Tags:
Node Thumbnail

ประธานาธิบดี Donald Trump ได้เซ็นกฎหมายเพื่อแบนซอฟต์แวร์ Kaspersky Lab สำหรับการใช้งานในรัฐบาลสหรัฐฯ แล้ว โดยเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายนโยบายการใช้จ่ายเพื่อการป้องกันประเทศ

ทุกวันนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงมีความกังวลว่าการใช้ซอฟต์แวร์จาก Kaspersky จะทำให้ข้อมูลจะถูกขโมยและนำไปส่งมอบให้รัฐบาลรัสเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) ก็ได้สั่งห้ามหน่วยงานภาครัฐใช้ซอฟต์แวร์จาก Kaspersky และล่าสุด Cristopher Krebs จาก DHS ก็กล่าวว่าตอนนี้หน่วยงานภาครัฐได้ถอด Kaspersky ออกจนเกือบจะหมดแล้ว ซึ่งการเซ็นกฎหมายนี้ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความกังวลของรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าคงจะไม่กลับมาใช้ซอฟต์แวร์ของ Kaspersky ง่าย ๆ

ฝั่ง Kaspersky นั้นก็ปฏิเสธเช่นเดิมว่าบริษัทไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลใด ๆ และทางบริษัทไม่เคยช่วยรัฐบาลในการจารกรรมข้อมูลทางไซเบอร์

ก่อนหน้านี้ Kaspersky ก็เคยจะเปิดซอร์สโค้ดให้ตรวจสอบ ทั้งซอฟต์แวร์ปัจจุบันและการอัพเดตในอนาคต โดยให้ผู้เชี่ยวชาญอิสระเป็นผู้ตรวจสอบเพื่อให้ทางรัฐบาลมั่นใจว่าทางบริษัทไม่ได้วางโปรแกรมสอดแนมไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยินดีกับท่าทีของ Kaspersky แต่กล่าวว่ามันยังไม่เพียงพอ

ที่มา - Reuters

Get latest news from Blognone

Comments

By: HoMm
AndroidWindows
on 13 December 2017 - 08:50 #1023474
HoMm's picture

นึกถึงกรณี baidu ที่เกิดวิกฤติ ไร้ศรัทธาในเมืองไทย แก้ยังไงก็แก้ไม่ได้แน่นอน ไม่ต่างกัน

By: GoblinKing
Windows PhoneWindows
on 13 December 2017 - 08:57 #1023475 Reply to:1023474
GoblinKing's picture

ทุกวันนี้ยังเหลือซากอารยธรรมตามบันไดเลื่อนอยู่เลย

By: bodinmon
AndroidWindows
on 13 December 2017 - 12:07 #1023537 Reply to:1023474
bodinmon's picture

Kaspersky นี่เรียกได้ว่า โดนกล่าวหา (ต้องไปพิสูจน์อีกที ว่าจริงไหม)

ส่วน Baidu นี่ ทำตัวเองล้วนๆ

By: Auftrag on 13 December 2017 - 09:33 #1023486
Auftrag's picture

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้ Kaspersky ก็เคยจะเปิดซอร์สโค้ดให้ตรวจสอบ

"ก่อนหน้านี้" พิมพ์ซ้ำหรือเปล่าครับ

By: nutmos
WriteriPhoneUbuntuWindows
on 14 December 2017 - 08:37 #1023644 Reply to:1023486

ใช่ครับ แก้เรียบร้อยครับ

By: In2theBlue
AndroidWindows
on 14 December 2017 - 15:46 #1023504
In2theBlue's picture

แล้วรัสเซียไม่คิดจะแบน Symantec หรือ McAfee บ้างเหรอ

By: foizy
AndroidUbuntuWindows
on 13 December 2017 - 10:51 #1023506

kaspersky เสีย trust ที่เปิดเผย (ถึงจะมองว่าเรื่องตอนนั้นมันควรเปิดเผย)

แต่สิ่งที่ kaspersky ได้มาคือ heuristic scan กับ online scan ที่รู้สึกว่า "ไฟล์นี้น่าสงสัย จะส่งไปตรวจไหม" ซึ่งทุกเจ้าดูจะมีกันหมด 5555

By: sakura
ContributorWindows PhoneSymbian
on 13 December 2017 - 16:36 #1023571

Kaspersky ไม่ได้ทำผิดอะไร ทำตามหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุดแล้วครับ

พนักงานของ NSA อันนี้ผิดที่เอางานความลับกลับไปทำที่บ้าน และใช้โปรแกรม Office เถื่อน แล้วไปปิด Antivirus เพื่อลง Crack ซึ่งดันโดนหลอกให้ใช้ Crack ปลอม พอกลับมาเปิด Antivirus ตัวโปรแกรมก็เลยสั่งสแกนทั้งเครื่อง ซึ่งไปเจอไฟล์ไวรัสที่ NSA ทำขึ้น และไม่เคยเจอในฐานข้อมูลก็เลยส่งกลับไปวิเคราะห์ ซึ่งพอทาง Kaspersky รู้ว่าเจอตอ ก็เลยรีบลบไฟล์ไวรัสนั้นออกฐานข้อมูล

By: devilblaze
iPhoneAndroidWindows
on 13 December 2017 - 18:39 #1023595 Reply to:1023571
devilblaze's picture

มันเลยต้องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการ์ณแบบนี้อีกไงครับ
อีกอย่างอเมริกาเองเขากังวลเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง kaspersky กับหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ที่ทางอเมริกาอ้างว่าพวกเขาเคยพบกัน มันเลยทำให้ความน่าไว้วางใจของ kasper ตกหวบๆจนโดนแบนในที่สุด ทั้งๆที่ก่อนหน้า kasper เองก็ทำธุรกิจในอเมริกาได้อย่างปรกติจนมาถึงเหตุการ์ณนี้

By: maxmin on 13 December 2017 - 20:34 #1023601

อเมริกาของแกนี่เยอะเลย Google, Facebook ,Apple , Windows บลาๆๆๆ ซึ่งหลายอย่างจำเป็นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ทุกรัฐบาลในโลกก็โดนอเมริกาล้วงข้อมูลแน่ๆ

By: A4
iPhoneAndroidRed HatSUSE
on 13 December 2017 - 20:45 #1023602
A4's picture

ตีวัวกระทบคราด

By: iamjav
iPhone
on 16 December 2017 - 03:40 #1023997

Kaspersky ACT