Tags:
Node Thumbnail

ข่าวนี้เก่าไปสัปดาห์นึงนะครับ เผอิญผมตั้งท่าจะเขียนเมื่ออาทิตย์ก่อนแต่ปรากฎว่ามันยาวกว่าที่คิด เลยต้องรวบรวมข้อมูล+เวลาสักหน่อย

ถ้าติดตามข่าวที่เกี่ยวข้องกับ search engine ในช่วงหลัง อาจสังเกตเห็นว่ากูเกิลเริ่มตอบโต้ SEO และ content farm มากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากปล่อยปละละเลยจนทำให้คุณภาพของการค้นหาตกลง

กรณีใหญ่ที่เกิดขึ้นอีกอันในช่วงนี้คือห้าง JCPenney ที่จ้างบริษัท SEO สร้างลิงก์ปลอมเพื่อเพิ่มอันดับใน PageRank

หนังสือพิมพ์ The New York Times ได้สังเกตพฤติกรรมของผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าภายในบ้าน เช่น เตียง ตู้ เสื้อผ้า ฯลฯ และพบว่าเว็บไซต์ jcpenney.com ติดอันดับหนึ่งเกือบทุกคีย์เวิร์ด ในบางกรณีอย่างเช่น กระเป๋าเดินทาง "Samsonite" ปรากฎว่า jcpenney.com ได้อันดับสูงกว่าเว็บของ Samsonite เองด้วยซ้ำ

The New York Times จึงให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหาศึกษาพฤติกรรมของ JCPenney และเขาพบว่านี่เป็นการทำ SEO แบบ Blackhat ที่ใหญ่ที่สุดที่เขาเคยเห็นมา

เทคนิคของ JCPenney คือการสร้างลิงก์จำนวนมากวางไว้บนเว็บไซต์อื่นๆ ทั่วอินเทอร์เน็ต เพื่อลิงก์กลับมายัง jcpenney.com ซึ่งเป็นเทคนิคที่กูเกิลไม่อนุญาต แม้เทคนิคนี้รู้กันทั่วไป แต่นี่เป็นครั้งแรกที่บริษัทมหาชนเป็นคนทำด้วยปริมาณระดับนี้

ทาง The New York Times จึงติดต่อไปยังกูเกิล ซึ่ง Matt Cutts หัวหน้าทีมต่อต้านสแปมของกูเกิลก็ยืนยันว่าผิดกฎแน่นอน และเสริมว่ากูเกิลเคยจับ JCPenney ทำผิดกฎได้ 3 ครั้งมาแล้ว เพียงแต่รอบล่าสุดเพิ่งมาพบตามที่ New York Times แจ้ง

เมื่อกูเกิลตรวจพบเรื่องนี้ จึงลดอันดับของ jcpenney.com ทันที จากการตรวจสอบของ New York Times พบว่า jcpenny.com ลดจากอันดับ 1 ลงมาอยู่ที่อันดับ 68 หรือ 71 (ขึ้นกับคีย์เวิร์ดแต่ละตัว)

เมื่อเรื่องนี้แดงขึ้นมา JCPenney ก็ออกมาให้ข้อมูลว่าเป็นฝีมือของบริษัท SearchDex ที่จ้างมาอีกที ซึ่งทาง JCPenney เองก็เลิกสัญญากับ SearchDex ทันที อย่างไรก็ตาม New York Times ก็วิจารณ์ว่า JCPenney ได้ประโยชน์ไปแล้วอย่างมากจากการอยู่อันดับหนึ่งในช่วงช็อปปิ้งปลายปีของสหรัฐ

ตัวอย่างนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์ต่อคนที่ทำ Blackhat SEO ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะแบรนด์ใหญ่ๆ เพราะถ้าถูกจับได้ นอกจากเสียอันดับแล้วยังเสียชื่ออีกด้วย

บทความต้นฉบับของ The New York Times ชื่อ The Dirty Little Secrets of Search ยาวมาก ยังมีรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆ อ่านได้จากจาก New York Times Exposes J.C. Penney Link Scheme That Causes Plummeting Rankings in Google, Doug Unplugged

Get latest news from Blognone

Comments

By: navin on 21 February 2011 - 12:02 #261792

นึกถึงกรณี "เด็กฝึกงาน" ณ kapook ซึ่งตอนนี้ก็คงลอยนวลต่อไป

By: audy
AndroidUbuntu
on 21 February 2011 - 12:09 #261794 Reply to:261792
audy's picture

และกลายเป็นวาทะกรรรมมักง่าย ให้คนมักง่ายหยิบไปว่าให้คนอื่น

เอะอะอะไร ก็จะพูดแซวดักทางไว้ก่อน

By: S.T.E.Y.R.C.
Ubuntu
on 21 February 2011 - 12:17 #261795

วงการนี้ดุเดือดจริงๆ

By: expextoz
In Love
on 21 February 2011 - 12:22 #261796

เทคนิคของ JCPenney คือการสร้างลิงก์จำนวนมากวางไว้บนเว็บไซต์อื่นๆ ทั่วอินเทอร์เน็ต เพื่อลิงก์กลับมายัง jcpenney.com ซึ่งเป็นเทคนิคที่กูเกิลไม่อนุญาต

กูเกิลเป็นคนอนุญาต ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
ผมคิดว่า กูเกิลควรปรับอัลกอริทึมให้ดีเองมากกว่า

By: icez
ContributoriPhoneAndroidRed Hat
on 21 February 2011 - 12:42 #261799 Reply to:261796

จริงๆ ต้องบอกว่าเป็นช่องโหว่ของ algorithm pagerank เองมากกว่าครับ
เพราะด้วย concept สมมติกรณีดีที่สุด (best case) คือไม่มีพวกปั่น seo
การได้ backlink มาจะเกิดจากสาเหตุได้ไม่กี่อย่าง ทำให้น้ำหนักของ backlink มีค่าสูง
และสามารถวัดความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ที่ถูก link ไปหาได้ดี

แต่พอออกแบบระบบไว้แบบนี้ ทำให้นัก SEO ใช้ประโยชน์โดยการสร้างเว็บไซต์ปลอมหลอกๆ ขึ้นมา
แล้วทำ link แบบเวียน จากเว็บไซต์เหล่านี้ไปยังเว็บไซต์ในเครือ เพื่อปั่น rank ของเว็บปลอมดังกล่าว
แล้วจึงทำ link จากเว็บดังกล่าวกลับไปยังเว็บเป้าหมาย เพื่อให้เว็บเป้าหมายมีอันดับดีๆ ใน keyword ที่ต้องการครับ

ในเบื้องต้น วิธีป้องกันคงมีแค่การประกาศไม่อนุญาต
และคงต้องหาทางจัดการกับเว็บไซต์ปลอมในกลุ่มดังนี้เพื่อที่จะไม่ให้ link พวกนี้มีผลในการจัดอันดับ SEO
ปัญหาคือมันตรวจสอบยาก เนื่องจากสมมติสร้างเว็บมา 50 เว็บ จาก 1 link ไป 2, จาก 2 link ไป 3
เวียนจนกลับมาที่ จาก 50 link กลับมาที่เว็บ 1 ถ้าจะตรวจสอบโครงสร้างการ link แบบนี้
เกรงว่าเว็บไซต์ปกติจะมีปัญหาแน่นอนครับ (ทฤษฎี 6-degree ช่วยได้)

By: -orion-
AndroidSymbianUbuntu
on 21 February 2011 - 12:43 #261800 Reply to:261796

อ่านแล้ว มึน!!

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 21 February 2011 - 13:11 #261802 Reply to:261796
PaPaSEK's picture

ก็เค้าเขียนว่า "ไม่อนุญาต" ไม่ใช่เหรอครับ?

By: iStyle
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 21 February 2011 - 15:55 #261832 Reply to:261802
iStyle's picture

เค้าคงหมายความว่า กูเกิลมีสิทธิอนุญาตตั้งแต่เมื่อไหร่


May the Force Close be with you. || @nuttyi

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 21 February 2011 - 16:46 #261848 Reply to:261832
PaPaSEK's picture

อ้อ เข้าใจแล้วครับ

งั้นผมอธิบายดังนี้

Google มีการประกาศกฏการทำ SEO อย่างเป็นทางการอยู่ ในนั้นมีข้อห้ามทั้งหลายแหล่ แต่ผมไม่มีลิงค์ให้ครับ

"กูเกิลมีสิทธิอนุญาตตั้งแต่เมื่อไหร่" ตั้งแต่เค้าประกาศกฏครับ :)

By: Slimy
AndroidUbuntu
on 21 February 2011 - 13:12 #261804 Reply to:261796

ควรปรับเป็นแบบไหนดีครับ

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 21 February 2011 - 13:17 #261805 Reply to:261796
tekkasit's picture

เนื่องจาก algorithm นี้เป็นเรื่องภายในของกูเกิล คุณจะใช้ช่องโหว่นี้ปั่นอันดับก็ได้ คุณไม่ต้องขออนุญาตกูเกิล

แต่ถ้าเค้าจะแบนไซต์ของคุณ ให้ไปอยู่หน้าสามเป็นอย่างน้อย ก็เป็นเรื่องของเขาอีกเช่นกัน กูเกิลก็ไม่ต้องขออนุญาตคุณเหมือนกัน

By: fatro
ContributoriPhoneAndroid
on 21 February 2011 - 14:14 #261811 Reply to:261805
fatro's picture

+1 เข้าใจง่าย

By: expextoz
In Love
on 21 February 2011 - 14:41 #261818 Reply to:261805

ใช่เลยคับ

By: Not Available a...
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 21 February 2011 - 15:04 #261820 Reply to:261805
Not Available at this Moment's picture

ตามนั้น!


ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)

By: iStyle
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 21 February 2011 - 15:58 #261834 Reply to:261805
iStyle's picture

(สงสัยเฉยๆ)

งั้นถ้า MS ปั่น SEO แล้วโดนบล็อก / MS ไปฟ้องกีดกันการค้าได้มั้ยครับ?


May the Force Close be with you. || @nuttyi

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 21 February 2011 - 16:53 #261853 Reply to:261834
PaPaSEK's picture

ผมว่าไม่ได้ครับ เพราะกูเกิลไม่ได้กีดกันแค่เจ้าใดเจ้านึง และไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของใครคนใดคนนึง เพราะกูเกิลบอกแล้วว่าห้ามปั่น SEO ซึ่งกูเกิลให้เหตุผลว่า เพื่อความแม่นยำของข้อมูล(Accuracy)ซึ่งมีผลต่อ User Experience

พูดง่ายๆ ว่าผลประโยชน์ตกอยู่กับผู้ใช้งาน กูเกิลไม่ได้ผลประโยชน์อันใดจากการที่ใครคนใดคนนึงจะครองอันดับใดๆ ในคีย์เวิร์ดใดๆ ก็ตาม

อันนี้เผื่อใครยังไม่ทราบ กฏข้อนี้มีผลบังคับใช้มานานแล้ว ซึ่งข่าวที่ดังมากๆ เกี่ยวกับกรณีแบบนี้คือการที่กูเกิลประเทศญี่ปุ่นทำงามหน้าด้วยการซื้อรีวิวจากบล็อกเกอร์แล้วทำลิงค์กลับมายังเพจของกูเกิลเอง (อ่านข่าวเก่า)

จะได้เห็นว่า (ถ้าที่จับได้) กูเกิลมี (จะ) มาตรฐานเดียว ใครจะมาบอกว่ากีดกันทางการค้าคงเล่นด้วยยาก

By: l2aelba
iPhoneAndroid
on 21 February 2011 - 14:30 #261813
l2aelba's picture

ไล่จับแต่เวปใหญ่ๆ ให้เวปเล็กนั้นละ ลำคาณที่สุด

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 21 February 2011 - 14:32 #261816 Reply to:261813
PaPaSEK's picture

ไม่ต้องห่วงครับ ตอนนี้ผมเช็คดูหลายๆ เว็บโดนกันเป็นแถว

ในบอร์ดของคนทำ SEO อย่าง Thaiseoboard ก็เริ่มบ่นกันเป็นแถวๆ แล้วครับ

ปล. "รำคาญ"

By: TAXZe
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 21 February 2011 - 20:39 #261917

ตั้งแต่คาเฟอีนมาเต็มๆ ก็ไม่ค่อยง่ายเท่าไรแล้ววว -..-"

By: iPomz
ContributorAndroidWindows
on 22 February 2011 - 07:24 #262048
iPomz's picture

กำลังจะศึกษาเรื่องพวกนี้อยู่พอดีเลย