หลังจากเงียบไปพอควร วันนี้ Opera ออก Opera Mini 6 สำหรับ iOS แล้วครับ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในรุ่นนี้คือ
ตามไปโหลดกันได้ที่ App Store ครับ
ที่มา: Opera Mini blog
พักหลังๆ นี้สงครามเบราว์เซอร์แข่งขันกันดุเดือดมาก ทำให้เบราว์เซอร์รายใหญ่ๆ ต่างออกรุ่นสำหรับนักพัฒนาเว็บให้ไปทดสอบฟีเจอร์ต่างๆ ก่อนจะออกในรุ่นจริง ทั้ง Internet Explorer, Chrome, และ Firefox ต่างมีช่องทางนี้สำหรับพัฒนาแล้วทั้งสิ้น
Opera จึงเปิดตัว Opera Next ขึ้นเพื่อเป็นที่ทดสอบฟีเจอร์ล่าสุดในอนาคตของ Opera ซึ่ง Next จะสามารถใช้ควบคู่กับ Opera ตัวเต็มได้ ไม่แชร์ข้อมูลกับ Opera ตัวหลัก และอัพเดตตัวเองให้อัตโนมัติเมื่อมีรุ่นที่ใหม่กว่าออกมา (ต่างจากระบบ Snapshot เดิมของ Opera ที่ผู้ทดสอบต้องโหลดมาอัพเดตเอง)
Opera ได้เปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์รุ่น 11.10 โดยฟีเจอร์บางส่วนที่เพิ่มเติมมาจากรุ่น 11 มีดังนี้
Opera เปิดเว็บเมลของตัวเองในชื่อ My Opera Mail โดยผู้ใช้จะได้ชื่ออีเมลเป็น @myopera.com
ทีมงานที่พัฒนา My Opera Mail คือทีมที่ทำ FastMail.FM จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งถูก Opera ซื้อกิจการเมื่อปีที่แล้ว แต่ระบบทั้งหมดถูกเขียนขึ้นมาใหม่ โดยใช้เทคโนโลยี AJAX อย่างเต็มที่
ภาพหน้าจอดูได้จาก My Opera Mail Screenshots ผู้ที่มีบัญชี My Opera จะได้อีเมลนี้โดยอัตโนมัติ ส่วนคนที่ไม่เคยมีก็สมัครใหม่ได้ที่ mail.opera.com
ไม่ใช่มีแต่ iPhone App Store หรือ Android Market ที่มีปัญหากับแอพที่วางขาย เพราะร้านขายแอพอิสระอย่าง GetJar ก็มีปัญหากับแอพชื่อดังอย่าง Opera Mini จนต้องถอดออกจากหน้าร้านแล้ว
เหตุผลก็เพราะ Opera Mini ละเมิดเงื่อนไขการใช้งานของ GetJar ซึ่งหมายถึงกรณี Opera เปิด Mobile App Store ร้านขายแอพข้ามแพลตฟอร์ม ภายในแอพของตัวเอง (ที่ให้โหลดผ่าน GetJar อีกทีหนึ่ง)
GetJar ประกาศเรื่องนี้ผ่าน @getjar แล้ว ส่วน Opera ยังไม่มีแถลงการณ์ใดๆ ในประเด็นนี้
Opera ในฐานะผู้ผลิตเบราว์เซอร์ที่อยู่บนอุปกรณ์หลากหลายแพลตฟอร์ม เปิดตัว Mobile App Store เว็บสำหรับขายแอพของตัวเอง ซึ่งมีจุดเด่นที่การรองรับมือถือหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Android, Symbian, Windows Mobile, BlackBerry, Palm และ Java
Opera จะเพิ่มลิงก์ Mobile App Store ไว้ในหน้า Speed Dial ของตัวเอง เพื่อโปรโมทช่องทางการขายนี้ ส่วนระบบร้านค้าใช้ของบริษัท Appia อีกทีหนึ่ง ตอนนี้มีแอพรวมกว่า 140,000 ตัวแล้ว
เท่าที่ลองเข้าเว็บดูก็พบว่ารองรับประเทศไทย และแสดงหน่วยเงินเป็นดอลลาร์สหรัฐครับ (ยังไม่มีเงินบาทให้เลือก)
เป็นที่ทราบกันว่าปัญหาหนึ่งที่ทำให้ Opera ถูกผู้ใช้ชาวไทยวิจารณ์มาตลอด คือเรื่องของการที่ Opera ไม่ยอมตัดคำไทย ซึ่งหลังจากที่ Opera ลองทำวิจัยตลาดในประเทศไทยและมาเลเซีย และการที่มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นจำนวนมากในพื้นที่ Southeast Asia (ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 4) ก็น่าจะส่งผลให้ Opera หันมาจริงจังกับภาษาไทยมากขึ้น
Opera เตรียมเปิดตัวเบราว์เซอร์น้องเล็ก Opera Mini ที่ปรับแต่งมาเพื่อ iPad โดยเฉพาะ ในงาน Mobile World Congress สัปดาห์หน้า
Opera Mini มีรุ่นบน iOS อยู่แล้ว เพียงแต่รุ่นที่จะเปิดตัวนี้จะเป็นรุ่นเฉพาะสำหรับอุปกรณ์จอใหญ่อย่าง iPad นั่นเอง
ในงาน MWC เรายังจะได้เห็น
ที่มา - MacWorld UK
ข่าว Chrome ยกเลิกการรองรับ H.264 แล้ว ยังสะเทือนวงการเว็บต่อเนื่องอีกหลายวัน เราเห็นปฏิกริยาตอบโต้จากไมโครซอฟท์กันแล้ว คราวนี้มาดูปฏิกริยาจากค่ายอื่นๆ กันบ้าง
ค่าย Mozilla ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะไม่เอา H.264 ตั้งแต่แรก บุคคลากรของ Mozilla ออกมาสนับสนุนการตัดสินใจของกูเกิลกันสั้นๆ โดยให้ข้อมูลว่าพันธมิตร WebM ทั้งสามเบราว์เซอร์มีส่วนแบ่งตลาดโลกรวมกัน 40% จะช่วยดันให้ WebM เกิดได้ไม่ยาก - Aza Dotzler
Opera โชว์วิดีโอตัวแรกของเบราว์เซอร์ Opera Mobile บนแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android แล้ว ตอนนี้รายละเอียดยังมีน้อยมาก โดย Opera จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน CES 2011
วิดีโอตัวแรกมีความยาวครึ่งนาที โดยสาธิตบน Galaxy Tab และแสดงความลื่นไหลในการซูมเนื้อหาเข้า-ออก
ที่มา - My Opera
Opera เป็นเบราว์เซอร์ที่มีระบบ widget ของตัวเอง วันนี้เราสามารถนำ Opera Widget มารันบน Android ได้แล้วครับ
Opera ได้ออก Opera Widget Runtime ที่ทำงานได้บน Android 2.1 ขึ้นไป เมื่อติดตั้งแล้วสามารถโหลด widget มาใช้บนมือถือ Android ได้เลย
มือถือที่รองรับคือ Google Nexus One, Samsung Galaxy S, HTC Legend, HTC Desire, Motorola Droid (ตอนนี้ Opera Widget ยังเป็นรุ่นทดสอบอยู่ รายละเอียดอ่านได้จาก Opera Labs)
หลังจากออก Alpha และ Beta มาพอสมควร Opera 11 ตัวจริงก็เปิดให้ดาวน์โหลดแล้ว
ของใหม่ในรุ่นนี้คือ "Tab Stacking" การจัดกลุ่มแท็บคล้ายๆ กับ Super Bar ของ Windows 7, รองรับ Extension เหมือนกับเบราว์เซอร์อื่นๆ, เพิ่ม Visual Gesture ช่วยบอกว่าขยับเมาส์เพื่อสั่งงานอย่างไร
Opera 11 มีขนาดไฟล์เล็กลงกว่าเดิม 30% และสามารถเลือกปิดปลั๊กอินบางตัวสำหรับบางเว็บได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 30%
Opera Mobile ออกรุ่น 10.1 ตัวจริงบนแพลตฟอร์ม Symbian S60
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือใช้เอนจินจาวาสคริปต์ Carakan ซึ่งประมวลผลแบบ Just-in-Time ทำให้ประสิทธิภาพด้านจาวาสคริปต์ดีกว่า Opera Mobile 10.0 ถึง 9 เท่า ส่วนอย่างอื่นก็คือรองรับ Geolocation และปรับปรุงเรื่อง HTML5
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Opera Mobile 10.1 ยังไม่รองรับ HTML5 video/audio และ Flash ครับ ดาวน์โหลดได้จาก m.opera.com กันตามสะดวก
ที่มา - Opera Mobile, Download Squad
หลังจากที่ลองปล่อย Opera 11 Alpha มาให้เล่นกันเมื่อเดือนที่แล้ว (ข่าวเก่า) และ Snapshot อีกหลายตัว วันนี้ Opera 11 Beta ก็ออกมาให้ชาวโลกยลโฉมกันแล้วครับ
โดยรวมแล้ว Opera 11 นั้นแทบไม่มีอะไรใหม่ UI ใช้แบบเดิม แต่เป็นการเพิ่มฟีเจอร์ให้ทันกับชาวบ้านเขาเท่านั้น เช่น ระบบส่วนขยาย และการจัดกลุ่มแท็บ
สิ่งที่มีมาเพิ่มและได้รับการปรับปรุง มีดังนี้ครับ
คงไม่ต้องกล่าวกันสำหรับระบบส่วนขยายที่มีให้ใช้กันดาษดื่นในเบราว์เซอร์อื่นๆ กันมานานมากแล้ว ซึ่งระบบส่วนขยายใน Opera นั้นเป็นไปในลักษณละเดียวกับ Google Chrome นั่นคือพัฒนาด้วย HTML, CSS, JavaScript และ APIs เฉพาะของ Opera เอง
เดือนก่อนเพิ่งมีข่าว Opera Mobile บน Android จะออกในเร็ววัน วันนี้มันมาแล้ว
Opera Mobile 10.1 Beta for Android มาพร้อมกับฟีเจอร์ครบครัน เช่น Speed Dials, Visual Tabs, Password Manager, Link, Turbo ในเวอร์ชันนี้ยังใช้เอนจิน Presto เช่นเดียวกับรุ่นเดสก์ท็อป
Opera บอกว่า Beta แรกจะเน้นเสถียรภาพก่อน รุ่นถัดๆ ไปจะเพิ่ม HTML5 Video, Flash, web storage, hardware acceleration ตามมา ตอนนี้มีให้โหลดจาก Market แล้ว
ที่มา - Opera Mobile
ต่อจากข่าว Opera 11 จะรองรับ Extension (ซะที) วันนี้ Opera 11 Alpha 1 มาแล้ว
ฟีเจอร์หลักของ Opera 11 Alpha 1 ก็คือการรองรับ Extension นั่นเอง ตอนนี้บนหน้ารวม Extension ยังมีไม่เยอะนัก (17 ตัว) แต่ตัวเลขคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในไม่ช้า
Extension ของ Opera จะคล้ายกับ Chrome คือสร้างด้วย HTML/CSS/JavaScript ส่วนพื้นที่แสดงปุ่มจะอยู่บนทูลบาร์ด้านขวามือเหมือนกัน
ที่มา - Opera, LifeHacker
น้องเล็กอย่าง Opera Mini ออกรุ่นจริงบน Android Market นำร่องไปแล้ว คราวนี้มาถึงคิวของพี่คนกลางอย่าง Opera Mobile กันบ้าง
Opera ประกาศว่าเบราว์เซอร์ Opera Mobile สำหรับ Android กำลังจะเสร็จสมบูรณ์ภายใน 1 เดือนนี้ โดยมีฟีเจอร์สำคัญสองอย่างคือ hardware acceleration และ pinch to zoom
Opera บอกว่าใช้ได้กับ Android "ทุกรุ่น" อันนี้ไม่แน่ใจว่านับจากเวอร์ชันไหนบ้างนะครับ รอตัวจริงออกคงมีข้อมูลออกมา
ที่มา - Choose Opera
Opera ได้ประกาศผ่านบล็อกว่าในเวอร์ชั่นถัดไปของ Opera หรือ Opera 11 จะรองรับระบบ Extension โดย Extension จะรองรับมาตรฐานเว็บทั้ง HTML5, CSS, JavaScript และ API ที่สนับสนุนด้วย
ทาง Opera บอกว่า Extension ของตนนั้นจะ "คล้ายๆ" กับ Extension ของเบราว์เซอร์อื่น (ในบล็อกใช้คำว่า similar in some ways) และจะพยายามทำให้การพอร์ท Extension มา Opera นั้นทำได้ง่าย
ที่มา - Choose Opera blog
จากข่าวเก่า Opera Mini 5 สำหรับ Android รุ่นเบต้ามาแล้ว ตอนนี้ Opera Mini เวอร์ชัน 5.1 ตัวเต็มพร้อมแล้วที่จะให้ดาวน์โหลดผ่าน Market
ตอนนี้มีคนใช้ Opera Mini กว่า 61 ล้านคน อุปกรณ์ที่ใช้ Opera Mini ได้รวมกว่า 3000 รุ่น โดยคุณสมบัติหลักที่มีมาใน Opera Mini คือการเข้าถึงเว็บที่เร็วขึ้น ผ่านเซิร์ฟเวอร์ของทาง Opera และที่ผมชอบมากคือมันสนับสนุน SVG
น่าเสียดายที่ฟีเจอร์สำคัญอย่าง multi touch ยังไม่ยอมมา
ที่มา: MobileCrunch
Opera เบราว์เซอร์จากนอร์เวย์ ออกรุ่นใหม่ 10.60 แล้ว ของใหม่ได้แก่
ผมไม่ได้ใช้ Opera เลยไม่รู้จะคอมเมนต์อะไรต่อ ต้องรอผู้ใช้ Opera เข้ามาแสดงความเห็นละกัน ดูวิดีโอประกอบด้านในครับ
Opera เป็นหนึ่งในบริษัทที่ประกาศตัวตั้งแต่วันแรกว่าจะร่วมใช้งานและรับ WebM เป็นมาตรฐานเว็บพร้อมๆ กับ Mozilla และ Adobe และในวันนี้ก็มีประกาศออกมาว่ารุ่น Snapshot ตัวล่าสุดนั้นมีฟีเจอร์ WebM เข้ามาแล้ว
นอกจาก WebM แล้ว Opera รุ่นนี้ยังรองรับมาตรฐาน HTML5 เพิ่มเติมอีกหลายส่วนได้แก่
ดูเหมือนตอนนี้กระแส HTML5 จะจุดติดจนยากจะหยุด ตอนนี้อาจจะเป็นจังหวะที่ดีที่เริ่มศึกษากันได้ ก่อนกระแส Tablet/MID ที่รองรับ HTML5 เต็มๆ จะมากันจนเต็มตลาด
ต่อเนื่องจากข่าว แอปเปิลโชว์ความสามารถ HTML5 และ Firefox แฉเล่ห์แอปเปิลเรื่อง HTML5 อีกรายที่ออกมาร่วมวงคือ Opera
พนักงานคนหนึ่งของ Opera ชื่อ Haavard เขียนลงในบล็อกของเขาว่า เดโม HTML5 ของแอปเปิลนั้น มีส่วนที่เป็น HTML5 จริงๆ แค่แท็ก <video> และ <audio> เท่านั้น ที่เหลือเป็นโค้ดเฉพาะบริษัท (เช่น -webkit-border-radius) แถมยังมีวิดีโอแบบ H.264 ที่ยังตกลงกันไม่ได้เพราะติดสิทธิบัตรอีกด้วย
หลายวันก่อน Opera Software ได้ปล่อย Opera 10.60 Alpha มาให้ผู้ใช้ทดสอบการทำงานกันแล้ว โดยใน 10.60 มีการปรับปรุงจากเดิมในหลายจุด รวมถึง Carakan ที่โฆษณาว่าเร็วกว่าเดิมถึง 75% (ใน Choose Opera บอกว่า เร็วกว่าทั้งสาย 10.5x และมันฝรั่ง!)
รายการอัพเดทที่พอจะเห็นได้ชัด มีดังนี้ครับ
Opera ลงมาร่วมถกประเด็น HTML5 vs Flash แล้ว โดย Phillip Grønvold นักวิเคราะห์ของ Opera ให้ความเห็นว่า อินเทอร์เน็ตทุกวันนี้ขาด Flash ไม่ได้ ถ้าเราเอา Flash ออกไป มันก็ไม่ใช่อินเทอร์เน็ต ทาง Opera มองว่าภายใน 18 เดือนข้างหน้า Flash จะยังเป็นสิ่งสำคัญอยู่ ไม่ได้หายไปไหน
แต่เขาก็บอกว่าอนาคตของเว็บคือมาตรฐานเปิดอย่าง HTML5 และมองว่า Adobe ควรตอบสนองกระแสนี้ให้เร็ว โดยรีบประกาศ Flash ให้เป็นเทคโนโลยีเปิด
เขาบอกว่า Flash มีงานที่เหมาะสำหรับมัน นั่นคือเนื้อหาแบบไดนามิก แต่เขาก็วิจารณ์ Flash ในเรื่องการกินซีพียูและแบตเตอรี่ โดยบอกว่าคุณสามารถต้มไข่ได้บนอุปกรณ์ที่รัน Flash เลยทีเดียว
หลังจากที่แอปเปิลอนุมัติให้ Opera Mini เข้าสู่ App Store หลังจากนั้นไม่นาน Opera Mini ก็มียอดดาวน์โหลดทะลุล้านครั้งตั้งแต่ในวันแรกที่เปิดให้ดาวน์โหลด และก้าวขึ้นอันดับหนึ่ง ใน App Store ในหลายๆ ประเทศอย่างรวดเร็ว
ประเทศใดที่ตอนนี้ Opera Mini ขึ้นอันดับหนึ่ง ลองไปดูได้ที่นี่
Lars Boilesen ผู้เป็น CEO ของ Opera Software กล่าวว่า "วันนี้ผู้ใช้ iPhone มีตัวเลือกแล้ว และจากที่ตัวเลขแสดงออกมา พวกเขาต่างอยากที่จะลองการเข้าเว็บด้วยทางที่ใหม่และเร็วกว่าเดิมบน iPhone โดยเฉพาะช่วงที่มีการใช้งานเว็บอย่างหนักหน่วง"