Shantanu Narayen ซีอีโอของ Adobe กล่าวในงาน Web 2.0 Summit ว่าตอนนี้ในโลกของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดใหม่ๆ กำลังเกิด "สงคราม" ในการชิงตัวนักพัฒนา เพื่อว่าแพลตฟอร์มนั้นๆ จะได้มีแอพพลิเคชันที่ดีที่สุดไว้ในมือ
เขาบอกว่า Adobe และแอปเปิลมีแนวคิดที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว และอยู่คนละฝั่งของสงครามนี้ โดยแอปเปิลพยายามสร้างระบบปิด และแอพพลิเคชันจะทำงานได้เฉพาะบนอุปกรณ์ที่ขึ้นต้นด้วยตัว 'i' เท่านั้น ส่วน Adobe ต้องการช่วยให้นักพัฒนาสร้างแอพพลิเคชันที่ทำงานได้บนอุปกรณ์จำนวนมากที่สุดที่เป็นไปได้
เขายังพูดเรื่อง HTML5 vs Flash ว่าความจริงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะ Adobe ทำหน้าที่ "สร้างเครื่องมือ" ทุกอย่างตามที่นักพัฒนาต้องการต่างหาก
ที่มา - GigaOm
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
Apple แนวทางของเค้าก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วไม่ใช่เหรอ?
แต่แนวทางของ Microsoft ยุค บัลเมอร์ นี้น่ารักขึ้นเรื่อยๆ
ผมนับถือความเก่งของจ๊อบ นะไม่ว่าแกจะดีจะร้ายแต่มีข่าวถึงพี่แกตลอดเลย
ระบบปิด เหมือนจ็อบพยายามเล่นในตลาดเล็กๆ แต่เป็นตลาดที่ผู้ใช้พร้อมจะจ่ายในราคาที่สุดหรู ขณะที่ทั้ง ไมโครซอฟต์ กูเกิล เริ่มแผ่นอนาจักรรุกคืบ ไปทุกอุปกรณ์
สงคราม = การแข่งขัน = การพัฒนาเพื่อความเป็นที่ 1 = ลูกค้าได้แต่ประโยชน์กับประโยชน์
@TonsTweetings
สงคราม = ประชาชนเดือดร้อน
ในที่นี้ ก็น่าจะเ็ป็นผู้ใช้เดือดร้อน เพราะขาดคุณสมบััติบางอย่างไป
ประชาชนในเกมนี้ ผมว่าไม่ใช่ User ล่ะครับ
แต่เป็น Developer
Adobe สร้างข่าวขึ้นค่าตัวมั้งนี่ อิอ
จริงๆ apple เค้าไม่ได้ แผ่รังสีไปให้สองค่ายโดยตรงเลย สองค่ายต่างหากที่อยากได้ share จากตลาดที่ apple ทำอยู่
+1
มันก็จริงที่ adobe เป็นผู้พัฒนาเครื่องมือ
ข้อเสียของ adobe คือ โปรแกรมตัวใหญ่เกิ๊น ใช้ทรัพยากรสูง ดูได้จาก acrobat reader เทียบกับค่ายอื่นๆ ดูก็ได้ ทำได้เหมือนกันแต่ไซส์ต่างกันเยอะ แถมความเร็วต่างกันลิบ
อันนี้ความเห็นเพ่ิมเติมนะครับ... อาจเป็นเพราะ Adobe Reader ทำอะไรแบบ 3มิติ ได้ด้วยมั้งครับ เช่น สามารถพริ้นโมเดล 3มิติจากโปรแกรม MicroStation แล้วเอาไปเปิดหมุนๆ แบบ 3 มิติใน Adobe Reader ได้ด้วย เลยอาจทำให้ Engine มันใหญ่อ่ะครับ
คนนึงบอกว่า Flash ตายแล้ว
อีกคนกำลังใช้ Flash เป็น Web/Software Platform ไปเลย
แข่งกับ microsoft ที่ใช้ silverlight เป็น Web/Software Platform ใน windows phone 7
ก็ขยายอาณาเขตทั้งนั้นแหละครับ
แต่ดูเหมือน apple เขาชอบมองหา blue ocean ที่คู่แข่งน้อย
เราถึงได้เห็น Iphone Ipad ไง
Happiness only real when shared.
ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็คือ.. Apple ค้นเจอ Blue Ocean แล้ว แต่ Adobe มาเห็นเข้า
เลยพยายามหาแนวร่วม(ซึ่งก็ได้เยอะอยู่) ทำให้มันกลับไปเป็น Red Ocean ใช่ไหมครับ
ไม่จริงนะครับ ผมฐานะปานกลาง เช้าชามเย็นชาม ก็ใช้ mac นะครับ
อคติอะไรหรือป่าวครับ
{$user} was not an Imposter
ผมรวย และมีชีวิตที่ดี เพราะผมใช้ XP ฮะ
Ton-Or
Adobe น่าจะใช้ชื่อเสียงที่ตัวเองมีอยู่ฉวยโอกาสทำการตลาดแบบ Microsoft (Bill Gates) ทำมาตลอดคือบอกว่าจะออก tools ในการทำ HTML5 ที่ดีที่สุดในโลก
พร้อมกับขายเครื่องมืออีกตัวในการเปลี่ยน code flash เป็น HTML5 น่าจะคุ้มและได้ประโยชน์กว่าการทำสงคราม
เห็น tools ของ adobe ที่มีลักษณะนี้หลายตัว แต่ผมว่ามันใช้งานยาก (สำหรับผม) และตัวมันใหญ่เกิน ราคาสุดโหดอีกต่างหาก
โปรแกรมที่ยิ่งใหญ่ พร้อมราคาที่ใหญ่ยิ่ง
+1
+1 ใหญ่ทุกอย่าง
- ขนาดเอย
- เวลาโหลดเอย
- ราคาเอย
ถ้าใช้ MAC แล้วจะเจอแต่ของใหญ่ ๆ หรอ แบบนี้ชักน่าสนใจ
เออเห็นด้วยนะเรื่อง UI ห่วยเนี่ยจะยากไปไหน
apple เหมือนร้านอาหารหรู ๆ แต่ละจานเสิร์ฟแพง ๆ ไม่เน้นขายเยอะ (แต่ถ้าขายได้เยอะก็คงจะดีกว่า)
ค่าย Big อื่น ๆ เหมือนทำธุรกิจแบบจีน ขายเน้นปริมาณทำยอด
อันนี้ adobe อยู่ดี ๆ ก็ไปตั้งตัวเป็นศัตรูแบบเปิดเผย ก็ต้องรอดูกันต่อไป
ทำไมผมรู้สึกว่า Apple กับ Adobe นี่ช่างคล้ายกันจริงๆ
สงสัยมันขึ้นด้วยตัว a เหมือนกันแน่ๆ เลย
แล้วก็มีห้าตัวอักษร และลงท้ายด้วย "e" เหมือนกัน ^_^
ถ้ากลับอักษร pp ของ apple เป็น d กับ b
ก็ต่างกันแค่ตัว l กับ o
ตีความ l ของ apple ก็คือ 1
ส่วน o ของ adobe คือ 0
คนละขั้วกันพอดี
แบบนี้พอจะเป็น conspiracy theory ได้รึยังครับ ;P
โอเช!!
จากเพื่อนรัก มาหักเหลี่ยมโหดซะงั้น
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ถ้าต่อไปไม่มี Adobe ใน OSX ผมย้ายกลับไปเล่น Windows ดีกว่า
เห็นควรด้วย
อย่าได้ผวนเชียว
อย่าผวนเลยเชียว
เห็น...?!?
.......เดชไอ้ด้วน
ถ้า Adobe ไม่ทำซอฟแวร์ลง OSX ก็หายนะ apple ซิครับ
คนทำกราฟิก เซฟติด adobe กันค่อนโลกละ
สมติ mac ไม่มี indesign จะเป็นยังไง
อันนี้คำตอบคือผมตกงานครับ แน่นอนอย่างไม่ต้องสืบ
กด like ให้หนึ่งครั้ง
Apple ก็ซื้อ Adobe ไปเลยสิ
อะไรก็จะให้เค้าซื้ออยู่ได้ ถ้าไม่ขายจะทำไม
คิดเหมือนกันเลย ผมว่าหลังๆ สองเจ้านี้เขาเหมือนมีเรื่องอยากจะเจรจาต่อรองกันส่วนตัวนะ Adobe ก็มักตัดพ้อ Apple ออกบ่อย
ถ้าเป็นเมื่อก่อนถ้าพูดถึง Mac ก็จะนึกถึง Photoshop ก่อนเลย
หมันไส้ สตีฟ อ่ะ มันจะปิดไปถึงไหน
ลองให้ Adobe ออกจาก i product ทั้งหมดดูดิ้ ว่ามันจะอยู่ได้มั้ย
อยากให้ Adobe เปิด Os เองใช้ linux souce และ adobe air เข้าเสริม
ไม่ก็เข้าร่วม google os- chrome/andriod เต็มตัวเลยครับ
ก็ที่ปิดอยู่ทุกวันนี้มันก็ขายดีอยู่แล้วจะไปเปิดมันทำไม ศาสดาคงคิดแบบนี้แน่ๆ
ถ้า Adobe ไม่ทำ Application Support OSX และ iOS นี่ Adobe จะโดนลูกค้าโวยหนักเลยไม่เกี่ยวกับ Apple หรอก อีกอย่าง Apple น่าจะอยู่ได้นะ ไปดู ยอดขาย iPhone iPod iPad และ Application เยอะมากๆ
จริงๆไม่น่าจะประกาศสงครามกันเลย มันแบ่งค่ายกันมากเกินไป
อะไรที่ผู้ใช้ได้ประโยชน์ น่าจะเป็นประเด็นหลักมากกว่า
จะปิดหรือจะเปิดก็แล้วแต่ครับ แต่ข่าวว่า
"กำลังเกิด "สงคราม" ในการชิงตัวนักพัฒนา เพื่อว่าแพลตฟอร์มนั้นๆ จะได้มีแอพพลิเคชันที่ดีที่สุดไว้ในมือ"
หมายความว่า apple ต้องการ app ที่ใช้ได้กับตัวเองเท่านั้น
อยากถามว่า ได้ประโยชน์กับลูกค้ามากที่สุดเหรอครับ(ลูกค้าแมคเท่านั้นอะดิ)
ยังไงก็เชียร์ว่า Adobe อย่าไปยอมมัน ลองแกล้งหยุดพัฒนา CS สัก 2-3 vers
ผมว่าแมค โงกเงก แน่ๆ ทุกวันนี apple ทำทนงตัวมาก
ผมว่าเกิน 90% คนที่เลือกใช้แมค นั้นเพราะแมคมี Adobe CS
เก่งจริงคิด app ขึ้นมาชน CS เลยครับไม่ก็ ซื้อ adobe ไปเลย
ให้มันเผด็จการเบ็ดเสร็จสุดๆไปเลย
อาจจะกำลังทำ หรือ อาจจะกำลังหาทางซื้อก็ได้ครับ
ผมว่าสิ่งที่ apple เรา ๆ ก็น่าจะรู้กันมานานแล้ว มันไม่ได้เพิ่งจะเกิด
"เพื่อลูกค้าตัวเองเท่านั้น ค่ายอื่นไม่เกี่ยว"
เรื่องจะหยุดพัฒนา CS คงเป็นไปไม่ได้ เพราะ adobe ก็ได้เงินจากเหล่าผู้ใช้แมคเช่นกัน
คงจะไม่หน้ามืด ทุบหม้อข้าวตัวเอง
เรื่องที่ไม่เห็นด้วยคือ 90% คนที่เลือกใช้แมค ซื้อแมคเพราะมี CS ดูยังไงมันก็ไม่น่าจะถึง
สาวกแมค น่าจะเยอะกว่า สาวก Abobe
คนซื้อด้วยเหตุผลอื่นมากกว่า ไม่ใช่เพราะมันมี Adobe CS เยอะแยะไปครับ
ผมว่ายุคนึง Adobe ก็ทำอะไรสู้คนอื่นไม่ได้ จนต้องเข้าไปซื้อบริษัทเค้ามาเหมือนกัน
อันนี้เห็นเด้วยครับ
Apple - ของคุณภาพดี ระบบปิด เลือกตลาดได้ถูก ซื้อเพราะมันใช้งานดี (Final Cut/iPad มันใช้งานได้ดีก็ซื้อใช้ครับ)
Adobe - เน้นทำของ Runner Up (ซื้อ Macromedia เอา Flash) หรือของที่ไม่มีคนอื่นมี/สู้ได้ (Photoshop/After Effect) (ซื้อเพราะไม่มีของที่เทียบเคียงได้ในปัจจุบัน จะเลือกอย่างอื่นเมื่อมีคนทำได้ดี+ถูกกว่าเช่น Illustrator Photoshop After Effect หริือ PDF Reader และ Flash)
Windows - ทำของดีให้ Mass (Windows) (มัน Mass ซื้อใช้เพราะมันใช้ของได้เยอะและหลากหลาย Compatibility มันเยอะในบ้านเรา จะเลือกอย่างอื่นเมื่อ คนอื่นเป็น Norm ของสังคม เช่น Windows XP/เกมส์ต่างๆที่ลงใน Win32)
สรุป - ซื้อใช้มันหมดนั่นแหล่ะครับ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
ให้ Adobe ยกเลิกสายการผลิตบน Mac apple ทั้่งหมด
แล้วออก adobe for ubuntu เลยเฮีย
เดี๋ยวอุทิศ server เป็น mirror ในไทยให้ฟรีปีนึงเลยเอ้า
Ton-Or
นั่นสิไหนๆ จะออกทุก Platform แล้ว ขอ CS กับ Illus บน Ubuntu ด้วยดิ
ผมมองว่า Lose-Lose-Lose Solution ครับ
Adobe เองจะขาดรายได้แน่ๆ Apple ก็(อาจจะ)ขายได้น้อยลง ส่วน User ก็เตรียมบ่นกันเลยทีเดียว
{$user} was not an Imposter
1) เชื่อว่า Apple กำลังเลี่ยงปัญหาด้าน Compatibility ทั้งหลาย เลยตัดใจจาก Flash
2) เชื่อว่าถ้า Flash ลง iPhone, iPad, iPod ได้จะทำให้ถูกเจลเบรกง่ายขึ้นมาก เรื่อง Security ใน Flash ผมว่าน่าเป็นห่วง
{$user} was not an Imposter
เจ้าของ Platform กับ เจ้าของ Tool มันคนละมุมมองอยู่แล้ว