By: khajochi 
on 19 November 2010 - 12:00
Tags:
Topics:
ปกติภาพถ่ายของสตีฟ จ็อบส์ถือเป็นเรื่องหายากอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องชีวิตส่วนตัวด้วยแล้วไม่ค่อยจะได้พบเห็นออกสื่อกันบ่อยนัก โดยภาพหายากชุดนี้ถ่ายโดย Diana Walker ช่างภาพฝีมือดีของ Time Magazine ซึ่งรู้จักกับจ็อบส์เป็นการส่วนตัว
จ็อบส์ได้ขอให้ Diana Walker ถ่ายภาพของเขาภายในบ้านพักที่ Palo Alto ในช่วงปี 2004 ก่อนที่จ๊อบส์จะเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับ ในภาพชุดดังกล่าวเราจะได้เห็นสตีฟ จ็อบส์ในชุดเดิมๆ แม้เวลาอยู่ในบ้าน โต๊ะทำงานเป็นโต๊ะไม้ธรรมดา คอมพิวเตอร์ที่ใช้เป็น PowerMac G5, 30″ Apple Cinema Display, กล้อง iSight camera, Apple Keyboard และ Apple Pro Mouse
ที่มา - Fortune
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
บ้านคลาสสิกดี
Steve Jobs เป็น Zen ครับ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์มาก เป็นมังสวิรัติ ตั้งแต่หนุ่ม เคยมาแสวงหาสัจธรรมที่อินเดียตอนอยู่ Atari.
ชีวิตเขาน่าสนใจนะครับ ปรัชญาการออกแบบคอมพิวเตอร์จึงเป็นแบบเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งครับ
เป็นมังสวิรัติ ด้วยเหรอ ยังไม่พ้นโรคมะเร็งเลยแสดงว่ามังสวิรัติ ก็ไม่ได้ปลอดจากมะเร็งซะทีเดียวเนอะ
มะเร็งสาเหตุมาจากหลายอย่างครับ ถ้าเป็นอาหารจะมีผลต่ำทางเดินอาหาร ผิวจะมาจากแสง
นอกนั้นอาจจะเกิดจากการเสื่อมของเซลล์ในร่างกายและกำจัดออกไม่หมด เมื่อกำจัดไม่ได้ร่างกายจะสร้างภูมิป้องกันด้วยการสร้างเนื้อเยื่อเข้ามาห่อหุ้ม (ให้นึกถึงการเกิดแผลเป็น) ถ้าร่างกายยังเข้าใจว่าเซลล์ก้อนนั้นยังไม่ถูกกำจัดและยังเป็นอันตรายมันก็จะสร้างภูมิป้องกันเรื่อยๆ ทำให้เกิดพังผืดขึ้นกับชิ้นเนื้อบริเวณนั้นในปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (ให้นึกถึงช่วงระยะเวลาที่เกิดบาดแผลแล้วใช้เวลาในการรักษา มะเร็งก็จะมีอัตราการเกิดเร็วแบบนั้นด้วย)
ทุกคนก็เหมือนเล่นสล็อต แมชชีนกันอยู่
ถ้าปัจจัยเสี่ยงมาก โอกาสถูกแจ๊คพอตก็สูงกว่าคนอื่น
ถ้าปัจจัยเสี่ยงน้อย โอกาสถูกแจ๊คพอตก็น้อยตามลงมา
ใน wikipedia เขียนไว้ว่าป็นนับถือศาสนาพุทธนะครับ
ก็ Zen เป็นหนึ่งในนิกายของศาสนาพุทธนี่ครับ - -
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
เขียนว่า Zen Bhuddist
เลื่อนลงมาตรง Personal life ครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Steve_Jobs
รสนิยมไม่เกี่ยวกับศาสนาเสมอไปครับ
ไม่งั้นคนรวยๆ บ้านเราซึ่งเป็นพุทธ คงไม่บ้าคลั่งซื้อรถสปอร์ต สร้างบ้านหรูๆ บนที่ดินแปลงใหญ๋ บ้านห่างจากรั๊วเป้นกิโลๆ
ญี่ปุ่น ที่ว่า Zen เยอะๆ ยังฆ่าตัวตายรายวัน ไม่นับความบ้าวัตถุอีกนะ
มันเป็นรสนิยมและทัศนคติต่อชีวิตล้วนๆ
ประเด็นคือเค้าเลือมใสครับ ไม่ได้นับถือแค่ในบัตรประชาชน
คนที่เค้าศึกษาธรรมะจริงๆ วิถีชีวิตและรสนิยมเค้าเปลี่ยนจริงๆนะครับ
เอาความเชื่อส่วนตัวมาอธิบายรึเปล่าครับ (- -") แค่ยกตัวอย่างบ้านเรานี่ก็เห็นว่า เราก็รู้กันอยู่ว่าพุทธในบัตรประชาชน กับวิถีพุทธ มันช่างคนละเรื่องโดยสิ้นเชิง พุทธศาสนานิกายไหนก็ตามถ้าปฎิบัติผมรู้สึกเอาเองว่า ทำน้อยได้มาก อย่างเดินจงกรม/อยู่กับธรรมชาติ
เห็นบ้านศาสดาแล้วผมก็พอเข้าใจล่ะว่า ทำไมเขาถึงเป็นผู้นำแห่งวิถีแอปเปิ้ลได้ อุปกรณ์ Apple แค่เป็นเครื่องประดับตกแต่งบ้านนี่เอง โต๊ะไม้ธรรมดาๆ ยังทำให้ดูมีพลังได้เลย
ถ้าคุณบอกว่าผมใช้ความเชื่อส่วนตัวมาอธิบาย?!!??
การที่ผมบอกว่า คนเราจะแต่งบ้านยังงัย ใช้ชีวิตยังงัย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับศาสนา มันเป็นรสนิยมและทัศนคติต่อชีวิตล้วนๆ?
มันมีอะไรผิด
งั้นแสดงว่าคนนับถือ zen ศรัทธา zen ต้องเป้นแบบจ๊อบทุกคนเหรอ? โหะๆๆ
หรือว่า คนศรัทธาศาสนาพุทธมากๆ ต้องปลูกกระท่อมอยุ่ป่า เพื่อแสดงออกถึงความสันโดษ รักธรรมชาติ ตามวิถีพุทธ?
ถ้างั้น คนอยุ่คอนโดหรู บ้านรวย หมดสิทธิ์ที่จะเป็นผู้นับถือศาสนาที่ดี รึ?
ไม่ผิดครับ รสนิยมและทัศนคติ ส่งผลต่อการแสดงออกอย่างมากครับ
แต่เบื้องหลังรสนิยมและทัศนคติ มันก็มีหลายเรื่องหลบฉากอยู่นะครับ
ผมเชื่อว่า ศาสนาก็เป็นหนึ่งในนั้น
เพียงแต่ว่าแต่ละคนอาจถ่วงน้ำหนักเรื่องต่างๆ ในชีวิตไม่เท่ากัน
คนที่เคร่งศาสนามาก เค้าก็อาจปลูกกระท่อมอยู่อย่างสันโดดกลางป่า, ใช้ชีวิตเรียบง่าย, ไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ก็ได้
คนที่ไม่เคร่งศาสนาก็อาจอยู่ใจกลางเมือง, ใช้ชีวิตฉาบฉวย, เที่ยวทุกคืนวันศุกร์ก็ยังได้อีก
หรือคนที่เคร่งศาสนา แต่เนื่องด้วยวิธีชีวิตอาจไม่เอื้ออำนวย เค้าก็จำเป็นต้องอยู่ใจกลางเมืองเพื่อทำงาน, ใช้ชีวิตตามกระแสเพื่อเข้าสังคม, เที่ยวคืนวันศุกร์เพื่อเข้าสังคม อันนี้ก็ไม่ผิดอีกเหมือนกัน
เพียงแต่ว่า สิ่งที่ผมเห็นชัดๆ เลยจากปรัชญา zen นั้นก็คือ ใดๆ ล้วนแต่เป็นความว่าง
มันก็ไม่คล้าย minimalism เท่าไหร่หรอกนะ แต่มองไปมองมาก็คือว่าตัวนี้มันอธิบาย zen ได้อย่างใกล้เคียงที่สุดแล้ว
อีกอย่างที่สำคัญคือ zen ไม่ใช่ศาสนาที่บังคับให้ใครๆ เข้ามานับถือด้วย ผู้ที่นับถือ zen นั้นเลือกเดินในหนทางนี้เอง
(ศาสนาประจำชาติญี่ปุ่นคือ ชินโต นะครับ ซึ่งผมว่ามันไม่ใกล้เคียงกับ zen ซะทีเดียว)
ดังนั้น ผมค่อนข้างเชื่อว่า ถ้าคุณไปเจอคนประเภท minimailism แบบ Jobs เดาไว้ก่อนได้เลยว่าเค้าเป็น zen ครับ
ผมว่ามันเป็นระดับของความเชื่อนะครับ เชื่อมากหรือเชื่อน้อย เชื่อมากก็เข้าสู่วิถีพุทธมาก เชื่อน้อยก็เข้าสู่วิถีพุทธน้อย
ไม่ใช่ระดับความเชื่อครับ ระดับความเข้าใจในเนื้อหาของศาสนาครับ :D
ศาสนาพุทธไม่ได้ให้ใช้ความเชื่อครับ
จริงๆผมกำลังสงสัยด้วยซ้ำว่าพุทธอาจจะไม่ใช่ศาสนา แต่เปนปรัชญา
หลักธรรมก็เปนของให้ทดลองพิสูจน์ ไม่ใช่ให้ศรัทธา
ส่วนตัวผมคิดว่ามันเปนเรื่องร้อนเย็นมากกว่า
คนที่ใช้โลจิกบ่อยๆจนชำนาญ อย่างโปรแกรมเมอร์ อาจจะเข้าใจหลักธรรมพุทธมากกว่า เพราะหลักธรรมพุทธเปนปรัชญา เป็นตรรกะ
เพียงแต่หลักศาสนาพุทธให้สงบใจ ปล่อยวาง ไม่ยึดติด
แล้วผมมักจะเห็นคนเปนโปรแกรมเมอร์ มักจะใจร้อนเป็นส่วนใหญ่ อะไรๆก็อยากให้รีบให้ไว
แถมมักจะยึดติดกับรูปรสกลิ่นเสียง ตัดกิเลสไม่ขาดกันซะเยอะ
บุฟเอย อาหารญี่ปุ่นเอย สาวๆเอย
กิเลสทั้งนั้น
หนูบางตัวขุดรูแต่ไม่อยู่, หนูบางตัวอยู่ในรูที่ไม่ได้ขุดเอง
เค้าแค่จะว่าคนนี้ทำตามล่ะมั้งครับ ผมว่าคนไร้ศาสนาที่กรอกศาสนา/ลัทธิลงทะเบียนบ้าน/บัตรประชาชนมีเยอะแยะไป ดีไม่ดีจะมีเยอะกว่าด้วยซ้ำ
ชุดเดิมตลอดเลย แต่ก็เป็นเอกลักษณ์ดี
มีชุดเดียวเที่ยวทั่วโลก
ไม่ซักด้วย
ขนาดนั้นก็ไม่ไหวนะครับนั่น 555+
ไม่ซักเอง แต่ให้ iWasher จัดการให้
คำเดียว: Creepy = =
@TonsTweetings
ตรูกำลังพยายามหาโต๊ะคอมใหญ่ๆดีๆ+มีลิ้นชักคียบอร์ดใว้ใช้ทำงานซักตัว
เจอโต๊ะจ๊อบส์เข้าไปหงายเงิบ.. โต๊ะธรรมดา(แถมรกอีก) = ="
โต๊ะตาม Apple store ก็เป็นแบบนี้นะครับ
สงสัยว่าถ้าเปิดตู้เสื้อผ้าของจ๊อบส์ดู จะเจอแต่ชุดแบบนี้เหมือนกันหมดเลยรึเปล่า
ดูอ้วนกว่าตอนนี้เยอะเลย นึกว่าโต๊ะจะเรียบร้อยซะอีก ตรงข้ามเลย รกสุดๆ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
การทำภาพให้เป็นขาวดำช่วยลดความรกลงนิดหนึ่งแฮะ
บ้านสวยนะ แต่ทำไมผมรู้สึกหน้าตาท่านศาสดาดูโรคจิตอ่ะ
Jusci - Google Plus - Twitter
แปลว่าตอนนั้นเตรียมใจตายใวเลย - -"
เห็นวิธีวางเมาส์กะคีย์บอร์ดเค้าแล้วทำให้เค้าใจการออกแบบการใช้เมาส์ใน MacOS ขึ้นมาทันใดเลย -*-
บ้านดูดีมีสไตล์ ดูสภาพโต้ะทำงานแสดงถึงยังเป็นคนทำงานแบบลุยงานลงรายละเอียด
ไม่ใช่ลักษณะโต้ะทำงานของผู้บริหารระดับสูงที่ทำหน้าที่แค่เซ็นอนุมัติ
ดูอ้วนจังอย่างกับว่าไม่ใช่ตัวจริง
เท่าที่อ่าน เหมือนว่าจะเป็นภาพตั้งแต่ปี 2004 นะครับ
ก่อนผ่าตัด การผ่าตัดทำให้คนผอมลงเยอะเลยนะครับ อันนี้เรื่องจริง
ชาบู ชาบู
ภาพสุดท้ายมีแอบหวาน
คือผมอยากเห็นจ็อบส์กับชุดนอนมากกว่าครับ
อยากรู้เหมือนกันว่าจ็อบส์มีเสื้อผ้าสำหรับกรณีต่างๆ กี่แบบกัน
เข้าใจว่าที่เห็นนั่นก็ชุดนอนแล้วนะครับ :-P
ทำไมไม่ใช้ iPhone อิอิ ศาสดาต้องใช้ iPhone ก่อนเปิดตัวซิครับ :)
แค่ย่อหน้าแรกสั้นๆ กลับมี "โดย" ตั้ง 4 ครั้ง
เมาหัว - -"
เมาหัว นี่เป็นภาษาถิ่นนิ คนเหนือหรือเปล่า
"นิ" ก็เป็นภาษาใต้นี่ครับ
นั่นสิ แก้แล้วครับ ขอบคุณครับ -_-"
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
คนรวยเขาไม่ใส่เข็มขัดกันหรอก
รูปที่ 4 อยากรู้จังว่าใช้ยี่ห้ออะไร :P
Nokia (มุกเอาฮา) น่าจะโทรศัพท์บ้านแหะ
ดูเรียบง่ายดีนะ
ดูสมถะ ดีครับ ไม่เหมือนบ้านคนรวยทั่ว ๆ ไป
ขนาดบ้านมนุษย์เงินเดือนธรรมดาในอเมกายังดูดีกว่าบ้านแกอีก
เรียบง่าย...
รูปบนสุดหน้าคล้าย Bill Gates ตอนเด็ก
ดูๆไปดูๆมาชักสงสัยว่า "บ้านพัก" ในความหมายข่าวนี้เป็นพวกบ้านพักตากอากาศหรือเปล่า
(คือจริงๆอาจจะมีคฤหาสน์ไฮเทคแบบเกตส์ไหม..)
เพราะผมดูภาพที่ 7 ไปๆมาๆชักสงสัย.. หลังคากระเบื้องไม้+ฝาผนังอิฐ+เสาบ้านไม้(เบี้ยวๆด้วย)..
มันดูเก่าและโบราณเอามากๆเลย เกินที่จะเป็นบ้านแบบที่ใช้อาศัยเป็นประจำอยู่ทุกๆวัน (ถ้าเป็นตากอากาศก็ว่ากันอีกเรื่อง)
แบบถ้ามีทอร์นาโดโผล่มาซักลูกนี่อาจมีหลังคาหาย.. ความปลอดภัยมันดูน้อยไปหน่อยสำหรับบุคคลสำคัญระดับนี้..
บ้านแรกของแกตอนที่ตั้งแอปเปิลใหม่ๆ มีแต่ฟูกครับ
เอาตอน 2004 สิครับ = ="
ในตอนนั้นก็ดังในระดับหนึ่งแล้วนะ (ipod)
ปล.แต่พอรู้ว่าตอนใหม่ๆมีแต่ฟูกนี่ฟังแล้วรู้สึกประทับใจสุดๆ T T
เหมือนแก กำลังจะสร้างบ้านใหม่ หลังนี้ประมาน 9 ล้านดอล
ในลิงค์บอกว่าแกอยู่มาตั้งแต่ปี 1984 บ้านสร้างตั้งแต่ปี 1920 นับไปนับมา มันร่วม 90 ปีเข้าไปแล้ว
ผมได้ข่าวมาว่ารื้อสร้างใหม่แล้วนะครับ หรือยังไง? ...และก็นี่มันรูปตั้งแต่ปี2004
ในข่าวลงว่าแบบบ้าน เพิ่งจะได้รับการอนุม้ติจากเมือง palo alto น่ะครับ ใช้เวลา 6 ปีในการอนุมัติ ย้อนกลับไปปี ก็ปี 2004 พอดีครับ
เค้าใช้คำว่า home ครับ น่าจะหมายถึงบ้านเลยนะ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
บ้านฝรั่งนี่เค้าใส่รองเท้าเข้าบ้านกันจริงๆนะเนี่ย = =
ใส่ตลอดเวลา นอกจากตอนนอน สกปรกได้ใจมากครับ
แต่ถนนเค้าก็สะอาดกว่าเรามากนะครับ แต่เป็นผมตอนนี้ก็ไม่กล้าใส่รองเท้าเข้าบ้านอยู่ดี
ลองมองในแง่มุมฝรั่งบ้างนะครับ
ฝรั่งเค้าก็คงคิดว่า เราสกปรกจังเลย เข้าบ้านต้องถอดรองเท้า ที่พื้นมีเชื้อโรคตั้งเยอะแยะ เดินบนนั้นได้ไง
ผมว่าเราหาหลักฐานที่พิสูจน์ได้มาถกกันดีกว่า ว่าแบบไหนสะอาดกว่ากัน
เอาแต่ความคิดเข้าถกกันอย่างนี้ ไม่ไปไหนครับ ^__^
ครับผม แต่ผมไม่ได้จะถกกับใครนี่คับ เรื่องอะไรจะสะอาดกว่า -_-"
บางบ้านฝรั่งก็ถอด บ้างก็ไม่ถอด
เพื่อนผมมันก็เคยถามว่าทำไมต้องถอดรองเท้า ผมบอกว่าสกปรก
ผมก็ถามมันว่าทำไมมันไมถอด มันบอกมันขี้เกียจ
ผมว่าสังเกตได้จาก เวลาถูบ้านครับ
ถ้าแยกโซนการใส่รองเท้า รองเท้านอกบ้าน/รองเท้าในบ้าน
เวลาถูบ้านไม่ต้องถูเยอะ
ทางเท้าบ้านเราก็สกปรกได้ใจเหมือน
ใส่รองเท้าเข้าบ้าน เกี่ยวกับทางเท้า ??
ยิ่งไปคนละเรื่องแล้วคับ จบแค่นี้ดีกว่า
โอ้ ท่านศาสดา
โทรศัพท์ที่ใช้เป็น โทรศัพท์บ้านครับแบบไร้สาย
Panasonic หรือเปล่า?
เห็นภาพชุดนี้ ผมรักท่านศาสดา ครับ
เรียบง่ายดี
เรียบง่าย ได้ใจความ
สไตล์ของแอปเปิ้ล มีที่มาอย่างนี้นี่เอง
ชื่นชมในความเรียบง่ายของแก
เอ แต่ต้นฉบับเค้าบอกว่า "Rare photos taken shortly after his cancer operation" และ "On July 31, 2004, Steve Jobs underwent surgery to ..... A few weeks later, he permitted Diana Walker, his favorite Time Magazine contract photographer, to shoot him in his Palo Alto home. " ดังนั้นจึงเห็นเค้าท่าทางมีความสุขขึ้นไม่เหมือนคนเตรียมผ่าตัด
ว่าแต่ศาสดาน่าชื่นชมแบบนี้ สาวกน่าจะเอาเป็นแบบอย่างด้านนี้บ้างนะ ไม่ฟุ้งเฟ้อ เรียบง่าย
แต่คนถ่ายรูปถ่ายสวยดีครับ สื่อบรรยากาศได้ดีมาก โต๊ะทำงานผม มีกองเอกสารน้อยกว่านี้อีกนะ เนี่ย มีแต่ แบงค์ 20 กับ ที่ออกกำลังมือ ไว้บีบๆ
ผมกำลังจะซื้อโต๊ะทำงานใหม่แบบนี้เหมือนกัน
ก็หาไม่ยากแล้วนะ..... :P
เห็นหลายคนสนใจเรื่องบ้าน ถ้าดูจาก Google Map คือบ้านหลังนี้ครับ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
มี street view ข้างๆให้ดูด้วยย :D
นั่นมันรถป๋านี่ครับ
Mercedes คันหน้าบ้าน ไม่มีทะเบียน
ยังคงไม่ใส่เข็มขัดเช่นเดิม :)
ภาพนี้มันนานมากพอควรเหมือนกันนะ
ดูง่ายๆดี
เห็นความเห็นบนๆ ไม่ชอบให้คนเถียงกันเรื่องเกี่ยวกับพวกศาสนาเลย :(
ผมไม่เข้าใจแฮะ ว่าทำไมคนเราห้ามเถียงกันเรื่องศาสนา ทั้งๆที่ถึงยุที่เราควรจะมาพูดคุยถกเถียงกันในเรื่องศาสนา เพื่อหาข้อสรุปทางจริยธรรมที่ดีกว่า
ถ้าเราเถียงกันเรื่องศาสนาไม่ได้ แล้วเกิดมีการล่าแม่มดขึ้นมาเหมือนยุคกลาง ก็คงไม่ต้องเถียงกันล่ะครับ ทำสงครามกันอย่างเดียว
อย่างน้อยผมก็เห็นว่าศาสนาพุทธ เป็นศาสนาที่พยายามให้เราให้เหตุผล
การถกเถียงกันมันควรจะเป็นส่วนหนึ่งของศาสนาพุทธ
แม้แต่พระยังมีเคยมีการเถียงกันเลยครับ ว่าหลักธรรมข้อนี้ แท้จริงมีความหมายว่าอย่างไร
อยากให้ลองดู มิลินทปัญหา
บางครั้งพระเจ้ามิลินท์ ก็เถียงกับพระนาคเสน ว่าสิ่งที่พระนาคเสนกล่าวตอบมานั้น อาจจะำไม่เป็นจริงก็ได้
แล้วให้พระนาคเสน ตอบกลับไปว่า เหตุใดมันจึงเป็นจริงมากกว่า
ผมคิดว่า นี่แหละ คือพุทธ
แค่ส่วนตัวผมไม่ชอบเฉยๆน่ะครับ เพราะเวลาเถียงคนส่วนใหญ่ชอบใส่อารมณ์ลงไปด้วย