เก็บตกสินค้าน่าสนใจในงาน IFA สัปดาห์ก่อนครับ SmartThings บริษัทระบบบ้านอัจฉริยะ (ขายให้ซัมซุงเมื่อปีที่แล้ว) เปิดตัว SmartThings Hub อุปกรณ์ควบคุมบ้าน และอุปกรณ์ต่อเชื่อมทั้งเซ็นเซอร์และปลั๊กอัจฉริยะรุ่นใหม่ ที่พัฒนาขึ้นจากรุ่นเดิม

ตัวฮับ SmartThings Hub ถูกปรับปรุงให้ทำงานด้วยแบตเตอรี่ได้ (กรณีไฟดับ) นานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง, ปรับปรุงหน่วยประมวลผลให้แรงขึ้น รองรับการประมวลผลวิดีโอ (กรณีต่อเชื่อมกับกล้องวงจรปิด), งานหลายอย่างที่ต้องรันผ่านคลาวด์สามารถรันบนเครื่องได้แทน (กรณีเน็ตตัด), นอกจากนี้ตัวเครื่องมีขนาดเล็กลงกว่าเดิม รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB และ Bluetooth ด้วย

ระบบควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านด้วยคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นความฝันของหลายบริษัทมานาน แต่แนวทางของผู้ผลิตจีนที่ทำราคาได้ถูกมากน่าจะทำให้การติดตั้งจริงทำได้ง่ายขึ้น ตอนนี้สวิตช์ควบคุมแสงสว่างในบ้านจากบริษัท Semlamp ทำให้เราสามารถเปิดปิดไฟในห้องได้จากสมาร์ตโฟน แต่ราคาของอุปกรณ์เพียง 8.22 ดอลลาร์

Semlamp ใช้เสียงสำหรับควบคุมหลอดไฟแทนที่จะใช้ Wi-Fi หรือ Bluetooth ทำให้ราคาถูกมากและใช้งานได้ง่าย

Nest ผู้ผลิตสินค้าประเภท smart home เปิดตัวสินค้าสำหรับสร้างความปลอดภัยภายในบ้าน Nest Cam กล้องรักษาความปลอดภัยภายในบ้านที่ต่อยอดมาจาก Dropcam Nest Protect เครื่องตรวจจับควันและ CO รุ่นสอง และเปิดตัวแอพควบคุมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ Nest 5.0

Nest Cam

แอปเปิลเคยเกริ่นมาแล้วว่า จะเริ่มมีอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่รองรับ HomeKit วางขายภายในเดือนนี้ ล่าสุดผู้ผลิตหลายเจ้าเริ่มเปิดตัวอุปกรณ์ชุดแรกออกมาแล้ว

ผู้ใช้ Wink Hub อุปกรณ์ควบคุมบ้านอัจฉริยะ เกิดปัญหาไม่สามารถเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ได้ (unable to connect to the Wink servers) ผู้ใช้จึงไม่สามารถควบคุมอุปกรณ์ในบ้านจากแอพบนสมาร์ทโฟนได้ (แต่การควบคุมภายในบ้านยังใช้งานได้อยู่)

ปัญหาเกิดจากใบรับรองดิจิทัลหมดอายุ ทำให้อุปกรณ์ไม่สามารถเชื่อมต่อแบบ SSL กับเซิร์ฟเวอร์ ทางแก้ของ Wink คืออัพเดตแพตช์ แต่ในกรณีที่แก้ปัญหาไม่ได้ บริษัทก็ขอให้ผู้ใช้ส่งสินค้าคืนและจะส่งอุปกรณ์ตัวใหม่ไปให้ ระหว่างนี้บริษัทจะหยุดขาย Wink Hub ชั่วคราวก่อนแก้ปัญหาได้

ข่าวนี้คงเป็นตัวอย่างที่ดีว่าระบบ smart home ในปัจจุบัน อาจยังไม่พร้อมกับการใช้งานจริงจัง และต้องพัฒนาต่อกันอีกสักพักครับ

ตลาดเทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะเริ่มมาแรงตั้งแต่ปีที่แล้ว และน่าจะมาแรงมากขึ้นในปีนี้ เพราะบริษัทไอทีหลายรายเริ่มบุกตลาดนี้กันอย่างจริงจัง ทั้ง Nest ของกูเกิล, SmartThings ของซัมซุง, HomeKit ของแอปเปิล รวมถึง Wink ของ Quirky

Banana Pi ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่เริ่มจากรุ่นที่ลักษณะเหมือนกับ Raspberry Pi แต่ออกสินค้าใหม่ๆ ออกมาเริ่มต่างออกไปบ้าง ตั้งแต่เราท์เตอร์ไปจนถึงกล้องวิดีโอ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาทาง Banana Pi ก็แสดงรูปภาพสินค้าชุดใหม่ คือ BPI-G1 เกตเวย์สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า (smart home) โดยมีจุดขายสำคัญที่บอร์ดจะรองรับทั้ง Wi-Fi, Bluetooth 4.0, และ ZigBee ในตัว

เจ้าพ่ออุปกรณ์เสริม Logitech บุกตลาดบ้านอัจฉริยะด้วยฮับควบคุมบ้าน Harmony ตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังจากขายสินค้าเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้เวลาของการเปิด API ให้นักพัฒนาเข้ามาเชื่อมต่อกับ Harmony กันสักที

นักพัฒนาที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ Harmony API ได้แล้ว โดย API จะเป็น REST และยืนยันตัวตนด้วย OAuth 2

ในโอกาสเดียวกัน Logitech ยังจับมือกับคู่ค้าอีกหลายแห่งที่เข้าร่วมโครงการ Control with Harmony แสดงสติ๊กเกอร์ว่าใช้ร่วมกับรีโมท/ฮับของ Harmony ได้ ตัวอย่างแบรนด์ชุดแรกได้แก่ SmartThings, Playtabase, Ubi, Ivee, IFTTT

สบายขึ้นไปอีกระดับสำหรับผู้ใช้ Nest ที่ตอนนี้สามารถสั่งงานด้วยเสียงผ่านสมาร์ทโฟนได้ง่ายขึ้น หลังจากกูเกิลอัพเดต Google Now เวอร์ชันใหม่ให้สามารถสั่งงาน Nest ได้โดยตรงแล้ว

การเริ่มใช้งาน Google Now สำหรับสั่งงาน Nest ทำได้ด้วยการสั่งตั้งอุณหภูมิของ Nest (set Nest to xx degrees) และระบบค้นหาของกูเกิลจะโยนผู้ใช้ไปในหน้า Works with Nest ซึ่งเมื่อกดเข้าไปก็จะเริ่มใช้งานฟีเจอร์ใหม่ได้ทันที

ตอนนี้ฟีเจอร์ของ Nest ที่สามารถสั่งผ่าน Google Now นั้นยังไม่เยอะมาก ที่สำคัญๆ คือการแจ้งเตือนสถานะของ Nest จากการ์ดใน Google Now และการสั่งปรับอุณหภูมิ โดยกูเกิลมีแผนจะเพิ่มเข้ามาอีกในอนาคต

Sony พัฒนาตัวล็อกประตูอัจฉริยะ Qrio สามารถนำไปติดตั้งกับประตูที่มีอยู่แล้ว โดยใช้ควบคุมการล็อกประตูได้ผ่านทางแอพในสมาร์ทโฟน

Qrio เป็นตัวล็อกประตูที่ใช้อะลูมิเนียมเป็นวัสดุหลักของตัวเครื่อง ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ CR123A ที่สามารถจ่ายไฟเลี้ยงอุปกรณ์ได้นานกว่า 1,000 วัน ผู้ใช้สามารถนำ Qrio ไปติดตั้งกับมือจับหรือตัวลูกบิดล็อกประตูที่มีอยู่แล้วได้หลายรูปแบบ โดยสำหรับผู้ที่อยู่ในห้องสามารถใช้มือจับส่วนลูกบิดด้านหน้าของ Qrio เพื่อล็อกหรือเปิดประตูได้เหมือนกับการใช้ลูกบิดประตูทั่วไป ส่วนผู้ที่อยู่นอกห้องสามารถใช้แอพในสมาร์ทโฟน ซึ่งก็มีทั้งรุ่นสำหรับ iOS 7 (หรือใหม่กว่า) และแอพสำหรับ Android 4.4 (หรือใหม่กว่า) เพื่อทำการปลดล็อก Qrio ได้ผ่านการสื่อสารด้วยบลูทูธพลังงานต่ำ

พลิกโผจากที่เดากันไว้พอสมควร สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ Xiaomi ที่เปิดตัวมาไม่กี่วันก่อนตามประกาศ ซึ่งออกมาเป็นเครื่องฟอกอากาศ ต่อมาอีกเพียงสองวัน Xiaomi ก็เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มสมาร์ทโฮมอีกอย่าง นั่นก็คือเต้าเสียบอัจฉริยะ (Mi Smart Socket)

Mi Smart Socket เป็นเต้าเสียบฝาผนังบ้าน แบบที่เราเห็นกันได้ทั่วไปตามร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า บวกกับการเพิ่มพอร์ต USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟนในตัว พร้อมกับฟีเจอร์สำหรับควบคุมการทำงานผ่านแอพบนสมาร์ทโฟนได้ เช่น สั่งให้ตัดไฟผ่านแอพ เป็นต้น

เกือบครบรอบหนึ่งปีหลังจากออกมาตรฐาน Bluetooth 4.1 สมาคม Bluetooth Special Interest Group หรือ Bluetooth SIG ได้ออกมาเผยมาตรฐาน Bluetooth 4.2 ที่ออกแบบมาเพื่อให้อุปกรณ์กลุ่ม IoT โดยเฉพาะ

Bluetooth 4.2 เน้นไปที่การใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ IoT ซึ่งเราน่าจะคุ้นกันในรูปแบบของสมาร์ทโฮม ให้สามารถซิงก์ข้อมูลได้รวดเร็วขึ้นสูงสุด 2.5 เท่า และเก็บข้อมูลได้เพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่าตัว ในขณะที่ความปลอดภัยก็ถูกปรับปรุงด้วยการไม่ยอมให้ตัวอุปกรณ์ที่ใช้ Bluetooth 4.2 ถูกติดตาม และเก็บข้อมูลได้หากไม่ได้รับการยินยอมก่อน

หลังจากไมโครซอฟท์เข้าร่วม AllSeen Alliance กลุ่มบริษัทไอที-เครื่องใช้ไฟฟ้าที่รวมตัวกันผลักดัน AllJoyn (โอเพนซอร์สเฟรมเวิร์คในการติดต่อสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ไอทีหลายๆ ชนิดให้คุยกันเองแบบ P2P โดยไม่ขึ้นกับยี่ห้อหรือแพลตฟอร์ม) ซึ่งนำโดย Qualcomm เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศว่า Windows 10 จะรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นผ่าน AllJoyn และรองรับพัฒนาแอพบน AllJoyn ตั้งแต่แรก

ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วม Windows Insider Program เพื่อทดสอบ Windows 10 จะมีโอกาสพัฒนาแอพบน AllJoyn ในอนาคต

SmartThings บริษัทด้านบ้านอัจฉริยะที่ถูกซัมซุงซื้อไปเมื่อเดือนสิงหา เชื่อมโยงตัวเองเข้ากับบริษัทแม่อย่างรวดเร็ว โดยบริษัทประกาศว่าฮับควบคุมบ้าน SmartThings สามารถสื่อสารและควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อซัมซุงได้อีกหลายอย่าง

Nest ผู้ผลิตอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ถูกกูเกิลซื้อไปเมื่อด้วยมูลค่ากว่า 3,200 ล้านเหรียญ เริ่มเปิดตลาดในประเทศไอร์แลนด์ด้วยการให้ลูกค้าสามารถรับเครื่องปรับอุณหภูมิไปฟรีๆ แต่ติดสัญญา 2 ปี

ดีลดังกล่าวมาจากบนเวทีของ Tony Fadell ซีอีโอ Nest ในงาน Web Summit 2014 ซึ่งทาง Nest ได้พาร์ทเนอร์อย่าง Electric Ireland มาร่วมเป็นส่วนสำคัญของดีลนี้ โดยลูกค้าที่รับเครื่องปรับอุณหภูมิฟรีไปนั้นจะต้องทำสัญญากับ Electric Ireland เป็นเวลา 2 ปี แทนค่าตัวจริงที่ 250 เหรียญ

แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่าจะต้องจ่ายอะไรเพิ่มเติมบ้าง (ค่ารายเดือน) และมีข้อจำกัดใด แต่จากการที่ลูกค้าสามารถรับเครื่องไปฟรีๆ น่าจะช่วยให้เข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ได้ไวขึ้น

Nest Labs ประกาศเข้าซื้อกิจการเป็นครั้งที่สองถัดจากการซื้อกล้องวงจรปิด Dropcam โดยรอบนี้เป็นการซื้อบริษัท Revolv ที่ขายฮับสำหรับบ้านอัจฉริยะ (คู่แข่งคือ SmartThings ที่โดนซัมซุงซื้อไปแล้ว)

อย่างไรก็ตาม การซื้อครั้งนี้ต่างไปจากการซื้อ Dropcam ที่ยังขายกล้องวงจรปิดต่อ แต่รอบนี้ Revolv จะหยุดขายสินค้าทุกอย่าง และถูกยุบไปรวมกับทีมหลักของ Nest โดยจะยังให้บริการหลังขายกับลูกค้าเก่าต่อไป

Xiaomi บริษัทไฟแรงจากจีนยังคงขยายไลน์ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง หลังจากประสบความสำเร็จกับสมาร์ทโฟนไปแล้ว ล่าสุดได้เผยโฉมแพลตฟอร์มสมาร์ทโฮมชุดแรก ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ

สมาร์ทโฮมชุดแรกของ Xiaomi ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ของตัวเองสองชิ้นได้แก่ Mi Smart Power Plug ปลักไฟควบคุมไร้สายได้ ตั้งเวลาปิด-เปิด และมี USB มาให้ในตัว และ Mi Smart Remote Centre ศูนย์กลางเชื่อมต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอื่นๆ รวมถึงอีกสองชิ้นจากผู้ผลิตอื่นอย่าง Ants smart webcam กล้องวงจรปิดความละเอียด 720p มีไมโครโฟนในตัว และ Yeelight Smart Lightbulb หลอดไฟอัจฉริยะ

ให้หลังจาก Quirky เปิดตัวแพลตฟอร์มสมาร์ทโฮมที่เน้นความเรียบง่ายอย่าง Wink พร้อมกับอุปกรณ์ตัวกลาง Wink Hub ไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ตอนนี้ได้ฤกษ์เปิดตัวอุปกรณ์ชิ้นที่สองอย่าง Wink Relay อุปกรณ์สั่งงานผ่านหน้าจอสัมผัสแบบฝังฝาผนัง

Relay เป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทดแทนสวิทช์โดยเฉพาะ สามารถเปลี่ยนแทนกันได้ทันที ตัวเครื่องแบ่งเป็นสองส่วนคือ Power Box สำหรับฝังลงไปในผนัง และ Main Unit ที่จะประกอบด้วยสวิทช์ไฟสองปุ่ม กับหน้าจอสัมผัสขนาด 4.3" รัน Android รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมแบรนด์อื่นๆ และเซนเซอร์ต่างๆ รวมถึงมี Wi-Fi, Bluetooth และ Zigbee อีกด้วย

จากข่าว ไมโครซอฟท์จับมือ Insteon สร้างพันธมิตรอุปกรณ์สมาร์ทโฟนสั่งงานได้ด้วย Cortana วันนี้แอพเปิดให้โหลดบน Windows Phone Store เรียบร้อยแล้ว

จากนี้ไปผู้ที่มีระบบบ้านอัจฉริยะของ Insteon จะสามารถสั่งปิดไฟ ล็อคประตูด้วยเสียงได้ผ่าน Cortana โดยใช้คำสั่งขึ้นต้นด้วยคำว่า Insteon เช่น

เจ้าพ่ออุปกรณ์เสริม Logitech ขยายตลาดมายังสายสมาร์ทโฮม โดยเปิดตัวสินค้าตระกูล Harmony เอาไว้ควบคุมอุปกรณ์ภายในบ้านได้จากระยะไกล สินค้าในชุดมีหลายอย่าง ดังนี้

ตลาดสมาร์ทโฮมสำหรับจัดการและควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านยังคงมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในตลาดอยู่เรื่อยๆ รายล่าสุดเป็น Peq (อ่านว่าพีค) ที่เพิ่งเปิดตัวฮับสำหรับเชื่อมต่อกับเครื่องใช้ในบ้านในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งพอสมควร

ในชุดเริ่มต้นของ Peq ราคา 119.99 เหรียญ จะมาพร้อมกับฮับหนึ่งตัวหน้าตาเหมือนเราท์เตอร์ทั่วไป สำหรับเป็นศูนย์กลางให้อุปกรณ์อื่นๆ มาเชื่อมต่อเพื่อส่งข้อมูลไปยังสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต และเซนเซอร์สำหรับหน้าต่าง-ประตูอีกอย่างละหนึ่งชิ้น ชุดใหญ่กว่าหน่อยจะมีสล็อตสำหรับเสียบหลอดไฟมาให้อีกสองอันในราคา 199.99 เหรียญ และชุดใหญ่สุดที่มาพร้อมกับเซนเซอร์จำนวนมากจะราคา 489.99 เหรียญ

จากที่เคยมีข่าวลือว่าซัมซุงกำลังเจรจาซื้อ SmartThings วันนี้ข่าวเป็นทางการมาแล้วครับ ถึงแม้ข้อมูลราคาจะไม่เปิดเผย แต่เว็บไซต์ Re/code อ้างแหล่งข้อมูลใกล้ชิดว่าอยู่ที่ 200 ล้านดอลลาร์

SmartThings เป็นบริษัทที่ทำระบบควบคุมอุปกรณ์ภายในบ้าน (home automation) เริ่มเติบโตจากการระดมทุนใน Kickstarter เมื่อปี 2012 และค่อยๆ ขยายกิจการขึ้นตามลำดับ โดยซีอีโอ Alex Hawkinson ระบุว่าขายให้ซัมซุงเพราะเห็นโอกาสในการใช้ "พลังระดับโลกของซัมซุง" ผลักดันวิสัยทัศน์ smart home ให้ประสบความสำเร็จได้จริง

หลังการซื้อกิจการครั้งนี้ SmartThings จะยังบริหารงานเป็นอิสระต่อไป โดยอยู่ในสังกัด Samsung Open Innovation Center ที่เน้นธุรกิจใหม่ๆ สำหรับอนาคต

อนาคตของการสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านเสียงเข้าใกล้ความเป็นจริงเข้าไปทุกขณะ หลังจากมีผู้พัฒนาโซลูชันสำหรับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอย่าง Insteon ออกมาประกาศว่าจะเชื่อมการทำงานของ Cortana เข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้โซลูชันของ Insteon เร็วๆ นี้

โดยการจับมือกันระหว่าง Insteon และไมโครซอฟท์นั้น จะมีผลทำให้ผู้ผลิตที่ใช้โซลูชันของ Insteon สามารถรองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Cortana ได้ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยสามารถสั่งงานด้วยคำพูดทั่วไปอย่าง ปิดไฟให้หมด หรี่ไฟลง หรือใช้สั่งงานอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ หรือที่ล็อกประตูได้อีกด้วย

มาอีกแล้วกับนวัตกรรมสำหรับคนรักแมวที่นับวันจะไฮเทคขึ้นเรื่อยๆ ครั้งนี้เป็นเครื่องให้อาหารแมวชื่อว่า Bistro ที่กำลังระดมทุนผ่านเว็บ Indiegogo โดยความพิเศษของมันอยู่ที่ฟังก์ชันการจดจำใบหน้าของแมวแต่ละตัว

เว็บไซต์ TechCrunch รายงานข่าวลือว่าซัมซุงเตรียมบุกตลาดบ้านอัจฉริยะด้วยการซื้อ SmartThings บริษัทที่ทำระบบควบคุมอุปกรณ์ภายในบ้าน (home automation - ข่าวเก่า) ด้วยมูลค่าประมาณ 200 ล้านดอลลาร์

แนวคิดของ SmartThings คือสร้างฮับศูนย์กลางและเปิด SDK ให้อุปกรณ์ต่างๆ มาต่อเชื่อมและสื่อสารกัน แพลตฟอร์มของ SmartThings รองรับการสื่อสารผ่าน ZigBee, Z-Wave, Wi-Fi และทำงานได้กับอุปกรณ์ของบริษัทใหญ่ๆ อย่าง GE, Honeywell, Philips Hue, Trane (ดูคลิปท้ายข่าว)

ก่อนหน้านี้ ซัมซุงเพิ่งประกาศแบรนด์ Smart Home สำหรับขายเครื่องใช้ไฟฟ้ายุคใหม่ที่สื่อสารกันเองได้