ผ่านกันไปครบ 1 เดือน หลังจากที่ทางไมโครซอฟท์ได้ปล่อย Windows 10 Mobile build 10166 ให้กับบรรดา Insider และมีการหลุดของ build 10240 ขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ทว่าทางไมโครซอฟท์ก็ไม่ปล่อย build ดังกล่าวให้ทดสอบกันแต่อย่างใด อันเนื่องจากมีบั๊กร้ายแรงบางประการ

วันนี้ทางไมโครซอฟท์ก็ได้ทำการปล่อย build 10512 มาแทนที่ build 10240 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง Gabe Aul ผู้บริหารของไมโครซอฟท์กล่าวไว้ว่า ได้มีการแก้ไขบั๊กไปกว่า 2,000 จุด นับตั้งแต่ build 10166 โดยสิ่งที่ปรับปรุงและแก้ไขไปแล้วมีดังนี้

- ปรับปรุงความเสถียรและประสิทธิภาพโดยรวม
- ตั้งค่า lock screen และภาพพื้นหลังได้จากในแอพ Photos
- แก้ปัญหาแอพที่ติดตั้งลงใน SD card ไม่ทำงานหลังจาก reboot
- ปรับปรุงการอินพุทภาษาลัตเวียและจีน
- ปรับปรุงเลย์เอาท์ tile ของ Kid's Corner
- ปรับปรุงการแจ้งเตือนของ Data Sense
- แก้ปัญหาแอพ Camera ไม่ยอมเปิดเวลาล็อกเครื่องไว้
- แก้ปัญหาไม่มีการแจ้งเตือนเมื่อมีข้อความเข้า
- แก้ปัญหาจอสัมผัสไม่ตอบสนองเวลาวางสายบนอุปกรณ์บางรุ่น
- แก้ปัญหา folder tile มีตัวหนังสือซ้อนกัน

ส่วนปัญหาที่ทางไมโครซอฟท์พบใน build ดังกล่าวมีดังนี้

• hotspot ใช้งานไม่ได้
• การยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน (two-factor authentication) ด้วยเบอร์โทรศัพท์สำหรับบัญชีไมโครซอฟท์ไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนวิธีการใช้อีเมลสำรองหรืออีเมลที่สองสามารถใช้งานได้ตามปกติ
• โทรศัพท์บางรุ่นอาจใช้เวลานานในการอัพเดตเป็น Windows 10 Mobile
• แอพที่มีการใช้งาน background audio อาทิ Groove, Podcast, Pandora และอื่นๆ จะแครชทันทีที่พยายามจะเปิด การแก้ไขทำได้โดยการ reboot เครื่องหลังจากที่มีการอัพเดตแอพผ่าน Store
• โทรศัพท์บางเครื่องที่มี tile บน Start screen ในปริมาณมาก อาจทำให้เครื่องโชว์คำว่า "Loading..." ค้างได้ ถ้าเกิดเหตุดังกล่าวให้รีเซ็ตเครื่องและย้อนกลับการติดตั้งเป็น Windows Phone 8.1 ด้วย Windows Phone Recovery Tool ทันที (ส่วนใครที่ติด bootloop ให้กดปุ่มเพิ่มเสียงค้างไว้ตอน reboot เพื่อเข้า flashing mode และย้อนกลับไปเป็น Windows Phone 8.1 ด้วย Windows Phone Recovery Tool)
• แอพบางตัวอาจอัพเดตไม่สำเร็จและโชว์ error code 0x80073cf9 ให้ทำการลบและติดตั้งแอพใหม่
• แอพ Movies & TV ใช้งานไม่ได้

ไมโครซอฟท์ยังเตือนว่าแอพ Insider Hub ไม่ได้ถูกบรรจุมาใน build นี้ โดยบอกแค่ว่าจะนำกลับมาในครั้งหน้า

นอกจากนี้ Gabe ยังได้ออกมาเตือนถึงการอัพเดตครั้งนี้ว่า สำหรับผู้ที่อัพเดตจาก Windows Phone 8.1 จะต้องอัพเดตไปเป็น build 10166 ก่อนการอัพเดตเป็น build 10512 และ build ล่าสุดนี้ก็ยังไม่ใช่ตัวที่จะเข้าสู่สถานะ RTM แต่อย่างใด

ที่มา - Microsoft