ศูนย์ข้อมูลระดับไฮเปอร์สเกล คือศูนย์ข้อมูลที่ให้พลังประมวลผลอย่างมหาศาล ดำเนินการโดยบริษัทใหญ่ ๆ อย่างเช่น Apple, Amazon, Facebook, Google ยังคงเป็นที่นิยมท่ามกลางความต้องการพลังงานในการประมวลผลที่สูงขึ้นและความต้องการเก็บข้อมูลที่มากยิ่งขึ้น มีข้อมูลล่าสุดจาก Synergy Research เผยว่าในปี 2017 นี้ถือเป็นปีที่ศูนย์ข้อมูลแบบไฮเปอร์สเกลมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก และไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลยในปีหน้า

ในรายงานเผยว่า ปีนี้มีศูนย์ข้อมูลแบบ web-scale ทั้งหมด 390 แห่งทั่วโลก ซึ่งในปีนี้ก็จะเห็นบริษัทสัญชาติจีนอย่าง Tencent และ Baidu เริ่มสร้างศูนย์ข้อมูลแบบไฮเปอร์สเกลมากขึ้น โดยตอนนี้อันดับหนึ่งของประเทศที่มีศูนย์ข้อมูลไฮเปอร์สเกลเยอะที่สุดคือสหรัฐฯ คิดเป็น 44% ของทั้งหมด จีนตามมาห่าง ๆ ที่ 8%, ญี่ปุ่น 6%, สหราชอาณาจักร 6%, ออสเตรเลีย 5% และเยอรมนี 5% ซึ่งตอนนี้ยังมีศูนย์ข้อมูลที่ก่อสร้างหรืออยู่ในแผนอีกอีก 69 แห่ง และ Synergy คาดการณ์ว่าจำนวนศูนย์ข้อมูลน่าจะเติบโตได้ถึง 500 แห่งในปีหน้า

ส่วนในแง่ของบริษัท Synergy รายงานว่ามีบริษัททั้งหมด 24 แห่งที่มีศูนย์ข้อมูลไฮเปอร์สเกล ซึ่งโดยเฉลี่ยแต่ละบริษัทจะมี 16 ศูนย์ข้อมูล โดยบริษัทที่มีศูนย์ข้อมูลจำนวนมากที่สุดคือ Amazon, Microsoft, IBM และ Google ซึ่งแต่ละบริษัทมีศูนย์ข้อมูลอย่างน้อย 45 แห่งทั่วโลก ซึ่งผู้ให้บริการเหล่านี้มักจะใช้วิธีการพัฒนาอุปกรณ์ของตัวเองเพื่อให้เป็นไปตามงานที่ต้องการใช้ประมวลผล และรีดประสิทธิภาพจากอุปกรณ์ให้มากที่สุด จึงทำให้บริษัทที่ทำศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ได้มีจำนวนไม่มากนัก

ทั้งนี้ Synergy ใช้เกณฑ์การจำแนกศูนย์ข้อมูลว่าเป็นไฮเปอร์สเกลโดยกำหนดที่จำนวนเซิร์ฟเวอร์หลายแสนเครื่องขึ้นไป หรือบางครั้งอาจจะเป็นล้าน ซึ่งจะค่อนข้างต่างกับ IDC ที่กำหนดจำนวนเซิร์ฟเวอร์ขั้นต่ำ 5,000 เครื่องและมีพื้นที่อย่างน้อย 1 หมื่นตารางฟุต

ที่มา - TechCrunch, Synergy Research

ภาพจาก Google Data Centers