Tags:
Node Thumbnail

เมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมาผมได้เข้าร่วมประชุมกลุ่มย่อยกับทีมงานของนพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา เรื่องการกำกับดูแลค่าบริการโทรคมนาคม ร่วมกับคุณ @octopatr จาก DroidSans, นักวิชาการจาก TDRI, และตัวแทนองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคอีกหลายคน

ประเด็นการคุัมครองเรื่องค่าบริการโทรศัพท์มือถือเป็นประเด็นที่ผมพูดในเว็บนี้และที่อื่นๆ มานาน งานนี้มีโอกาสได้เสนอถึงกสทช. แม้จะเป็นแบบไม่เป็นทางการ (ไม่ใช่การรับฟังความคิดเห็นสาธารณะตามกฎหมาย) แต่ก็คิดว่าประเด็นที่พูดในงานครบตามความตั้งใจ เลยขอเอามาเรียบเรียงอีกครั้งถึงข้อเสนอของผม

แนะนำการกำกับดูแลค่าบริการก่อน ที่ผ่านมาเรามักได้ยินกสทช. ออกประกาศการกำกับดูแลค่าบริการมาเสมอ เช่นว่านาทีละไม่เกิน 99 สตางค์ หรือห้ามให้บริการในเครือข่ายกับนอกเครือข่ายต่างกัน ที่ถูกผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือฟ้องร้องและศาลปกครองเพิ่งยืนยันว่าคำสั่งชอบด้วยกฎหมายเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา รวมถึงหลังประมูล 3G ก็มีการออกมาระบุว่าค่าบริการต้องลดลง 15% กระบวนการเหล่านี้มีเหตุผลมาจากผู้ให้บริการรายใหญ่มีน้อยราย ผู้ใช้เกือบทั้งหมดอยู่กับผู้ให้บริการสามรายหลักคือ AIS, dtac, และ True

ประเด็นการกำกับดูแลที่กำลังมีการเสนอขึ้นมาใหม่นอกเหนือจากการลดค่าบริการ (ซึ่งมีแนวทางการคำนวณซับซ้อน และมีคำวิจารณ์มากว่าสุดท้ายลูกค้าก็ไม่รู้อยู่ดีว่าค่าบริการลดหรือยัง) คือการกำหนดให้ผู้ให้บริการทุกรายที่ถูกควบคุมราคา ต้องออกแพ็กเกจพื้นฐานที่เหมือนๆ กัน เพื่อให้คนทั่วไปเข้าถึงได้อย่างเป็นธรรม

ในการพูดคุยมีประเด็นอื่นๆ ที่ถูกพูดถึงมาก เช่น การลดค่าบริการลงตามสัดส่วนของความคุ้มทุนจากโครงข่ายไปแล้ว หรือการเข้าถึงของคนมีรายได้น้อย แต่ผมไม่ได้ออกความเห็นในส่วนนั้นนัก

ต่อจากนี้คือข้อเสนอและความเห็นของผม

มุ่งเน้นอินเทอร์เน็ตแบบ Always On ก่อน

การมุ่งกำกับค่าบริการโดยคิดถึงปริมาณข้อมูลในแพ็กเกจ เช่น 500MB ไปจนถึง 3GB ที่ระบุในแพ็กเกจทุกวันนี้อาจจะไม่สมเหตุสมผลนัก ผู้ใช้จำนวนมากคิดเพียงว่าต้องการอินเทอร์เน็ตตลอดทั้งเดือนนี้เท่านั้นจากการใช้งานรูปแบบที่เปลี่ยนไป ผู้คนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านทางแอพพลิเคชั่น แชต, อีเมล, เฟซบุ๊ก ฯลฯ แอพพลิเคชั่นเหล่านี้ไม่ได้ต้องการปริมาณข้อมูลสูงเหมือนวิดีโอ แต่ต้องการการเชื่อมต่อตลอดเวลา

ทุกวันนี้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาต่อเดือนที่ราคาเพียง 199 บาท แม้จะมีความเร็วสูงสุดเพียง 128kbps ก็ถือว่าเพียงพอต่อการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทั่วไป เช่น แชต หรือเว็บจำนวนมาก

ผมมองว่าการเชื่อมต่อขั้นพื้นฐานต่ำสุดคือ 32kbps ด้วยความเร็วระดับนี้ เราสามารถเข้าถึงแชต, เว็บ, ไปจนถึงการฟังวิทยุออนไลน์ ครอบคลุมการใช้งานหลากหลายพอที่จะเข้าถึงข้อมูลได้เป็นอย่างดี อินเทอร์เน็ตเองเติบโตอย่างมากในยุคโมเด็ม 28.8kbps หรือ 33.6kbps การรับประกันการเข้าถึงของคนกลุ่มใหญ่ควรคำนึงถึงคนรายได้น้อยที่จะเข้าถึงบริการพื้นฐานในราคาต่ำก่อน

หากมีแพ็กเกจพื้นฐาน ผมเสนอให้มีการออกแพ็กเกจพื้นฐานที่ความเร็วต่ำลงกว่าทุกวันนี้ แต่ไม่จำกัดปริมาณการใช้งาน โดยมีความเร็วสูงสุดที่ต่ำลง เพื่อการเข้าถึงของคนทั่วไป แพ็กเกจที่อาจจะเป็นไปได้เช่น 120 บาทต่อเดือนที่ความเร็ว 64kbps หรือ 70 บาทต่อเดือนที่ความเร็ว 32kbps

Credit Limit ต้องกำหนดได้ และเป็นความรับผิดชอบสูงสุดที่บริโภคต้องจ่าย

ประเด็นเรื่องการกำกับค่าใช้จ่ายอีกประเด็นหนึ่งคือการกำหนดวงเงินการให้บริการที่มีบริการหลากหลายรูปแบบมากกว่าเฉพาะค่าโทรและค่าส่งข้อความในยุคเริ่มต้นของโทรศัพท์มาก ทุกวันนี้มีบริการเสริมอย่างอินเทอร์เน็ต และบริการอื่นๆ กำลังเติมเข้ามา บริการเหล่านี้ในแง่หนึ่งแล้วสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้งานได้มากขึ้น แต่ในแง่หนึ่งแล้วก็มักสร้างปัญหาการใช้งานโดยไม่ทันท่วงทีว่ามีบริการที่ค่าบริการสูงมากๆ อยู่ด้วย

ข้อเสนอของผมคือ กสทช. ต้องประกาศให้สิทธิกับผู้ใช้บริการ ที่จะกำหนดวงเงินการใช้บริการด้วยตัวเอง, วงเงินนั้นผู้ให้บริการต้องไม่มีสิทธิเปลี่ยนแปลงหากไม่ได้รับการร้องขอและมีการยืนยันตัวตน, และวงเงินนั้นต้องเป็นความรับผิดชอบสูงสุดที่ผู้ใช้บริการจะจ่ายให้กับผู้ให้บริการไม่ว่าจะใช้บริการใดๆ

แนวทางนี้เสนอเพื่อให้แก้ปัญหาซ้ำซาก เช่น ในสมัยหนึ่งที่ค่าบริการอินเทอร์เน็ตยังแพงกว่าตอนนี้มาก ผู้ใช้บริการอาจจะถูกเรียกเก็บเงินหลายแสนบาทเป็นค่าอินเทอร์เน็ต, ไม่กี่ปีมานี้ค่าบริการโรมมิ่งกลายเป็นข่าวหลายครั้งว่าเมื่อเปิดใช้บริการแล้วกลับมีค่าบริการสูงจนคาดไม่ถึงอีกเช่นกัน, และในข่าวช่วงล่าสุดที่มีค่าบริการเสริมอย่างการซื้อสินค้าในเกมไลน์

ปัญหาซ้ำซากที่ผ่านมาคือผู้ให้บริการมักอ้างว่าบริการเสริมใหม่ๆ ไม่อยู่ในวงเงิน การอ้างเช่นนี้ไม่ใช่ข้อจำกัดทางเทคนิคเพราะกับบริการเติมเงินแล้วผู้ให้บริการทุกรายสามารถให้บริการได้อย่างแม่นยำ มีความผิดพลาดเกินเงินที่เติมไปบ้างไม่กี่สิบหรือกี่ร้อยบาทเท่านั้น และส่วนใหญ่มีเกณฑ์ชัดเจนว่าจะให้เกินเมื่อใด แสดงว่ามีความสามารถที่จะควบคุมได้ ความจงใจที่จะปล่อยให้บริการที่ตัวเองต้องการอยู่นอกวงเงินเป็นการทำธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค

อย่างไรก็ดี ผู้ให้บริการควรมีสิทธิที่จะปฎิเสธการให้บริการบางประเภทหากวงเงินนั้นต่ำเกินไป เช่น บริการโรมมิ่งที่มักมีค่าบริการสูง ผู้ให้บริการอาจจะกำหนดวงเงินขั้นต่ำได้ว่าต้องเกินเท่าใด โดยแจ้งเกณฑ์ให้ผู้ใช้ทราบล่วงหน้า ขณะเดียวกันผู้ใช้งานก็ต้องมีสิทธิกำหนดวงเงินที่ต่ำพอสำหรับใช้บริการ ตามต้องการ เช่นทุกวันนี้มีแพ็กเกจรายเดือนราคา 199 บาท ก็ต้องเป็นสิทธิของผู้ใช้บริการว่าจะใช้ตามแพ็กเกจที่จัดมาเท่านั้น และกำหนดวงเงิน 199 บาท ซึ่งเพียงพอต่อการใช้บริการต้องทำได้ และผู้ให้บริการไม่มีสิทธิเพิ่มวงเงินนี้โดยไม่ขออนุญาตล่วงหน้า (ไม่ใช่การเพิ่มวงเงินแล้ว SMS แจ้งลูกค้าให้กลับไปลดเองแบบทุกวันนี้)

ผู้ใช้บริการต้องมีสิทธิเลือกเปิดหรือปิด บริการแยกประเภท

การกำกับดูแลหมวดสุดท้ายที่ต้องกำกับคือการเปิดบริการใหม่ๆ ขึ้นอย่างมาก บริการเหล่านี้หลายครั้งสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้งาน บริการเหล่านี้สร้างข้อพิพาทระหว่างผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการอย่างมาก ตัวอย่างเช่นกรณีบริการเสริมผ่าน dtac ที่เปิดบริการทันทีที่รับสายโทรศัพท์

การเปิดบริการใหม่ๆ โดยรู้เท่าไม่ถึงการเป็นปัญหาที่มีมาต่อเนื่องนับตั้งแต่โทรศัพท์มือถือเริ่มเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้มาจนถึงยุคบริการเสริมสารพัดรูปแบบ

alt="upic.me"

นอกจากการจำกัดวงเงิน ซึ่งปกป้องผู้ใช้ที่อาจจะเลินเล่อ เปิดบริการเกินกำลังของตัวเอง ผู้ใช้บริการควรมีสิทธิควบคุม "ประเภทของบริการ" ที่จะใช้บริการได้ โดยแยกบริการเป็นหมวดหมู่ เช่น

  • โทรศัพท์
  • SMS
  • อินเทอร์เน็ต
  • บริการข้อมูลข่าวสารผ่าน SMS
  • Roaming
  • จ่ายค่าบริการอื่นผ่านบิลโทรศัพท์ (Carrier Billing)

ผู้ใช้ต้องสามารถเลิกใช้หรือไม่ใช้บริการตามหมวดหมู่ที่ให้ไว้ได้อย่างอิสระ การเปิดปิดประเภทของบริการยังช่วยลดปัญหา SMS ขยะที่มักส่งมาเพื่อชักชวนให้เปิดบริการเสริมอื่นๆ พ่อแม่ผู้ปกครองเองที่อาจจะซื้อโทรศัพท์ให้ลูกเพื่อติดต่อยามจำเป็นอาจจะเปิดเพียงบริการโทรศัพท์และ SMS โดยปิดบริการอื่นทั้งหมด

การควบคุมบริการที่ต้องการต้องเป็นสิทธิของผู้บริโภค ไม่ใช่สิทธิของผู้ให้บริการที่อยากเปิดบริการใหม่อะไรก็เปิดได้ตามใจ กระบวนการเปิดใช้บริการต่างกันไป แล้วต้องแก้ไขปัญหาเป็นครั้งๆ ไม่สิ้นสุด ทุกครั้งที่เปิดประเภทของบริการใหม่ ผู้ให้บริการมีหน้าที่ต้องขอคำยืนยันว่าจะเปิดใช้งานประเภทของการบริการใหม่

ยืนยันความต้องการของผู้ใช้อย่างปลอดภัย

(หัวข้อนี้ผมไม่ได้พูดในที่ประชุมเพราะเริ่มเลยเวลา)

แนวทางทั้งหมดที่ผ่านมา หัวใจสำคัญของการควบคุมค่าบริการคือ ผู้ใช้เป็นผู้เลือกใช้บริการจริงๆ และสามารถควบคุมได้ด้วยตัวเองว่าต้องการใช้งานอะไร ประเด็นการยืนยันเจตนาว่าผู้ใช้เป็นผู้ต้องการเปิดบริการจริงหรือไม่เป็นเรื่องที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์ทำได้แย่มากในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราได้ข่าวการเปิดบริการโดยไม่รู้ตัวของคนชราที่มีคนโทรมาเสนอบริการโดยแจ้งว่าได้สิทธิชิงโชค หรือเทคนิคอื่นๆ ผู้ปกครองให้โทรศัพท์ลูกใช้แล้วสามารถสั่งจ่ายเงินหลายแสนบาทได้โดยไม่มีการยืนยันซ้ำ อยู่เสมอๆ

ข้อเสนอทั้งเรื่อง Credit Limit และการกำหนดประเภทของบริการเป็นข้อเสนอที่เปิดให้ผู้ให้บริการยังสามารถเสนอบริการเพิ่มเติมได้ หากอยู่ภายในกรอบของบริการและวงเงินที่กำหนด ข้อเสนอเหล่านี้จะไม่มีผลใดๆ หากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือสามารถเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดเหล่านี้ได้เอง เช่นเดียวกับที่ทุกวันนี้ผู้ให้บริการบางรายสามารถเปลี่ยนวงเงินโทรศัพท์มือถือเองแล้ว SMS แจ้งผู้ใช้โดยไม่ขออนุญาตล่วงหน้า

แม้โทรศัพท์มือถือจะเป็นของส่วนตัวที่มักพกติดตัวกันตลอดเวลา แต่ผู้ให้บริการก็ไม่ควรถือว่าใครที่เข้าถึงซิมโทรศัพท์ได้เป็นเจ้าของเครื่องเสมอ ผู้ใช้คนหนึ่งอาจจะให้คนยืมโทรศัพท์, ซื้อซิมให้ลูกใช้งาน, ไปจนถึงเมื่อทำเครื่องหายแล้วหลายคนก็ยังไม่ยกเลิกซิมเพราะต้องการติดต่อกับคนพบเครื่อง

ผู้ใช้บริการต้องสามารถควบคุมได้ และผู้ให้บริการต้องไม่เปลี่ยนแปลงข้อกำหนดใดๆ หากไม่ยืนยันว่าเป็นคำสั่งของผู้ใช้จริงๆ หากคิดง่ายที่สุดการพิสูจน์คงเป็นการที่ผู้ใช้บริการยื่นแบบฟอร์มขอเปลี่ยนแปลงใหม่ พร้อมการยื่นบัตรประชาชนเพื่อตรวจสอบว่าเป็นตัวผู้ใช้บริการจริง

หากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจะมีกระบวนการอื่นๆ ที่สะดวกขึ้น เช่นสามารถเปิดบริการใหม่ออนไลน์ได้ ก็ต้องชี้แจงได้ว่ากระบวนการนั้นมั่นคงปลอดภัย ไม่ได้ถามเฉพาะข้อมูลที่หาได้จากสาธารณะ เช่น หมายเลขบัตรประชาชนหรือวันเกิด ผู้ใช้บริการอาจจะต้องกำหนดรหัสผ่านกับแอพพลิเคชั่นเพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลเหล่านี้โดยถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญ

Get latest news from Blognone

Comments

By: icez
ContributoriPhoneAndroidRed Hat
on 27 December 2014 - 21:53 #776778

แพ็กเกจที่อาจจะเป็นไปได้เช่น 120 บาทต่อเดือนที่ความเร็ว 64kbps หรือ 70 บาทต่อเดือนที่ความเร็ว 32kbps

my by cat มี 99 บาท 31 วัน เน็ตไม่จำกัดที่ความเร็ว 384kbps อยู่นะครับ ถ้าเทียบจาก package นี้ผมไม่เห็นว่า package ที่เสนอจะคุ้มค่า ทั้งแพงกว่าทั้งช้ากว่ากันเยอะเลยครับ

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 27 December 2014 - 21:55 #776779 Reply to:776778
lew's picture

จริงๆ CAT นี่ก็มีคุยกัน ปัญหาคือคนทั่วไปคนเข้าไม่ถึง (ผมจะหาซื้อซิมยังหาซื้อไม่ได้) อีกอย่าง CAT ไม่อยู่ในการประมูล 3G รอบล่าสุด ไม่มีภาระผูกพันเรื่องความครอบคลุมประชากรคงต่างออกไปครับ

ข้อเสนอนี้เป็นข้อเสนอให้กำหนด "ขั้นต่ำที่ต้องมี" (ซึ่งผู้ให้บริการรายหลักยังไม่มีใครทำ always on ต่ำกว่าร้อยต่อเดือน) ส่วนว่าใครทำได้ดีกว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี อนาคตถ้าทำได้ทุกรายก็คงต้องดันให้ถูกลงไป


lewcpe.com, @wasonliw

By: qo
iPhoneUbuntuWindows
on 28 December 2014 - 10:48 #776874 Reply to:776779
qo's picture

ตอนนี้ผมใช้ add-on promotion 99฿/month 500MB FUP-128kpbs อยู่อะครับ ของ dtac ไม่มีใน promotion ทั่วไป ไม่มีโฆษณา เค้าโทรมาให้สมัครเพราะก่อนหน้านี้ ใช้ไม่บ่อย ใช้เปนครั้งคราว พอจะใช้ทีก็ค่อยกดสมัครเป็นรายวันแทน

ปล ค่า main promotion 59฿/month

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 28 December 2014 - 11:40 #776900 Reply to:776874
lew's picture

โปรแบบนี้ที่คนทั่วไปสมัครไม่ได้คงไม่นับครับ

โปรประหลาดตอนย้ายค่ายหรือเสนอพิเศษตอนเปลี่ยนเครื่อง ฯลฯ ก็คงไม่นับอีกเหมือนกัน (แต่คุณได้ใช้ก็ดีแล้วครับ)


lewcpe.com, @wasonliw

By: frameonthai
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 28 December 2014 - 00:05 #776815 Reply to:776778
frameonthai's picture

ตอบจากคนเคยใช้แล้วกำลังย้ายไป True H รายเดือนนะครับ โปรโมชั่นนี้ใช้งานได้แค่ 6 เดือนครับ แล้วต่อก็ไม่ได้แล้วด้วยครับ เหมือนเป็นแค่โปรเรียกแขกครับ

By: icez
ContributoriPhoneAndroidRed Hat
on 28 December 2014 - 01:59 #776830 Reply to:776815

ผมกำลังพูดถึงโปร "เดือนละ 99 บาท" ครับ ไม่ใช่โปร 60 บาท 6 เดือนที่เป็นโปรเก่า

By: frameonthai
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 28 December 2014 - 14:49 #776955 Reply to:776830
frameonthai's picture

อ่อ สงสัยผมอ่านผิดไปเยอะเลย ขอโทษด้วยครับ

By: PH41
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 28 December 2014 - 21:11 #776926 Reply to:776778
PH41's picture

ผมใช้อยู่เลยครับ โปร 99 บาท 384kbps ได้ 31 วัน ค่าอื่นแพงกว่านี้แถมเป็น 30 วันด้วย
โปร 60 บาท 384kbps 180 วันเพิ่งหมดไป หลายๆ คนก็คงจะทะยอยกันหมดอายุ

มีความรู้สึกว่าใช้ดีขึ้นด้วยครับ ในเมืองช่วงผมใช้แรกๆ แค่เข้าใกล้เมืองก็โหลดอะไรไม่ติดเลย ตอนนี้เล่นสบายขึ้น

แต่เสียดายรับมีแต่คลื่น 850

By: Jeratang
iPhoneAndroidIn Love
on 27 December 2014 - 21:58 #776782
Jeratang's picture

เอาจริงๆสมัยนี้ 64​kbps ไม่เหมาะกับการท่องเว็บแล้วค่ะ เพราะเท่าที่ดูจริงๆเว็บส่วนใหญ่มีแต่ใช้เน็ตโหดๆทั้งนั้นเลย เข้านิดหน่อยก็ 3MB แล้ว กว่าจะโหลดเสร็จ

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 27 December 2014 - 22:07 #776785 Reply to:776782
lew's picture

ข้อเสนอแบบนี้คือ "ขั้นต่ำสุด" น่ะครับ แน่นอนว่าไม่ใช่สำหรับทุกคน ถ้าคุณใช้เว็บที่โหลดที 3MB ก็คงต้องใช้แพ็กเกจที่ใหญ่กว่านี้ อย่างที่บอกว่ามันเพียงพอกับการแชต และเว็บพื้นฐาน

ตัวผมเองก็ใช้ 128kbps ทุกวัน โดยทั่วไปมันก็พอใช้งานได้ โหลดช้าแน่นอน แต่การเข้าถึงข้อมูลง่ายๆ หลายอย่างก็ยังเข้าถึงได้

เราคงไม่สามารถกำหนดราคาให้ทุกคน โหลดทุกอย่างด้วยความเร็วที่ตัวเองพอใจ และอยากให้ราคาถูกได้ครับ ถึงจุดหนึ่งถ้าความต้องการมากก็ต้องจ่ายแพง


lewcpe.com, @wasonliw

By: SunPaisan
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 27 December 2014 - 22:05 #776783
SunPaisan's picture

ค่ายใหญ่น่าจะจัด 256Kbps ในราคา 119 บาท... คิดว่าโปรแบบนี้ Dtac จะทำก่อน

By: Aoun
AndroidWindows
on 28 December 2014 - 08:54 #776850 Reply to:776783

ขอขั้นต่ำ 512-1024 Kbps @ 199.- (Always On)

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 28 December 2014 - 13:01 #776928 Reply to:776850
hisoft's picture

การที่มี 512 kbps ที่ราคา 199 บาทต่อเดือน ไม่ได้หมายความว่าจะมีโปรที่ถูกกว่านั้นด้วยไม่ได้นะครับ

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 27 December 2014 - 22:14 #776788
panurat2000's picture

เราสามารถข่าวการเปิดบริการโดยไม่รู้ตัวของคนชราที่มีคนโทรมาเสนอบริการ

เราสามารถข่าว ?

By: readonly
iPhone
on 27 December 2014 - 22:35 #776791
readonly's picture

ปัญหาไม่ใช่ความเร็ว แต่อยู่ที่ความต่อเนื่องครับ ผมใช้ unlimit 3GB พอติด fub ร่วงไปที่ 384kbps ทั้งที่จริงมันควรจะพอเพียงสำหรับการดู youtube ทั่วไปที่ไม่ใช่ hd แต่ผมโหลดเว็บธรรมดายังไม่ขึ้นเลย

คือถ้าเน็ตแรงแต่ไหลๆ หยุดๆ ผมว่าช้าหน่อยแต่ขอต่อเนื่องโหลดได้จริงดีกว่าครับ

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 27 December 2014 - 22:59 #776803 Reply to:776791
lew's picture

อันนี้คงเป็นเรื่องการคุ้มครองครับ ก็เป็นอีกประเด็นที่กสทช. ทำอยู่เหมือนกัน (ที่ส่งรถออกไปทดสอบ)

เรื่องการทดสอบนี่ยังมีพูดกันอีกเยอะครับ ว่าขายแบบนึงแล้วทำได้ตามที่ขายมั๊ย

ประเด็นพวกนี้ยังไม่ได้ศึกษาจริงจัง แต่โดยทั่วไปคือวันหนึ่งเน็ตไม่วิ่งจะบอกว่าทำตามโฆษณาไม่ได้คงไม่ได้เหมือนกัน ธรรมชาติของเครือข่ายไร้สายพอคนรวมตัวมากๆ เข้าระบบก็ร่วง อย่างพวกงานรับปริญญาหรือคอนเสิร์ตเราคงเห็นอาการเน็ตไม่วิ่งกันตามปกติ และพอกสทช. เอารถไปวิ่งตามถนนทดสอบถ้าถนนไม่แน่นเกินไปนักก็มักจะใช้งานได้

เรื่องพวกนี้มีสองฝั่งก็ต้องไปดูเกณฑ์กันดีๆ ครับว่าจะตัดสินกันอย่างไรว่าถือว่าทำได้ตามโฆษณาหรือไม่


lewcpe.com, @wasonliw

By: readonly
iPhone
on 28 December 2014 - 07:21 #776839 Reply to:776803
readonly's picture

เข้าใจละครับ ขอบคุณครับ

By: McKay
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 27 December 2014 - 22:37 #776795
McKay's picture

เห็นด้วยทถกเรื่องนะครับ แต่มีข้อสงสัยคือเรื่องยืนยันความต้องการของผู้ใช้อย่างปลอดภัยนี่ คุณ lew มีความเห็นว่าขั้นต่ำสุดของความปลอดภัยคืออะไรครับ

2 step verification นี่พอจะผ่านหรือเปล่า คือถ้ามันยุ่งยากมากๆ ผมว่ามันจะสร้างปัญหาให้ผู้ใช้แทนที่จะเป็นประโยชน์ครับ


Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 27 December 2014 - 22:46 #776797 Reply to:776795
lew's picture

พื้นฐานสุดสำหรับคนทั่วไปคงเป็นการส่งเอกสารล่ะครับ คือจะลืมรหัสอะไร ไปยื่นบัตรประชาชนกรอกแบบฟอร์มใหม่ก็เปลี่ยนข้อมูลได้ (ผู้ให้บริการต้องตรวจว่าบัตรตรงกับหน้าคนมากรอกกันต่อไป)

เรื่องแค่ไหนปลอดภัยคงเป็นคำกว้างๆ แต่ถ้าไอเดียของผมรหัสชั้นเดียวก็พอครับ เตือนผู้ใช้ด้วยว่าเอาไปแล้วจะเปลี่ยนข้อมูลสำคัญได้ รหัสต้องแข็งแรงพอแบบรหัส Wi-Fi ที่ชอบเป็นเลข 4 หลักทุกวันนี้เลวเกินไป + ระบบต้องป้องกันการเดารหัสผ่านดีพอ มี delay หรือ captcha หากยังถูกเดารหัสผ่านต่อเนื่องยาวนานต้องมีระบบแจ้งเตือนป้องกันอื่นๆ


lewcpe.com, @wasonliw

By: McKay
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 27 December 2014 - 22:56 #776800 Reply to:776797
McKay's picture

ขอบคุณครับ


Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)

By: kit74th
iPhoneAndroidWindows
on 27 December 2014 - 22:53 #776798

เจอ prepaid โปรเสริม คล้ายๆแบบนี้ แบบขอ 300 MB 99 บาท พอครบปุ๊บ มันคิดเป็นนาที 2 บาท
ประเด็นคือ ครบ 300 MB ตอนไหนรู้ไหมครับ แล้วเริ่มเก็บตังค์นาทีละ 2 บาทตอนไหนไม่บอกครับ
รู้ตัวอีกทีเงินหมดบัญชีแล้วครับ
ประเด็นนี้เป็นการเอาเปรียบ แล้วผมว่าน่าจะมีการพูดคุยเรื่องนี้กันบ้าง

By: kiva
iPhone
on 27 December 2014 - 22:53 #776799

ผมอยากให้คุ้มครองความเป็นส่วนตัวด้วยครับอย่างเบอร์มือถือพอเปิดบริกราปุ๊บมีข้อความขายบริการมาเยอะรกทั้งๆที่เราเองอาจจะจำเบอร์ตัวเองไม่ได้ด้วยพอเวลาไปถามบริษัทเหล่านั้นมักจะตอบว่าน่าจะเป็นเจ้าของเบอร์เก่าสมัครไว้ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเลย แล้วเดี๋ยวนี้โทรศัพท์ที่มาเสนอบริการมักจะใช้เครื่องพูดแทนคนพูดแล้วซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะกลัวคนด่า เลยอยากให้มีกฏคุ้มครองความเป็นส่วนตัวด้วยครับ

By: PowerBerry
Android
on 27 December 2014 - 22:57 #776801

ค่ายไหนใจดีจัด 14.4kbps แถมเป็นพื้นฐานให้ฟรีๆ ตลอดอายุการใช้งานหรือเติมเงิน ผมนี้ย้ายเลยเอ้า

By: osmiumwo1f
ContributorWindows PhoneWindows
on 28 December 2014 - 00:09 #776816 Reply to:776801
osmiumwo1f's picture

ถ้าใช้แค่แชตน่าจะพอ (แต่ Line อาจจะมีปัญหา) แต่ถ้าเปิดเว็บต่างๆ ผมว่ามันจะ timeout ก่อนเสร็จครับ

By: zodas.david
AndroidRed HatWindows
on 28 December 2014 - 13:13 #776932 Reply to:776801
zodas.david's picture

ย้ายด้วยคนเลยครับ แต่เอ๋ ทำแบบนี้เขาจะไม่โทรกันแล้วซินะ คงจะใช้ไลน์กันถ้วนหน้า ไม่ต้องเสียค่าโทร โทรคุยผ่านไลน์ไปต่างประเทศยังได้เลย

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 28 December 2014 - 13:23 #776937 Reply to:776932
hisoft's picture

คือ ขนาด Skype ที่ว่าใช้ BW น้อยๆ ยังเรียกขั้นต่ำที่ 30kbps ดาวน์โหลด / 30kbps อัพโหลดเลยนะครับ

By: zodas.david
AndroidRed HatWindows
on 28 December 2014 - 16:59 #776979 Reply to:776937
zodas.david's picture

อืม ผมเคยใช้ ซิม CAT 384 kbps skype ผ่านกล้อง ได้ด้วย มีแอบกระตุกเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับทำให้เสียอารมณ์ ถือว่าใช้ได้เลยครับ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 28 December 2014 - 17:06 #776980 Reply to:776979
hisoft's picture

ถ้าวิดีโอด้วย ขั้นต่ำ 128 kbps แนะนำ 300 kbps ครับ ถ้าได้โปร 384 kbps ก็โอเคครับ ถ้า 14.4kbps แบบที่ว่านี่แค่เสียงก็น่าจะสาหัสอยู่นะครับ

เวลาติด FUP 128 kbps ผมคุยด้วยเสียงโอเคครับ เคยเปิดภาพด้วยภาพค่อนข้างแย่แล้วชอบไปดึงเสียงแย่เป็นพักๆ ส่วนมากผมเลยปิดภาพไปเลย (T-T)

https://support.skype.com/en/faq/FA1417/how-much-bandwidth-does-skype-need

By: Golflaw
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 28 December 2014 - 00:45 #776818
Golflaw's picture

ผมเคยมีปัญหาเรื่องค่าโทรกับค่ายส้มครับ
สมัยนั้นผมลงทะเบียนเรียนโดยการใช้โทรศัพท์โทรไปที่ call center ของธนาคาร (เลข 4 ตัว)
ซึ่งผมมีโทรศัพท์ 2 เครื่อง คือ ค่ายฟ้า กับค่ายส้ม
โดยปกติผมจะใช้ค่ายฟ้าโทรซึ่งก็เก็บตามโปรโมชั่นครับนาทีแรก 3 บาท นาทีต่อไป 50 สตางค์ก็ว่ากันไป
แต่มีอยู่เทอมนึงผมเห็นค่ายส้มเงินเหลือเยอะกว่าจึงใช้ค่ายส้มโทรลงทะเบียน ปรากฎว่าสายผมตัดก่อนที่จะลงทะเบียนเสร็จทั้ง ๆ ที่มั่นใจว่ามีเงินเหลือพอโทรได้นานหลายชั่วโมง
ผมจึงตรวจสอบกับทางค่าย แล้วจึงได้รับแจ้งว่าเป็นหมายเลขพิเศษเก็บนาทีละ 3 บาท (แพงกว่าโปรที่ใช้ 6 เท่า) ทั้ง ๆ ที่ค่ายฟ้าเก็บตามโปร และโทรศัพท์บ้านก็เสียเพียงแค่ "ครั้งละ 3 บาท" เท่านั้น

เหตุการณ์นั้นทำให้ผมหักซิมทิ้งและไม่กลับไปใช้บริการอีกเลย แม้ว่าค่ายฟ้าจะเคยสัญญาณล่มบ่อยก็ตาม

ผมมองว่านี่ก็เป็นเรื่องที่น่าจะคุ้มครองผู้บริโภคเช่นกันครับ เพราะเคสนี้ทำให้เห็นว่าเบอร์พิเศษของแต่ละค่ายไม่เหมือนกัน ทั้งที่ความเข้าใจของผมเบอร์พิเศษควรเป็นเบอร์ที่มีกาีเรียกเก็บที่แน่นไม่ว่าจะใช้โทรศัพท์พื้นฐาน (โทรศัพท์บ้าน) หรือโทรศัพท์มือถือค่ายใด ๆ ก็ตาม เช่น 1900-xxx-xxxx หรือ bug 1113 เป็นต้น

ปล. การโทรลงทะเบียนสมัยนั้นจะใช้เวลานานมาก เพราะจะต้องเข้าไปในระบบก่อนจะเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 7.00 น. นักศึกษาจะเรียกกันว่าเลี้ยงสายรอตั้งแต่ก่อน 6.00 น. ครับ เลยเป็นเหตุให้เงินในซิมของผมหมด


A smooth sea never made a skillful sailor.

By: Eagle Blue Eyes
ContributorWindows PhoneAndroidSymbian
on 28 December 2014 - 00:49 #776821
Eagle Blue Eyes's picture

ผมใช้ 384 บาทได้ 384 Kbps ไม่จำกัด, โทรฟรีในเครือข่าย 22.00-17.00 น., Wifi ไม่จำกัด ส่วนเกินโทร/VDO call นาทีละ 0.75 บาท, SMS 0.75 บาท, MMS 0.75 บาท
เหมาะกับการใช้งานที่ไม่เน้นความเร็วสูง Youtube ไม่ไหว ต่ำกว่านี้โอเค เล่นบนรถไฟสายอีสานได้สบายๆ (หลุดบ้างช่วงแก่งคอย-โคราช)

ส่วนเรื่องบริการเสริมผมไม่ค่อยได้เจอครับ แล้วค่ายที่ผมใช้ก็มีให้เลือกไม่รับ SMS ได้

นอกจากนี้ไม่ขอออกความเห็นครับ

By: POAKPONG
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 28 December 2014 - 08:28 #776846 Reply to:776821
POAKPONG's picture

+1 ใช้โปรเดียวกัน ^^


ปกป้อง | เฟสบุ๊ก | ทวิตเตอร์

By: jane
AndroidUbuntu
on 28 December 2014 - 00:58 #776822
jane's picture

ยังมีเรื่ิอง QoS/Latency

By: nhongcm77 on 28 December 2014 - 01:34 #776826

คุัมครอง > คุ้มครอง

อีกไม่นาน เน็ตบ้านมีหนาวแน่ เริ่มต้นก็ 590 บาทแล้ว

By: readonly
iPhone
on 28 December 2014 - 07:24 #776840 Reply to:776826
readonly's picture

ถ้าเป็นงานที่ต้องการเคลื่อนย้ายข้อมูลทีละมากๆ เน็ตบ้านก็ยังได้เปรียบนะครับ

By: psemanssc
Blackberry
on 28 December 2014 - 03:31 #776836

32kbps ตํ่าไปงับ ผมว่าเริ่มควรจะซัก128kbpsแล้ว สำหรับแพคเกจถูกๆ ผมใช้AISหมด2GBเหลือ 64kbps เปิดทวิตเตอร์พอไหวแต่ถ้ากดดูรูปหรือเว็บนี่ ลาก่อนนนน ช้าไปครับ

By: 255BB
Android
on 28 December 2014 - 08:33 #776847

ผมเห็นด้วยว่าขั้นต่ำน่าจะความเร็ว 128Kb/s นะ ขนาดผมใช้แพคเกจ 5GB พอเกิน ความเร็วก็เหลือ 384Kb/s ยังโหลดอะไรไม่ค่อยขึ้นเลย (ใช้ truemove h)

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 28 December 2014 - 11:50 #776904 Reply to:776847
lew's picture

ปัญหาพื้นที่คนหนาแน่นแล้วโหลดไม่ขึ้นนี่คงเป็นคนละเรื่องนะครับ (ต้องคุ้มครองเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เรื่องราคา)

บ้านผมมีซิม 199 บาท 128kbps ทั้ง True และ dtac ก็ใช้งานได้ตลอด เพียงแต่ไม่เคยเอาไปใช้โซนตัวเมืองหนาแน่นมาๆ มีร่วงบ้างตามสถานีรถไฟฟ้าตอนคนแน่นๆ แต่โดยทั่วไปก็ใช้งานได้

ข้อเสนอแบบนี้ผมคิดจากฐานที่ว่าโปรที่มีให้คนทั่วไปใช้งานคือ 199 บาท 128kbps ไม่ใช่โปรลับหรือมีข้อจำกัดอื่น ด้วยต้นทุนเดียวกัน ข้อเสนอผมคือผู้ให้บริการควรออกแพ็กเกจที่ always on ต่ำกว่าร้อยได้ ผมหาร 4 ไปตรงๆ แล้วเพิ่มค่าใช้จ่ายคงที่ของแต่ละเลขหมายให้นิดหน่อยอีก 20 บาท ก็น่าจะเป็นราคาสมเหตุสมผลกับต้นทุน


lewcpe.com, @wasonliw

By: Aoun
AndroidWindows
on 28 December 2014 - 09:09 #776852

เท่าที่อ่านความเห็นคือ ที่ความเร็วต่ำหรือติด fup มักใช้ไม่ค่อยได้ตามความเร็วที่มี ดังนั้นปัญหาอยู่ที่ไหนแน่ ความเร็วขั้นต่ำ หรือแบนด์วิท

ปล. ใช้แต่ wifi เดินทางระยะสั้นทุกวัน ไม่มีsocial อาศัยร้านกาแฟเป็นที่พึ่งพิง มีเมล์สำคัญให้โทรหา ยังหา packageที่โดนใจอยู่

By: xenatt
ContributorWindows PhoneRed HatSymbian
on 28 December 2014 - 11:18 #776884
xenatt's picture

ปัญหาจากการใช้งานจริงนะครับ
ต้องบอกก่อนว่าย้านผม คือ ชนบทมาก ห่างจากเสาประมาณ 3-5 กม

1) คุณภาพสัญญาณ อันนี้เป็นเกือบทุกเครือข่ายครับ มากหน่อยก็ Dtac คือ ไม่สามารถใช้งานได้เลย
2) QOS เป็นปัญหามากๆ คือ ในพื้นที่ ที่มีสัญญาณ ประมาณ 3 ขีด จาก 5 ขีด (Nokia lumia)

Internet ไม่วิ่งเต็มความเร็ว ตาม package (386/69.-)
มีสัญญาณแต่ไม่สามารถ ใช้งานได้ ต้องปิดเครื่อง และ เปิดใหม่บ่อยๆ
web site ปัจจุบัน ไม่ได้ทำ responesive ทุกเว็บ เพราะฉนั้น เว็บส่วนใหญ่จึงมีขนาดใหญ่
ความเร็ว 386kbps สามารถ ดู vdo steaming,ฟัง Internet radio ได้ อันนี้ผมลองเอง แม้ขณะขับรถ 100 km/hr

แต่ปัญหาคือ ความต่อเนื่องของคุณภาพ QOS คือเหมือนผีเข้าผีออก
ส่วนตัวคิดว่าไม่มีใครใช้ 3G ไว้ load bittorrrent หรือ Download file ขนาดใหญ่
เห็นด้วยว่า ผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่ใช้งานอินติเน็ตเป็นประจำมีความจำเป็นใช้งานแบบ Alway on
เพราะการติดต่อสื่อสารในปัจจุบัน ติดต่อกันด้วย Messager,email กันเป็นหลักแล้ว
ยุค voice กำลังจะสิ้นสุดแล้ว


Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project

By: icez
ContributoriPhoneAndroidRed Hat
on 30 December 2014 - 07:38 #777466 Reply to:776884

เว็บที่ทำเป็น responsive ขนาดใหญ่กว่าเว็บปกตินะครับ
เพราะต้องส่งข้อมูลการเรนเดอร์ (css+js) ทั้งหมดมาหา client แถมถ้าเขียนไม่ดีใช้รูปเดียวกันทุกจอ หรือเผลอเขียนให้โหลดรูปทุกขนาดนี่ ไม่รอดหรอกครับ

เน็ตแบบนี้ต้อง mobile site only ครับ

By: เดวิลแมน on 28 December 2014 - 12:00 #776905

my cat แหล่มสุดล่ะ ใช้เครือข่ายเดียวกับทรู ถ้ารับซิมได้ที่ ปณ. จะเริ่ดมาก

น่าจะเอาความเป็นจริงมากกว่านะครับ 64k, 128k นี่มันทำอะไรแทบไม่ได้ เพราะการใช้งานพื้นฐานมันก้าวข้ามแบบง่ายๆ ไปแล้ว ไลน์เองก็มีลูกเล่นเยอะขึ้น
ถ้าไปกำหนดแบบนั้นจะกลายเป็นเปิดช่องให้ผู้ประกอบการอิงราคานี้แล้วทำให้ราคาไม่ต่ำไปกว่านี้ได้

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 28 December 2014 - 13:01 #776925 Reply to:776905
hisoft's picture

64k ใช้งานเพื่อติดต่อทั่วไปได้สบายๆ ครับ 128k นี่ผมใช้งานทั่วไปได้แล้วแม้อาจจะต้องรอหน่อย

ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องยอมให้เน็ตวิ่งได้ค่อนข้างเต็มความเร็ว และ latency ปกตินะครับ ไม่รู้ทำไมทุกวันนี้พอติด FUP แล้ว latency พุ่งพรวด ใช้งานบางอย่างเน็ตวิ่งยังกับ 32k จนหลุดเสียอย่างนั้น

By: เดวิลแมน on 28 December 2014 - 20:59 #777013 Reply to:776925

ปัญหาอย่างที่ reply แหละครับ ถ้ากำหนดขั้นต่ำ 64 ใช้จริงอาจจะไม่ถึงหรือไม่ได้เลย ถ้ากำหนดไว้สูงถึงแม้จะไม่เต็มแต่โอกาสที่จะใกล้เคียงหรือมากกว่า 128 ก็มีมาก
ทั้งนี่ผมกลัวว่ามันจะเป็นมาตรฐานที่ทำให้ค่ายไม่แข่งกันเรื่องราคาต่ำกว่านี้ได้ ซึ่งตอนนี้ my cat ได้กรุยทาง 99บาท/384k/31วัน ว่าสามารถทำได้ ต่อไปไม่แน่ค่ายอื่นอาจมาแข่งด้วยก็ได้ ถ้าไปกำหนด 64 ที่ราคา 100+ มันเหมือนไปปิดโอกาสของผู้บริโภคเสียเอง

By: maoIndie
Ubuntu
on 28 December 2014 - 12:58 #776924
maoIndie's picture

ใช้ cat 384kbps unlimited อยู่ก็แหล่มอยู่นา
แต่การหาซิม หรือเติมตังค์นี่ต้องใช้ความพยายามพอสมควร คนทั่วไปคงไม่ค่อยอยากย้ายมาค่ายนี้หรอก

By: PH41
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 28 December 2014 - 13:02 #776929
PH41's picture

ผมสงสัยครับ ตอนซื้อบัตรเติมเงิน มันก็คิดภาษีไปแล้วรอบนึง
ทำไมจ่ายค่าโทร ค่าโปรต้องจ่ายอีกรอบด้วยครับ

By: moonoiz on 28 December 2014 - 13:54 #776940 Reply to:776929

บัตรเงินสดยังไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่มครับ ทั้งบัตรเงินสดทรูมันนี่ , บัตรเงินสดวันทูคอล , บัตรเงินสดแฮปปี้
รวมถึงการเติมเงินผ่านตัวแทนจำหน่าย ก็ไม่มีภาษีมูลค่าเพิมครับ เติม 1,000 บาท คือลงใบเสร็จรับเงิน 1,000 บาท
สรรพากรตีค่าโทรเหมือนเงินสด เกิดภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็ตอนที่ใช้งานค่าโทรครับ

By: PH41
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 28 December 2014 - 21:14 #777015 Reply to:776940
PH41's picture

เห็นซื้อบัตร หรือเติมเงินผ่านตัวบริษัท ทั้งเขียว, ส้ม ใบเสร็จออกมาก็จะแตกออกมาเป็น เงิน และภาษี นะครับ

By: waroonh
Windows
on 29 December 2014 - 09:13 #777143 Reply to:777015

คุณภูภู่ บิล ตอนซื้อบัตรเติมเงิน แตกบิลคิดแบบนี้ ใช่มั้ยครับ ?

บัตรเติมเงิน 100 บาท ราคาสินค้า 93.47 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 6.53 บาท
บัตรเติมเงินจะค่อนข้างแปลกกว่าชาวบ้านนะครับ แนวคิดเป็นแบบนี้ครับ

"กระดาษแผ่นนึง" ราคาสินค้า 93.47 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 6.53 บาท
จบ ...

คุณเอากระดาษแผ่นนี้ไปเติมเงินมือถือ คราวนี้ จะเป็นเงินจริงๆแล้ว ไม่ใช่กระดาษ
เงินในระบบจะขึ้นมา 100 บาท
คุณเอาเงินตรงนี้ ไปซื้อ บริการโทรศัพท์ สมมุติโทรไป 10 บาท
คุณจ่ายเงิน 10 บาท จะคิดแบบนี้
ราคาสินค้า 9.347 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 0.653 บาท

ครับ
เงินคุณไม่ได้ หายไปใหน 100 บาท คือ 100 บาทครับ
ส่วนกระดาษ ที่พิมพ์รหัสเติมเงิน จะขายเท่าไหร่ ก็ได้ขาย 10 บาทก็ได้ครับ จะยกเลิกการใช้งานก็ได้
ซึ่งปรกติ บัตรเติมเงิน ถ้าออกจาก บ. มือถือ เอาไปขายส่งร้านค้า ราคามันไม่ถึง ราคที่เขียนไว้ในหน้ากระดาษอยู่แล้วครับ
เข้าใจโน๊ะ

By: hydrojen
iPhoneRed HatWindows
on 29 December 2014 - 09:43 #777151
hydrojen's picture

ผมว่ากำหนดขั้นต่ำ เป็นแนวทางที่เหมาะสมแล้ว
อย่างผมใช้ครบตามจำนวณ ความเร็วสูงสุดที่ได้ 384k แต่เอาเข้าจริง ไม่ถึง 60k ด้วยซ้ำ
ซึ่งไม่ต่างจาก คนในครอบครัวที่ สูงสุดหลัง fup ที่ 128k ก็วิ่งเท่ากัน