ฟีเจอร์ใหม่อย่างหนึ่งของ Windows 10 Creators Update คือ Game Mode ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเกมที่เล่น เพราะ Windows จะกันทรัพยากรของเครื่องไว้ให้เกมเป็นหลัก แทนที่จะต้องแย่งกับโปรแกรมอื่นที่รันอยู่
เว็บไซต์ PCWorld ลองทดสอบฟีเจอร์นี้ และพบว่าถ้าเปิดแต่เกมอย่างเดียว ไม่เปิดโปรแกรมอื่นเลย Game Mode แทบไม่ได้ประโยชน์อะไร แต่ถ้าเปิดโปรแกรมอื่นรันขนานไปด้วย (เช่น ฟังเพลง รันแอนตี้ไวรัส) Game Mode ช่วยให้เกมมีประสิทธิภาพดีขึ้นจริง
การทดสอบของ PCWorld พบว่าเฟรมเรตของเกมจะดีขึ้นถ้าเปิดใช้ Game Mode แต่เพิ่มมาก-น้อยแค่ไหนก็ขึ้นกับแต่ละเกมด้วย บทสรุปของ PCWorld คือ Game Mode ช่วยให้เกมที่เล่นไม่ค่อยไหวบนเครื่องที่ไม่แรง เปลี่ยนมาเป็น "พอเล่นได้" แต่ในกรณีที่เครื่องแรงอยู่แล้ว ความแตกต่างจะเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก
อย่างไรก็ตาม Game Mode จะมีผลกระทบต่อโปรแกรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่เกม ดังนั้นถ้าเราเป็นสตรีมเมอร์ที่ต้องถ่ายทอดสดเกมขณะเล่น ก็ไม่ควรเปิดใช้ Game Mode เพราะโปรแกรมอื่นๆ จะใช้งานแทบไม่ได้เลย
ที่มา - PCWorld
ผลทดสอบของ PCWorld (Game Mode คือชาร์ทสีแดง)
Comments
ก็ย้ายมา cast ด้วย Beam แทนครับ 5555
ปกติก่อนเล่นเกมส์ก็ปิด App เกือบทั้งหมดอยู่แล้ว งั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
นึกว่าจะลดการโหลด Background Services อะไรในระบบซะหน่อย
อย่างน้อยมันก็กันไม่ให้เฟรมเรทแกว่ง หรือ Pingสูงขึ้น จากWindows Update ได้ไม่ใช่เหรอครับ
เล่นDotAอยู่ตอนกำลังบวก เจอWindowsโหลดUpdateทีนี่ Pingบานแน่ๆ
เห็นผลทดสอบในยูทูปอันอื่น fps นิ่งขึ้น
ดีเยี่ยมเลยสำหรับเล่นเกมส์อย่างเดียว
อยากเห็นค่าความร้อนด้วย
ไม่น่าจะเกี่ยวกันมั้งครับ
อัพเดตตัวใหม่ เท่าที่สังเกตช่วยให้คอมเย็นลงนะครับ อุณหภูมิลดไปประมาณ 3-5 องศาเลยครับ
แต่ถ้าเล่นเกม ความร้อนอาจจะลดลงไม่มากมั้งครับ
ลองใช้ผิดวัตถุประสงค์ก็ได้ผลเหมือนกัน แต่ไม่ได้ต่างกันมากครับ
ช่วยได้นิดนึงครับ แต่ที่ชอบคือจัดการแรมได้ดีกว่าเยอะครับ
กว่าผมจะหาสาเหตุที่ทำให้ obs record/stream เกมแล้วกระตุกเป็นเพราะ game mode ได้ ก็ปาไปเป็นวัน 555
+1 นั่งงงอยู่ว่าทำไม obs มี frame drop 555 ลืมไปเปิด game mode เอาไว้