Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

Uber กำลังทดสอบมาตรการใหม่ หากผู้เรียกรถไม่แสดงตัวที่จุดนัดพบหลังคนขับรถของ Uber ไปถึงจุดดังกล่าวในเวลา 2 นาที ผู้ใช้บริการจะถูกคิดค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับการผิดเวลานั้น และหากสายเกิน 5 นาทีก็จะถูกยกเลิกการเรียกรถในครั้งนั้นซึ่งแน่นอนว่าจะแพงกว่าค่าปรับกรณีสายเฉยๆ

ส่วนทางด้านผู้ขับรถของ Uber เมื่อไปยังจุดนัดพบตามที่โดนเรียกแล้ว ต้องรออย่างน้อยจนครบ 5 นาที หากครบ 5 นาทีแล้วยังไม่พบผู้ใช้ที่เป็นคนเรียกรถ จึงจะถือว่ายกเลิกการเรียกรถครั้งนั้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งผู้ขับจะได้ค่าเสียเวลาสำหรับกรณีดังกล่าว

กรณีที่ผู้เรียกรถเปลี่ยนใจไม่ต้องการเดินทางหลังกดเรียกรถไปแล้วเกิน 2 นาที จะต้องเสียค่าธรรมเนียมสำหรับการยกเลิกการเดินทางเช่นกัน โดยค่าธรรมเนียมนี้จะอยู่ในช่วง 5-10 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับว่าจุดที่เรียกรถนั้นอยู่ในพื้นที่ไหน

นโยบายการคิดเงินสำหรับผู้เรียกรถที่มาสายหรือยกเลิกการเดินทางโดยไม่บอกกล่าว (หรือบอกช้าเกินไปเพราะคนขับเสียเวลาเดินทางมาแล้ว) และชดเชยค่าเสียเวลาให้กับคนขับ Uber ที่เจอผู้เรียกรถแบบนี้ เป็นแนวทางหนึ่งที่ Uber ต้องการผลักดันเพื่อให้คนขับไม่รู้สึกว่าถูกเอาเปรียบจนเกินไป และเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อให้ Uber สามารถบริหารรถในเครือข่ายให้มอบบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา - Engadget

Get latest news from Blognone

Comments

By: -Rookies-
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 29 April 2016 - 13:35 #907396

อืม เข้าทีดีนะ ผู้โดยสารจะได้ไม่เอาเปรียบคนขับ


เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!

By: -Rookies-
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 29 April 2016 - 13:36 #907397 Reply to:907396

แต่ค่าปรับโหดจังวุ้ย


เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!