Tags:
Node Thumbnail

เราเห็นแนวโน้มชัดเจนว่าเทคโนโลยีกำลังวิ่งไล่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมดั้งเดิมโดยไม่มีข้อยกเว้น ตัวอย่างที่เราพูดถึงกันบ่อยๆ คือ Airbnb ที่เปลี่ยนแปลงวงการโรงแรม และ Uber ที่เปลี่ยนวงการคมนาคม แต่เราก็ยังมีอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากที่กำลังปรับตัวเพราะเทคโนโลยี รวมถึงวงการที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงอย่าง "บริษัทรักษาความปลอดภัย" (รปภ.) ที่นำไอทีมาใช้เยอะกว่าที่คิด

ผมมีโอกาสฟังคุณ Terence Yap ซีอีโอของบริษัทรักษาความปลอดภัย Guardforce จากฮ่องกง ไปพูดที่งาน Rise Conference 2015 ในหัวข้อการนำเทคโนโลยีมาใช้งาน พอได้คุยหลังเวที ทราบว่า Guardforce มีธุรกิจที่เมืองไทยด้วย เลยนัดสัมภาษณ์กันอีกรอบที่เมืองไทยเพื่อรายละเอียดที่ดียิ่งขึ้น

No Description

alt="Guardforce"

คุณ Terence Yap ซีอีโอของ Guardforce ที่งาน Rise 2015

alt="Guardforce"

คุณไพศาล มงคลทรัพย์กุล กรรมการผู้จัดการ Guardforce ประเทศไทย และคุณ Terence Yap

รู้จัก Guardforce

Guardforce เป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยเก่าแก่ของฮ่องกง เปิดกิจการมาแล้วประมาณ 40 ปี ถือเป็นบริษัทความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง มีลูกค้าเป็นองค์กรใหญ่ๆ มากมาย ธุรกิจดั้งเดิมของ Guardforce คือจัดหาบุคลากรด้านความปลอดภัย แต่ธุรกิจหลักจริงๆ คือดูแลเรื่องการขนเงินของบริษัทห้างร้านในฮ่องกงและมาเก๊า ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร ร้านค้าปลีก รวมไปถึงคาสิโนด้วย

No Description

alt="Guardforce"

alt="Guardforce"

Guardforce มีสาขาในประเทศไทย และถือเป็นบริษัทความปลอดภัยระดับ Top 5 ในประเทศไทย มี รปภ. ในสังกัดมากถึง 3,500 คน ธุรกิจในไทยเกือบทั้งหมดเป็นเรื่องบุคลากร (จัดหา รปภ.) ถ้าใครผ่านไปแถวสนามบินสุวรรณภูมิ ลองสังเกตดีๆ จะเห็นโลโก้ Guardforce แปะอยู่เต็มไปหมด

No Description

ลูกค้าของ Guardforce ในไทยมีทั้งโรงแรม โรงงาน บริษัท ส่วนงานที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีทั้งการดูแลความปลอดภัยของสนามบิน และการตรวจสอบความปลอดภัยของสายการบิน ตรวจสอบผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง อย่างสายการบินของสหรัฐอเมริกาจะต้องตรวจเข้มหน่อย ก็จะมีระบบ passenger behavior หรือ document analysis วิเคราะห์ความเสี่ยงของผู้โดยสารแต่ละคนด้วย

การนำเทคโนโลยีมาช่วยงานรักษาความปลอดภัย

คุณ Terence เล่าถึงวิวัฒนาการของ “การรักษาความปลอดภัย” ว่าแนวคิดหลักคือการ “ป้องกัน” (protect) ไม่เคยเปลี่ยน แต่วิธีการว่าป้องกันอย่างไรเปลี่ยนตามเทคโนโลยีในแต่ละยุคสมัย

alt="Guardforce"

ธุรกิจรักษาความปลอดภัยเป็นธุรกิจที่ต้องใช้แรงงานคนมาก (labor intensive) การนำเทคโนโลยีอัตโนมัติ (automation) มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ (efficiency) จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก หลักการพื้นฐานของการรักษาความปลอดภัยมี 3 ข้อ คือ ตรวจจับ (detect) หน่วงภัยคุกคาม (delay) และตอบโต้ (response) การนำเทคโนโลยีมาใช้จะช่วยได้มากในเรื่อง detect

ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านเครือข่ายความปลอดภัย ทุกคนมีกล้องและเซ็นเซอร์เหมือนๆ กัน แต่เมื่อมีหูมีตาเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปคือสร้าง “เครือข่ายความปลอดภัย” (security network) ที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพสูง เพื่อให้เซ็นเซอร์สามารถสื่อสารกันได้ตลอดเวลา จากนั้นถึงเป็นขั้นที่ใส่ปัญญาหรือซอฟต์แวร์ลงไป

alt="Guardforce"

อย่างไรก็ตาม ระบบรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติก็ใช้งานไม่ได้ในทุกกรณี เพราะวัฒนธรรมของแต่ละประเทศแตกต่างกัน ในสหรัฐอเมริกาที่ค่าแรงแพง แต่โครงสร้างพื้นฐานดี การนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้งานจะถูกยอมรับได้ง่าย ในขณะที่ฝั่งเอเชีย ลูกค้าของ Guardforce รู้สึกว่าเสียเงินจ้างแล้วยังอยากเห็น “คน” ยืนอยู่ อยากเห็นอะไรที่จับต้องได้ ยังไงก็ต้องมีเจ้าหน้าที่มาประจำ แต่ก็ยังนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดจำนวนคนที่ต้องใช้ได้ เช่น จากเดิมต้องใช้ รปภ. 10 คน ก็อาจลดเหลือ 2-3 คน แต่ทำงานได้อย่างฉลาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เทคโนโลยีที่เรารู้จักกันดีอย่าง NFC และ QR Code ถูกใช้ในแวดวง รปภ. แล้ว อย่างการเดินตรวจตราและเช็คตามจุด checkpoint ต่างๆ ก็นำเทคโนโลยีเหล่านี้มาช่วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถยืนยันได้ว่าตรวจสอบจุดเหล่านี้แล้ว

เครื่องขนเงินสด นวัตกรรมของ Guardforce

นวัตกรรมที่น่าสนใจของ Guardforce ในฮ่องกงที่ธุรกิจหลักคือการขนเงินสด คือการประดิษฐ์ “เครื่องขนเงิน” (Guardforce Cash Machine - GCM) ขึ้นมาใช้งาน

alt="Guardforce"

คุณ Terence เล่าว่าการดูแลเงินสดเป็นเรื่องยุ่งยากและสิ้นเปลืองมาก สมมติว่าเราเป็นร้านอาหารหรือร้านค้ารายย่อย เมื่อปิดร้านแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือนับเงิน จากนั้นคัดเลือกธนบัตรตามสกุลเงิน (ในฮ่องกง มีคนจีนที่จ่ายเป็นเงินหยวนด้วย) ตรวจสอบว่าไม่ใช่แบงค์ปลอม และนำไปส่งธนาคารในวันถัดไป จากนั้นธนาคารต้องประมวลผลเงินอีกรอบ กว่าเงินจะเข้าก็ต้องรออีกขั้นต่ำ 2 วัน

ธุรกิจของ Guardforce คือการรับเอาท์ซอร์สการประมวลผลเงินสดจากร้านค้าและธนาคาร แต่ถ้าเนื้องานยังเหมือนเดิม ก็เป็นแค่การเปลี่ยนมาใช้คนของ Guardforce แทนเท่านั้น ความยุ่งยากและสิ้นเปลืองของการนับเงินยังคงอยู่

สิ่งที่ Guardforce มีคือประสบการณ์ด้านการดูแลเงินสดมายาวนาน รู้ปัญหาของอุตสาหกรรมนี้ และเมื่อบริษัทมีวิสัยทัศน์ทางเทคโนโลยี จึงพัฒนาเครื่องขนเงินสดขึ้นมา

เครื่อง GCM ที่ว่านี้หน้าตาคล้ายกับตู้เซฟเคลื่อนที่ มันสามารถนับเงินและคัดแยกสกุลเงินได้อัตโนมัติ แถมยังตรวจแบงค์ปลอมได้ด้วย สิ่งที่ร้านค้าต้องทำมีแค่ใส่ธนบัตรลงไปในเครื่อง GCM แล้วเครื่องจะบรรจุเงินลงในเซฟให้อัตโนมัติ พร้อมกับนับยอดเงินให้เรียบร้อย (ความเร็วการนับได้นาทีละ 600 ใบ) ช่วยแก้ปัญหาเรื่องการนับเงินด้วยมือและการเก็บรักษาเงินลงได้ (เครื่อง GCM เป็นตู้เซฟในตัวอยู่แล้ว)

alt="Guardforce"

จากนั้นพนักงานขนเงินของ Guardforce จะมาขนตู้ GCM ไปยังศูนย์ประมวลผลธนบัตรของ Guardforce เพื่อนำเงินเข้าระบบ เครื่อง GCM มีความปลอดภัยสูง คนขนไม่สามารถแตะต้องเงินได้ และตัวเครื่องต่อเน็ตตลอดเวลา รายงานสถานะให้เจ้าของธุรกิจรับทราบผ่านสมาร์ทโฟน ตรวจสอบร่องรอยการขนเงินย้อนหลังได้ตลอดเวลา

alt="Guardforce"

ผลคือ Guardforce จัดการเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น กระบวนการขนเงินปลอดภัยขึ้น ลดค่าใช้จ่ายขององค์กรลง ส่วนลูกค้าเองก็ได้เงินเข้าธนาคารเร็วขึ้น จากเดิมที่ต้องใช้เวลา 2-3 วันก็ลดเหลือภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมง

ผมถาม Guardforce ว่ามีกระบวนการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างไร คำตอบที่ได้คือบริษัทไม่มีทีมวิจัย R&D เลย เพราะไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัท สิ่งที่บริษัทมีคือรู้ว่าในอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญต้องการอะไร และใช้วิธีพาร์ทเนอร์กับคนรุ่นใหม่ๆ ที่มีไอเดียน่าสนใจ ในการสร้างโซลูชันทางเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์

Guardforce บอกว่าการพบเจอกันของอุตสาหกรรมเก่าและใหม่เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก และเราสามารถนำหลักการนี้มาใช้งานได้กับทุกอุตสาหกรรม เพราะผู้ประกอบการดั้งเดิมมีความรู้ในอุตสาหกรรมของตัวเองเป็นอย่างดี ในขณะที่คนรุ่นใหม่ก็มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเยอะกว่ามาก ถ้าสามารถนำทั้งสองฝ่ายมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ก็จะพัฒนาอุตสาหกรรมได้อย่างก้าวกระโดดมากขึ้น

Get latest news from Blognone

Comments

By: sakuraba
Windows PhoneWindows
on 27 December 2015 - 22:06 #871448
sakuraba's picture

ที่บริษัทที่ผมทำงาน เพิ่งเปลี่ยนมาใช้บริการบริษัทนี้เลย
ต้องดูกันยาวๆ

By: iammeng
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 28 December 2015 - 09:55 #871496
iammeng's picture

ว๊าว!! ตู้เซฟอัฉริยะ

By: Kittichok
Contributor
on 28 December 2015 - 14:52 #871556

ขอบคุณสำหรับบทความครับ

By: iq180
Android
on 30 December 2015 - 07:02 #871759
iq180's picture

เป็นบทความที่ดี