ทีมงาน YouTube ออกมาเขียนบล็อกสยบข่าวลือและความเข้าใจผิดต่างๆ ของ YouTube โดยเฉพาะเรื่องรายได้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าไม่คุ้มค่าใช้จ่ายเสียเลย
ประเด็นที่ YouTube ออกมาพูดถึงมี 5 ข้อดังนี้
- YouTube มีแต่วิดีโอจากทางบ้าน - ในความเป็นจริง YouTube มีวิดีโอคุณภาพสูงจากพาร์ทเนอร์นับพันราย เช่น Disney, Sony, Universal Music มีทั้งภาพยนตร์และทีวีคุณภาพสูงให้ดูจำนวนมาก
- วิดีโอของ YouTube คุณภาพต่ำ - ตอนนี้มีโหมด HD แล้ว YouTube อ้างว่ามีวิดีโอ HD ใหม่เดือนละเป็นหลักแสน และ CNET WebWare ได้ยกย่องว่าเป็นเว็บรวมวิดีโอ HD ที่ดีที่สุดบนเน็ต
- ยิ่ง YouTube โต ทราฟฟิกเพิ่ม รายจ่ายยิ่งเป็นปัญหา - YouTube ปฏิเสธตัวเลขที่นักวิเคราะห์ประมาณการณ์ต้นทุนที่ YouTube ต้องจ่ายเป็นค่าแบนด์วิธและค่าดูแลระบบ โดยบอกว่าระบบของ YouTube ถูกพัฒนาขึ้นเองทั้งหมด จึงมีต้นทุนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมมาก และบอกด้วยว่าอัตราการเติบโต ณ ปัจจุบันเป็นผลดีต่อ YouTube มากกว่าผลเสีย
- โฆษณาไม่กล้ามาลง YouTube - ทาง YouTube เถียงว่า 70% ของนักการตลาด 100 อันดับแรกที่จัดอันดับโดยนิตยสาร Ad Age มาทำแคมเปญโฆษณากับ YouTube ในปี 2008 และทาง YouTube ก็กำลังพัฒนาเครื่องมือให้นักการตลาดควบคุมโฆษณาของตัวเองได้มากยิ่งขึ้น
- มีวิดีโอเพียง 3-5% เท่านั้นที่ทำเงินได้ - YouTube บอกว่าสถิตินี้เก่ามากแล้วและไม่เป็นความจริงในปัจจุบัน และความสำคัญอยู่ที่จำนวนครั้งในการรับชมที่ YouTube ได้เงิน (monetized views) มากกว่าอัตราเป็นเปอร์เซนต์ โดยจำนวน monetized views เพิ่มขึ้นสามเท่าในรอบปีที่ผ่านมา
ที่มา - YouTube Biz Blog
Comments
เถียงทุกข้อ ฮาดี :)
YouTube เหมือนเป็นเว็บการกุศลเลยนะ ยังใช้หารายได้ไม่เต็มสูบ
มาๆๆ มาดู AF6 กัน
ถ้าไม่คุ้มจริงๆ กูเกิ้ลไม่ลงทุนซื้อมาทำหรอก จริงปะ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
บางทีอาจจะยังดีกว่าปล่อยให้ตกไปอยู่ในมือคู่แข่งทางด้านธุรกิจล่ะมั้ง
แต่ที่แน่ๆ อยากรู้จัง แบนวิดของ youtube เดือนนึงจะตกสักเท่าไหร่กัน
นั่นน่ะสิครับ อยากรู้เหมือนกัน
ชัดเจนเปลี่ยน
รอดูแผนธุรกิจต่อไปว่าจะมีอะไรมาย้ำว่าไม่ได้ขาดทุน
<mOkin>ไม่รู้โลกกว้างไป หรือใจฉันแคบลง<mOkin/>
555 แลดูน่ารักดี
"Brand Apple is "Tool for creative minds" not "Tool for rich guy"
ถ้าตัว ad manager ที่กำลังพัฒนา ใช้งานแล้วเข้าใจ คำนวณ budget, impression, CPC แบบ facebook ads ให้เห็นๆกันเลย media planner ก็น่าจะสนใจไม่น้อย (ไม่รู้ว่า อย่าง banner AIS เค้าติดต่อลงกันทางไหน อะไรยังไงอ้ะ) หรือว่ายังอัตโนมือกันอยู่