Uber เปลี่ยนนโยบาย หากมีเหยื่อถูกคุกคามทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารหรือพนักงานในบริษัท Uber จะใช้ อนุญาโตตุลาการในการอ้างสิทธิ์ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งวิธีนี้เป็นที่วิจารณ์มานานว่าเป็นช่องทางทำให้เหยื่อปิดปากเงียบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อนุญาโตตุลาการ คือ การระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม โดยคู่กรณีอาจเลือกบุคคลที่สามเป็นอนุญาโตตุลาการจำนวนหนึ่งคนหรือหลายคนเป็นคณะอนุญาโตตุลาการก็ได้ โดยอนุญาโตตุลาการจะทำหน้าที่วินิจฉัยการชี้ขาดข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่เพียง Uber ที่ใช้ช่องทางนี้แต่หลายบริษัทเวลามีกรณีฟ้องร้องแรงงานก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน
ภายใต้นโยบายใหม่ของ Uber นี้ เหยื่อจะมีทางเลือกในการฟ้องร้อง สู้คดีได้มากขึ้น ทั้งการไกล่เกลี่ย, การใช้อนุญาโตตุลาการ และขั้นศาล
นอกจากนี้ Uber ยังให้เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายไม่ต้องลงนามในข้อตกลงการรักษาความลับ เหยื่อสามารถบอกเล่าเรื่องราวที่ตนเจอมาได้ แต่ยังมีข้อแม้เรื่องเงินชดเชยที่ได้รับจาก Uber ยังคงต้องเป็นความลับอยู่ หลังจาก Uber ออกนโยบายนี้มา Lyft ก็ทำตามด้วยเหมือนกัน การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเงื่อนไขที่ดีขึ้นต่ออุตสาหกรรม โดยเฉพาะ Uber ที่เรื่องการคุกคามทางเพศเป็นปัญหาเรื้อรังจนทำให้ต้องปฏิรูปองค์กร
ภาพจาก Uber
Comments
ตั้งแต่เปลี่ยน CEO ใหม่ ดูอะไร ๆ ก็ดีขึ้นนะ
เสียดายที่หลุดจากประเทศนี้ไปแล้ว
คล้ายๆกับ MS เลยนะ
ตกลง "จะใช้"(ตามในข่าว) หรือ "จะไม่ใช้"(ตามที่พาดหัวข่าว) กันแน่ครับ
ในเนื้อข่าวน่าจะตกคำว่า "จากเดิม" ไปครับ