ฟีเจอร์ Wi-Fi Sync ของ iOS 5 นั้น โดยหน้าที่หลักแล้วจะทำการเชื่อมต่อกับ iTunes บนเครื่องแมคหรือพีซีเพื่อซิงค์หรือแบ็คอัพข้อมูล (เช่น หนัง โชว์ทีวี หรือภาพถ่าย) ผ่านการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi
แต่เรื่องของเรื่องก็คือ ฟีเจอร์นี้ดันมีหลักการทำงานแบบเดียวกับแอพ Wi-Fi Sync (ชื่อเหมือนกันอีกต่างหาก) ของนักพัฒนาแอพ iOS ชื่อ Greg Hughes
เล่าประวัตินิดนึงว่า แอพนี้ของ Greg Hughes เคยถูกส่งไปให้ App Store ของแอปเปิลเมื่อเดือนเมษายน 2010 และหนึ่งเดือนหลังจากนั้นมันก็ถูกถอดออกไปด้วยสาเหตุที่เขาได้รับแจ้งทางอีเมลว่ายังมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย
Hughes บอกว่า ในอีเมลนั้นยังมีเขียนคำชมเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอพของเขาว่าเขาทำได้ดีและน่าชื่นชม
"ทีมวิศวกรด้านไอโฟนของแอปเปิลบอกกับผมอีกว่า 'ประทับใจ' กับแอพนี้มาก" Hughes กล่าวเสริม
แต่อย่างไรก็ตาม Hughes ก็ส่งแอพนี้ลงสู่ Cydia แทน และขายในราคา 9.99 ดอลลาร์ ซึ่งตลอด 13 เดือนที่ผ่านมามียอดดาวน์โหลดมากกว่า 50,000 ครั้ง
ในขณะที่ทุกอย่างดูเหมือนผ่านไปได้ด้วยดี งานแถลง WWDC 2011 ของแอปเปิลเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2011 เป็นอะไรที่ทำให้เขานั้นค่อนข้างตกใจกับสิ่งที่แอปเปิลประกาศออกมา นั่นคือ "Wi-Fi Sync"
สิ่งที่ Hughes ตกใจไม่ใช่แค่ชื่อที่เหมือนกับแอพของเขา แม้กระทั่งไอคอนยังค่อนข้างคล้ายกันมาก
ภาพเปรียบเทียบโลโก้ Wi-Fi Sync ซึ่งของ Hughes อยู่ทางซ้าย ส่วนของแอปเปิลอยู่ทางขวา
"ชัดเจนเลยว่าผมตกใจพอสมควร" Hughes กล่าวกับ The Register ซึ่งเป็นเว็บข่าวสารเกี่ยวกับเทคโนโลยี "ผมขายแอพนี้ด้วยชื่อนี้และไอคอนแบบนี้มากกว่า 1 ปี แอปเปิลเขารู้เพราะผมเคยส่งแอพนี้ให้พวกเขา เพราะฉะนั้นผมประหลาดใจสุดๆ ในงานแถลง WWDC ครั้งนี้"
ส่วนแผนการในอนาคตต่อจากนี้ Greg Hughes ก็ยังไม่ได้วางแผนว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร
ที่มา: The Register, Engadget
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ไม่ต้องทำอะไรแล้วพ่อหนุ่ม ฟ้อง ๆ ๆ ๆ รวยแล้วคราวนี้
อยู่ดีๆ ก็เหมือนถูกหวย
เกรงว่า Dev จะไม่ได้จดสิทธิบัตร แต่ Apple ชิงจดไปก่อนนะสิครับ
ยิ่งเจ้านั้นจดไวอยู่ด้วย = =
หมายถึงสิทธิบัตรของ Wi-fi Sync หรือของ logo ครับ
Wi-fi Sync น่าจะจดไม่ได้ หรือถ้าได้ก็คงมีคนจดไปนานแล้ว
ส่วน logo มันจดไม่ได้อยู่แล้วนิครับ ได้ก็ได้แต่จดเครื่องหมายการค้า (trademark)
ลิขสิทธิ์ซอฟท์แวร์ก็อาจจะมีปัญหาหรือเปล่า เพราะต้องใช้วิธี jailbreak ก่อน ซึ่งเป็นวิธีที่ Apple ไม่รองรับ
มันเคยอยู่บน app store
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ฮา อันนี้เต็มๆ
แต่ของดีแบบนี้เดี๋ยวก็เคลียร์กันได้หลังฉาก
ผมไม่แน่ใจนะ คือเคยเรียนกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิ์ต่าง ๆ มาแค่ตัวเดียว เห็นว่ากันว่าจริง ๆ แล้ว งานต่าง ๆ ที่ทำออกมาล้วนแล้วแต่ได้รับการคุ้มครองเรื่องความเป็นเจ้าของทั้งนั้นตั้งแต่สร้างเสร็จ แต่อาจจะต้องมีเงื่อนไขที่ทำให้คนอื่นรู้ว่าเป็นของเรา
กรณีนี้ ถ้ายากย่อหน้าแรกของผมถูกต้อง ผมคิดว่าเขาอ้างอิงความเป็นเจ้าของได้ไม่ยากเลย และน่าจะเรียกร้องได้ว่าเขาเป็นคนพัฒนาระบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะชื่อ ตัวโปรแกรม หรือไอคอนก็อาจจะเรียกร้องได้ด้วยซ้ำว่าคล้ายกัน
ไม่แน่ใจนะครับว่าผมเข้าใจถูกไหม
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
ถูกแล้วครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่ากฏหมายเมกาเหมือนบ้านเรารึเปล่านี่สิ
ว่ากันไปตามหลักฐานครับ กรณีนี้ถ้าเขาฟ้องเขาน่าจะชนะ (พยานเป็นล้าน)
@TonsTweetings
เจ้าของอันนั้นคือเจ้าของ "ลิขสิทธิ์" ครับ หมายความว่าคนอื่นเอางานของเรา (แบบเหมือนกันเป๊ะ ๆ หรือ derivative) ไปใช้ไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น กรณีขโมยภาพถ่ายจากเว็บไปใช้ในหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารในไทยครับ
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าใคร ๆ ก็สามารถทำสิ่งที่หน้าตาคล้ายกันหรือ feature เหมือนกันได้ครับ เราเลยเห็น OS ที่ทำงานได้เหมือน ๆ กัน แต่ก็ไม่มีใครฟ้องใคร หรือเรียกอีกอย่างว่าเราไม่สามารถจด "สิทธิบัตร" งาน design หรือ feature ของโปรแกรมได้ครับ
แต่เราก็สามารถจด implementation ของ idea เป็น "สิทธิบัตร" ได้ครับ แม้จะมีคนไม่เห็นด้วยมากมาย แต่ก็มีการจด algorithm ต่าง ๆ กันเต็มไปหมด
ถูกต้องตามนั้นครับ อารมณ์เหมือนสิทธิบัตรข้าวหอมมะลิเนอะ อยู่ๆ ก็จะกลายเป็นของใครก็ไม่รู้
ผมเข้าใจว่าที่จด นั่น คือ หอมมะลิ ที่นำไปพัฒนาสายพันธ์ นะครับ ไม่ใช่ หอมมะลิ ต้นตำรับ ซึ่ง มันก็น่าท่จะ จดได้
ถ้าเราจดสายพันธุ์ไว้แล้ว แล้วจะมีคนนำไปปลูก หรือพัฒนาต่อ ก็ต้องขอเราก่อนนะครับ
แม้แต่ผลผลิตที่ได้จะเก็บไว้แล้วปลูกต่อก็ทำไม่ได้
เอาให้หนักๆเลยนะ
KONFABULATOR,2nd
เกิดขึ้นอีกครั้ง.. . . 2nd Edition.
จัดหนักไปเลย...
แก้หมดแล้วครับ ขอบคุณครับ :)
จริงๆ อยากให้ Founder ลงคำว่า sync ใน Blognone Glossary ด้วย เพราะผมค้นหาคำว่า sync เขียนเป็นภาษาไทยจากข่าวเก่าๆ (ปกติผมทำแบบนี้เวลาหาศัพท์ใน Glossary ไม่เจอ) เห็นคุณ mk เขียนมาสองแบบ (1,2) ก็เลยเลือกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง (สับสนในชีวิตอีกแล้ว แล้วผมเลือกผิดทุกที 555+)
ขอโทษทีที่ตอบช้าไปนิด ผมเพิ่งเห็นคอมเมนต์นี้ครับ
คำว่าซิงค์หรือซิงก์นี่ ผมพยายามหาแล้วก็ไม่มีเหมือนกันว่าควรเขียนยังไงครับ ก็เอาเป็นว่าได้ทั้งสองแบบแล้วกัน
โอ้ ขอบคุณครับคุณ mk
(เพิ่งเห็นคอมเม้นต์นี้เหมือนกัน 5555+)
ไม่ใช่ได้ไอเดียมาจาก Zune หรือไง = =
+1
ใน WP7 ชื่อ WIRELESS SYNC
คิดถึงเคส Flash of Genius ขึ้นมาทันที
WOW
ซักพัก Apple จ่ายเงินพร้อมจ้างมาเป็นพนักงาน win-win ทั้งคู่
คนนอก: เหรอออ?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
+1
ถ้า apple ไม่ตอบแทนเลย ก็น่าสงสารเค้าเหมือนกันนะ
ที่ตอนแรก ไม่ได้เข้า app store แถบโดนยึดผลงานมาเป็นของตัวเองอีก
แต่ถ้า จ่ายเงินให้ แล้วจ้ามาทำงาน ก็โอเคเลย คนเก่งมีฝีมือ
น่าสนับสนุน
ได้ข่าวว่าแอปเปิลฟ้ิองเค้าไว้เยอะ อยากเห็นไม้ซีกงัดไม้ซุงจัง
ของนายคนนี้มัน Sync with iTunes ไม่ใช่หรอ ไม่ใช่ Cloud
มีฟีเจอร์นี้ใน ios5 ครับ
Wi-Fi Sync iOS 5 ก็คือการซิงค์กับ iTunes ครับ (ต้องเสียบสายชาร์ตก่อนด้วยนะ)
คนละอันกับ iCloud เน้อ อย่าเพิ่งสับสน ^^
อ้าว ขอบคุณคับ -.-" ผมนึกว่ามันผ่าน Cloud เลย ฟีเจอร์ตีกันมั่วเลย งง สงสัยต้องนั่งอ่านให้ละเอียด
คิดถึงคนต้นคิด ipod ขึ้นมาซะงั้น มีเพื่อนร่วมชะตากรรมแล้ว
แฮกเกอร์ล่ะว่ายังไง? นี่มันเหมือนกับดราม่าค่ายเกมส์เลยนะเนี่ย
ปล.เชิญตบกันกลางสี่แยกนู่นไป.....
สี่แยกไม่ว่างมีคู่อื่นตบกันอยู่ก่อนแล้ว
รบกวนแนะนำที่อื่นด้วย พล็อตพิกัดใน Google Maps มาเลยจะดีมาครับ
พิกัดคราวที่แล้วที่ผมให้ ไปมารึยังครับ (แซวแล้วหนี ฟิ้วววววววววว)
ไปมาแล้วครับ หน้าแหกกลับมาเรียบร้อย
แอ่ฟฟฟฟ
แถวนี้คงไม่ว่างครับ :P
เจ้านึงอุ้มเฟอร์นิเจอร์ อีกเจ้านึงอุ้ม App ชงกินเอง เทพจริงๆ lol
Apple คงไม่ได้เพิ่งได้ไอเดียหรอกมั้งครับ เพราะมีคนเรียกร้องให้มี wifi sync ตั้งนานแล้ว
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เข้าใจว่าหมายถึงไอเดียทางเทคนิคว่าจะ implement แบบไหนดีอย่างนั้นหรือเปล่า
App ตัวนี้ผมซื้อมาจาก Cydia ด้วยราคาเต็ม $10 ครับ ตั้งแต่ซื้อมา 6 เดือนใช้งานได้จริงแค่ 2-3 อาทิตย์ หลังจาก Apple ทำการอัปเดต iTunes 10.1 แอปตัวนี้ก็ไม่สามารถใช้งานได้อีกเลย ผมส่งอีเมล์ไปหาคนเขียนแอป 3 ครั้ง ไม่มีแม้แต่เมล์ตอบกลับ ขอเงินคืนก็ไม่ได้
คราวนี้ผมเข้าข้างแอปเปิ้ลนะครับ หากแอปเปิ้ลไม่ดึงแอปตัวนี้มาก็ค่าเท่ากัน คือไม่มี Wifi Sync ให้ใช้งาน แถมเสีย 10 ดอลไปฟรี ๆ
I paid $10 for this app 6 months ago. Since Apple released iTunes 10.1, developer has not updated it at all.
I think I have the right to blame this developer since he took $10 from me.
I sent email asking him to update in order to support iTunes 10.1 or higher but that never happened.
For me it would be better that Apple took his app. At least I still use WiFi Sync
I would go for Apple this time.
ไม่มีอะไรครับ แต่คนเดียวกันใช่มั้ยครับ ผมก็ว่าผมคุ้นๆประโยคนี้ใน engadget :P
ใช่คับผม ยังมีของกรณี Celeste อีกตัวที่ผมจ่ายตังซื้อมาแล้วเกิดปัญหาเดียวกัน
ถึงผมจะเจลเบรก แต่ผมก็นิยมการซื้อแอปแท้ แต่พอเจอแบบนี้บ่อย ๆ ก็เซงครับ
ผมว่าไม่ได้จดสิทธบัตรหลอก คงทำอะไรไม่ได้
ฟ้องไปคงเอาผิดอะไรไม่ได้หรอกมั้ง
แต่ที่แน่ๆมันรู้สึก "น่าเกลียด" ว่ะ
ถ้าเรื่องเป็ฯตามที่ว่าไว้ทั้งหมดนะ
anonymous group จะว่าไงครับ
shame on you!!!
Happiness only real when shared.
หัวข้อไหน เป็นข่าวที่เกี่ยวกับแอปเปิ้ล หัวข้อนั้น และมีคนตอบไว และยาว อย่างรวดเร็วเสมอ ..เอเมน
น่าเกลียดมากครั้บ apple (ถ้าเป็นจริงตามข่าวนะ)
ทีตัวเองฟ้อง samsung ว่าเลียนแบบหน้าตาของ iphone แล้วตัวเองมาทำแบบนี้ เอ๊อ...
เลียนแบบโปรแกรมเขา แล้วยังเลียนแบบ icon เขาอีก
ที่แปลกใจคือ ทำไทถึงถอนโปรแกรม Wi-Fi Sync ออกจาก App Store
ดราม่า
ไม่น่าทำออกมาเลียนแบบเค้าเลยเนอะ แอปเปิ้ล ทำออกมาก็โดนด่าว่าเลียนแบบเขาเปล่า ๆ ใช้ USB sync เหมือนเดิมไปน่ะดีแล้ว ปล่อยให้ยี่ห้ออื่นใช้ไปน่ะดีแล้ว อย่าไปมีมันเลย 55+
ดราม่ามะ หึหึ
บริษัทใหญ่ ทำเรื่อง ไร้จรรยาบรรณ ไม่รู้ว่าอนาคตจะมีอะไรทำนองนี้ออกมาอีกรึเปล่า
น่าจะจบลงด้วยดีมั้ง อาจจะจ่ายตังค์ประนีประนอม แล้วก็รับเข้าทำงาน
เห็นในต้นฉบับบอกว่ามีถามหา CV ด้วย คงอยากรับเข้าทีมมากเลย
อ้างอิง
“They did say that the iPhone engineering team had looked at it and were impressed,” Hughes told El Reg. “They asked for my CV as well.”
ฟ้องเรียกค่าเสียหายอาจจะรวยเร็วกว่าไปนั่งทำงานงกๆ ก็ได้นะครับ 555
ก็จริงนะครับ แต่คงอัพ app อื่นขึ้นไม่ได้อีกเลย 5555
งั้นฟ้องเลยแล้วรีบมาอยู่กับ ทีมด๋อยไวๆ ดีกว่า แหะๆๆ
ทีมด๋อย <-- แรงไปป่าวครับ
??? งงครับ แรงยังไงอ่า
หมายถึงทีม Dev ของคู่แข่งป่าวครับ หรือผมอาจจะเข้าใจผิด
ด๋อย = Android ครับ
ไม่ใช่คำด่า เป็นแค่วิธีเรียกแบบสั้นๆ ฮาๆ
OK เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณครับ 5555
ผมก็เรียกด๋อยนะ ...
พักหลังๆ ดูเหมือนจะมีข่าวที่ชี้ว่า Apple เห็นแก่ตัวมากขึ้น จนนับไม่ถ่วน
ตอนนี้ผมคิดว่ามันเลยเถิดไปไกลพอสมควรจริงๆ
ไม่รู้ทำแบบนี้หนักๆเข้า เวรกรรมจะตามทันหรือเปล่า
Yes, it's year of copycat.
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
Windows 7Wi-fi Sync was totally my idea. 555+งงว่าทําไมถึงคิดว่า Apple ผิดล่ะ
เช่น มีคนทําโปรแกรมให้คุย FaceTime ผ่าน 3G ได้ ซึ่งย่อมโดนถอดออกจาก AppStore แล้วก็ไปลงเอยใน cydia เหมือนรายนี้
เกิดต่อมา Apple ประกาศอนุญาติให้ใช้ผ่าน 3G ได้ ก็คงไม่มีใครไปบอกว่า apple ไปลอกมาใช่มั้ยครับ
กรณีคล้ายๆกัน ลักษณะโปรแกรมก็เหมือนๆกัน คือปลดล็อกให้ sync ผ่าน wifi ได้
รู้สึก FaceTime ผ่าน 3G ได้นี่มันจะมีเพิ่มมาด้วยหน่ะสิครับ แล้วก็มีคนใน Twitter บอกว่า Apple ไปลอกมาด้วยเหมือนกัน
ปัจจุบันจริงๆใช้ FaceTime ผ่านสามจีได้ครับ แต่ต้องเจลเบรกเอา
และ iOS 5 ทางแอปเปิลเริ่มเปิดให้ FaceTime ใช้ผ่านสามจีได้แล้ว อ่านข่าวเก่าๆดูครับ ^^
ผมพอเข้าใจละว่าในมุมมองของคนทั่วไปมันดูไม่ต่างกันมาก ถึงว่าไม่ค่อยมีคนเห็นใจ developer
คือ facetime เนี่ย จะวิ่งผ่าน wifi หรือ 3g มันก็ใช้โปรโตคอลเดียวกันเป้ะๆครับ apple แค่เขียนโค้ดกันไว้ไม่ให้ใช้เท่านั้นเอง แต่การทำ itunes sync ผ่าน wifi นี่มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ เพราะปกติมันวิ่งผ่าน usb ที่ใช้โปรโตคอลแบบนึง พอไป hack ให้มันย้ายไปวิ่งผ่าน wifi ด้วยโปรโตคอลอื่นได้นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ
ก็ดราม่ากันไป... หากท่านนักพัฒนาไม่เหลือใคร... XDA Android Team พร้อมเข้าร่วมทีมเสมอน๊ะจ๊ะ
(เผลอๆได้รับ SGSII ฟรีเหมือนนาย Darky's, Cyanogen ก็ได้นะ อิอิ
ขออภัย.. . . เบิ้ล ครับ
ว่ากันตามกฏหมายนะครับ หาก Apple ไม่ได้ก๊อบโค้ดแม้สักบรรทัดเดียว
แค่ใช้แนวคิดดังกล่าว Sync ผ่าน WiFi แล้วพัฒนาขึ้นเองทั้งหมด แบบนี้ผิดกฏหมายด้วยหรือครับ
เท่าที่ผมทราบมันไม่ผิดไม่ใช่หรอครับ เว้นแต่จะเป็นสิทธิบัตรเท่านั้น
อีกประเด็นต่อเนื่องมาอาจจะเป็นเรื่องชื่อที่เหมือนกันแป๊ะๆ อันนี้ผมมองว่าก็ด้วยเทคโนโลยีที่ใช้แล้ว มันก็ยากที่จะหลบไปใช้ชื่ออื่น ให้สื่อความหมายได้ชัดเจนและกระชับแบบนี้นะครับ
App Store
1+ :P
App store นั่้นก็เป็นตัวอย่างครับ แต่ผมไม่ขอกล่าวถึงแล้วกัน อยากเน้นไปเรื่องการก๊อบกันทางกฏหมายมากกว่า
สรุปผมเข้าใจถูกใช่ไหมครับเนี่ย
ไอ้เรื่องลอกไอเดีย ลอกรายละเอียดเชิงเทคนิกนี่ผมพอจะเข้าใจความรู้สึก developer อยู่บ้างนะครับ
แต่เรื่องโลโก้เนี่ย ต่อให้ผมไม่เคยเห็นโลโก้นี้มาก่อน ถ้ามีใครมาจ้างให้ผมดีไซน์ logo ของอะไรที่ชื่อ Wi-Fi Sync ยังไงมันก็ไม่พ้นออกมารูปนี้หรอกครับผมว่า
อย่างน้อยรูปคลื่นอาจจะไม่เป็ะ แต่อย่างน้อยก็คงเอาสัญลักษณ์ wifi ของแพลตฟอร์มนั้นๆ มาแปะตรงกลางแน่ๆ
แอปเปิ้ลอาจมีแผนที่จะทำ Wifi sync ตั้งแต่ก่อนจะเกิดแอปนี้แล้วก็ได้
แต่บอกนายคนนี้ไม่ได้ว่าที่เอาออกเพราะคิดจะทำเองอยู่แล้ว (ความลับบริษัท)
แต่จะรอออกตอน iOS5 เพื่อเป็นฟีเจอร์ใหม่ (กั๊กไว้ก่อน เดี๋ยวจะไม่มีอะไรใหม่ๆ มาอวด 555)
ผมมองโลกในแง่ดีไปมั้ยเนี่ย 555
ไอคอนเหมือนเลยแฮะ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com