึง มีผู้ใช้ volvo คันที่มี adaptive cruise control บอกใช้ประจำ ตอนรถติดบน motor way แบบปล่อยมันเร่งเองเบรคเอง แต่เป็นทางตรง เลยอาจยังไม่เกิดอุบัติเหตุ -_-"
หมายถึงตัวผมหรือเปล่าครับ ผมใช้ Pilot Assist ใน S90 ประจำ โดยรถเลี้ยวตามเส้นจราจรได้ โดยมีข้อแม้ว่าพวงมาลัยหักไม่เกิน x องศา (ตรงนี้ยังไม่ได้อ่านคู่มือ) ช่วงที่ผมไม่เร่งรีบ
ในเมืองรถติด รถจะเร่งและเบรคเองตามคันหน้า รวมถึงเลี้ยวเองตามเส้นจราจร แต่ต้องระวังรถเบียดเข้ามา
บนทางด่วน ขับแบบไม่รีบ ไม่เกิน 130 วางใจระบบได้ รถขับไปเองตามเส้นจราจร
แต่ขับไปได้สักพักเดียว ตัวรถก็เตือนให้เอามือจับพวงมาลัย และ ถ้าไม่จับภายใน 2 ครั้งมั๊ง ระบบจะยกเลิกการทำงานเลย ทั้งนี้ระบบนี้เทียบกับ Tesla แล้วคงล้าหลังกว่ามาก อยากให้ Audi เพิ่มออฟชั่น Audi AI ที่เป็น Level 3 คงจะขับได้สบายกว่าเยอะ
ในอดีตผมเคยคอมเมนต์รถไร้ค้นขับไปว่า ไม่ต้องการเพราะต้องการความสนุกในการขับขี่มากกว่า แต่พอได้ซื้อรถที่มีระบบช่วยขับมาใช้ พบว่าผมต้องการระบบไร้คนขับมากกว่าความสนุกตอนขับขี่ครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Galaxy Note 20
ยกเลิกแล้วยังไงครับ? รถพยายามจอดเองหรือเหมือนปล่อยพวงมาลัยปล่อยเท้าเฉยๆ เลย รู้สึกอันตรายเหมือนกันนะครับ
ขอบคุณครับ ความเห็นมีคุณค่ามากเลย
แค่ขึ้นหน้าจอแจ้งว่าระบบ Pilot Assist ยกเลิกการทำงานครับ เคยลองแค่นี้ครับ แต่ถ้าให้เดาขั้นตอนต่อไป เท่าที่ใช้รถมาประมาณเกือบปี การทำงานจะเป็นแบบนี้ครับ
1. ระบบ Lane Keeping Aid ทำงาน บังคับพวงมาลัยให้อยู่ในช่องทาง รถค่อยๆ ลดความเร็วลง แต่ไม่หลบ ไม่เปลี่ยนเลน ถ้าใกล้ถึงความเร็วที่ปล่อยไหลแล้วไม่มีการบังคับควบคุมก็คงชนด้านความเร็วต่ำ
2. ถ้ามีรถอยู่ข้างหน้าระบบเบรคอัตโนมัติทำงาน ถ้าจะชนรถข้างหน้าระบบ Run-off Protection ทำงานจนรถหยุด พร้อมเปิดไฟฉุกเฉิน
3. กรณีถ้ารถจอดแล้ว มีรถที่อาจจะชนด้านหลัง รถจะเปิดไฟฉุกเฉินอีกครั้งให้รถที่พุ่งมาด้านหลังเห็น และรถจะย้ำเบรคครับ
ประมาณนี้ครับ เห็นในนี้มีอีกท่านใช้ XC60 ตัวใหม่ด้วย อาจจะมีเพิ่มเติมจากท่านนั้นครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Galaxy Note 20
ขอบคุณครับ
ขับแบบไม่รีบขับ 130 และไว้ใจระบบได้....
ผมไม่สนนะว่ารถคุณมันจะดีแค่ไหน แต่นั่นผิดกฏหมายและอันตรายต่อทั้งตัวคุณและเพื่อนร่วมทาง เพราะ 130 (ย้ำว่านี่ไม่รีบนะ ถ้ารีบจะขนาดไหน) มันมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากขึ้นอีกโขเลยนะครับ และเพิ่มโอกาสบาดเจ็บหนักชนิดที่ตายทั้งคันทั้งคนชนและคนโดนชนอีกโขเช่นกัน
กรุณาขับช้ากว่านี้เถอะครับ ผมไม่อยากตาย คนที่บ้านที่ต้องพึ่งผมมีอีกเยอะ
ป.ล.ผมรีบผมยังขับไม่เกิน 120 เลย
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
120 ก้อผิดกฏหมายอยู่ดี...
ถ้าขับที่มอเตอร์เวย์ทางหลวงพิเศษสาย 7 เส้นทางกรุงเทพ-พัทยา และถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกรอบกรุงเทพ ไม่ผิดกฎหมายครับ
+7 ผมไปประจำ ขับ 120 นี่สบายจริงๆ เส้นอื่นๆผมก็ขับไม่เกิน 90 ตามกฎหมายครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
รู้ครับว่าผิด กม. ปกติผมขับไม่เกิน 110 ตอนถนนโล่ง ๆ ตอนกลางคืนครับ กลางวันขับไม่เกิน 100 ส่วนใหญ่อยู่แถว ๆ 80-90 เข้าเขตเมืองก็ลดฮวบเหลือไม่เกิน 50
ที่บอกว่าถ้ารีบคือมันคอขาดบาดตาย มันต้องไปให้ถึงไวๆ เช่นปวดขรี้ มีคนป่วย มีประชุมสำคัญที่ถูกเลื่อนนัดกระทันหัน ฯลฯ ซึ่งก็ไม่ได้มีบ่อย ๆ ครับ แค่จะชี้ให้เห็นว่าขนาดรีบคอขาดบาดตาย ผมยังขับเกิน กม. กำหนดไปนิดเดียว ไม่ใช่ขับเกินเป็นปกติ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ก่อนอื่นผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่อาจจะพิมพ์ไปไม่โอเคนักครับ ผมไม่ได้มีเจตนาอื่น และผมต้องขอขอบคุณมากเลยครับที่เข้ามาเตือนสติ ผมอาจจะมีความคิดแตกต่างจากคนอื่นครับ เรื่องการขับรถเร็วก็เช่นกัน ปกติแล้วสำหรับผมจะขับเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับรถ และ ถ้าไม่ปลอดภัย ถนนรถเยอะ ผมก็ไม่ขับเร็วครับ ที่ผมขับเร็ว ผมขับแค่บนทางด่วนเวลารถโล่งๆ หรือเดินทางกลับต่างจังหวัด ตอนตี 1 ถึง ตี 3 ครับ ผมขับเร็วจนเคยชินจึงแทบจะขับช้าตอนเดินทางต่างจังหวัดไม่ได้เลย ยกเว้นกรณีรถช่วงล่างแย่จัดผมก็ไม่กล้าขับเร็ว หรือจะไม่เอามาขับเลยครับ
ขอโทษอีกครั้งนะครับ -/-
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Galaxy Note 20
ขอบคุณที่มาอธิบายครับ แต่ก็ยังขอเตือนด้วยความเป็นห่วง (ทั้งคุณและเพื่อร่วมทาง) ลองคำนวณดูจริงจัง จะพบว่า การขับ 130 กับ 110 บนมอเตอร์เวย์ ระยะทางไม่กี่สิบโล มันถึงที่หมายต่างกันไม่กี่นาทีเองนะครับ ผมเคยขับเร็วมาก่อน (แค่ 120 นะ) แล้วเมียด่าว่า "มึงมาถึงบ้านเร็วขึ้นสองสามนาที เทียบแล้วมันคุ้มมั้ยกับความเสี่ยงที่มึงจะมาไม่ถึงบ้านเลย" ประโยคเดียวจบเลยครับ ไม่รู้จะเถียงยังไง เลยค่อย ๆ ลดความเร็วตัวเองลง แล้วพบว่าทำให้ตัวเองรอดจากอุบัติเหตุ (ที่คนอื่นเป็นสาเหตุ เช่นขับปาด เบรคกระทันหัน ไม่เปิดไฟเลี้ยว) ได้หลายครั้งเลย เลยไม่กล้าขับเร็วกว่านี้ละ นับวันมีแต่จะขับช้าลงๆ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ไม่รู้สมัยนี้เป็นอยู่เปล่าท่ tasla บางทีก็หักพวงมาลัยออกนอกเส้นทางเอง ถ้าแบบนี้น่ากลัว ถึงจะจับพวงมาลัยตลอด อยู่ๆ รถก็หักออกนอกเส้นทางเองงี้ตกใจ
แต่ไม่ว่ากรณีไหน ถึงคนขับสนใจทางตลอดแต่กว่าจะตัดสินใจว่ารถขับถูกแล้วหรือมันค่อยๆ หักหลบให้นี่ มันก็คงช้าไป
ประเด็นนี้น่าสนใจ กรณีรถทำอะไรบางอย่างเอง เราจะเกิดการไม่แน่ใจขึ้นช่วงหนึ่ง เป็นจังหวะที่อันตรายมาก
จากเหตุการณ์นี้ หุ้นดิ่งแน่
วิกฤตกันต่อเนื่องเลยทีเดียว
musk จะประคองบริษัทไปยังไงล่ะเนี่ย
เดี๋ยวคงมีพี่บิ๊กรอช้อนอยู่มั้งครับ
ไม่แปลก..กว่าเครื่องบินจะบินได้ปลอดภัยอย่างทุกวันนี้ ก็ผ่านการลองผิดลองถูกจนสูญเสียชีวิตมหาศาล สิ่งนี้ก็เช่นกัน
ผมเห็นด้วยกับ comment ท่านหนึ่งที่ Blogonone (จำไม่ได้ว่าท่านไหน ขออภัยด้วย) ที่บอกว่าควรเปลี่ยนชื่อ auto pilot เป็นอย่างอื่นแทน เพราะระบบยังทำงานไม่ได้ถึงระดับความหมายของคำนี้
That is the way things are.