Tags:
Node Thumbnail

จากข่าวเก่า MySpace, Facebook, Google แข่งเปิด API สำหรับ Social Network ผ่านไปไม่กี่วัน สมรภูมิใหม่นี้ก็ร้อนแรงเต็มที่เมื่อ Facebook สั่งแบน Google Friend Connect ไม่ให้เชื่อมต่อเข้ากับข้อมูลผู้ใช้ใน Facebook โดยให้เหตุผลด้านความเป็นส่วนตัว

เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อนพอสมควร (ผมอ่านตอนแรกก็งงๆ) ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า Google Friend Connect คืออะไร

Google Friend Connect

บริการ Facebook Connect และ MySpace Data Availability นั้นเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะทั้งสองเจ้าเป็นผู้ให้บริการ social network รายใหญ่ ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีของจริงให้ลองเล่น แต่สามารถอธิบายแบบง่ายๆ ได้ว่า เป็นการเอา profile และเพื่อนของเราบน Facebook หรือ MySpace ไปใช้บนเว็บไซต์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ของเราเอง หรือเว็บแอพพลิเคชันอย่าง Digg, Flickr หรือ Twitter แต่เป้าหมายหลักของทั้ง Facebook และ MySpace คือแบบหลัง ซึ่งบริการเปิดใหม่ทั้งสองอันจะออกมาในรูป API ให้เว็บอื่นเรียกใช้ มากกว่าให้ผู้ใช้มาเกี่ยวข้องโดยตรง (ยกเว้นว่าผู้ใช้มีความสามารถ อยากเขียนโปรแกรมติดต่อกับ API บนเว็บตัวเอง นั่นอีกเรื่องนึง)

แต่ Google Friend Connect จะต่างไปพอสมควร สาเหตุที่สำคัญเป็นเพราะกูเกิลไม่มี social network ของตัวเอง (จริงๆ มี Orkut แต่ก็ไม่ใหญ่มาก) กลยุทธ์ของกูเกิลคือทำตัวเป็นคนกลาง ระหว่างผู้ใช้กับบรรดา social network ต่างๆ (ซึ่งกูเกิลหมายถึง Facebook และ MySpace ด้วย) เป้าหมายของกูเกิลคือตัวผู้ใช้โดยตรง กรณีตัวอย่างคือเจ้าของเว็บบล็อกสามารถใส่ความสามารถของ social network ลงบนบล็อกตัวเองได้ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดสักนิด แค่เอา gadget ของ Google Friend Connect ไปแปะ ที่เหลือกูเกิลดูแลต่อให้

ตอนนี้ Google Friend Connect ยังไม่เปิดให้เอา gadget ไปแปะไว้บนเว็บทั่วไป แต่เราสามารถลองเล่นเป็นผู้ใช้ บนเว็บไซต์ตัวอย่างของกูเกิลได้แล้ว ลองเล่นกันก่อนเพื่อให้เห็นภาพดีกว่า

เว็บไซต์ที่กูเกิลเอามาโฆษณาคือ เว็บของนักดนตรีหญิงชื่อ Ingrid Michaelson ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของบล็อกเกอร์ที่มีเว็บประชาสัมพันธ์ผลงานของตัวเอง เข้าไปที่หน้าแรกจะเห็นดังภาพ

alt="Picture 6"

ในกรอบด้านล่าง (เริ่มตั้งแต่ลูกศรชี้) จะเป็น gadget ของ iLike ซึ่งเป็นพันธมิตรของกูเกิลในโครงการนี้ iLike จะแชร์ข้อมูลเพลง, ตารางคอนเสิร์ตของศิลปิน หรือกระดานสนทนาสำหรับแฟนของศิลปินคนนั้นๆ ซึ่งแอพพลิเคชัน iLike ที่อยู่บน social network อย่าง Facebook ก็จะเป็นสมาชิกของ Facebook ที่มาร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าศิลปินคนนี้ดีอย่างไร จะไปคอนเสิร์ตไหม ฯลฯ

แต่พอมาเป็น Google Friend Connect แล้ว เราต้อง sign in ก่อนเพื่อบอก iLike ว่าเรามาจากไหน

alt="Picture 4"

ในหน้า sign in เข้าระบบของ Google Friend Connect จะต้องใช้ Google Account อันนี้ไม่น่าแปลกใจ ก่อนเข้าใช้งานแต่ละแอพพลิเคชัน จะต้องกด Accept อีกรอบหนึ่งด้วย (ในภาพชื่อแอพพลิเคชันเป็น Recipe คนละอันกับ Ingrid Michaelson เพราะผมขี้เกียจจับภาพหน้าจอใหม่)

เมื่อล็อกอินเข้าระบบเรียบร้อยแล้ว ขั้นถัดไปคือเลือกว่าเราจะใช้ตัวตน (identity) จาก social network อันไหน สำหรับเว็บไซต์นี้

alt="Picture 5"

หน้าจอนี้มีรายละเอียดนิดหน่อย

  1. เลือกชื่อที่ใช้แสดง
  2. เลือกว่าจะดึงข้อมูลอะไรมาจาก social network บ้าง (เช่น ดึงเฉพาะรูป หรือดึงรายชื่อเพื่อนด้วย)
  3. เป็นตัวเลือกด้านความเป็นส่วนตัว ว่าอยากให้แจ้งกลับไปยัง social network ไหมว่าเรามาป้วนเปี้ยนแถวนี้ (คล้ายกับตัวเลือกว่าให้แสดงใน minifeed ของ Facebook หรือเปล่า)
  4. social network ที่มีให้เลือกในขณะนี้ สังเกตคำว่า disabled by Facebook

เนื่องจากผมไม่มี Orkut ให้ลอง, Hi5 ยังเป็น coming soon อยู่ แถม Facebook ก็ดันโดนแบน ผมเลยมีตัวเลือกเดียวในการทดสอบคือ Google Talk

เสร็จเรียบร้อยทุกขั้นตอนแล้ว จะเห็นหน้าจอดังภาพ

alt="Picture 7"

แถบด้านบนของหน้าจอจะแสดงว่าเราล็อกอินเข้ามายังเว็บไซต์ของ Ingrid แล้ว สามารถโพสต์ข้อความได้ แต่ในส่วนของรายชื่อเพื่อนนั้น ยังเป็นเหมือนตอนก่อนล็อกอิน จุดนี้ต่างจากโฆษณาของกูเกิลที่ว่า เราจะเห็นรายชื่อเพื่อนที่มาจาก social network เดียวกัน (ในที่นี้คือเพื่อนของผมใน GTalk ที่ล็อกอินเข้า Ingrid Michaelson เหมือนกัน) ซึ่งเป็นไปได้ว่ายังไม่มีใครทำแบบนั้น หรืออีกอย่างคือเป็นความไม่สมบูรณ์ของ Friend Connect เองที่ต้องรีบเข็นออกมาสู้คู่แข่ง ใครที่ลองเล่นตามแล้วเห็นชื่อผมก็แจ้งมาในคอมเมนต์ด้วยนะครับ

สรุปว่า Google Friend Connect เป็นคนกลางระหว่าง social network, ผู้ใช้ และเจ้าของเว็บไซต์ เจ้าของเว็บไซต์ที่อยากใช้พลังของ social network ที่มีอยู่แล้ว สามารถทำได้ง่ายๆ โดยผ่าน Friend Connect ขอแค่มีแอพพลิเคชันที่สนับสนุนตรงใจเราก็พอ (ในกรณีนี้คือ iLike) ตอนนี้เราอาจยังเห็นภาพของ Friend Connect ไม่ชัด แต่ว่าหลังจากกูเกิลเปิดตัวเต็มที่ มีของจริงให้ลองใช้บนเว็บตัวเอง เราจะสามารถประเมินศักยภาพของ Friend Connect ได้มากขึ้น

Facebook vs Google Friend Connect

ทีนี้มาถึงประเด็นของข่าวที่ว่า Facebook สั่งแบน Frienc Connect สาเหตุตามที่แถลงในบล็อกของ Facebook นั้นบอกว่า Google Friend Connect ละเมิด Developer Terms of Service ของ Facebook เรื่องความเป็นส่วนตัว

ใน Developer Terms of Service (หมวด 2B(4), 2B(5) และ 2A9(vi)) ของ Facebook นั้นระบุว่า "ใครก็ตามที่ดึงข้อมูลของสมาชิก Facebook ไปใช้ ไม่สามารถเก็บ (store) ข้อมูลนั้นไว้หรือส่งไปยังแอพพลิเคชันอื่นๆ โดยไม่แจ้งผู้ใช้ล่วงหน้า" ประเด็นสำคัญมี 2 ข้อคือ เก็บข้อมูลไม่ได้ (แปลว่าต้องเรียกข้อมูลใหม่ทุกครั้ง เป็น realtime) และต้องแจ้งล่วงหน้าเสมอ

Facebook มองว่าการที่ Google Friend Connect ทำตัวเป็น "คนกลาง" (ดึงข้อมูลผู้ใช้จาก Facebook แล้วส่งต่อให้เว็บอื่นๆ อย่าง Ingrid Michaelson อีกทอด) นั้นขัดกับเงื่อนไขของ Facebook ที่ไม่อนุญาตให้เก็บข้อมูล เพราะผู้ใช้ Facebook จะเห็นแค่ว่า Google Friend Connect มาขอข้อมูลไป แต่ไม่เห็นว่าข้อมูลถูกส่งไปถึง iLike ทำให้อาจมีปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวได้

Facebook จึงแบน Google Friend Connect ไม่ให้เข้าถึง API ของ Facebook ตามที่แจ้งในบล็อก แต่ก็ให้ข้อมูลว่ากำลังคุยกับคนของกูเกิลว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร และทิ้งท้ายแบบสวยๆ ไว้อีกว่า Facebook เชื่อว่า MySpace Data Availability, Google Friend Connect และ Facebook Connect จะเป็นก้าวสำคัญของอินเทอร์เน็ตในอนาคต

ทางกูเกิลออกมาตอบโต้ว่า ผู้ใช้นั้นสามารถ Unlink เว็บที่ตัวเองเคยเชื่อมต่อไว้ได้ตามต้องการ (ดูในภาพที่สาม ตรง Gtalk จะมีลิงก์ Unlink ต่อท้าย) และการที่ Friend Connect ไม่สามารถแจ้งกลับไปยังผู้ใช้ Facebook ได้ว่าส่งข้อมูลไปให้กับ Ingrid Michaelson ก็เป็นเพราะ Facebook ไม่มี API ส่วนนี้เองต่างหาก

ปฏิกิริยาต่อเรื่องนี้แบ่งเป็น 2 ฝ่ายครับ ฝ่ายแรกสนับสนุนการกระทำของ Facebook (ตัวอย่าง) โดยให้เหตุผลว่าเงื่อนไขของ Facebook นั้นมีมานานแล้ว และการตัดสินใจแบนของ Facebook เป็นการปกป้องลูกค้าของ Facebook เอง ส่วนอีกฝ่ายมองว่าการแบนนี้เป็นแค่ข้ออ้าง เพราะว่า Facebook กำลังจะออก Facebook Connect ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกันมาแข่ง เมื่ออาศัยว่า Facebook เป็น social network ที่ฮิตติดตลาด (ในโลกตะวันตก) ไปแล้ว มีอำนาจต่อรองสูง การแบน Google Friend Connect ไว้ก่อนจะช่วยเพิ่มโอกาสของ Facebook Connect มากขึ้น

ทางออกที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดของข่าวนี้ คงเป็นการเพิ่ม API ของ Facebook ให้แอพพลิเคชันอื่นที่มีลักษณะเดียวกับ Google Friend Connect สามารถแจ้งข้อมูลกลับมาได้ แต่ API จะมาเมื่อไรนั้นเป็นสิทธิ์ของ Facebook แต่ฝ่ายเดียว เป็นไปได้ว่ากว่า API จะออก Facebook Connect ก็เบียด Google Friend Connect ไปได้แล้ว

ที่มา - TechCrunch (อ่านตามลำดับ)

Get latest news from Blognone

Comments

By: tr
Writer
on 16 May 2008 - 22:55 #51906

ต้องฟัดกันอีกนาน...

By: macxide
iPhoneAndroid
on 17 May 2008 - 01:48 #51924

อาจจะถูก microsoft กดดันก็ได้

macXide กล้าคิดเพื่อโลกของความเป็นจริง - อาหารเสริมนี้ดีจริง...

By: HyBRiD
ContributoriPhoneSymbianUbuntu
on 17 May 2008 - 01:54 #51926 Reply to:51924
HyBRiD's picture

ซับซ้อนจริงๆ

NERD GOD

By: sugree
FounderWriterAndroidBlackberry
on 17 May 2008 - 02:31 #51931

ทำเองใส่เองได้มั๊ยหนอ ใส่ Blognone เข้าไปด้วย

By: azx
iPhoneWindows
on 17 May 2008 - 04:11 #51942
azx's picture

้้hi5

By: au8ust
AndroidSymbianWindows
on 28 May 2008 - 22:59 #53076

ไม่ค่อยเข้าใจแฮะ ดูเหมือนจะซับซ้อนนิด ๆ

au8ust.org

By: fujitarc on 8 December 2008 - 02:58 #74756

กลัวโดนแย่งเครือข่ายมากกว่ามั้ง

By: juliusds
AndroidUbuntuWindows
on 1 April 2011 - 11:22 #274081
juliusds's picture

เพราะ +1 ป่าว