โซนี่เปิดเผยแผนการพัฒนาแบตเตอรี่แบบใหม่ "ลิเทียมซัลเฟอร์" (lithium-sulfur หรือ Li-S) ที่จะนำมาใช้แทนแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน (Li-ion) ในปัจจุบัน คาดว่าจะใช้งานจริงได้ปี 2020
ข้อดีของแบตเตอรี่แบบใหม่ที่ใช้ซัลเฟอร์เป็นสารขั้วบวก (positive electrode) คือเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานต่อความจุได้อีก 40% (จาก 700 Wh/L เป็น 1,000 Wh/L) โซนี่ตั้งเป้าจะใช้แบตเตอรี่ชนิดนี้กับสมาร์ทโฟนก่อน แล้วขยายไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ในภายหลัง นอกจากลิเทียมซัลเฟอร์แล้ว โซนี่ยังพัฒนาแบตเตอรี่แบบแมกนีเซียมซัลเฟอร์ (Mg-S) ควบคู่กันไปด้วย
ที่มา - Nikkei ผ่าน Android Community
ในภาพเป็นแบตเตอรี่ Li-ion ของโซนี่ในปัจจุบัน ไม่ใช่ Li-S
Comments
นี่สิที่รอคอย เทคโนโลยี battery พัฒนาช้ามากในการนำมาใช้จริง
มันมีมานานแล้วครับ แต่มันเสื่อมง่ายมาก
ก็ไม่รู้ Sony แก้ไขยังไง อยากรู้ตรงนี้มากกว่า
ความจุเพิ่มขึ้น แต่แลกกับแรงดันลดลง แต่คิดว่าตอนนี้วงจรในอุปกรณ์เล็กๆ น่าจะใช้แรงดันต่ำกว่านี้อยู่แล้วครับ
สิ่งที่ได้คือมือถือที่บางลงอีก 40%
I need healing.
เอ่อะ.........
แล้วก็ขายเคสติด power bank ต่อ :P
อะไรคือรูปในภาพครับ - -"
ขอให้ใช้งานได้ 1000 circle เมื่อเดิมด้วยนะ
ว่าแต่ Z ไหนจะได้ใช้ ฝ่ายผลิตโทรศัพท์ ถึงตอนนั้นจะยั่งอยู่หรือเปล่าอย่างไงก็เป็นกำลังใจให้นะ
ในข่าวบอกว่าใช้กับสมาร์ทโฟนแต่ไม่ได้บอกว่าใช้กับยี่ห้อตัวเองน่ะครับ 555
กลัวแต่แบรนด์จะไปก่อนแบต
อันนี้ผมพุ่งเลยครับ 555
ทดลองติดตั้ง 3 OS | Windows Ubuntu Android
ถ้าติดตามข่าวตลอด ไม่มีเหตุผลอะไรที่แบรนด์จะไปก่อนครับ
แบรนด์เค้าสายป่านยาวมากๆๆๆๆครับ ล้มยาก อย่างเก่งก็แค่โซเซๆ
ตลาดภาพยนตร์ก็บริษัทในเครือพี่แกก็มีมากมายมหาศาลแล้วครับ
แค่ Sony หากินกับอุปกรณ์กลุ่ม Professional ก็รวยไม่รู้เรื่องแล้วครับ ราคาอุปกรณ์พวกนี้ก็ไม่ใช่น้อยๆ กำไรเยอะ คู่แข่งน้อย ลูกค้ายอมซื้อ ซึ่งการที่มืออาชีพยอมรับอุปกรณ์กลุ่มโปรพวกนี้ นั่นคือเจ๋งจริง
ซัมซุงที่ว่ายิ่งใหญ่ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ AV ยังแทบไม่มีที่ยืนในตลาดอุปกรณ์กลุ่มโปรนี้เลย มีผลิตภัณฑ์แต่ฝั่ง consumer
ถ้าเทียบกับอุปกรณ์ฝั่ง consumer ตลาดมันผันผวนกว่าเยอะ คู่แข่งจำนวนมาก เจอสงครามตลาดจากจีน กำไรต่ำ ต้นทุนการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าสูง ถ้า Sony จะดูพ่ายๆ ในตลาด consumer ก็คงไม่แปลก แต่ไม่ได้แปลว่าเจ๊งแน่ๆ ครับ
แถม Sony pictures กับ Sony music ก็ strong มาก แบรนด์นี้อยู่ยงคงกระพันแน่นอน
Brand น่ะคงยังไม่เจ๊ง แต่มือถืออาจจะเลิกทำ
Vaio เขายังตัดขายไปแล้วเลยครับ
อะไรไม่ทำกำไร ใช่ว่าจะต้องเอากำไรจากส่วนอื่นมาอุ้ม ตัดขาย อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
มันหมดยุคที่ทำทุกอย่างเองหมดไปแล้ว ทำเป็นส่วนๆเฉพาะที่ได้กำไรดีกว่า
ในข่าวก็ไม่ได้พูดถึงโซนี่ที่ทำโทรศัพท์หรือ Xperia เลยนี่ครับ
ตลาด pc notebook มีแต่หดตัวอย่างรุนแรง เค้าถึงตัดออกครับ ส่วนตลาดมือถือยังขยายตัวอยู่ แม้จะขายไม่ดีเท่าเจ้าอื่น แต่ก็ยังดูมีโอกาสมากว่าครับ
ถ้าเอาแบบจวนตัวสุด ๆ Sony ก็คงผันตัวเองไปเป็นธนาคารอย่างเดียว :-)
กว่าจะถึงปี2020 คงมีเทคโนโลยีอื่นขึ้นมาแซงตัดหน้าไปแล้ว
เหมือนเคยอ่านข่าวว่าแซมซังก็กำลังทำแบตที่จุมากกว่าเดิมเกือบ2เท่าด้วยเหมือนกัน ไม่รู้ฝ่ายไหนจะเวิร์คกว่าหรือทำเสร็จก่อนสินะ
จุเพิ่ม 40% ในอีก 5 ปี มันดูธรรมดาอ่ะ ทำไปเทคโนโลยีแบตมันเดินแบบ slow life แบบนี้
เมื่อไหร่พี่แกจะหากินด้วยการฟ้องร้องชาวบ้านกับเค้าบ้างซะทีน้อ
นวัตกรรมสำคัญๆที่มีอยู่ในมือก็มีไม่น้อย และมีแต่ตัวจี๊ดๆทั้งนั้น จะสปิริตไปไหนเนี่ย สปิริตจนจะไม่มีกินแล้วลูกพี่
ผมไม่คิดว่าทางทีมกฎหมายของ Sony จะไม่ทำงานเลยนะ และเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่เราเห็นและคิดว่ามีการละเมิด ตรงนั้นเค้าอาจจะได้ทำการตกลงใช้งานกันไปเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้
ผมเคยอ่านเจอว่า Apple ฟ้องร้องกัน SS เรื่องการหมุนหน้าจอเป็นแนวนอนของโทรศัพท์
SSเลยไปรื้อไปรื้อมา เจอว่า Sonyเป็นเจ้าของสิทธิบัตรนี้อยู่ เลยกลายเป็นศาลยกฟ้องทั้งคู่
และSonyแกก็เฉย ไม่กระโตกกระตากใดๆ
ผมว่าวัฒนธรรมองค์กรเค้าน่าจะได้รับวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาพอสมควรแหละครับ เรื่องแบบว่าใครทำเหมือนไม่ว่ากัน ให้ลูกค้าเป็นคนเลือกว่าอันไหนดีกว่ากันเอง แค่อย่าเลียนแบบกันโต้งๆก็พอ เทคโนโลยีมันจะได้โตเพราะการแข่งขันกันพัฒนา
เพราะญี่ปุ่นเค้าก็ขาC&Dตัวยง เหมือนกัน
แอปเปิ้ลนี่ขี้ฟ้องชะมัด อย่างกะตัวเองคิดเองล้วนๆไม่เคยลอกชาวบ้าน
รอแบต แล้วค่อยซื้อ ฮาาา
ค่ายนี้เน้นเปิดตัวครับ ไม่ขายจริง ใจเย็นๆครับทุกคน 555
คิดเหมือนกันเลย 555
แกพัฒนาเสร็จ ไม่ผลิต ไม่ขายสิทธิบัตรทั้งนั้น ตั่งโป๊ะจบเลย
จริงๆ เทคโนโลยีแบตฯ ก็เห็นข่าวมาเป็นสิบปีแล้วนะจากหลายๆ องค์กรและหน่วยงานต่างๆ สุดท้ายก็ไม่ได้เอามาทำในเชิงพาณิชย์สักที (จบในห้อง Lab)
ดีงาม พัฒนาแบตเตอรี่ซะบ้าง ดีกว่าพัฒนาแต่หน้าจอละเอียดสูง 2k 4k ซดแบตเอาๆ
อืมม เป็นกระทู้ที่แปลกดี หัวข่าวกับความเห็น ยังกะดูหนังคนละเรื่องแล้วมาอยู่ในกระทู้เดียวกัน