Tags:
Node Thumbnail

บทความรับเชิญจากคุณชิตพงษ์ กิตตินราดร นักเขียนจาก Business Week (ผมเคยของานเขียนเรื่อง แบ่งปันอย่างเสรีบนโลกออนไลน์ด้วยครีเอทีฟคอมมอนส์ มาลงให้อ่านไปก่อนหน้านี้แล้ว ถ้ายังจำกันได้) -- mk

หลุมพรางการตลาดกับการก้าวพ้นกำแพงของความสมเหตุสมผล: กรณี MacBook Pro 17 นิ้ว

ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวกับการเปิดตัว MacBook Pro 17 นิ้วรุ่นใหม่ของแอปเปิลซึ่งถ้าไม่ถูกใจใครก็ขออภัยครับ

แอปเปิลเพิ่งเปิดตัว MacBook Pro ขนาดหน้าจอ 17 นิ้วรุ่นใหม่ล่าสุดที่งาน MacWorld ที่มีจุดเด่นตรงแบตเตอรี่แบบใหม่ ที่ถอดเปลี่ยนไม่ได้ แต่สามารถใช้งานได้ถึง 8 ชั่วโมง และชาร์จได้ 1,000 ครั้ง
New 17-inch MacBook Pro

ราคาเริ่มต้นของ Macbook Pro รุ่นนี้ อยู่ที่ $2,799 หรือประมาณ 98,000 บาท แน่นอนว่าถ้าจะคิดให้สมเหตุสมผล คนที่มีกำลังซื้อขนาดนี้น่าจะมีรายได้ไม่น้อยกว่าเดือนละ 100,000 บาท แลกกับสิ่งที่ได้มาคือแล็ปท็อปจอใหญ่ประสิทธิภาพสูง ที่สามารถใช้งานโดยไม่เสียบปลั๊กได้เป็นเวลานาน

คำถามก็คือ ในประเทศไทยจะมีลูกค้ากลุ่มใดที่มีคุณสมบัติตรงกับคำบรรยายดังกล่าว? จะมีใครที่

  1. มีรายได้มากกว่าเดือนละ 100,000 บาท
  2. ต้องการแล็ปท็อปจอใหญ่พิเศษ ประสิทธิภาพสูง (ที่มักจะมีประโยชน์กับงานมัลติมีเดีย เช่นแต่งภาพ แต่งเพลง ติดต่อหนัง) และ
  3. ต้องการใช้งานแล็ปท็อปดังกล่าวในลักษณะเคลื่อนที่ ที่ไม่สามารถเสียบปลั๊กไฟเป็นระยะเวลายาวนาน เช่น บนรถ บนเครื่องบิน ในร้านกาแฟ การนำเสนองาน

ตามความเข้าใจของผม คนที่มีคุณลักษณะครบ 3 ประการข้างต้นที่เหมาะสมจริงๆ กับการเป็นเจ้าของ MacBook Pro รุ่นใหม่นี้ ไม่น่าจะมีมากนัก ถ้าเราเอาข้อแรกคือมีรายได้สูงเป็นที่ตั้ง จะพบว่าส่วนมากคนมีรายได้สูงขนาดนี้ ในประเทศไทย มักมีตำแหน่งบริหาร จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้งานแล็ปท็อปในลักษณะ “professional” แบบนักวิชาชีพเช่นนักออกแบบ นักแต่งเพลง นักตัดต่อ

ถ้าเอาข้อ 2 ตั้งต้น คือผู้ใช้เป็นนักวิชาชีพที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจง ส่วนมากก็จะไม่มีรายได้พอที่จะซื้อ MacBook Pro ได้

และถ้าจะเอาข้อ 3 ตั้งต้น คือต้องการ mobility สูงมากๆ เลยต้องการแบตเตอรี่ใช้ได้นาน ประสิทธิภาพสูง คนเหล่านี้มักต้องการแล็ปท็อปขนาดเล็กและเบา เช่นหน้าจอขนาด 13 นิ้วลงไป และน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม ไม่ใช่ 3 กิโลกรัม (6.6 ปอนด์) แบบ MacBook Pro 17 นิ้ว

แต่ถึงกระนั้น ผมก็ยังเชื่อว่า MacBook Pro รุ่นนี้จะขายได้มากพอสมควร เพราะถึงแม้จะมีความไม่สมเหตุสมผลหลายประการ แต่แอปเปิลมีพลังอำนาจทางการตลาดและจิตวิทยาสูงมาก จนทำให้ผู้ใช้ในประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศไทยพยายามกระเบียดกระเสียน กู้หนี้ยืมสินมาซื้อผลิตอุปกรณ์ที่มีราคาเท่ากับเงินเดือนเกือบครึ่งปี คนเหล่านี้อาจจะซื้อเพราะมัน “ดีที่สุด” หรือเพราะมี “มีทุกอย่าง” หรือเพราะมันเท่ห์ การซื้อโดยปัจจัยชี้นำสุดโต่งแบบนี้ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มก้าวพ้น กำแพงของความสมเหตุสมผล ไม่ต่างกับสาเหตุแห่งวิกฤติ sub-prime ที่ธนาคารปล่อยกู้ให้ลูกค้าอย่างไม่ลืมหูลืมตาด้วยความละโมบ

ยิ่งเมื่อพิจารณาว่า MacBook Pro รุ่นนี้ก็เหมือนกับ iPod และ iPhone ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ การซื้อ MacBook Pro รุ่นนี้มาใช้เท่ากับการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างไม่ยั่งยืน เพราะซื้อไปก็รอวันแบตเตอรี่เสื่อม ต้องทิ้งไปในที่สุด แทนที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่และใช้งานต่อได้อีกนาน

ผมคิดว่าท้ายที่สุด เราต้องหันกลับมามองการตลาดและบริโภคนิยมสุดขั้วแบบนี้ในมุมมองจากนกบนท้องฟ้า เพื่อค้นพบความไม่สมเหตุสมผลขั้นพื้นฐานที่คนที่เป็นตัวละครหรือผู้เล่นมักมองข้ามไป

ต้นฉบับจาก - Entagled

Get latest news from Blognone

Comments

By: isunsunsun on 7 January 2009 - 08:31 #79178

อ่านหลาย ๆ รอบ แล้วจะเข้าใจ :-)

By: mossila
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 7 January 2009 - 08:32 #79179
mossila's picture

เห็นด้วยครับถ้าจะพกไปไหนมาไหนง่ายๆ ไม่เอาจอใหญ่หรอก เกะกะ นี่ยังหนักด้วยหุหุ

:→♀MOSS♂←:A LITTLE PLANT ON THE ROCK.

By: pawinpawin
Writer
on 7 January 2009 - 08:40 #79182

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ

___________pawinpawin

By: audy
AndroidUbuntu
on 7 January 2009 - 08:43 #79183
audy's picture

เงินต้องหนาจริงๆ ถึงจะซื้อได้
ราคานี้ซื้อ iMac 20"+Software อื่นๆ ได้ชุดใหญ่เลย ยังจะคุ้มมากกกว่า
แต่ก็นะ นั่นมันผมนี่ คนธรรมดาที่ไม่ได้มีเงินเยอะพอจะจ่ายกับเรื่องแบบนั้น

By: groovin on 7 January 2009 - 08:46 #79184

เห็นด้วยเกือบทั้งหมด

ยกเว้นเรื่อง battery ซึ่งมันออกแบบมาเพื่อให้ใช้ได้ประมาณ 3 ปีเท่าๆกับอายุการใช้โน้ตบุคอยู่แล้วครับ และจริงๆแล้วมันก็น่าจะเปลี่ยนได้ โดยผ่านศูนย์ หรือมีวิธีที่ผู้ใช้เปลี่ยนเอง แบบ iPhone ครับ

By: DrRider
WriterAndroid
on 7 January 2009 - 09:03 #79194 Reply to:79184
DrRider's picture

ผมว่าจุดคุ้มของ notebook ราคาขนาดนี้มันน่าจะประมาณ 5-8 ปีนะ 3 ปีมันน้อยไป

ว่าแต่ Apple กล้ามากที่ทำแบตเปลี่ยนเองไม่ได้ เกิดแบตมีปัญหาเหมือน lot ที่ผลิตโดย Sony คราวก่อนล่ะก็ ไฟไหม้บ้านเลยนะ

We need to learn to forgive but not forget...


We need to learn to forgive but not forget...

By: molek
WriteriPhoneWindows Phone
on 7 January 2009 - 18:04 #79332 Reply to:79184
molek's picture

แบต apple เสื่อมเร็วเสมอ ผมเปลี่ยนแบต 3 ก้อนในเวลาปีเดียว ก้อนล่าสุดใช้ไป 30 cycle แต่จุไฟได้ไม่ถึงครึ่งแล้ว

molecularck โม-เล-กุล่า-ซี-เค

sci news on foosci.com


http://www.digimolek.com

By: kohsija
AndroidUbuntuWindowsIn Love
on 7 January 2009 - 08:47 #79186
kohsija's picture

เป็นสินค้าที่มีความ paradox ในตัวเองสูงมาก

Kohsija

By: iWindows7 on 7 January 2009 - 08:49 #79187

-ดูไปก็คล้าย ๆ กับกรณีของโทรศัพท์เคลื่อนที่ ถ้าอยากอยู่ในกระแสนิยม

By: DrRider
WriterAndroid
on 7 January 2009 - 08:55 #79191
DrRider's picture

ถูกครับ! เมื่อคิดถึงตลาดในประเทศไทย

แต่คิดอีกมุม คนที่เป็น professional ในต่างประเทศ (เอา USA เป็นหลักละกัน) มีรายได้ที่สามารถหาซื้อ MBP 17" ได้ด้วยการทำงานแค่เดือนเดียวหรือสองเดือน ใน scenario ที่ต้องการเครื่องที่แรงพอสมควรที่จะทำงานได้ระหว่างเดินทาง ซึ่งต่อให้ขึ้นเครื่องบินจาก NY ไป LA มันก็กินเวลาโขอยู่ (เพราะคนเหล่านี้ถ้าจะนั่งทำงานคงซื้อ MacPro มากกว่า ถูกกว่าด้วย จอใหญ่กว่าด้วย)

สำหรับในประเทศไทย ผมก็มองไม่เห็นว่า รุ่นนี้มันจะจับตลาดไหนเลยนะ เพราะประเทศไทยก็เล็กๆ ถ้าต้องการซื้อมาทำงาน คงเลือก MacPro มากกว่าด้วยเหตุผลข้างบน แถมถ้ามีเงินซื้อ MBP ขนาดนี้ คงไม่ขึ้นรถไฟไปนำเสนองานที่เชียงใหม่โดยระหว่างนั้นก็ทำงานไปด้วยละมั้ง คงขึ้นเครื่องบินไป ไม่ถึงสองชั่วโมงมากกว่า และเหลือเวลาเปิดเครื่องปิดเครืองทำงานไม่ถึงชั่วโมง และด้วยความที่มันใหญ่ ก็ไม่น่ามีใครอยากจะแบกมันไปไหนเท่าไหร่ ซื้อมาตั้งเป็น Desknote มากกว่า

ส่วนตัวครับ เห็นก็ไม่เอาแล้ว

We need to learn to forgive but not forget...


We need to learn to forgive but not forget...

By: djug on 7 January 2009 - 09:02 #79192

ผมว่าคนที่เป็นนักวิชาชีพที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจง หรือ Specialist
ผมว่าเงินเดือน มากกว่าแสนก็มีอยู่มากนะ

แต่ก็อีกนั้นแหละ คนที่ซื้อผมบอกได้เลยว่าส่วนใหญ่ซื้อเพราะ รสนิยม(ที่บางครั้งเกินตัว)
ซื้อการออกแบบ ดูดี ผมบอกได้เลยว่าซื้อพวกนี้ถ้าไม่ได้เอาไปหากิน ก็เหมือน
ซื้อ toyota camry เอาไว้จ่ายตลาดใกล้บ้าน

จริงๆต้องพูดกันตรงๆว่า คนไทยบริโภคนิยมมาก อย่างน่าตกใจ !!

By: erk
iPhone
on 7 January 2009 - 09:02 #79193

ผมว่าข้อ 1 กะ 2 นี่ ถ้าเป็นที่ USA จะค่อนข้างสมเหตุสมผลทีเดียว ที่คนเป็น professional, technical specialists เงินเดือนสูงครับ ซึ่งคนพวกนี้ผมคิดว่า mobility สำคัญแต่ไม่สำคัญที่สุด laptop จอเล็กๆ สะดวกก็จริงแต่เอามาใช้งานจริงๆ กับคนกลุ่มนี้ไม่ได้ เพราะต้องการเครื่องที่มี performance สูง พื้นที่จอเยอะก็เป็นเรื่องสำคัญ (programmers, designers, etc) ผมว่าคนกลุ่มนี้มีไม่น้อยเลยในต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ Apple เองก็เห็นอยู่ทุกวัน (engineers ที่ Apple เอง) และคิดว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายของ Macbook Pro รุ่นนี้

By: bomber on 7 January 2009 - 09:07 #79195
bomber's picture

ผมมองต่างมุม ส่วนใหญ่คอมพิวเตอร์สำหรับใช้ทำงานเพื่อ professional ผู้ซื้อไม่ใช่ผู้มีเงินเดือน แต่เป็นบริษัทเป็นผู้ลงทุนซื้อให้ professional เหล่านั้นได้ใช้งาน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพงานที่สูงขึ้น ดังนั้นเรื่องราคาจึงไม่ใช่ข้อจำกัดของสินค้าตัวนี้ และอายุ battery เอาเข้าจริงๆแล้วก็เพียงพอกำการใช้งาน 3 ปีแบบสบายๆ ซึ่งถึงตอนนั้นก็ได้เวลาจะเปลี่ยน laptop อยู่แล้วสำหรับคนในองค์กร

สำหรับผู้คิดจะซื้อมาใช้ในงานส่วนตัวคง ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายหลักของสินค้านี้แน่ๆ

By: DoraeMew
AndroidSymbianUbuntuWindows
on 7 January 2009 - 13:33 #79257 Reply to:79195

+1

By: GoodWillHunting on 7 January 2009 - 09:11 #79196

เห็นด้วยว่าพลังการตลาดของแอปเปิลร้ายเหลือ

ส่วนตัวคิดว่าแอปเปิลต้องการใช้รุ่นนี้เป็นเรือธง ชูถึงความทันสมัยของผลิตภัณฑ์ของบริษัทตน และมองตลาดของประเทศพัฒนาแล้วเป็นหลัก ดังนั้นเห็นด้วยว่าในไทยคงขายได้ไม่มากนัก

ส่วนเรื่องความยาวนานของแบตที่เคลมออกมา ส่งผลขัดแย้งกับขนาดและน้ำหนักของเครื่องนั้น ผมคิดว่า ในทีแรกแอปเปิล"น่าจะ" อยากออกแบบให้เครื่องตัวนี้บางมาก ๆ ก่อน แบตจึงเป็นตัวแปลสำคัญในการที่จะไปถึงจุดนั้นได้ พอจำเป็นต้องออกแบบให้แบตถอดเปลี่ยนไม่ได้ แอปเปิลจึงต้องสร้างเรื่องราว เพื่ออ้างเหตุผลป้องกันคนด่า ที่ตนไม่ทำแบตถอดเปลี่ยนได้ (ซึ่งยังไม่มีการทดสอบ ดังนั้นไม่รู้ว่าจะดีเหมือนราคาคุยไหม)

ส่วนเรื่องรักษาสิ่งแวดล้อม ผมไม่เห็นด้วยครับ เนื่องจากหากเราใช้แบตเพียงก้อนเดียวตลอดระยะเวลาที่ใช้โน้ตบุ๊ค ของที่จะต้องทิ้งลงขยะมันก็น้อยลงครับ และแบตภายในที่ว่าเปลี่ยนไม่ได้ คาดว่าทางแอปเปิลคงมีบริการไม่ต่างจาก iPod หรือ iPhone แต่ไม่พูดถึง เพราะขัดกับการตลาดที่พยายามโน้มนำว่า เครื่องสามารถใช้งานได้ 3 ปีโดยไม่ต้องเปลี่ยนแบต

ท้ายที่สุดคิดว่า กรณีนี้ไม่ถึงกับเป็นการขัดกันเสียทีเดียวเกี่ยวกับประเด็น ขนาด น้ำหนัก และความสะดวกในการเคลื่อนที่ เพราะคนที่ต้องการเครื่องนี้ อาจไม่ได้ต้องการ Mobility ก็ได้ แต่ต้องการ Desktop Replacement ซึ่งได้แบตที่ใช้ยาวนานเป็นของแถมครับ ดังนั้นจะเรียกว่าเป็นกับดักผู้บริโภคอันน่ากลัวนั้นคิดว่าฟังดูเกินจริงไปหน่อย : )

++ เรื่องหากต้องกู้หนี้ยืมสินมาซื้อ ก็ไม่เห็นด้วยอย่างแรงเช่นกัน

By: pawinpawin
Writer
on 7 January 2009 - 09:09 #79197

ผมเกรงว่ากลุ่ม Professional อาจจะไปซื้อ Thinkpad W700 ซะมากกว่า (ถึงจะแพงกว่าแต่ก็รวม Tablet & Calibrator แล้ว)

___________pawinpawin

By: pexza
AndroidUbuntuWindows
on 7 January 2009 - 09:11 #79198
pexza's picture

สำหรับผม การซื้อโน๊ตบุค หลัก ๆ เลยคือน้ำหนักครับ เรื่องประสิทธิภาพให้ตามหลังได้ เพราะถ้าต้องการพลังสูงจริง ๆ Desktop ยังแรงได้กว่า และถูกเงินกว่าด้วยครับ

คิดแบบไทย ๆ น่ะครับ

By: chayaninw
WriterMEconomicsAndroidIn Love
on 7 January 2009 - 09:59 #79210 Reply to:79198
chayaninw's picture

ผมว่าแลปทอปเล็กกับแลปทอปใหญ่ๆ มันก็มีเป้าหมายของมันเองนะครับ คนใช้แลปทอปใหญ่ๆ อาจจะต้องการ mobility แค่ปานกลาง คือไม่ได้ต้องหิ้วไปไหนมาไหนบ่อยๆ แต่ก็สามารถย้ายไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องหิ้วขนเดสก์ทอป ทั้งเครื่องทั้งจอทั้งสายต่างๆ นาๆ เช่น อาจจะต้องไปตั้งโต๊ะทำงานตามสถานที่ในแต่ละโครงการ ไปก็ตั้งเป็นโต๊ะทำงานไว้ตรงนั้นอาทิตย์นึง จบโครงการก็เก็บ ย้ายไปโครงการใหม่ ใช้แลปทอปก็ง่ายและประหยัดเวลากว่าเดสก์ทอปมาก

By: BonBon
iPhone
on 7 January 2009 - 09:23 #79200

ผมว่าเป็นลูกค้ากลุ่มเดียวกันกับ Acer Ferrari, Asus Lamborghini เพียงแต่ชอบแบรนด์ Apple

By: 9AuM on 7 January 2009 - 09:43 #79201

ส่วนตัวคิดว่า ถ้า Apple ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมจริงๆ ก็น่าจะทำให้เปลี่ยนแบตได้ไม่ใช่หรอ มือถือยี่ห้ออื่นๆยังทำแบตแยกให้เปลี่ยนกันเองได้

ส่วนตัวผมมองเรื่องความปลอดภัยมากกว่า ดีไซน์ ไม่รู้สิอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ พร้อมแบตขนาดใหญ่ แบกไปไหนเหมือนแบกระเบิดนั้นแหล่ะ (แม้เค้าว่าจะปลอดภัยสุดๆก็เหอะ)

ปล. สารภาพว่าผมไม่มีปัญญาซื้อหรอกครับ ถ้ามีโอกาสได้เจอคนที่ซื้อมาใช้ไว้จะลองถามดูว่าคิดเรื่องพวกนี้ยังไง ?

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 7 January 2009 - 09:45 #79203
lew's picture

ในแง่ของตลาดผู้ซื้อไปใช้ส่วนตัวก็อาจจะเป็นตามบทความนะครับ (ไม่สมเหตุสมผลที่จะซื้อ แต่คนจะซื้อเพราะมันเป็นแอปเปิล) แต่ผมเชื่อว่าเอาเข้าจริงแล้ว MBP รุ่นนี้น่าจะเน้นขายองค์กรที่ซื้อไปใช้งานซะมากกว่า แนวๆ เดียวกับ ThinkPad W700 ที่ไม่น่าจะมีใครซื้อมาใช้เล่นเว็บเองที่บ้าน แต่เป็นบริษัทซื้อมาให้พนักงานใช้ทำงาน

แต่ในเมืองไทยแล้ว ผมยังนึกไม่ออกว่าบริษัทที่มีนโยบายซื้อ MBP ให้พนักงานใช้นี่จะมีซักกี่คนกัน?

LewCPE


lewcpe.com, @wasonliw

By: DoraeMew
AndroidSymbianUbuntuWindows
on 7 January 2009 - 13:35 #79259 Reply to:79203

+1

By: Sikachu
ContributoriPhoneIn Love
on 11 January 2009 - 03:18 #80071 Reply to:79203
Sikachu's picture

มีแต่ บ. ที่ผมเคยทำซื้อ mb' ให้พนักงานใช้ :P

บล็อกของผม: http://sikachu.com


บล็อกของผม: http://sikachu.com

By: agent5 on 7 January 2009 - 10:08 #79207

ช่างภาพไงครับ

ถ้าใช้กล้องใหญ่ อย่าง PhaseOne, Leaf, Hasselblad หรือ Digital Back มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพ่วงกล้องเข้ากับคอมพิวเตอร์ ผ่าน FireWire "ตลอดเวลา" เพื่อเก็บภาพ
เพราะภาพแต่ละภาพขนาดหลายร้อยเม็กกะไบท์ และการถ่ายแฟชั่น ต้องยิงรัวชนิดที่เขียนลงการ์ด หรือส่งภาพผ่าน USB กันแทบไม่ทัน

กลุ่มที่จะได้ประโยชน์คือช่างภาพที่ต้องทำงานนอกสถานที่ อย่างถ่ายแฟชั่น Outdoor ถ่ายโฆษณานอกสถานที่

เพราะเก็บภาพแล้ว สามารถทำงานในการจัดการภาพ on site ได้ทันที โดยไม่ต้องเอากลับไปจัดการต่อที่บ้าน แล้วค่อยกลับมาส่งงานอีกรอบนึง

เวลา 6-8 ชั่วโมง ลงตัวพอดีสำหรับการทำงานของช่างภาพ พร้อมมีเซฟตี้สำรองไว้พอประมาณ

(Setup แสง ฉาก ถ่ายเทส 1-2 ชั่วโมง ถ่ายจริง 1-2 ชั่วโมง ปรับแต่งภาพเพื่อส่งให้ฝ่าย Art ไปทำงานต่อ อีก 2-4 ชั่วโมง)

และ Mac ยังเป็นตัวเลือกเดียว ของช่างภาพกลุ่มนี้เสียด้วย

รุ่นพี่ที่ผมรู้จัก สมัยก่อนแบก iMac กันพะรุงพะรัง ต่อมาก็ Macbook Pro ถ้ามีรุ่นใหม่แบบนี้ ก็น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของเขาแน่ๆ

ราคาแสนนึงซื้อได้สบายมากครับ ถูกกว่ากล้องตั้งเยอะ ถ่ายภาพแค่ 1-2 งาน ก็คืนทุนแล้ว

กล้องพวกนี้ราคา "เริ่มต้น" ก็ร่วมสามล้านบาทแล้วครับ เลนส์อย่างต่ำตัวละแสน

หรือช่างภาพข่าว อย่างข่าวกีฬา ที่ต้องจัดการภาพให้เสร็จเรียบร้อยให้เร็วที่สุดหลังจากแข่งจบ เพื่อส่งภาพเข้าสำนักพิมพ์

ไม่มีเวลาเอารูปกลับไปทำที่บ้าน หรือที่สำนักงาน ไม่มีที่ชาร์จไฟ

เมื่อก่อนก็ใช้โน้ตบุ๊คตัวเล็กๆ จ้องกันตาแทบบอด แค่วางเครื่องมือ Photoshop ก็เหลือที่แสดงภาพใหญ่กว่าสแตมป์หน่อยเดียว

มีเจ้านี่ช่วยได้เยอะเลย ราคาก็ไม่แพง เลนส์ถ่ายภาพกีฬาตัวละตั้งสองสามแสน ยังซื้อได้ตั้งหลายตัว

By: risingtop
iPhoneWindows PhoneBlackberryWindows
on 7 January 2009 - 10:47 #79217 Reply to:79207

+1 ครับ
คนที่มีเงินถอย เอาแค่ Canon 1D MK II ได้ ก็ต้องซื้อได้แน่นอน

By: bricker
Contributor
on 7 January 2009 - 11:13 #79224 Reply to:79207

+100 เห็นด้วยครับ Apple คงจะรู้แหละครับ ว่าลูกค้าของเขากลุ่มไหนที่จะซื้อ

By: DoraeMew
AndroidSymbianUbuntuWindows
on 7 January 2009 - 13:37 #79260 Reply to:79207

+1 เครื่องรุ่นนี้มัน niche ยิ่งกว่ารุ่นอื่นๆ ของ Apple เยอะเลย

By: wildseed on 7 January 2009 - 09:56 #79208

ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องการตลาดเลยแฮะ ผมตกหลุมพลาง title ซะแล้ว

เรื่องคนหลงตัวเองแล้วไปซื้อเฉยเลยนี่ช่วยไม่ได้ ซักวันเค้าจะเรียนรู้ แล้วเอามาปล่อยแถว macdd ผมจะรอนะ แล้วเจอกัน :p

:peace'

By: mekpro
ContributorAndroidUbuntu
on 7 January 2009 - 09:58 #79209
mekpro's picture

บางคนก็ยังเอาราคาเป็นตัวตั้งนะ แบบว่ายิ่งแพงยิ่งซื้อ ยิ่งแพงยิ่งเท่ห์

คล้ายๆ ตลาดรถยนต์บ้านเรา ที่ก้าวข้ามจุดนี้มานานแล้ว

By: latesleeper
Android
on 7 January 2009 - 10:19 #79211
    • ขออนุญาตไปเขียนเป็นบทวิเคราะห์ต่อเนื่องละกันเนาะ เพราะเริ่มรู้สึกยาวเกินครับ แหะๆ
By: นายขโมย on 7 January 2009 - 10:07 #79212

สินค้าอะไรของ apple ที่สมเหตุสมผลเหรอ

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 7 January 2009 - 10:50 #79218 Reply to:79212
lew's picture

ผมซื้อ iPod ในเพราะมันเป็นเครื่องเล่น MP3 ที่เสียงดี (มาก) ในราคาที่ซื้อไหวครับ นึกถึงยุคแอปเปิลออก iPod มาใหม่ๆ สมัยนั้นเครื่องเล่น MP3 ที่เสียงดีนี่ราคาจะแพงทะลุฟ้ามาก

ราคา iPod Touch วันนี้ตัวเล็กอยู่ที่ 8,xxx ผมว่าก็โอเคเลยนะครับ

LewCPE


lewcpe.com, @wasonliw

By: นายขโมย on 7 January 2009 - 11:38 #79231 Reply to:79218

ในความหมายของผมก็คือถ้าจะเอาความคุ้มค่าในความหมายของผู้เขียนจะหาได้ยากในสินค้าของ apple เพราะคนที่เขียนบทความค่อนข้างจะอคติกับสินค้าของ apple หรือไม่ก็เข้าใจการตลาดของ apple ก็ว่าได้ ทำให้เอาจุดเรื่องความคุ้มค่าทางตัวเงินและการใช้งานมาโจมตี

โดยส่วนตัวคิดว่าสินค้าของ apple เลยจุดนั้นมาไกลแล้ว สิ่งที่ Jobs ทำอยู่ก็คือขายความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งไม่สามารถให้คนอื่นตัดสินแทนตัวเองได้

มันไม่ใช่หลุมพรางเลยแต่ผู้เขียนไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายต่างหาก

By: jrp13th on 7 January 2009 - 20:05 #79351 Reply to:79218
jrp13th's picture

+1 ซื้อเพราะเสียงดี และความคุ้มค่าครับ (30 GB 1 หมื่น กับอื่นๆ 512 MB 4 พัน - เมื่อ 2-3 ปีมาแล้ว)

By: ezy on 7 January 2009 - 10:08 #79213

ยังไม่เห็นของจริง แต่ก็ยังมีข้อกังขาว่า ตกลงเครื่องนี้แกะมาเปลี่ยนอุปกรณ์บางอย่างที่ชาวบ้านเขาเปลี่ยนกันได้ได้ไหม?

คงต้องรอ User Guide ออกก่อน (แหมแต่ใน Store ก็เขียน Ship in 4-6 weeks แล้ว คนไทยที่อยากซื้อแบบคีย์บอร์ดภาษาไทยคงต้องรอคิวนานหน่อย)

ezybzy.info blog

By: ezy on 7 January 2009 - 10:52 #79219 Reply to:79213

หลังจากดูภาพช้า (เอ้ย) พบว่าใต้เครื่องไม่มีช่องให้เปิดแบบเดียวกับ MacBook Air จึงทำให้สรุปได้ว่า เครื่องนี้ตั้งใจออกแบบไม่ให้แกะเปลี่ยนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

กลัวเครื่องอื่นๆ ที่ออกรุ่นใหม่จะทำแบบนี้อีกจัง

ezybzy.info blog

By: bricker
Contributor
on 7 January 2009 - 10:27 #79214

ถ้าพูดถึงในไทยคนคงซื้อกันไม่เยอะนะครับ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศยากจน เน้นของถูกไว้ก่อน จะเห้นได้ว่า Acer เป็น Notebook ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย ก็ไม่แปลกใจและสมเหตุสมผลดี

By: nimrod
AndroidUbuntuWindows
on 7 January 2009 - 10:28 #79215

มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ ต้อง...ด้วย

By: DuRiAn on 7 January 2009 - 12:59 #79247 Reply to:79215

ต้อง..รวย..ด้วย ใช่มั้ยครับ?

By: hydro on 7 January 2009 - 14:28 #79270 Reply to:79247

เปล่าครับ ต้อง..ไม่คิดมาก..ด้วย

By: dafty
AndroidWindowsIn Love
on 7 January 2009 - 11:06 #79220

คราวก่อน iPod Shuffle (ตัวแรก 1GB/5900฿) แบทเสื่อมไป ถึงเริ่มเข้าใจว่า ... การตลาดของเค้าช่างเหนือชั้นจริงๆ

รวยอย่างเดียวไม่ได้ต้อง... ART ด้วย (นี่สินะสถาปัตยกรรมแบบปิด)

By: isunsunsun on 7 January 2009 - 16:52 #79301 Reply to:79220

อย่างนี้ ART มาก ๆ ครับ

ART มันทำให้ของแพงขึ้นจริง ๆ

By: mokin
Contributor
on 7 January 2009 - 17:33 #79317 Reply to:79220
mokin's picture

ใช่ๆ ซื้อของกับ Apple มันต้อง ART ด้วยครับ เพราะทุกอย่างก็เหมือนกัน แต่แพงกว่าเจ้าอื่น นอกนั้นก็เป้นเรื่องค่าของความ Art ครับ

ผมก็ชอบน่ะ ผลิตภัณฑ์ของ Apple แต่ผมไม่มีเงินซื้อความ ART ของมันน่ะ ก็หาตัวที่คิดว่ามันพอดูดีแต่ราคาไม่แพง ก็แล้วกัน ด้วยยึด หลักของพร 4 ข้อจากพระ ว.วชิรเมธี ที่ว่า "อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ " แต่ถ้ามีเงินซื้อก็ Art ตัวแม่ไปเลยครับ :)

---- มีความสุขที่พอดี กับชีวิตที่พอเพียง

By: yhol on 7 January 2009 - 22:22 #79377 Reply to:79220

งาน Design งานออกแบบ Art ศิลปะอาจจะใกล้เคียง แต่ก็ควรใช้ให้ถูกนะครับ

By: khajochi
WriteriPhoneIn Love
on 7 January 2009 - 11:08 #79222
khajochi's picture

เห็นด้วยถ้ามองเมืองไทยเป็นหลักครับ แต่ที่เมืองนอกเค้าก็มีรายได้สูงและก็นิยมใช้สินค้าแอปเปิลกันจริงๆ (brand royalty มากๆ)

ผมชื่นชอบความกล้าครั้งนี้ของแอปเปิล ต้องรอดูผลตอบรับจากผู้ใช้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง สิ่งนึงที่เห็นว่าเค้าก็ฟังลูกค้าคือออกรุ่นจอด้านแต่ต้องเพิ่มเงินนิดหน่อยให้ลูกค้าที่ไม่ชอบจอสะท้อนๆ

---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature


แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com

By: nonarav
ContributorAndroid
on 7 January 2009 - 11:10 #79223
nonarav's picture

ถ้าเราเอาข้อแรกคือมีรายได้สูงเป็นที่ตั้ง จะพบว่าส่วนมากคนมีรายได้สูงขนาดนี้ ในประเทศไทย มักมีตำแหน่งบริหาร จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้งานแล็ปท็อปในลักษณะ “professional”

คำกล่าวนี้ไม่จริงในชีวิตจริงครับ ...

คนมีเงิน มักจะต้องการสิ่งที่มีสมรรถนะสูงสุดมาใช้สอย ราคาเป็นประเด็นรอง

คนรวยไม่จำเป็นต้องขับรถแข่ง แต่ก็ชอบใช้เฟอรารี่

คนรวยไม่จำเป็นต้องดูหนังบ่อยๆ แต่ก็ชอบซื้อโฮมเทียเตอร์

ดังนั้น คนรวยอาจไม่จำเป็นต้องใช้งานแล็ปท็อปมืออาชีพ แต่จะใช้ MacBook Pro 17 นิ้ว ก็ไม่แปลกอะไรเลย

By: 9AuM on 7 January 2009 - 11:20 #79225 Reply to:79223

แสดงว่า คนรวยไร้เหตุผล = Art ตัวแม่

ฮา แหย่กันเล่นๆครับ ^^

By: DuRiAn on 7 January 2009 - 13:00 #79249 Reply to:79225

สิ่งเหล่านั้นเรียกว่า ความสุข

By: Not on 10 July 2010 - 20:19 #79230

.

By: narut on 7 January 2009 - 11:45 #79232

ไม่ได้เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อครับ

  • การตลาดของ Apple ผิด? (ผู้เขียนยกกรณีเฉพาะประเทศไทย ไม่น่าจะหมายถึงการตลาดของ Apple ซึ่งครอบคลุมทั่วโลก)
  • การตลาดของ Apple ในประเทศไทยผิด? (ผมก็ยังไม่เห็นว่า Apple Thailand จะทำตลาด MBP จริงจังตรงไหน)
  • ผู้ซื้อ MBP17" ในไทยไม่สมเหตุสมผล? (ในชีวิตผมก็เคยเห็นคนไทยที่ใช้ MBP17" ไม่เกินสองเครื่องได้มั้ง หรือว่าผู้เขียนตั้งใจหมายถึงสองคนนั้น)
  • ฯลฯ

ตั้งคำถามไว้เป็นแนวทางเผื่อจะรวบรวมความคิด เรียบเรียงบทความขึ้นมาใหม่นะครับ ผมว่าบทความนี้มัน disintegrated ไปหน่อย (ขออภัยที่ใช้ทับศัพท์ครับ ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรดี)

By: mokin
Contributor
on 7 January 2009 - 17:41 #79322 Reply to:79232
mokin's picture

+1 ใช้แล้วครับ เห็นด้วยเลยกับการที่คนเขียนเขาเขียนที่พยายามสื่อว่ามันคือประมาณนี้

แต่เคยอ่านครับ การตลาดของ Apple เป็นเหมือนรถ ฟอร์ด(มั้งน่ะ) คือ รถมันก็มีหลายยี่ห้อหลายราคา แต่ไม่สนหรอว่าจะต้องการขายของให้มากที่สุด แต่ต้องการขายให้กลุ่มคนที่คิดว่าใช้แล้ะต้องการมากที่สุด

แต่กระนั้น สำหรับในไทย สิ่งที่แพงที่สุด คิดว่ามันดีที่สุด ด้วยไม่คำนึงถึงจุดคุ้มทุนของตัวเอง+รายได้ของตนเองทีมีอยู่

</mOkin™>มีความสุขที่พอดี กับชีวิตที่พอเพียง</mOkin™>

By: mokin
Contributor
on 7 January 2009 - 17:41 #79323 Reply to:79232
mokin's picture

ขออภัยที่ซ้ำ แปลกจัง ตอบครั้งเดี่ยวแต่ขึ้นสอง ข้อความ

</mOkin™>มีความสุขที่พอดี กับชีวิตที่พอเพียง</mOkin™>

By: Suntiwong
ContributoriPhoneAndroid
on 7 January 2009 - 11:48 #79233

ถ้าราคามันแพง แต่ว่าถ้าเครื่องมันตอบสนองการทำงาน และสามารถทำเงินได้ ผมว่า แค่ 1 แสนจิ๊บๆ

ช่างภาพซื้อกล้องตัวนึงเท่าไหร่ รับงานทีหล่ะเท่าไหร่ หากเลือก MacBookPro ออกมาเื่พื่อตอบสนองการทำงาน ผมว่ามันคุ้มทุน

เชื่อดิครับ ด่ากันมากๆ แต่ก็ยังมีคนซื้อใช้อยู่ดี อย่าไปดูถูกเค้าว่า รวยไม่พอต้องโง่ ในเมื่อเค้ามีเงินแล้วพอใจที่จะซื้อ ก็เรื่องของเขาครับ

Suntiwong.net


iauuu.com

By: AdmOd
iPhoneWindows
on 7 January 2009 - 12:28 #79238 Reply to:79233

เห็นด้วยครับ

ส่วนตัวไม่ค่อยชอบบทความที่ชี้แนวเชิงตัดสินใจแทนสักเท่าไหร่นัก ผมเชื่อว่าคนเรามีความสามารถในการตัดสินใจที่ดีมากพอ ที่จะเลือกสิ่งที่ดีให้กับตนเองได้

By: toandthen
WriterMEconomics
on 7 January 2009 - 12:33 #79235
toandthen's picture

ส่วนตัวผมเห็นว่าแอปเปิลเป็นบริษัทที่รอดใต้้ท้องช้างเสมอ

สาเหตุหลักที่มันรอดมาตลอด ถ้าพูดกันตามตรงก็เพราะว่ามันมี Mac OS X นั่นล่ะครับ ส่วนตัวแล้วจากที่ใช้ Vista มา ตราบใดที่ Windows 7 ยังไม่ออก ผมก็นึกภาพไม่ออกหากผมไม่มี OS X ผมจะทนไอ้นี่ไปได้อย่างไร นี่คือส่วนที่ผมเห็นว่าแอปเปิลสามารถจะเอาตัวรอดใต้ท้องช้างได้ตลอดไป และจะทำได้อีกนาน หาก Windows 7 ยังไม่ได้ทำการแก้ไขอะไนตรงจุดนี้

เรื่องราคานั้นผมไม่แปลกใจ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ MacBook Pro 17" ก็ไม่ได้เคยถูกไปกว่านี้จริง ๆ มันก็ราคาประมาณนี้มันตลอด แต่ที่น่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่งสำหรับผม ที่เป็นคนใช้ Laptop เป็น Desktop Replacement คือสเปคของมัน ที่คราวนี้ เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว มันน่าจะมีราคาเพียงแค่ไม่เกิน 5 หมื่นเท่านั้น (ใช่แล้ว ดู HP ใหม่ ๆ สิ อยากจะบ้าตาย Apple เรียก 9600M GT เป็น High-end)

ตอนแรกผมจะซื้อแน่นอนครับตัวนี้ เพราะเงินพร้อมตั้งแต่เดือนตุลาคมที่แล้วแล้ว แต่ตอนนี้ผมชะลอครับ เพราะว่าผมเริ่มคิดใหม่แล้วว่าบางทีมันอาจจะดีกว่าถ้าผมซื้อ MacBook Air ตัวหนึ่ง และ Homebrew Desktop ที่เป็น Windows ซักตัวหนึ่งแทนจะดีกว่าไหม เพราะว่าแน่นอน ถ้าผมอยากทำอะไรแรง ๆ อย่างเล่นเกม จะได้เล่นที่บ้าน ส่วนทำงาน ก็เอา Portability เป็นหลักไปก่อน

ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ผมว่าแอปเปิลก็ยังขายไอ้เจ้า MacBook Pro 17" ได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอนครับ

ส่วนเรื่องประเทศไทย เชื่อเถอะครับ มันขายได้ไม่มากหรอกครับ ก็เหมือนกับ Mac Pro นั่นล่ะ แต่มันก็ขายได้อยู่ดี ประเทศไทยบ้าวัตถุ (ผมก็คนหนึ่ง)

สำหรับผมแล้ว MacBook Pro 17" ราคา $2799 คุ้มครับ เพราะว่าผมใช้คอมวันละเฉลี่ย 5 ชั่วโมง ทุก ๆ วัน ถ้าผมใช้งาน 3 ปีก็ตกค่าใช้ชั่วโมงละ 50 เซนต์ ประมาณ 15 บาท คุ้มแน่นอนครับ ต่อให้มันแพงเท่าไหร่ เมื่อเทียบระยะเวลาใช้งาน มันก็คุ้มกว่า PS3 ผมอยู่ดี (ราคาค่าใช้ต่อชั่วโมงแพงมาก)


@TonsTweetings

By: BonBon
iPhone
on 7 January 2009 - 12:45 #79243 Reply to:79235

+1 ผมก็ยอมรับเหมือนกันว่าบ้าวัตถุ แต่บ้าวัตถุ ที่มีประโยชน์ต่ออาชีพการงานครับ

By: paween_a
Android
on 7 January 2009 - 17:21 #79316 Reply to:79235
paween_a's picture

Windows7 นี่ก็ถือว่า MS แก้ตัวได้ดีนะครับ บทวิจารณ์หลายที่ก็บอกว่าดีกว่า Vista และ XP พอสมควรเลย ก็ดูว่าจะช่วยดึงยอดจาก Apple มาได้แค่ไหน

By: jazripper on 7 January 2009 - 12:46 #79244

Something strange about his writing regarding the comment on battery.

Since it is advertised that the battery can be charged up to 1,000 times.-- at this number of cycle your battery lifespan is longer, thus reduce the chance of having to dispose it prematurely. In this regard it is environmental friendly.

Anyway if the battery can last that long as advertised, you wouldn't eventually need to replace it coz' by the time it is depleted, your system would already be out-of-date.

In the broad market sense, there's a demand for such notebook especially in the areas of creative professionals, although could be less important in the market like Thailand.

By: lew
FounderJusci&#039;s WriterMEconomicsAndroid
on 7 January 2009 - 12:55 #79246 Reply to:79244
lew's picture

I just wonder about Apple's "1000 times" things. In real world, it's not simply like that for the battery keep partially died all the time. At 500th charge you may get 80% charged battery. At 1000th, you may get just 50% power, not mentioning that things depend on your behavior.

I'm looking forward a year from now. How many complaint from Apple's users about the battery life? I'm expecting a lot.

LewCPE


lewcpe.com, @wasonliw

By: นายขโมย on 7 January 2009 - 13:51 #79264 Reply to:79246

ผมว่าครั้งที่พันได้ 10% ก็เก่งแล้ว

By: jazripper on 7 January 2009 - 18:19 #79333 Reply to:79246

That's the Apple way of doing business.
Not to let users get into technical aspects of the machine.

This reminds me of this article:
"How Apple Got Everything Right By Doing Everything Wrong"

http://www.wired.com/techbiz/it/magazine/16-04/bz_apple

By: evo_toon
ContributorAndroid
on 7 January 2009 - 13:02 #79250

สาวกมากันตรึมเลย อิอิ :P

By: coloragent on 7 January 2009 - 13:05 #79251

แล้วซื้ออะไรถึงจะดูฉลาดล่ะครับ?

ถึงผมจะโง่ที่ซื้อเครือ่งพวกนี้มาใช้
แต่ผมก็ผลิตงานฉลาดๆได้ดีกว่าที่ผมซื้อเครือ่งแบบฉลาดๆมาใช้แต่ได้งานที่ดูไม่ค่อยฉลาดนักออกมา

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป
ผมก็ยอมโง่แบบนี้ต่อไปดีกว่าครับ ^^

By: podhikaru on 7 January 2009 - 13:21 #79253
podhikaru's picture

รู้สึกไม่ดีเลย กับคำว่า "สาวก" "ศาสดา"
เหมือนเป็นการดูถูกกันอย่างมาก ผมอ่านมานานพอสมควรแต่เพิ่งจะสมัครก็วันนี้ และนี้เป็น Comment แรก

ในกลุ่มเพื่อนเรียนกันอยู่ครับ 4-6 คน ตอนนั้น ซื้อ Macbookpro 15" มาใช้กันทุกคน มี 1 คนที่มี 17" ด้วย(มี2เครื่อง)
เงินหามาได้จาก Freelance ระหว่างเรียนครับ

เถียงกันก็ไม่จบหรอกครับเรื่องแบบนี้ เพราะคิดกันสองมุม มุมคนใช้งาน กับมุมที่คิดว่าแพง ไม่คุ้มค่า ต้องคนโง่ถึงซื้อมาใช้

By: Sikachu
ContributoriPhoneIn Love
on 11 January 2009 - 03:20 #80072 Reply to:79253
Sikachu's picture

+10

ไม่ชอบเหมือนกันครับที่มีคนมาเรียกว่าสาวก

มันไม่ใช่ว่า Apple ออกอะไรมาเราก็บอกว่ามันเจ๋งเป้ง ทุกครั้งไปซะหน่อย .. ผมคิดว่าคนใช้ทุกคนก็มีความคิดเหมือนกันว่า อันนี้มันดี มันไม่ดี

เออ ถ้ามันดีก็บอกดี ถ้าไม่ดีก็บอกไม่ดี

ถึงตอนนี้ ผมก็บอกได้ว่า Leopard ผมก็ยังไม่ชอบอยู่เนือยๆ เหมือนกัน

บล็อกของผม: http://sikachu.com


บล็อกของผม: http://sikachu.com

By: Thaina
Windows
on 7 January 2009 - 13:22 #79254

เครื่องคอมราคาแสนนึง กู้เงิน ผ่อน หรืออะไรได้อีกเยอะครับ ไม่ต้องมีรายได้เดือนละแสนก็ซื้อได้

ผมว่ามันเหมาะสมหลายอย่าง ขนาดกำลังดีต่องาน Multimedia สามารถเอาไปเข้าป่าถ่ายทำหนังได้เป็นสิบชั่วโมง (เพราะคงไม่ได้เปิดตลอดเวลาหรอก)

ส่วนเรื่องแบตถอดไม่ได้ ผมว่ามันคงต้องมีเครื่องชาร์จสำรองกับแบตสำหรับเครื่องชาร์จนะ

By: Gyroscope on 7 January 2009 - 13:26 #79256

เรื่องนี้เข้าใจได้ง่ายมากๆ ที่สินค้าชินหนึ่งออกมาแล้ว คุณไม่เข้าใจหรือ พยายามมากๆที่จะทำความเข้าใจว่า มันออกมาทำไม
ที่เป็นแบบนั้นเพราะว่า สินค้าชิ้นนั้นไม่ได้มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคุณไง

ถ้ามองในฐานะคนชอบคอมฯ หรือผู้ติดตามข่าวสารเรื่องคอมพิวเตอร์แล้วล่ะก็ สินค้าชิ้นนี้มันแปลกสิ้นดี ปรับแต่งเปลี่ยนโน่นนี่ไม่ได้
มันไม่ยืดหยุ่นเอาเสียเลย แต่หากมองไปยังกลุ่มคนทั่วไปจนไปถึงพวกที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นลูกค้ากลุ่มหลักของ Apple เขาก็คงงงๆ กับคนเล่นคอมว่า จะโวยวายทำไม แบบนี้แหละง่ายดี ยิ่งจุกจิกน้อยพวกฉันยิ่งชอบ ฉันจะได้เอาเวลาไปทำงานของฉัน

ลองนึกเล่นๆว่ากลุ่มลูกค้าหลักของ Apple สิ เค้าจะมาสนไหมว่ามันเปลี่ยนแบตได้หรือเปล่า เพราะมันไม่ได้สำคัญสำหรับเขา
เปลี่ยนแบตไม่ได้แล้วไง ในเมื่อฉันใช้เครื่องได้นานพอที่จะไม่ต้องเปลี่ยนแบต ใครกันจะมาพกแบตสองสามก้อน หนักก็หนัก พกก็ยาก
แบบนี้แหละดีแล้ว ดังนั้น อย่าคิดแทนคนอื่น คนที่จะมองว่ามันสมเหตุสมผลหรือไม่นั้น มันเป็นวิจารณญาณของแต่ละคน ไม่ใช่ให้ใครก็ไม่รู้มาชี้นำ สถาปนิกบางคนอยากได้คอมพิวเตอร์จอใหญ่ๆ แต่ชอบไปนั่งทำงานในสวนเพราะทำให้เขาคิดงานได้ดีกว่า เค้าก็คงไม่แบก Desktop ไปทำงานหรอกนะ การซื้อ notebook แพงๆที่จอใหญ่หน่อย เขาก็คงว่าคุ้มแหละ สำหรับบางคน Spec อาจจะสำคัญมากๆ
แต่บางคน เขาอยากได้เครื่องมือที่ทำให้เขาทำงานได้สบายใจมากกว่า แพงหน่อยไม่เป็นไรขอให้ถูกใจแล้วกัน

จะว่าไปเรื่องนี้มันคล้ายๆกับ Nokia N series VS 8 Series แล้วก็ Leica M8 VS Fullframe DSLR เลยแฮะ

มองอีกมุม Thinkpad บาง Series ก็แพงมากเหมือนกัน กลับไม่โดนถล่มแบบนี้ หรือเพราะมันคือ Apple คอมพิวเตอร์แกะดำของวงการที่ชี้ให้คนใช้อารมณ์ในการซื้อสินค้า Hi-tech มากกว่าเหตุผล เลยต้องใส่มันเยอะหน่อย

By: mp3wizard
iPhone
on 7 January 2009 - 16:02 #79287 Reply to:79256

+1 ผมเป็นอีก 1 คนที่เลือกใช้ apple เพราะความสบายใจครับ รวมถึงความสะดวกสะบายที่ช่วยให้เราประหยัดทำงานได้มากขึ้น แม้จะแลกกับค่าใช้จ่ายที่มากกว่าเครื่องยี่ห้ออื่นๆ ทั่วไปรวมถึงอุปกรณ์เสริมด้วย... และอีก 1 อย่างคือผมได้เจอร้านที่ให้บริการได้ประทับใจ และใกล้บ้านด้วย

By: isunsunsun on 7 January 2009 - 16:59 #79303 Reply to:79256

+10 พูดได้โดนใจ :-)

By: Night on 7 January 2009 - 13:38 #79261

เข้ามางงกับ ข้อความข้างต้นครับ ผมอยู่ในวงการกราฟฟิค แต่ก็ยังเรียนอยู่ ผมว่าผมเห็นคนใช้ตัว MBP 17 มาค่อนข้างเยอะนะครับ แล้วราคาตัวเก่ามันก็ไม่หนีไปมากกว่านี้นะครับ ยังไงก็ขายได้ครับ

บางคห. พูดถูกครับเรื่องเงืนเดือน งานบางงานทำแค่ ไม่กี่จ๊อบก็ซื้อได้แล้วครับ ไม่ใช่ว่าใช้เงินเกินตัวหรอกครับ

By: tr
Writer
on 7 January 2009 - 13:59 #79265

ผมคิดว่าแอปเปิ้ลไม่ได้กะจะทำมาขายในประเทศโลกที่สามเหมือนประเทศไทย (อย่างน้อยก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายหลัก) เพราะค่าครองชีพและรายได้ที่ต่างกันไป (ค่าแรงขั้นต่ำเมืองไทยเดือนละไม่ถึงหมื่น แต่แถวยุโรปประมาณห้าหมื่น)

แต่เป็นผม ผมก็คงซื้อคอมแรงๆซักเครื่อง กับ Macbook ธรรมดาอีกเครื่อง

By: audy
AndroidUbuntu
on 7 January 2009 - 14:08 #79267
audy's picture

สงครามย่อยๆ

By: valentinote on 7 January 2009 - 14:21 #79268

ตลกดี โปรแกรมเมอร์วิจารณ์โปรดักส์คนทำกราฟฟิค

By: coloragent on 7 January 2009 - 14:24 #79269 Reply to:79268

คุณ mk เค้าไม่ได้วิจารณ์เองครับ

By: audy
AndroidUbuntu
on 7 January 2009 - 15:26 #79276 Reply to:79268
audy's picture

ผมว่า Apple ไม่ได้ทำสินค้าสำหรับคนทำกราฟฟิคกลุ่มเดียวนะครับ ผมก็ใช้เขียนโปรแกรมนะ

By: nattachai
WriteriPhoneAndroid
on 7 January 2009 - 22:35 #79379 Reply to:79276

เหมือนกันครับ ผมก็ใช้ MacBook Pro 17" เขียนโปรแกรม

มาใช้ Playground กันเถอะ


nattach.ai

By: Sikachu
ContributoriPhoneIn Love
on 11 January 2009 - 03:22 #80073 Reply to:79379
Sikachu's picture

3 โล หนักมากไปไหมครับสำหรับคนเขียนโปรแกรม แบกไปมา? :)

บล็อกของผม: http://sikachu.com


บล็อกของผม: http://sikachu.com

By: dogme
iPhoneAndroidWindows
on 7 January 2009 - 14:33 #79271

กด F5 ก่อนแล้วว่าจะ ment อ่านดู ค.ห. ข้างบนๆ แล้ว แทบจะ ment ไม่ออกเลยฮะ ผมเองก็ไม่ได้ทำงานด้านกราฟฟิกด้วย ... ตอนนี้คงใช้ notebook เจ้าแก่ไปก่อนฮะ เล่นเน็ต ดูหนังได้ ตามอัตภาพ

my blog: http://udomdog.wordpress.com

By: Montimedia on 7 January 2009 - 14:36 #79272

ผมว่าคนเราเดี๋ยวนี้ยุ่งเรื่องการใช้เงินของคนอื่นมากไปแล้ว

อยากวิจารณ์มากๆเขียนบทความโจมตีคนกินเหล้า บุหรี่ก่อนเลย

นั่นล่ะสมควรวิจารณ์ชัดเจน

แต่ทำไม่ได้เพราะคนกินเหล้าสูบบุหรี่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ

เลยหันปลายปากกามาโจมตีคนกลุ่มน้อยแทน

By: pawinpawin
Writer
on 7 January 2009 - 15:34 #79278 Reply to:79272

ผมมองว่า โครงการรณรงค์เรื่องเหล้า และเรื่องบุหรี่นี่มีค่อนข้างมากแล้วนะครับ
แต่โครงการรณรงค์เรื่องลดการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยนี่แทบไม่มี หรือมีก็แทบไม่มีคนสนใจ
ทั้งๆ ในยุควิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้
สมควรแล้วที่จะต้องมีบทความมาเตือนสติกันบ้างครับ (โดยเฉพาะกับเว็บที่มีแต่ข่าวของออกใหม่ล่อตาล่อใจแบบเว็บนี้)

___________pawinpawin

By: Montimedia on 7 January 2009 - 16:24 #79292 Reply to:79278

อยากจะบอกว่าคนที่ทำงานหาเงินมาซื้อเครื่องนี้ขาดความคิด ขาดการชั่งใจ

เลยต้องให้คนอื่น(ที่คิดว่าตัวเองฉลาดกว่า) มาคอยสั่งสอนงั้นเหรอ

ตลก

คนเราทำงานมาทั้งชีวิต อยากใช้จ่ายด้วยความสุขของตัวเอง

ยังต้องมาโดนคนไม่รู้จักออกมาตำหนิอีก

By: pawinpawin
Writer
on 7 January 2009 - 18:09 #79311 Reply to:79292

ผมไม่เกี่ยงครับถ้าเป็นเงินของตัวเอง และไม่ได้หยิบยืมใครมา หรือใช้เกินตัว

แต่ส่วนใหญ่ของประเทศ (รวมถึงส่วนใหญ่ของผู้อ่าน) มันจะไม่ใช่น่ะสิ

อย่างที่บอก "เตือนสติ" ไม่ใช่ "สั่งสอน" นะครับ ^^"

Edited: และไม่ใช่ "ตำหนิ" ด้วย

___________pawinpawin

By: นายขโมย on 7 January 2009 - 17:19 #79314 Reply to:79292

+1

ไม่ชอบคนที่เอาบรรทัดฐานของตัวเองมาตัดสินคนอื่นเหมือนกันครับ

เช่น มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ต้องโง่ด้วย นี่เป็นต้น

By: lizardilla on 7 January 2009 - 18:23 #79335 Reply to:79278

"ผมว่าคนเราเดี๋ยวนี้ยุ่งเรื่องการใช้เงินของคนอื่นมากไปแล้ว"

ผมว่าที่คุณ montimedia บอกก็ชัดเจนดีนะครับ คนที่เขามีสติก็คงรู้ว่าควรซื้อหรือไม่ แต่ถ้าพวกไม่มีสติ มีหรือไม่มีบทความก็คงไม่มีผลหรอกครับ

By: pawinpawin
Writer
on 7 January 2009 - 21:24 #79368 Reply to:79335

เอ ผมว่าคนที่ไม่มีสติ แต่พอจะช่วยทำให้กลับมามีสตินั่นแหละที่บทความเตือนสติจะช่วยได้มากที่สุด?

หรือว่ามันจะมีแต่คนไม่มีสติที่กู่ไม่กลับกันหมดทั้งประเทศแล้ว? (อืม ไม่แน่นะ)

___________pawinpawin

By: Montimedia on 8 January 2009 - 00:07 #79410 Reply to:79368

ช่วยแปลเป็นภาษาที่คุณต้องการตีความที

ไม่งั้นผมอ่าน 10 รอบก็แปลออกมาได้ว่าคุณกำลังว่าร้ายทุกคนในประเทศที่คิดไม่เหมือนคุณว่าเป็นคนไม่มีสติ

รบกวนด้วย ไม่อยากมองโลกในแง่ร้าย

By: pawinpawin
Writer
on 8 January 2009 - 01:10 #79422 Reply to:79410

ประโยคสุดท้ายผมพูดประชดหรอกครับ -"-

อ่านดีๆ ในทางกลับกัน ผมต่างหากที่บอกว่าประเทศเรายังมีคนที่กู่กลับได้อีกเยอะ

___________pawinpawin

By: Montimedia on 8 January 2009 - 01:14 #79423 Reply to:79422

ครับๆ เอาเป็นว่าขอเป็นฝ่ายค้านแล้วกัน

อยากให้รู้ว่ามีคนส่วนหนึ่งไม่พอใจกับบทความเตือนสติ เพราะแม้จะตั้งใจไม่ตั้งใจก็ตาม มันได้เกิดการตั้งแง่ขึ้นมาแล้วว่า

หากใครซื้อ Macbook ตัวนี้ จะต้องโดนคนบางกลุ่มมองว่าขาดสติ แม้จริงๆแล้วเค้าจะมีสติเต็มเปี่ยมก็ตาม

อยากให้เข้าใจ

By: pawinpawin
Writer
on 8 January 2009 - 01:19 #79426 Reply to:79423

ครับ ^^ แต่จะบอกไว้ก่อนว่าผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะ ถ้าซื้อมาแล้วใช้ไม่คุ้ม ถูกแค่ไหนก็คือขาดสติ
(ป.ล. ในใจลึกๆ ผมเป็นพวก Utilitarianism)

___________pawinpawin

By: toandthen
WriterMEconomics
on 7 January 2009 - 16:29 #79295 Reply to:79272
toandthen's picture

+100 เรื่องการใช้เงิน


@TonsTweetings

By: fatro
ContributoriPhoneAndroid
on 7 January 2009 - 15:19 #79275
fatro's picture

อย่างนี้ใช่ไหมคือความ "พอเพียง"

By: BonBon
iPhone
on 7 January 2009 - 15:28 #79277 Reply to:79275

สินค้า IT เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยอยู่แล้ว 100%

By: pawinpawin
Writer
on 7 January 2009 - 15:36 #79279 Reply to:79277

ถ้าคิดแบบนี้ทุกอย่างนอกจากปัจจัยสี่ก็คงเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยหมด?

___________pawinpawin

By: fatro
ContributoriPhoneAndroid
on 9 January 2009 - 14:47 #79859 Reply to:79279
fatro's picture

ถูกในแง่กายภาพ เพราะเราต้องการแค่ปัจจัยสี่ในการ "มีชีวิต" แต่ถ้าหมายถึงการ "ใช้ชีวิต" เราต้องการมากกว่านั้น

By: audy
AndroidUbuntu
on 7 January 2009 - 16:11 #79289 Reply to:79277
audy's picture

ผมไม่คิดอย่างนั้นนะ
สำหรับผมมันเป็นมากกว่าเครื่องมือที่ใช้ทำมาหากินแล้วครับตอนนี้

By: isunsunsun on 7 January 2009 - 17:02 #79304 Reply to:79275

แต่บางคนเรียก เครื่องมือทำมาหากินครับ

By: lizardilla on 7 January 2009 - 18:25 #79336 Reply to:79304

+1

By: bow_der_kleine
WriterAndroidUbuntu
on 7 January 2009 - 15:48 #79281
bow_der_kleine's picture

เหตุผลเกี่ยวกับการทำงานด้านกราฟิก หรืองาน multimedia ผมคิดว่าน่าจะสมเหตุสมผลสุด แต่ผมก็ยังรู้สึกว่า เหตุผลไม่พอที่จะซื้ออยู่ดี โดยเฉพาะเมื่อมันเปลี่ยนแบตไม่ได้ หากอยากได้แบบทำงานได้นานจริง ก็ต้องเปลี่ยนแบตได้ เพราะจะได้แบกแบตสำรองไปด้วย

ส่วนเรื่องจอใหญ่ อันนี้ผมกึ่ง ๆ เพราะหากคิดเรื่องแบกอุปกรณ์อย่างอื่นไปด้วย แบกโน้ตบุ้คขนาด 17" ไปอีกเครื่องคงไม่หนักขึ้นมาก แต่ผมไม่แน่ใจครับว่า ธรรมดาเวลาคนแบกโน้ตบุ้คไปกับกองถ่าย เขาเอาไปดูงานอย่างเดียว หรือดูเสร็จแก้กันตรงนั้น แต่คิดว่าคงเป็นอย่างแรกมากกว่า หากเป็นอย่างแรก 17" คงเกินความจำเป็น เท่าที่รู้ กองถ่าย "ทั่วไป" ก็ไม่ได้รวยมาก ถึงขนาดซื้อโน้ตบุ้คตัวละเป็นแสนได้ อุปกรณ์อย่างอื่นมันแพงกว่าก็จริง แต่อายุการใช้งานมันก็มากกว่าโข

ส่วนคนที่ทำงานด้านอื่น ผมเห็นด้วยกับคนเขียนครับ การซื้อ MacBook Pro 17" มันเลยขอบเขตของความมีเหตุผลมามากทีเดียว (แฟชั่น หรือความเท่ห์ ไม่ถือเป็นเหตุผล)

ขอติการใช้คำในบทความนิดนึงครับ คำว่า "นักวิชาชีพ" ไม่น่าจะใช้กับคนทำงานด้านบันเทิงได้ครับ (คนเหล่านี้น่าจะเข้าข่ายศิลปิน มากกว่านักวิชาชีพ) นักวิชาชีพ น่าจะเป็นคนที่ใช้วิชาการในการประกอบอาชีพมากกว่า เช่น อาจารย์ หมอ ทนายความ

BioLawCom.De

By: pawinpawin
Writer
on 7 January 2009 - 21:26 #79370 Reply to:79281

+1

___________pawinpawin

By: yhol on 7 January 2009 - 23:08 #79391 Reply to:79281

ส่วนคนที่ทำงานด้านอื่น ผมเห็นด้วยกับคนเขียนครับ การซื้อ MacBook Pro 17” มันเลยขอบเขตของความมีเหตุผลมามากทีเดียว (แฟชั่น หรือความเท่ห์ ไม่ถือเป็นเหตุผล) ความเท่ห์ แฟชั่น ความสวยงาม มีผลทางจิตใจครับ มีผลต่องานที่ออกมาได้เหมือนกันครับ แล้วตามปกติเนี่ยครับ การเอา MBP 17 นิ้วไป ไม่ใช่แค่ดูครับ ส่วนหนึ่งมันคือเครื่องหลัก สามารถเก็บข้อมูล ทำงานแก้ไข ทำเดโมคร่าวๆได้ ไม่จำเป็นต้องกองถ่ายก็ได้ครับ แค่ถ่ายรูปอิสระอย่างผมเนี่ย การแบก MBP ไปโหลดรูป เช็ครูป ถ้ามีปัญหาก็จัดการถ่ายซ่อม กลับโรงแรม โพรเซสใน MBP ส่งคร่าวๆให้ลูกค้าดู แล้วก็คงไม่ไปทำงานออกแบบ หรือตัดต่ออย่างจริงจังเป็นเวลา 5-6 ชมกลางป่าเขา ไฟฟ้าประปาเข้าไม่ถึงด้วยครับ ต้องคิดบ้างนะครับ ว่าหลายๆคน ก็ใช้ laptop เป็นเครื่องหลัก เป็น Studio เคลื่อนที่ แล้วที่บ้านก็มีจอดีๆซักตัว ext.HDD ซักลูก และที่สำคัญเลยล่ะครับ คนเราไม่เหมือนกัน คนบางคนพอใจที่จะจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อความพอใจ บางคนซื้อตามความเหมาะสม หรือว่าโลกนี้มีแต่คนใช้เหตุผล คำนวนต้นทุนความคุ้มค่าตลอด - - ไม่มีอารมณ์เลย ก็ไม่ใช่ เอ่อแล้วคำว่า นักวิชาชีพเนี่ย ไม่ได้หมายความว่า คนที่ใช้วิชาความรู้ประกอบอาชีพหรอกหรอครับ ไม่ได้หมายถึงผู้ที่ใช้ความรู้ที่เรียนมา ทำงาน

By: Montimedia on 8 January 2009 - 01:16 #79424 Reply to:79281

แล้ว ความสุข ถือเป็นเหตุผลได้ปะครับ

ถ้าได้ ผมว่าเราก็เลิกเถียงกันได้แล้วล่ะ

By: oakyman
ContributorAndroid
on 7 January 2009 - 15:52 #79282

เห็นด้วยค่อนข้างมากครับ
3 กิโล เอาไปทำอะไร!!!???

Oakyman.com

By: audy
AndroidUbuntu
on 7 January 2009 - 16:12 #79290 Reply to:79282
audy's picture

หนักขนาดนั้นแต่ต้องเอาไป คงต้องการใช้งานจริงๆ แหละครับ

By: yhol on 7 January 2009 - 22:49 #79385 Reply to:79282

ถ้าผมซื้อ MBP 17 นิ้ว ผมคงแบกใส่เป้พร้อมแบกสัมภาระรุงรัง แล้วเดินทางด้วยรถเมล์ที่แน่นเอี้ยดเป็น1-2ชม ทุกวันครับ

By: toandthen
WriterMEconomics
on 7 January 2009 - 16:30 #79296
toandthen's picture

แอปเปิลประสบความสำเร็จจริง ๆ เรื่อง MBP 17 นิ้ว

เพราะตอนนี้ทุกเว็บ IT ทั่วโลกมี Debate กันพร้อมหน้าพร้อมตา


@TonsTweetings

By: Night on 7 January 2009 - 17:20 #79315

คนที่ใช้แมคบางคนเขาไม่ค่อยไรกับเรื่องแบตกันหรอกครับ ในเว็บบอร์ดแมคไทยเว็บนึงตอนนี้ มีอยู่กระทู้นึง มีคนสั่งซื้อไปเรียบร้อยแล้วครับ

ยังไงมันก็ขายได้ครับ ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ของ Apple

By: isunsunsun on 7 January 2009 - 17:34 #79319 Reply to:79315

ถูกต้องครับ ...

อย่างหลาย ๆ คนนี่ ยังไม่เคยถอดแบตออกมาดูด้วยซ้ำ
แล้วถ้าอยู่ได้ถึง 8 ชม. ตามที่เคลมไว้ แบตสำรองนี่ก็คงไม่จำเป็น

จะมีไหม คนที่จะใช้แบต (ปกติไม่เกิน 4 ชั่วโมง) แล้วจะพกแบตเสริมอีกเกิน 2 ตัว
(เปรียบเทียบกับ NMBP 17 ที่ใช้ได้ 8 ชั่วโมง)
ถ้ามีก็คงเป็นผู้ใช้กลุ่มน้อย ถึงกับน้อยมาก

ยกตัวอย่างที่ Apple เคยทำ อย่างที่เห็นชัดเจนก็คือ iPod Classic ตัวใหม่ที่มีแค่รุ่นเดียว
เพราะ รุ่น 160GB อย่างหนา ๆ เข้าใจว่า ขายได้ไม่ค่อยเยอะ

ผมว่าก่อนที่ Apple จะกล้าทำ (ในลักษณะเช่นนี้)
ฝ่ายการตลาดของ Apple เองก็คงมีข้อมูลพอสมควรแหละ ถึงกล้าออกผลิตภัณท์ในลักษณะนี้

By: yhol on 7 January 2009 - 22:45 #79383 Reply to:79319

น้อยคนที่จะเปลี่ยนแบตล่ะครับ ส่วนมากก็เสียบไฟใช้งาน หรือถ้าใช้ไฟจริงๆก็ส่วนมากไม่ค่อยเกิน 2-3 ชมเท่าไหร่
เรื่องเปลี่ยนแบตไม่ได้ นี่น่าจะมีผลทางจิตใจมากกว่าเรื่องใช้งานจริงๆซะมากกว่า

By: zamplr
iPhoneAndroidWindows
on 7 January 2009 - 17:33 #79318

คนที่ใช้มันมีอยู่แล้ว ใช่ว่าต้องแบกเองเสมอไป ถ้าเป็นช่างภาพระดับโปรๆ ผู้กำกับหนัง หรือ นักดนตรี เค้ามีทีมงานขนให้ครับ มันสะดวกกว่าขนจอขนเครื่องไปเองอยู่แล้ว

By: Kindaichi on 7 January 2009 - 22:44 #79381

งานถ่ายทำแค่ขาตั้งกล้องวีดีโอไม่อะไรมากก็ซื้อ MacBook Pro ตัวนี้ได้ตัวครึ่งแล้ว

By: eakmotion on 7 January 2009 - 22:44 #79382

ชอบบทความนี้ครับ .