Tags:
Node Thumbnail

ข่าวที่มีกระแสแรงที่สุดวันนี้คงหนีไม่พ้นดีลระหว่าง WhatsApp กับ Facebook ทำให้ตัวผู้ก่อตั้ง WhatsApp ทั้งสองคนกลายเป็นที่สนใจของสื่ออีกครั้งหนึ่ง โดยหนึ่งในผู้ก่อตั้งของ WhatsApp นาย Brian Acton เคยพยายามสมัครเข้าทำงานกับ Facebook และ Twitter ในช่วงปี 2009 แต่แล้ววันนี้เขาก็ต้องกลับเข้ามาทำงานใน Facebook อีกครั้ง แต่ด้วยค่าตัวที่สูงหลักหมื่นล้านดอลลาร์

ผู้ก่อตั้งอีกคน Jan Koum ซึ่งเกิดในประเทศยูเครน และได้ย้ายมาอยู่ในสหรัฐ ต้องเติบโตในครอบครัวที่ยากจน และใช้ชีวิตอยู่กับคูปองแจกอาหารของรัฐบาลสหรัฐฯ​

ทั้สองยืนยันจุดยืนของ WhatsApp ที่จะต้องไม่มีโฆษณา ไม่มีเกม และไม่มีของแถมอื่น ๆ เพราะเมื่อใดที่ผู้ให้บริการหันมาใช้วิธีเหล่านี้ในการหาเงิน เมื่อนั้นลูกค้าจะกลายเป็นสินค้าเสียเอง ทั้งนี้ Koum บอกว่าการที่เขามาจากยุโรปตะวันออก ซึ่งตอนนั้นเต็มไปด้วยการพยายามสอดแนมและล้วงข้อมูล ทำให้เขาไม่ต้องการให้ WhatsApp มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ที่มา - CNN IBN

Get latest news from Blognone

Comments

By: sakura
ContributorWindows PhoneSymbian
on 20 February 2014 - 22:32 #681216

ทั้สอง => ทั้งสอง

By: AdmOd
iPhoneWindows
on 20 February 2014 - 22:46 #681223

เล่าเรื่องตอนถูกปฏิเสธเข้าทำงานให้ฟังหน่อยสิครับ ♥

By: hononbier
iPhoneAndroidWindows
on 20 February 2014 - 22:49 #681224

สำหรับผม ไม่ค่อยน่าแปลกใจเท่าไหร่ครับ ปกติคนพวกนี้จะมีแนวคิดที่ไม่ค่อยเหมือนใคร ไม่ค่อยชอบการอยู่ในขอบเขตจำกัดแบบพนักงานทั่วไปมากนัก การถูกปฎิเสธเข้าที่บริษัทดังๆ ไม่ใช่หมายถึงเขาไม่เก่งเสมอไป แต่บางทีบุคลิก ความคิด ไม่สอดคล้องกับองค์กร หรือบางทีเก่งเกินไปก็มี นายจ้างเขาก็ต้องคำนึงถึงหลายๆด้านอยู่แล้ว

By: Dino
iPhoneSymbian
on 20 February 2014 - 23:18 #681229 Reply to:681224
Dino's picture

เห็นด้วยครับ

Put the right man in the right job ยังคงถูกอยู่เสมอ หากผู้สมัครมีคุณสมบัติไม่เข้ากับยุทธศาสตร์ขององค์กร ผมก็คงไม่รับครับ แต่เมื่อใดที่ยุทธศาลตร์เปลี่ยนไป ก็อาจจะกลับไปเรียกคนที่มีคุณสมบัติแต่ปฏิเสธไปคราวที่แล้ว มาร่วมงานครับ

ทั้งนี้ การปฏิเสธไม่รับเข้าทำงาน ผมไม่ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวครับ ผมเคยโดนปฏิเสธ และเรียกตัวอีกครั้งจากบริษัทเดียวกัน มาแล้วครับ

By: errin on 20 February 2014 - 23:34 #681232

สร้าง Story สินะ

ชอบแนวคิดของทั้งสองคนจัง

By: LazarusSP1
ContributoriPhone
on 21 February 2014 - 00:26 #681238

กำลังสนใจ WhatsApp ตอนที่บอกว่า ไม่ต้องการให้มีโฆษณา แต่ไม่ชอบที่ WhatsApp ดึงข้อมูลจากสมุดโทรศัพท์

By: myungz
In Love
on 21 February 2014 - 00:54 #681243
myungz's picture

มีหน้านึงตอน initial ครั้งแรกบอกว่าทำไมเค้าถึงไม่มีโฆษณา

น่าจะเป็นแนวๆในข่าวนี้

แต่ผมไม่ได้อ่าน - -"

By: pundumz
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 21 February 2014 - 04:16 #681265
pundumz's picture

เค้าเอารายได้จากไหนมา นอกจากค่าบริการ รายปี

By: tanit9999
iPhoneAndroidUbuntu
on 21 February 2014 - 10:40 #681287 Reply to:681265
tanit9999's picture

จากการขายความอินดี้แบบที่ขายให้เฟสบุ๊คนี่ไงครับ อิอิ

By: Go-Kung
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 21 February 2014 - 11:26 #681305 Reply to:681265

ส่วนใหญ่จะมาจาก Angel investor ครับ

Startup ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโมเดลนี้
แล้วตามมาด้วยพัฒนาแอพออกไป 2 ทาง
1. มีเก็บค่าบริการ/มี in-app purchase หรือถ้าเป็นแอพซื้อขายสินค้าก็กินค่าธรรมเนียม
2. ไม่มีตามข้อ 1 ก็จะพัฒนาแอพจนดังแล้วรอคนอื่นซื้ออีกที

By: 0FFiiz
Windows PhoneAndroidWindows
on 21 February 2014 - 10:49 #681290
0FFiiz's picture

เพราะเมื่อใดที่ผู้ให้บริการหันมาใช้วิธีเหล่านี้ในการหาเงิน เมื่อนั้นลูกค้าจะกลายเป็นสินค้าเสียเอง

สุดยอด

By: manster
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 21 February 2014 - 15:09 #681378 Reply to:681290
manster's picture

จริงๆดีลนี้ก็เป็นการขายลูกค้าเหมือนกัน ลูกค้าก็คือสินค้านั่นแหละ

By: maspirecreation on 21 February 2014 - 12:36 #681338
maspirecreation's picture

อืม ประวัติน่าสนใจ

By: sunVSmoon
Windows
on 21 February 2014 - 13:13 #681348

ชอบเรื่องคูปองแจกอาหาร...ประทังชีวิตอยู่มาจนประสบความสำเร็จ

By: jarujit
ContributoriPhoneAndroid
on 23 February 2014 - 00:26 #681704
jarujit's picture

ในขณะที่สินค้าของ facebook คือ user ดี ๆ นี่เอง


:-)