Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

มีบทความขนาดยาวของ The Verge เล่าถึงการเติบโตของ Skype ตั้งแต่ยุคแรกที่เกิดพร้อมกับโทรศัพท์มือถือเป็นเสียงริงโทน จวบจนปัจจุบัน แม้จะสื่อสารกันด้วยภาพได้แล้ว เสียงประกอบของตัวแอพ (sonic identity) นี้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้สร้างแอพใส่ใจ

ทว่าปีนี้ ครบรอบ 10 ปี Skype ก็มีการพลิกโฉมเสียงเรียกเข้าบนแอพนี้ใหม่หมด แต่ก็ยังคงเสียงของการหมุน-เสียงเรียกโทรศัพท์ไว้เหมือนเคย เพราะอะไร? มีคำตอบที่เรียบเรียงมาด้านในครับ

ที่มา - The Verge

เรื่อง audio branding นี่จริงจังถึงขั้นมีกลุ่มของร้อยกว่าบริษัทเอเจนซี่ตั้งเป็น Audio Branding Academy ขึ้นมาตั้งแต่ปี 2009 จวบปี 2013 มีเอเจนซี่เข้าร่วมภาคีนี้แล้วกว่า 145 ราย

การ revamp เสียงในแอพนี้เป็นผลมาจากความต้องการโยง Skype for Business (หรือ Lync) เดิม เข้ามาเป็น Skype เดียวกัน และต้องการใช้เข้ากับตัววินโดวส์และไมโครซอฟท์ด้วย กระนั้นก็ต้องคงอัตลักษณ์ของแอพที่เป็นเครื่องมือการสื่อสารบนโลกออนไลน์ที่โลกนิยม ซึ่งงานนี้เป็นของ Listen เอเจนซี่จากนิวยอร์ก สหรัฐฯ

บนโลกจริง เครื่องมือ สิ่งของต่างๆ มักมีเสียงเฉพาะของมันเอง ค้อนตอกตะปูก็ให้เสียงอย่างหนึ่ง ขวานที่จามลงบนต้นไม้ก็ให้เสียงอย่างหนึ่ง แถมบอกเราได้ด้วยว่าจามลงไปยังลำต้นได้ลึกแค่ไหนแล้ว แล้วถ้าเป็นเครื่องมือบนหน้าจอ บนโลกดิจิทัลล่ะ ควรจะทำยังไง? อย่างรถไฮบริดที่มอเตอร์ไฟฟ้าไม่มีเสียง ยังต้องสร้างเสียงเครื่องยนต์ปลอมๆ ให้รถคันอื่นบนถนนระแวดระวังว่ามีรถคันนี้อยู่บนถนนในระยะห่างไปเท่าไร หรือคนขับเหยียบลึกไปเท่าไรแล้ว หรืออย่างคีย์บอร์ดบนหน้าจอทัชสกรีนยังต้องทำให้มีเสียงกริ๊กๆ เหมือนคีย์บอร์ดจริงๆ

บทความนี้เล่าเกริ่นยาวไปถึงยุค 70s-80s ที่ William Gaver อดีตคนของ Apple ในขณะนั้นพยายามจะใส่เสียงไปยังแอพต่างๆ ในทางเดียวกับที่ผู้ใช้เงี่ยหูฟังโมเด็มว่าต่อเน็ตได้หรือยัง จึงเกิดเสียงกรอกน้ำที่ใกล้จะเต็มแก้วขณะที่กำลังรอโหลดสิ่งต่างๆ บนแอพ Finder ในชื่อ Sonic Finder แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง เพราะเขาไปทำงานที่ PARC (Xerox Palo Alto Research Center) เพื่อพัฒนาอินเทอร์เฟซเดสก์ท็อป จนได้ Audio Aura ออกมา ก็ยังไม่ทิ้งคราบเสียงวัตถุจริงจำลองการทำงานต่างๆ บนหน้าจอ แม้จะออกเพี้ยนๆ ไปบ้าง เช่น เสียงอีเมลที่ยังไม่ได้อ่านเป็นเสียงนกร้อง เป็นต้น

ในช่วงปี 90s เป็นช่วงที่ผู้คนเริ่มสัมผัสกับคอมพิวเตอร์มากขึ้น เสียงบ่งอัตลักษณ์สิ่งต่างๆ ก็เริ่มทำหน้าที่ของมัน ปรับปรุงแนวทางของ Audio Aura ให้ดีขึ้น เช่นเสียงเปิด Mac (ผ่าง - ที่ให้ความรู้สึกตื่นตัว), Windows 95 หรือเสียง ตุ่ง-ตุง-ตุ่ง-ตุ๊ง ของ Intel Inside

เมื่อ Sonic Finder ถูกพับไป ในช่วงกลางยุค 90's คนของ Apple อย่าง Jim McKee ก็เริ่มจัดการกับชุดเสียงต่างๆ ที่จะได้ยินกับทุกการกระทำบน Mac OS เลือกได้เป็นธีม ซึ่งเกิดจากการอัดเสียงทุกการกระทำในออฟฟิศ เช่น เสียงคลิปกระดาษกระทบ, เสียงดินสอกำลังขีดเขียน หรือกระดาษลากถูไปมา McKee กล่าวว่า เสียงเหมือนเป็นการ "เพิ่มผิวสัมผัส" ให้กับส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) ทว่าภายหลังตอนจะออก Mac OS 8.5 นั้น Steve Jobs ก็ตัดธีมเสียงออกหมดเหลือใช้แค่ชุดเดียว เพราะมองว่าไม่มีใครอยากให้เสียงเล็ดลอดออกจากคอมพิวเตอร์ที่ตัวเองทำงาน

ในเวลานั้น ไมโครซอฟท์ได้ Brian Eno ศิลปินชาวอังกฤษชื่อดังมาช่วยออกแบบเสียงให้ Windows 95 ซึ่งได้โจทย์ยากจากเอเจนซี่ว่า เสียงต้องสื่อถึงความเว่อวังอลังการ สร้างอารมณ์และแรงบันดาลใจในความยาว 3.25 วินาที ...ซึ่งเขาก็ทำตามสั่งออกมาได้ถึง 84 แบบ

วกออกไปไกลมาก กลับมาที่ Skype ที่บทความนี้ชี้ให้เห็นถึงอัตลักษณ์ที่ออกมาด้านเสียงนั้น Skype กับ Microsoft ค่อนข้างมีความซับซ้อน แอพนี้เป็นแอพที่จำกัดความว่าเป็น "landline of the future" คือต้องดูง่ายเหมือนรับโทรศัพท์ปกติ แต่เมื่อได้รับการแจ้งเตือนสายเข้า ต้องสื่อให้เห็นถึงความเป็นส่วนตัวและไม่รู้สึกโดนบุกรุกจากปลายสาย จึงได้ออกมาเป็นเสียงบับเบิล น้ำ ลม และเอเจนซี่ก็คิดไปถึงการทำให้มันไม่ติดหู ทำให้คนเลียนเสียงไม่ได้อีกต่างหาก

เรื่องราวของเสียงใน Skype ยาวมากๆ แต่บทสรุปคือเสียงที่ออกมาต้องสื่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ กาล และเทศะนานา ที่ลิงก์บทความนี้ใน The Verge มีตัวอย่างเสียงของ Skype เทียบกันทั้งเก่าและใหม่ เราเห็นความแตกต่างไม่มาก แต่คิดว่าข้างในคงคิดกันหัวแตกก่อนออกมาเป็นเสียงนี้

Get latest news from Blognone

Comments

By: dampreecha
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 12 October 2015 - 14:43 #852100

อืมสุดยอดจริงๆ

By: johnny.sayasane
ContributorWindows PhoneSymbianWindows
on 12 October 2015 - 15:14 #852111
johnny.sayasane's picture

ชอบการค้นคว้าแบบนี้ครับ


ສະບາຍດີ :)

By: JackieNP
ContributorUbuntu
on 12 October 2015 - 15:43 #852119
JackieNP's picture

เบื้องหลังซับซ้อนจริงๆ


รักนะคะคนดีของฉัน

By: MrThursday
ContributorRed HatUbuntuWindows
on 12 October 2015 - 15:54 #852122

"วกออกไปไกลมาก กลับมาที่ Skype"

อ่านถึงตรงนี้แล้วขำ

By: HMage
AndroidWindows
on 12 October 2015 - 15:55 #852123

บริษัทใหญ่ๆ เขามีทรัพยากรเหลือเฟือจนมาใส่ใจรายละเอียดลึกๆ ได้อย่างนี้นี่เอง

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 12 October 2015 - 15:56 #852124
panurat2000's picture

ซึ่งงานนี้เป็นของ Listen เอเจนซี่จากนิวยอร์ค สหรัฐฯ

นิวยอร์ค => นิวยอร์ก

ต้องสื่อให้เห็นถึงความเป็นส่วนตัวและไม่ถูกเหมือนโดนบุกรุกจากปลายสาย

และไม่ถูกเหมือนโดนบุกรุก ?

แต่บทสรุปคือเสียงที่ออกมาต้องสื่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ กาละ และเทศะ

กาละ => กาล

By: shipcake
Symbian
on 12 October 2015 - 18:39 #852153
shipcake's picture

ติ้ง ติง ติ๋ง ติ้ง ติงง งิงงงงงงงง ชอบมากเสียงนี้ แต่ถ้าลืมเบาเสียงลำโพงนี้ เปิดคอมมา แทบตกจากเก้าอี้