ผมได้รับข่าวสารจากทางทวิตเตอร์ว่าในช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 29 มีนาคม ได้มีแฮกเกอร์ทำการเจาะระบบของเว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ และได้ทำการแก้บริเวณหน้าเว็บไซต์โดยขึ้นข้อความว่า "พวกเราเด็กรุ่นใหม่ กรุณาสอนในเรื่องที่ต้องใช้ในอนาคต ไม่ใช่สอนเอาไปแค่สอบแข่งขัน BY MRHOP3R" ซึ่งในตอนนี้ก็เป็นที่คาดเดากันไปต่างๆ นานาว่าแฮกเกอร์คนนี้ใช้วิธีหรือช่องโหว่ใดในการเจาะระบบ
จากที่เคยมีการบันทึกไว้ในเว็บไซต์ zone-h.org ซึ่งได้ทำการรวบรวมเว็บไซต์ที่เคยถูกแฮกและมีการแก้หน้าเว็บไซต์พบว่า เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการเคยถูกแฮกเป็นจำนวน 102 ครั้ง (รวมซับโดเมนต่างๆ ด้วย) ซึ่งนี่ยังไม่นับการแฮกที่ไม่ได้แจ้งเตือนไปยัง zone-h.org อย่างไรก็ตามในตอนนี้เว็บไซต์ได้ปิดปรับปรุงแล้ว ผู้อ่านท่านใดอยากดูหน้าเว็บไซต์ที่ถูกเปลี่ยนสามารถเข้าดูได้จาก cache ของกูเกิลครับ
เพิ่มเติม (1:28 A.M.) - พบว่า MRHOP3R เป็นหนึ่งในทีมของ Inc3ption Team-Security&Hacking ซึ่งได้มีการแสดงความรับผิดชอบแล้วว่าเป็นการกระทำจากกลุ่มนี้ครับ (ที่มา - @sunlaiman)
เพิ่มเติม (3:50 A.M.) - ผมติดต่อสัมภาษณ์ไปยัง MRHOP3R เกี่ยวกับเหตุผลของการกระทำ หลักๆ จะเป็นในเรื่องของความต้องการในการเปลี่ยนแปลงการศึกษา ซึ่งก็มีการฝากไปยังผู้ดูแลระบบอยากให้แก้ไขระบบให้มีความปลอดภัยขึ้นด้วยครับ (รูปประกอบ)
Comments
sql injection
จากการสอบถามผู้เจาะระบบ
ผมกำลังดูอยู่เลยว่าใช้อะไรบ้าง เพราะมีการเอาไฟล์ภาพไปวางบนโฮสท์ด้วย
พบว่า IP เว็บกระทรวงศึกษา สามารถเปลี่ยน http เป็น ftp ได้เลย แล้วใส่รหัสผ่านเอา = ="
ปล. ถ้าผู้รู้หน่อยครับ กรณีแบบนี้เค้าทำกันช่องทางไหนในการแงะพาสฯ (อยากรู้ไว้ประดับสมอง)
ID : admin
Password : admin
ล้อเล่นครับ :P
อันนี้ผมก็อยากลองนะครับ แต่กลัว ip เครื่องผมเข้าได้แล้วไปขึ้นข้อมูลแล้วตำหนวดมาหาไม่รู้ตัว :p
ผมว่าน่าจะเข้าถึง Control Panel ของตัวเว็บเลยมากกว่า เพราะ Part ของไฟล์นั้น ไปอยู่ใน Folder ของไฟล์ที่ถูกอัพโหลดจาก Control Panel ของเว็บ
ผมไม่คิดว่าการถามหาวิธีจะเป็นเรื่องที่ดีนะครับ
อ่า งั้นก็ขออภัยด้วยละกันครับ เอาเป็นว่าผมไม่ขอดีกว่า ผมเข้าใจดีว่าเรื่องด้านนี้มันค่อนข้างสุ่มเสี่ยง
ผมก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องดี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีครับ เพียงแต่มันอาจจะไม่เหมาะกับชุมชนเปิดครับ
ไม่อะไรนะ แต่มันก็พูดถูก 555+
ผมกลับมองว่า
สอนศีลธรรม จริยธรรม แล้วปลูกฝังสิ่งดีๆ ให้มากขึ้น
ดีกว่าจะสอนไปเพื่อสอบ เพื่อใบกันอย่างสมัยนี้มากกว่า
สอนศีลธรรม จริยธรรม แล้วปลูกฝังสิ่งดีๆ ให้มากขึ้น บนบรรทัดฐานของใคร ?
ผมว่ามันอันตรายมากเลยนะที่จะปลูกฝังหรือชี้นำ อะไรซักอย่างแก่เยาวชน ในสิ่งที่มันแทบจะไม่มี มาตรฐานกลาง เอาซะเลย
เห็นด้วยครับ ไม่ควรเอามาตรฐานของตัวเองไปวัดคนอื่น
โลกนี้มีถูกอยู่ 2 อย่างครับ ถูกของมง กับ ถูกของกุ
ใช่ครับ คำว่า "ถูก" หรือ "ดี" ของแต่ละคนยังนิยามไม่เหมือนกันเลยครับ...
+10000 ,5555+
คนชอบคงเยอะน่าดู
ทำไมไม่ออกมาเรียกร้องดีๆ แบบเลิกหัวเกรียนล่ะ ทำผิกกฏหมายเพื่ออะไรกัน น่าจับมาตีสักสองสามที 55
ประเทศไทยนี่เรียกร้องดีๆได้ด้วยเหรอคับตอนนี้
เรียกร้องดีๆ ได้ เขาก็คงไม่ออกมาทำครับ คนเราก็มีหลายกลุ่ม เช่น
เรื่องผิดกฎหมายนี้ผิดจริงๆ ถามว่าสนับสนุนให้ทำไหม ก็ไม่ แต่ถ้า "เรียกร้องดีๆ" หรือ "เรียกร้องแบบสันติ" ถ้าทำได้เรื่องนี้ก็ไม่มีคนทำครับ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ทุกวันนี้ให้ความรู้สึกเมื่อ 10 ยังไง ทุกวันนี้ก็เหมือนเดิม เมืองไทยมันควรจะถึงยุคที่ต้องปฏิวัติทุกวงการ+ภาคส่วนกันได้แล้ว ไม่ใช่ทํางานลวกๆให้จบไปวันๆ นอนกินเงินเดือน รัฐช่วยที ประเทศอื่นๆเค้าไปไหนต่อไหนกันแล้ว อีก 10+ปี มันจะเข้าสู่โลกควอนตัมคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง ไอโฟนระดับอะตอมจะออกตัว มันจะเข้าสู่ยุคเทเลพอทแล้วพวก ที่น่ากลัวคือเทคโนเหล่านี้อยู่ในมือผู้ก่อการร้ายด้วย ช่วยพาผมออกจากระบบ แมทริกซ์ ทีครับ
หลงอ่านตั้งนาน
สงสัยเหมือนคนในทวิตว่า มีทีมงานมาแก้ไขแล้วจริงๆ เหรอ ดูมันไม่ใช่ระบบราชการไทยยังไงไม่รู้ 55 โดนไปไม่ถึงชม. แก้ซะและ (อย่างนี้ก็ไม่เป็นข่าวเซ่) นี่ถ้าโดนแฮ็กคืนวันเสาร์ ต้องรอคนมาแก้ตอนเช้าวันจันทร์เลยนะ ฮาฮา #แซว
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
ฝีมือเด็กเพิ่งจบกำลังหางานทำอยู่...
ต้องเพิ่มการไม่แฮกเว็บไว้ในเพลงเด็กดีแล้วล่ะ .. เด็กเอ้ย เด็กดีต้องมีหน้าที่ 11 อย่างด้วยกัน! อิอิ
my blog
ทำเรื่องที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม ...
วิธีการแฮกค์ขั้นพื้นฐาน ไม่น่าจะเอามาเป็นประเด็น ...
ที่เพิ่มเติมอันล่าสุด
ว่าถึงแรงจูงใจ คุ้นๆ ว่าตามหลักของ whitehack ถ้าเขาพบช่องโหว่ เขาต้องแจ้งให้ผู้ดูแลระบบรับทราบ แล้วถ้าผู้ดูแลระบบไม่ใส่ใจ ก็อาจจะนำช่องโหว่นั้นมาเผยแพร่ ไม่ใช้วิธีแฮ็กมาแจ้งเตือนแบบนี้มั้ง? =_=
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
ประโยคลอยๆ ที่ไม่ได้ช่วยให้เกิดประโยชน์อะไร
ทำไมไม่ออกมาเรียกร้องอย่างถูกต้อง แล้วก็ขยายความประโยคนั้นสักหน่อยล่ะ อย่างเรื่องหัวเกรียนเนี่ย เค้าสร้างเพจนำเสนอเหตุผลต่างๆ นาๆ ดูดีกว่าเยอะ
Educational Technician
ในฐานะครูคนนึง ตอบได้เลยว่าสอนเรื่องที่ต้องใช้ในอนาคตแน่นอนครับเพราะหลักสูตรกำหนดมาแบบนั้น แต่ถ้าอยากแข่งขัน คุณไปหาเอาในที่เรียนพิเศษละกัน ;P
มีบางโรงเรียนสอนแบบนั้นจริง ๆ นะ
แต่โรงเรียนดี ๆ ก็มีเยอะแยะ
จริงเหรอคับ ผมว่าการสอนปัจจุบันมันงี่เง่ามากเลยนะ เช่น บางสายงาน มันไม่จำเป็นต้องเรียนบางวิชา ยังยัดเยียดมาให้เรียน เพื่อ??? ทำไมไม่ให้เด็กโฟกัสไปทางไดทางหนึ่งให้เก่งฉิบหายไปเลย ส่วนเรื่องอื่นๆก็สอนแค่เป็นพื้นฐานของชีวิตเพื่อใช้ชีวิตได้ในสังคมก็พอ
หนึ่งในสายวิชาที่ล้มเหลวในการศึกษาไทยสำหรับผมคือสายคอมพิวเตอร์นี่ละ เด็กจบใหม่ที่เขียนโปรแกรมเป็นนี่หายากมากถึงมากที่สุด บางคนจบมาเกรดสูงฉิบหายแต่เขียนโปรแกรมจริงไม่เป็นหมายความว่าไงกัน?
ในฐานะที่ทางบ้านและญาติๆเป็นครูหลายคน บางคนเขียนหนังสือให้ สสวท ด้วยอยากจะบอกว่าการศึกษาไทยล้มเหลวครับ(เรื่องนี้พูดตรงกันทั้งบ้าน)
ลองออกไปศึกษาประเทศที่พัฒนาแล้วดูนะครับ
ไม่อยากพูดอะไรมากแค่หลักๆเรียนวันละ 8 ช.ม.กว่าๆเพื่ออะไรในเมื่อเด็กยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร?
หลักสูตรควรมีไว้เืพื่อช่วยให้เด็กค้นพบตัวเองและ มุ่งพัฒนาไปในทิศทางนั้นครับ ไม่ใช่บังคับให้เรียน ให้เลือกทั้งๆที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรและควรจะเรียนไปในทิศทางไหน
โดยที่ครูมีไว้เป็นที่ปรึกษาให้เด็กคอยสนับสนุนและสังเกตุพฤติกรรมที่เสี่ยง
ที่สำคัญควรจะสอนให้เด็กรู้จักคิดเองไม่ใช่ท่องจำ นี่เฉพาะแค่ด้านหลักสูตรนะครับเรื่องอื่นๆไม่อยากจะพูดถึง
+1
สมัยเรียนโชคดี ที่คะแนนโควตาใช้แค่ คณิต ฟิสิกส์และอังกฤษ หากใช้ทุกวิชาเหมือนตอนนี้(หรือรวมฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ไว้ตัวเดียวกัน) ปัจจุบันผมคงไม่ได้ทำงานในสาขาที่ชอบแต่อาจจะต้องจำใจไปเรียนคณะฯ ที่ไม่ใช่สำหรับตัวเอง
คนเรามีจุดเด่นและจุดด้อย ควรมุ่งพัฒนาจุดเด่นให้เป็นโดดเด่น
ข้อสอบสำหรับนักเรียนควรเป็นแบบส่งเสิรม (ให้คิดและวิเคราะห์) ไม่ใช่ สอบสวน (จับผิด อย่างข้อสอบ multiple choice คำถามคลุมเครือ คำตอบคลุมเครือ สุดท้ายก็เลยโดนเด็กถอนหงอกเพราะความคลุมเครือ...สมควรแล้ว)
ก็แปลกใจทำไมคดีhackหน่วยราชการถึงจับกันไม่ได้สักที หรือเขาไม่เอาจริงที่จะไล่จับ
ทีอีกคดี ถึงขั้นใช้กระบวนการสอบสวนลับโดยหน่วยงานความมั่นคงของชาติ ขอข้อมูลจากMicrosoftโดยตรงบ้าง hackจากเวบต้นทางเลยบ้าง จนระบุตัวตนถึงบ้านได้เลยแท้ๆ
อย่างว่าล่ะนะโทษคดีนี้จำคุก5ปีไม่รุนแรงเท่าอีกคดี 7-15ปีนี่นา
ผมไม่เข้าใจคำว่า "เรื่องที่ต้องใช้ในอนาคต" ของเด็กรุ่นใหม่นี้คืออะไร
แต่สำหรับผมการได้เรียนในโรงเรียน ประสบการณ์ที่ได้รับ มันก็เหมือนเป็นการเรียนเพื่ออนาคตอยู่แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการเข้ากลุ่มสังคมของโรงเรียน, การทำกิจกรรมต่างๆ, การทำงานร่วมกับผู้อื่น
การให้ความร่วมมือกับครูอาจารย์, การสร้างมิตรหรือศัตรูกับเพื่อน, การเรียน, การสอบ
การวางตัว, การรู้จักดีชั่ว, การเลือกคบคน, การไว้เนื้อเชื่อใจ ฯลฯ
สิ่งพวกนี้มันแทบจะเป็นตัวกำหนดอนาคตได้ทั้งนั้น มันช่วยได้เยอะมากในอนาคต
พอผมไปเรียนมหาวิทยาลัย ผมก็เรียนๆ เล่นๆ ให้ผ่านไปๆ เฮฮาปาร์ตี้ไปวันๆ
ความรู้อันน้อยนิดที่แทบไม่ได้รับมาจากโรงเรียนที่เราไม่ตั้งใจเรียนก็โยนทิ้งหมด จบมาหางานทำแทบไม่มีใครรับ
เพราะเกรดน้อยไปหน่อย 2 นิดๆ ติดบางวิชาต้องได้เรียนแก้ ตัวเราก็น้อยใจ สุดท้ายได้รู้ซึ้ง
กับคำว่า "เกรดหรือผลการเรียนอาจจะไม่สำคัญเท่าความรู้, ฝีมือ หรือประสบการณ์
แต่มันก็เป็นสิ่งแรกสามารถตัดสินเด็กใหม่แบบเราได้ แค่ตั้งใจเรียนให้ดียังแทบทำไม่ได้เลย"
ผมมาคิดมันก็จริง แค่ตั้งใจเรียนผมยังทำไม่ได้เลย แล้วผมก็ยังเรื่องมากเลือกงานอีก
ผมเชื่อเลยว่าแทบทุกคนต้องเคยคิดในใจว่า "รู้งี้.... ซะก็ดีหรอก"
ตอนนี้เนี่ย เด็กส่วนมากต้องเรียนพิเศษเพื่อให้สอบได้ครับ ผมเคยไปแอบๆ ดูสิ่งที่เรียนกัน ผมมองเอาเองว่ามันเอาไปใช้สอบไม่ได้ โดยเฉพาะชั้นประถม (ในหลายๆ โรงเรียนพื้นที่สมุทรปราการ) ที่ครูจะอยากสอนพิเศษมากๆ จนใช้วิธีการเอาข้อสอบที่จะออกมาสอนเฉพาะในชั้นเรียนพิเศษเท่านั้น
ที่ผมมองคือ คุณภาพการศึกษามันตกต่ำมากกว่าครับ
อ้อ ... คิดว่าอีกอย่างคือเด็กวัยรุ่นหลายคนน่าจะไปได้ยินอะไรมาผิดๆ ด้วยครับ อย่างเรื่องที่อเมริกาเค้าจะมีการสนับสนุนให้เด็กเก่งด้านใดด้านนึงด้วย ... เด็กหลายคนแถวบ้านผมอยากไปเรียนที่อเมริกา เพราะเข้าใจว่า ถ้าชอบคณิตฯ ไม่ชอบภาษาไทย ก็ไม่ต้องเรียนภาษาไทย อะไรแบบนี้
ซึ่งจริงๆ แล้วเค้าแค่เสริมความถนัดให้เด็ก แต่วิชาอื่นๆ ก็ยังเรียน ยังสอนเหมือนเดิม แต่เด็กอาจไม่ได้ยินส่วนนี้ไงครับ
บางทีมันอยู่ที่ผู้ใหญ่เองด้วยล่ะครับ ที่สอนเด็กไม่เคลียร์ เพราะบางอย่างมันต้องอธิบายเยอะ
น้าเน้กบอกว่า ไม่มีใครสอนเด็กว่า "ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม" กับ "น้ำขึ้นให้รีบตัก" มันหมายถึงอะไร ตกลงว่าช้าดีกว่า หรือจะให้เร็วดีกว่า
บางทีถ้าผู้ใหญ่เป็นตัวอย่างที่ดี//เป็นเข็มทิศนำทางให้เด็กๆ ผมว่าเด็กคงไม่หลงทางครับ
เริ่มที่ตัวเราครับ
ไม่ต้องไปไกลถึงอเมริกาครับ แค่เรียนอินเตอร์ก็ได้ โรงเรียนอินเตอร์เขาจะเปิดให้เด็กเลือกเรียนวิชาหลัก ๆ ได้เลย แล้วก็ย่อยละเอียดกว่ารร.ไทย
อย่างเลขก็แยกไปเลยว่าเป็น calculus หรือ math ตัวอื่น ๆ (ขออภัยผมก็ไม่ได้เรียนอินเตอร์มาในระดับมัธยม ฟังเพื่อนเล่ามาอีกที 55)
ประเด็นครูอยากสอนพิเศษ ผมเคยคิดเล่นๆ ว่าถ้าปรับฐานเงินเดือนครูให้สูงขึ้น เอาให้สูงมากๆ เลย (ผมเคยได้ยินว่าหลายประเทศให้เงินเดือนครูน้องๆ หมอเลย)แล้วให้มีการสอบวัดครูใหม่ถ้าใครผ่านเกณฑ์ก็ได้เงินเดือนระดับนั้นเลย
ผมมองว่านี่อาจจะปรับคุณภาพการศึกษาได้ เพราะครูเก่าที่เจ๋งจริงเท่านั้นถึงจะเป็นครูได้ และเมื่อเงินเดือนครูสูง แทนที่คนสอบเข้ามหาลัยคะแนนสูงๆ จะเรียนวิศวะ หมอ ฯลฯ น่าจะหันมาเลือกครูเพิ่มขึ้น และเมื่อเป็นเช่นนี้การเรียนการสอนก็น่าจะดีขึ้นนะครับ
บางทีผมว่ามันเริ่มที่อุดมการณ์ครับ แล้วก็ต้องมีภาครัฐสนับสนุนอีกทอด
ผมน่ะอยากเป็นครูครับ แต่เงินเดือนครูนี่ใช้ชีวิตลำบากพอควร มาเป็นโปรแกรมเมอร์ดีกว่า
ลองดูครูที่เงินเดือน 100$ กันดีกว่าครับ
http://www.blognone.com/node/42354
อีกเรื่องคือเรื่องทุจริตสอบครู เงินเดือนต่ำขนาดนี้ยังมีทุจริตเลยครับ ถ้าแก้เรื่องทุจริตในระดับรากเหง้าไม่ได้ เห็นทีว่าไทยจะเดินหน้าลำบากพอควร
concept นี้ ความจริงมันโคตรอภิมหาบรมงี่เง่าซ้ำซากค้างปีครับ
ทุกวันนี้ครูก็อู้ไปทำอาจารย์สามกันให้ตรึมอยู่แล้ว การหาเรื่องอัพเงินเดือนให้ตัวเองน่ะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกครับ สพท.มันก็ไม่ได้มองเห็นครูเป็นคนอีกต่อไป มองเห็นเป็นเครื่องจักรที่สั่งให้ส่งโน่นนี่นั่นกลับเข้าหน่วยงานแบบไม่ให้หยุดหายใจได้เลย แล้วครูจะเอาเวลาไหนได้หายใจล่ะครับถ้าไม่ใช่ช่วงปิดเทอมน่ะ?
edit: ทำงานสไตล์ข้าราชการไทย ถ้าเงินเดือนขึ้น เรื่องอะไรจะทำงานให้เหนื่อยด้วยล่ะ? เขียนรายงานขึ้นหน่วยเหนือได้ก็จบละ
"ทำงานสไตล์ข้าราชการไทย ถ้าเงินเดือนขึ้น เรื่องอะไรจะทำงานให้เหนื่อยด้วยล่ะ? เขียนรายงานขึ้นหน่วยเหนือได้ก็จบละ" เห็นด้วยอย่างยิ่งยวด ระบบราชการไทยถึงได้ไม่ไปไหนแบบนี้ นอนกินเงินเดือนไปวันๆ
เค้าถึงมีสำนวนเช้าชามเย็นชามไงครับ
แต่ขอชมหน่อย ... ที่ว่าการอำเภอฯ แต่ก่อนนี่แย่มาก บริการห่วย กาก ฯลฯ แต่เดี๋ยวนี้ดีขึ้นเยอะ เจ้าหน้าที่เต็มใจให้บริการ มีคำแนะนำ + ความช่วยเหลือให้เป็นอย่างดี แถมไม่มีหงุดหงิดใส่ด้วย บริการก็หน้ายิ้มตลอด (ไม่กัดฟันด้วยนะ)
ผมว่าดีขึ้นเยอะครับ (อันนี้ชมที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรปราการเท่านั้นครับ)
แสดงว่าแบบนี้มันเป็นปัญหาที่แนวคิดและอุดมการณ์ของข้าราชการส่วนใัหญ่สินะครับ
ผมว่าถึงจุดนี้ก็จะกลายเป็นปัญหาโลกแตกแล้ว เพราะถ้าครูไม่ดีเด็กก็โตมาไม่ดี แล้วเด็กที่เรียนครูเดี๋ยวนี้ก็เป็นการเลือกเรียนเพื่อให้ได้ปริญญาซะส่วนใหญ่ พอจบมาก็กลายเป็นครูไม่ดีอีก ครูอุดมการณ์ดีก็โดนระบบอุปถัมป์อีก สรุปคือครูดีสร้างยากตราบเท่าที่ไม่มีคนหลุดจากระบบพวกนี้ได้ ซึ่งถ้าต่อให้ยาวอีกผมก็ว่าเป็นประเด็นทางครอบครัวเด็กอีก
ผมไม่แน่ใจว่าผมพิมพ์มึนๆ รึเปล่า = =
(ขอหยาบๆหน่อย)สันดานและค่านิยมมันเฮงซวยครับ คน Gen ใหม่ๆนี่ก็บ่นกันอุบเลย สุดท้ายก็ตามน้ำกับผู้ใหญ่กันหมด
จบเห่เอวัง กับประเทศนี้
ค่านิยมคงแก้ได้ยากครับถ้าสังคมรอบๆยังไม่เปลี่ยนคล้ายๆกับปัญหา เซ็นเซอร์ขวดเหล้า/บุหรี่/หัวนมชิซูกะ
วิธีแก้ไขค่านิยมดีที่สุด ที่นึกออกคือให้การศึกษาในทิศทางที่เหมาะสมพร้อมทั้งลงมือทำเป็นตัวอย่าง(ต้องมีการลงโทษตัวอย่างที่เลวด้วย) ซึ่งเสกลใหญ่มากต้องให้ภาครัฐเป็นคนนำครับ
ป.ล.วิธีง่ายที่สุดและกำลังเกิดขึ้นในประเทศเราคือการกรอกหูข้อมูลซ้ำๆโดยไม่สนใจว่าข้อมูลมีข้อเท็จจริงหรือไม่ เพราะคนส่วนใหญ่คิดเองไม่เป็น
ป.ล.2 ถ้าไม่ตามน้ำก็ไม่เจริญครับหนิครับ สุดท้ายก็เดินซ้ำรอยเดิม
ปัจจุบันมีอยู่ 2 แนวเท่าที่เห็นจากประสบการณ์เป็นข้าราชการครูมา 5 ปี
1.ครูที่มุ่งในการสอนพิเศษ พวกนี้จะไม่ค่อยสนทำผลงานอัพเงินเดือน(ที่เค้าเรียกว่าวิทยฐานะ) เพราะแค่ค่าสอนพิเศษก็มากมายอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะอยู่ในโรงเรียนขนาดใหญ่และมีชื่อเสียง
2.ครูที่มุ่งที่จะทำวิทยฐานะ ส่วนใหญ่จะเป็นครูต่างจังหวัดหรืออยู่ในโรงเรียนขนาดเล็กถึงกลาง ซึ่งไม่สามารถหารายได้เสริมจากการสอนพิเศษ ซึ่งการทำวิทยฐานะก็คือการทำผลงานเป็นงานวิจัย หรือสร้างนวัตกรรมทางการศึกษาขึ้นมา
แต่ถ้ามองตามภาระงานนอกเหนือจากงานสอน ครูปกติจะได้รับมอบหมายงานอื่นๆตามที่โรงเรียนมอบหมายอีก อย่างน้อยๆอีกคนละ 3-4 งาน ในความเห็นผม ถ้าครูทำงานทุกอย่างตามที่กล่าวมาอย่างเต็มที่ วันๆก็แทบจะไม่มีเวลาทำอย่างอื่นแล้วครับ อย่าว่าแต่วิจัยหรือสร้างนวัตกรรมเลย
ปัญหาสำคัญอีกอย่างในระบบการศึกษาไทย คือการประเมินสารพัดประเมิน จริงๆแล้วหลักการประเมินเป็นการติดตามตรวจสอบว่าโรงเรียนได้ปฏิบัติงานไปตามกฏระเบียบ ตามนโยบายหรือไม่ ซึ่งหลักการมันดีมาก แต่ในการปฏิบัติจริงๆ(จากประสบการณ์ที่บรรจุในโรงเรียนใหญ่ที่มีนักเรียนเกือบ5000 ครูเกือบ300และย้ายกลับบ้านมาอยู่ในโรงเรียนขนาดเล็กระดับตำบลมีนักเรียนไม่ถึง 300ครู 20) ในโรงเรียนใหญ่จะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ เพราะแบ่งคนไม่ทำงานเตรียมเอกสาร จัดสถานที่ได้ แต่กับโรงเรียนเล็กจะประเมินซักครั้ง นักเรียนแทบจะไม่ได้เรียนทั้งสัปดาห์
แนวทางการผลิตครูจริงๆแล้วก็มีปัญหามาก อย่างครูที่เป็นเฉพาะทางอย่างคอมพิวเตอร์ ที่เรียนวิชาส่วนใหญ่ไปทางวิชาด้านคุรุศาสตร์ซึ่งไม่แปลก แต่ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ที่จะต้องไปสอนนักเรียนต่อนี่น้อยมาก บอกได้เต็มปากเลยว่าน้อยกว่าที่ผมเรียนจากปวส.ซะอีก ปัญหาก็คือเพื่อนที่เรียนด้วยกัน 90% ไม่ได้มีความรู้พอจะสอนคนอื่นด้วยซ้ำ
พูดถึงทุจริตเนื่องจากว่า ปัจจุบันเงินเดือนครูไม่ได้น้อยเหมือนอย่างแต่ก่อนแล้ว ทำให้คนอยากมาทำอาชีพนี้เยอะ เมื่อมีการแข่งขันเยอะ การทุจริตก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ แต่ในความเห็นผม การสอบในระบบราชการสอบบรรจุครูนี่โปร่งใสที่สุดแล้ว ไม่งั้นเค้าคงไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือวิธีการที่ยุ่งยากขนาดนั้น
สรุปคือการศึกษาไทยล้มเหลวครับ ในฐานะครูคนนึง ผมนึกไม่ออกว่าจะทำยังไงให้มันดีขึ้นมาได้ ตราบใดที่ยังมีนโยบายไม่ให้นักเรียน 0 ไม่ให้นักเรียนซ้ำชั้น ไม่ให้ทำโทษ คงจะเหลือแต่ครูต้องไหว้นักเรียนก่อนสอน
ปล.พึ่งรับสมัครนักเรียนป.6 เข้า ม.1 ประมาณครึ่งนึงอ่านหนังสือไม่ออก ทั้งที่คะแนน O-net สูงริบริ้ว
น้ำขึ้นให้รีบตัก แต่ตักช้าๆ ครับ (ตักสุ่มสี่สุ่มแปด เดี๋ยวตกน้ำ)
มนุษย์เงินเดือนไทยจำนวน 11 ล้านคน จ่ายภาษีแค่ 2 ล้านคน บางส่วนไม่เคยไปยื่น ภงด. ด้วยซ้ำ แถมชอบเหลือเกินกับโครงการลดแลกแจมแถมภาษี ทั้งที่บางอย่างเป็นของฟุ่มเฟือย อาทิเช่น รถคันแรก
งบประมาณชาติของไทยมาจากภาษีเงินได้บุคคลแค่ 11 % แต่เวลาพูดถึงการพัฒนาโครงสร้างและนโยบายพื้นฐาน เช่น เงินเดือนครู เรากลับต้องการมาตรฐานเหมือนประเทศตะวันตกที่คนเขาจ่ายภาษีกันเป็น 25% ของงบประมาณชาติ
ประเทศเรามันก็เป็นแบบนี้แหละครับ ธรรมชาติของเราอยู่รอดได้ด้วยของนอกระบบ มอไซค์รับจ้าง การเรียนพิเศษ ซอฟต์แวร์เถื่อน หวยใต้ดิน ฯลฯ พูดในเชิงวิศวกรรมซอฟต์แวร์มันก็คือ monkey patch นั่นเอง เพราะเราไม่ได้เป็นคนออกแบบระบบเอง เอาของชาวบ้านเขามาใช้ทั้งๆ ที่ environment มันไม่เข้ากัน ก็เลยต้องปะผุไปตามเรื่องแบบพี่ไทยสไตล์ เพื่อให้ชีวิตมันดำเนินไปได้
บ่นไปก็ไม่ได้อะไรครับ เอาไว้ให้นิวเคลียร์ลง หรือซอมบี้อพ็อคคาลิปส์มาเมื่อไหร่ มีโอกาสสร้างเมืองใหม่ ตอนนั้นล่ะเดี๋ยวเราค่อยมาคิดกัน
ผมเป็นพวแเขื่อในสิ่งที่ทำซะด้วย คือส่วนตัวมักจะเลืกทำในสิ่งที่ควร แม้จะเป็นส่วนน้อยของสังคม
การที่ผมทำ ผมรู้สึกได้ถึงความภาคภูมิ ไม่มีใครว่าผมได้ ผมไม่อายตัวเอง ผมว่าคนอื่นได้เต็มปาก คือผมคิดว่าสังคมดีเริ่มต้นจากหน่วยเล็กสุดออกไปหน่วยใหญ่ๆ ครับ
เมื่อราวๆ 2 ปีที่แล้ว มีมหาลัยราชภัฎที่หนึ่ง อาจารย์ระดับด็อกเตอร์ (จบนอกด้วยนะ จากอินเดีย) เคยคุยกับผมและเพื่อนในชั้นเรียน บ่นแบบตัดพ้อ
"ปีหน้า รายวิชาเกี่ยวกับจริยธรรมและศาสนาบางตัวจะถูกตัดออก"
ไม่ใช่ว่าอะไรนะครับ เรื่องนี้อย่าไปโทษคนแฮกขาดจริยธรรม คนแฮกขาดความคิดสามัญรับผิดชอบชั่วดี ก็มันจะไม่ถูกสอนกันแล้วนิครับ -*-
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
เค้าเขียนใบสมัตรงานเข้า ICT ต่างหากละ
ได้ข้าราขการคนใหม่(อีก)ละ
ปัจจุบันวิชาสอนจริยธรรมมี ชม ล่ะคาบเองได้ล่ะมั้ง
แล้วเด็กจบไปจะมีจิตใจเป็นยังไง เก่งเพื่ออะไร เก่งแล้วไม่มีจริยธรรมจะเอาไปพัฒนาประเทศยังไง
เด็กเก่งก็เรียนอย่างเดียวไม่สนใจอะไร ทั้งเพื่อนและกิจกรรม เพราะถ้าไม่ขยันอ่านจะสู้คนอื่นไม่ได้ (สิ่งแวดล้อมที่ผมได้เคยเรียนมันได้บอกอย่างนี้)
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ผมถามคุณกลับไปว่าถ้าเรียนจริยธรรมแบบที่คัดอะไรต่อมิอะไรส่ง กับให้อาจารย์วิชาอื่นเทศน์ในคาบ อันไหนมันจะปลูกฝังความคิดมากกว่ากันครับ? คนดีศรีสยามแบบเกรดสี่ส่งรายงานมันช่วยอะไรได้ครับ? ออกมามองความจริงกันได้แล้ว
Logic เดียวกับพวก conservative ที่เรียนครูสายตรงออกมาโวยวายพวก ป.บัณฑิตว่าไม่มีความเป็นครูบ้างล่ะ แย่งงานแย่งการพวกตูมั่งล่ะ เปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์แบบลมๆแล้งๆมาก แทนที่จะเอาพวกมืออาชีพไปสร้างประเทศ กลับใช้ครูเดิมๆสอนความรู้เดิมๆแบบผิดๆถูกๆอีก วิชาพวกไอทีที่ผมเรียนกับครูสายตรงทีไรเหมือนดูถูกความรู้กันมากเลย เถียงยังไงครูก็จะเอาถูกเสมอ จบเห่รอบสอง
แล้วอะไรเป็นมาตรฐานบอกว่าครูสอนจริยธรรมต้องทำแบบวิธีนั้นครับ
อย่างที่คุณบอกมันก็ถูกส่วนนึงที่ให้ครูในคาบสอน แต่!!จะเอาเวลาตรงไหนไปสอนล่ะครับ แค่นี้หลายโรงเรียน หลายวิชาก็จะเรียนไม่ทันอยู่แล้ว
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
เรียนไม่ทันเป็นคนละวาระกับเด็กไม่มีจริยธรรมครับ
การอบรมเรื่องจริยธรรมผมเชื่อว่าไม่สามารถอบรมเป็นวิชาเป็นหลักสูตรได้ แต่ต้องได้รับการถ่ายทอด ต้องมีตัวอย่าง ต้องมีการได้รับการบ่มเพาะตั้งแต่เด็กๆ ส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่าครอบครัวมีบทบาทสำคัญที่สุดในเรื่องจริยธรรมครับ
ส่วนเรื่องสอนไม่ทันนี่ต้องปรับปรุงบุคคลากรกับหลักสูตรใหม่ทั้งหมด เรียนเยอะติดอันดับโลกแต่ยังเรียนไม่ทัน แข่งขันไม่ได้ สงสัยต้องแก้เวลาประเทศไทยใหม่ เพิ่มเป็นวันละ 48 ชั่วโมง
ผมถามอีกทีว่ามันชี้วัดยังไงครับว่าถ้าเรียนจริยธรรมแล้วจะประพฤติตนตามสังคมอุดมคติครับ? ในเมื่อมันเรียนแบบเกรดสี่ส่งรายงานเนี่ย?
มันอยู่ที่การอบรมสันดานตั้งแต่ระดับครอบครัวครับ ไอ้ผู้ปกครองที่ออกมาโวยว่าลูกตัวเองเหลวแหลกเพราะครูแสดงว่ามันเลี้ยงลูกไม่เป็นครับ เจอมากับตัว ต่อให้เรียนจนแก่ตายยังไงมันก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาครับ
โดยปกติ ตามมารยาทแล้ว ถ้าผู้ถูกแฮคไม่ออกมาแก้ไข เมื่อเวลาผ่านไป Hacker จะออกมาประกาศวิธีการ ถือว่าไม่ผิดใช่ไหมครับ ?