จำได้ว่าซัมซุงโดนด่ามากมายเรื่องซอยรุ่น

แอปเปิ้ลจะเดินตามรอยมาหรือไม่ ?

ไม่ใช่แค่ The Verge ใน Engaged ก็ออกมาว่า เดี๋ยว Gizmodo น่าจะมา

มันจริงมากอะ ออกสินค้าไม่พร้อมกันแล้วตัวใหม่ดีกว่าตัวเก่าแค่บางประการ

ผู้ใช้ก็มึนไปสิ.... ขัดกับ Apple ยุค Jobs มาก

นี่ยังไม่นับ Macbook Air ที่หนักกว่า MacBook ธรรมดา - -'

นี่ขนาด Apple Verge (aka iVerge) นะนั่น!

ถ้าคุณเป็นสาวก MS คุณจะรู้ว่าชื่อแค่นี้ จิ๊บๆ ...

รักแค่ไหนก็น่าด่าครับอันนี้ เอาตรงๆ เคืองตั้งแต่ไอเจ้า MacBook ที่มาทับไลน์กันระหว่าง Air กับ Pro แบบงงๆ แล้ว

ความไม่เท่าเทียมกันของคุณสมบัติในผลิตภัณฑ์ที่ออกใหม่ (ตัวอย่างเช่น iPad Pro 9.7 นิ้ว มีกล้องที่ดีกว่า iPad Pro 12 นิ้ว)

นี่มัน... HTC Model

+1 ระบบการตั้งชื่อสับสนอลหม่านมาก ถ้าคนที่ไม่ได้จามข่าวมาตลอดมาดู product line จะงงว่าอะไรเป็นอะไรแน่ๆ ต่างจากยุคจ็อบส์ที่ iPhone ก็คือ iPhone iPad ก็คือ iPad product แต่ละสายมีโฟกัสชัดเจน แต่อันนี้ไลน์สินค้าผสมปนเปทับกันมั่วไปหมด

สมัยก่อนออกมาไม่กี่รุ่น ต่างกันแค่ความจุ ทุกวันนี้คุณสมบัติดูแล้ววุ่นวายมาก ส่งผลต่อการตัดสินใจในการซื้อสุดๆ

ถ้ารุ่น Pro หน้าตาจะเหมือน Air ขนาดนี้
แล้วนิยามของคำว่า Air ในตอนนี้คืออะไร ??

เห็นด้วยว่า iPhone SE ตั้งชื่อได้น่าสับสนมาก ... เอาจริง ๆ ก็เรียกว่า iPhone 6 4" ไปก็ไม่เห็นว่ามันจะแย่กว่าตรงไหน (MBP ก็เรียกแบบนี้เหมือนกัน)

SE มัน Special ตรงไหน ?

เข้าใจว่าการตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จะเน้นไปที่ชื่อให้แปลกๆ ฉีกๆ อาจเพราะต้องการให้มีผลกับ search engine มากๆ ก็เป็นได้

ส่วนเรื่องที่ยกตัวอย่าง "iPad Pro 9.7 นิ้ว มีกล้องที่ดีกว่า iPad Pro 12 นิ้ว" เป็นเพราะ Apple ไม่ชอบเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันพร้อมๆกัน(อาจพัฒนาไม่ทัน) ทำให้ของเปิดตัวก่อนมีสเปคที่ด้อยกว่าของที่เปิดตัวทีหลังในคลาสเดียวกัน ไม่แน่ iPad Pro 12 นิ้ว อาจได้ปรับกล้องให้เท่ากับตัว 9.7 นิ้วก็เป็นได้ แค่ไม่ได้นำขึ้นมาพูด(ฝันไปๆ)

ช่วงหลังผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันแตกรุ่นและเปิดตัวพร้อมกันก็คือ iPhone 6 กับ 6+ ไม่แน่ในการอัพเกรด iPad ครั้งต่อไป อาจเปิดตัว iPad Pro ทั้ง 2 รุ่นในงานเดียวกันก็เป็นได้เพื่อให้สเปคใกล้เคียงกันที่สุด

ส่วน Air และ mini ก็เป็นรุ่นประหยัดจับตลาดที่ต้องสู้เรื่องราคา ใช้งานไม่หนักมาก เช่น Social Network, e-Book, Present หรือทำงานไม่หนักมาก

อย่างว่า Apple ยุคนี้เป็นยุค Marketing มากกว่าผลักดันเทคโนโลยีใหม่ๆ เพราะอาจอิ่มตัวหรือคิดไม่ออกแล้วก็ได้

ปล.ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ของคนใช้ 6+ เก่าๆ ในมือ

ชื่อ Apple Watch โคตรฮา

ถึงว่า jobs ปวดหัวเวลาตั้งชื่อ ผู้ช่วยแต่ละคน 555

เฉยๆครับ ของหลักหมื่นคนซื้อก็ต้องหาข้อมูลอยู่แล้ว คงไม่มีจำพวกซื้อผิดรุ่นเพราะสับสนชื่อหรอก ถ้ามีก็นะ...

เป็นไปได้มั้ยครับ ที่แนวทางการตั้งชื่อของ Apple ต่อจากนี้ คือจะพยายามเอาตัวเลขออกจากชื่อ
ผมว่าต่อไป คุณได้เห็น iPhone Pro อะไรทำนองนี้แน่ๆ พร้อมกับราคาที่แพงขึ้น

เตรียมตัวสับสนกันต่อไปครับ 55555.

เอาจริง สมัยก่อน อีก 2 ค่ายตั้งชื่อชวนเวียนหัวมาแล้วเช่น แมคโครฮารด์ วินนิ่ง 2005 โปรเฟชชั่นแนล ฮิวแมน อิดิชั่น เซอร์วิสแพค 5 หลังๆ พี่แก ตั้งชื่อไม่งง เช่น วินนิ่ง 7 วินนิ่ง 8 วินนิ่ง 10

ส่วนอีกค่ายตั้งชื่อรุ่น ยังกับชื่อแมว 1 เครื่อง 1 ชื่่อ จนจำรุ่นกันไม่ได้ ต่อมาพัฒนาการเริ่มดี แบ่งตระกูลตามตัวอักษรเลย รุ่นเล็ก J รุ่นกลางๆ E รุ่นเกือบพรีเมียม A แต่ถ้าอยากพรีเมี่ยม โนั้นไป S ไป โนต และหลังๆ เริ่มทำตลาดแค่ไม่กี่รุ่นแล้ว เพื่อลดความสับสน คือรุ่นถูกคือ รุ่นถูก ดูยังไงก็ดูออก หรือแพงก็แพงไปเลย

ผมบอกตรงๆนะครับ Apple สมัยก่อนผมไม่งงครับ เพราะผมก็ใช้ MAC ตอนนี้ MAC ผมยังสับสนเลยว่าตัวไหนคือ ไฮเอนด์ Macbook Pro , Macbook Air หรือ Macbook ธรรมดา เพราะหน้่าตา + ชื่อ + ราคา ชวนสับสนมากๆ

ตอนนี้ผมคิดว่า วัฒนธรรม Apple มันเลยจุด Peak มาแล้วไม่ว้าวเปลี่ยนโลกเหมือนเมื่อก่อน เปิดตัวคือ เปิดตัวของจริง มันไม่เคยมีอยู่บนโลกนี้ แล้วตอนนี้มัน มาแล้วอยู่ใน Store จงกำเงินแล้วไปซื้อสะ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ Apple ไม่ใช้สิ่งที่ ว้าวต่อไป นี่คือความเห็นของผมซึ่งใช้ Mac มาตั้งแต่ปี 1998 ตั้งแต่แมคลูกกวาด

ถ้าถามผมจริงๆนะ คิดว่า apple เริ่มเปลี่ยนตอนไหน ผมบอกได้เลยว่า ตอนที่เอา line click wheel ออกนั้นแหละครับ มันทำให้ Apple เองก็ไม่ต่างจากแบรนด์อื่นๆ ที่เริ่มถูกกลืนด้วยกับดักที่ตนเองสร้างขึ้น อัตลักษณืของสินค้ามันแทบไม่ต่างกันแล้วในตลาด..............

ลองมองกลับและอยากให้สังเกตุ ..... ลองคิดกลับกันทำไมอีกแบรนด์ ถึงเริ่มโตช้าๆ อัตลักษณ์ ของสินค้าเขาเริ่มมี เริ่มชัด ถ้ามองกลับไปจุดแรกที่ ใครก็ตามบอกว่าเขาลอก แต่ผมไม่มองแบบนั้นครับ เพราะรายนั้นเขามี Line มือถือเขามาเองนาน เขาเป็นคนสร้างมือถือจอยักษ์ จนวันนี้ทุกค่ายทำตาม มือถือบางรุ่น ใครเห็นก็อ๋อมันคือยี่ห้อนี้

ผมกลับไม่งง เพราะเข้าใจว่า MacBook Air ถูกพัฒนาขึ้นจากความคิดที่จะเอา สินค้าบางเบาแล้วแรงกว่า ไปสู้ NetBook ของคู่แข่งที่เกลื่อนตลาดในเวลานั้น แล้ว MacBook Air ก็โด่งดังและเป็น line สินค้าที่ประสบความสำเร็จ แต่พอมาถึงตอนนี้ จะเห็นว่า Apple ดัน MacBook 12 นิ้ว ขึ้นมาทำตลาดแทน แต่ยังไม่เลิกขาย MacBook Air ชะลอเวลาที่จะเอาออกจากตลาด MacBook Pro ก็ไฮเอนด์กว่า เพราะมันคือ Pro line สุดท้ายมันก็จะเหลือ แค่ MacBook 12 และ MacBook Pro 13 และ 15 นิ้ว เหมือนในอดีต ก่อนที่จะยังไม่มี MacBook Air มาขาย
ส่วน iPad ก็ถือว่า ทำคล้ายๆกัน Apple ดันฟังก์ชั่นการใช้งานของ iPad ขึ้นมา มี Pro 9.7 กับ Pro 12.9 นิ้ว ส่วน iPad Air ก็เป็นของเก่าที่ขายต่อไป

ควางกังวลที่หนักขึ้นไปอีกคือในโลกยุคหน้าที่แวดล้อมไปด้วย AI ทิมคุกจะนำพาแอปเปิลรอดได้ด้วยสินค้ารูปแบบไหน หรือจะเหลือแต่อุปกรณ์ ในเมื่อสิ่งที่เคยชูโรงเมื่อแจ้งเกิดอุปกรณ์ใหม่คืออินเตอร์เฟสแต่พักหลังไม่ค่อยใส่ใจปล่อยหลุดมาหลายรายการ

เห็นด้วยสุดๆ ขัดใจมาก

เพราะงี้ผมถึงซื้อรุ่น Sport ด้วยเหตุผลที่ว่า Function มันเหมือนกันหมดไม่แตกต่าง ที่ต่างแค่วัสดุที่ใช้ มองเป็นสินค้าเทคโนโลยี่เปลี่ยนรุ่นบ่อย ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง

ขนาด iVerge นะนั่น
เพราะเค้ารักเค้าจึงบอกอะนะ

iPad pro 9.7 นี่น่าเรียก Air 3 มากกว่า สับสนน้อยกว่า

"(อย่างเช่น iPad Air 2 ควรยกเลิกไป)"

ไม่ยอม เพิ่งซื้อมา...

อาจจะมีผลิตภัณฑ์เน้นเฉพาะตลาดออกมาก็เป็นได้ จะได้ไม่สับสนอีกแน่นอน เช่น iPhone SWE (Smoke Weed Edition) เป็นต้น

สรุปว่า iPad Pro 9.7 เหลือ Ram 2 ซะงั้น

แสดงว่าตระกูล iPad Pro คือรับ pencil + keyboard ได้เท่านั้นเหรอ

ผมก็งงครับ พอดีเพิ่งหาข้อมูลเลือกซื้อ iPhone 6 ว่าจะเอาตัวไหนดี 6, 6+, 6s, 6s+ เรียงลำดับความแรงไม่ถูกเลย

แต่สุดท้ายผมก็เข้าใจครับ ว่ามันมาถึงแล้ว ยุคที่การเปรียบเทียบรุ่นของสินค้าไม่ได้เรียงเป็นเส้นมิติเดียว คือ เทียบไม่ได้ว่า ตัวไหนแรงสุดแรงกว่าเขาทั้งหมด หรือ ตัวไหนคุ้มสุดแรงน้อยสุดแต่ราคาสบายๆ
ยังไงก็ต้องมาเปิดตารางเทียบคุณสมบัติทุกตัวทุกสายพร้อมกัน ทั้ง iPhone, iPad, MacBook ว่าตัวไหนตอบโจทย์เรามากที่สุด

รู้สึกเหมือนกันครับ ว่าแยกย่อยเกินไป แต่ดีใจที่ทำ iPhone จอ 4 นิ้วออกมาเอาใจคนมือเล็ก

ผมว่าตาทิมแกอยากเปลี่ยนชื่อเป็น apple phone มานานละ เสียแค่ชื่อ iphone ipad มันติดตลาดแบบกู่ไม่กลับไปแล้ว

จริงๆ iphone รุ่นต่อไปนี่ ถือโอกาสเปลี่ยนชื่อก็ดีนะ อารมณ์มันมาไกลเกินกว่าจะเป็นรุ่นตัวเลขแล้วรึเปล่า ดูย้อนแย้งพิกลถ้าชื่อ iphone7 แต่เป็นรุ่นที่ 10

เดี๋ยวนี้จะซื้อสินค้าแอปเปิ้ลต้องศึกษาพอสมควร หลายรุ่นเหลือเกิน อย่าง iphone SE ที่ว่าข้างในเหมือน 6s ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว กล้องหน้าแค่ 1.2 ล้าน จอ contrast ต่ำกว่า ไม่มี 3D touch ตัวสแกนนิ้วก็ gen 1 (6s gen 2)ใช้ SSD NVMe เหมือน 6s รึเปล่าก็ไม่รู้ (แต่ผมแฟนแอนดรอยด์ก็สนใจ SE นะ ถ้าไม่แพงก็น่าใช้)

ipad pro 9.7" ก็ต่างจากตัวใหญ่พอสมควร แรมน้อยกว่า CPU,GPU underclock แต่บางอย่างกลับดีกว่าเช่นกล้อง จอสะท้อนแสงน้อย

ไม่เห็นจะสับสนเลยครับโผม มีวงเงินเหลือเท่าไหน เดี๋ยวช๊อยส์มันก็ออกมาเหลือไม่กี่ตัวเท่านั้นเองครับ แล้วถ้าดันได้รุ่นต่ำๆเดี๋ยวก็บอกตัวเองว่าเราต้องอยู่กับมันได้ เท่านั้นเองครับ (ถ้าอยากได้จริงๆอ่ะนะ) นี่ตะหากวิธีหากินแบบ ทิม คุ๊ก แยบยล ล้ำลึกจะตาย ถ้าเรามีเงินพอจะซื้อทุกรุ่นแบบง่ายๆสิค่อยน่าปวดหัว

ที่ตระกูลไปแพดเป็นแบบนี้เพราะไม่ยอมออกโปร 9.7 มาพร้อม 12 ทำให้ 9.7 ทีออกหลัง แต่ดันมีบางอย่างดีกว่ารุ่นท๊อบ

รอบหน้า น่าจะมาพร้อมกันนะ โปร 2 ขนาด

เนื่องจากกระทู้นี่มีการประชดประชันเสียดสีด้วยคำหยาบคาย จึงขอปิดคอมเมนต์ครับ

ท่านใดที่เกี่ยวข้องคงรู้ตัวกันดี ถ้าพบเจออีกจะถูกแบนถาวรนะครับ