เมื่อวานนี้ราคาหุ้นของ Google เพิ่มมูลค่าสูงเกินกว่า 800 ดอลลาร์จนกระทั่งปิดตลาด กลายเป็นสถิติใหม่ของบริษัท
ก่อนหน้านี้เราเห็นสัญญาณที่ดีของราคาหุ้น Google ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงขนาดที่ Eric Schmidt เองยังเตรียมขายหุ้น ล่าสุดราคาหุ้นได้พุ่งทะยานเกิน 800 ดอลลาร์ และจบที่ 806.85 ดอลลาร์ตอนปิดตลาดวานนี้ โดยหากนับเฉพาะในปีนี้ ราคาหุ้นของ Google เพิ่มสูงขึ้นถึง 14% (กราฟราคาหุ้น)
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่มูลค่าหุ้นของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมไอทีมีมูลค่าสูงเกิน 800 ดอลลาร์ ทั้งนี้เป็นผลพวงมาจากข่าวลือเกี่ยวกับ Google Store ที่ว่ากันว่าจะเริ่มดำเนินการภายในปีนี้นั่นเอง
ที่มา - CNET
Comments
เหยด แบบนี้ต้องรีบขาย
ปล. พูดเหมือน me มีหุ้น Google เลย 555+
สินค้าเหมือนดูจะขายไม่ดีนะ
แต่พอมีข่าวลือเรื่อง Google Store ทำไมถึงได้ขึ้นขนาดนี้หว่า
สงสัยกูเกิลสโตร์จะมีเฟอร์บี้ขายมั้ง หุ้นเลยขึ้นพรวดๆ
สงสัยคนขาย Apple มาซื้อ Google (เทกันเข้ามาเลยๆ)
ขาย FB มาซื้อ Google มั้ง
ซื้อขายหุ้นกันที่ไหนเหรอครับ
iPhone :P
หุ่นล่ะ 800 นี่ผมคงซื้อไม่ไหว ;w;
ไม่รู้ว่าเหมือนไทยรึเปล่า ที่ต้องซื้อหน่วยละ 100 หุ้น - -a
(ยกเว้นบ้านปูเมื่อปีก่อน ^^)
100 เหมือนกันครับสำหรับหุ้นราคาต่ำๆ แต่กูเกิ้ลนี่ให้หลัก10ได้ ร่วมกับพวก AAPL ครับ (คล้ายบ้านปูเราตอนนู้น)
หุ้นเดียวก็หน้ามืดละครับ (ฮา)
+1 ขึ้นหลักสิบหุ้นนี่ถึงขั้นแกลบยังไม่มีกินเลยครับ
GOOG ราคาสูงจริง แต่ market cap. ยังแค่ ~266,000ล้าน USD นะครับ
เทียบกับ AAPL ที่สูงที่สุดเช่นเคยในโลกนี้แล้ว ที่ ~432,000ล้าน USD ครับ
เป็นเพราะว่าแม้ราคา AAPL จะอยู่แค่ที่ 460 USD ต่อหุ้น… แต่จำนวนหุ้นในตลาดก็มีมากกว่า GOOG กว่า3เท่า นั่นเองครับ
ทั้งนี้ผมหาข้อมูลราคา PAR ไม่เจอ -.-" เลยไม่มีข้อมูลเทียบราคาหุ้นเลย แต่คิดว่าคงเท่ากับ AAPL
ในอเมริกาเรื่องตัวราคาต่อหุ้น เป็นประเด็นที่เขาสนใจกันเพราะ Dow Jones Index คำนวณจาก avg. ของราคาหุ้นครับ ไม่ใช่ Mkt. Cap คือของไทยเราอาจจะมีนัยว่า อยู่ที่มีจำนวนหุ้นเท่าไหร่ ราคาต่อหุ้นถูกแพงไม่ใช่ทุกอย่าง อะไรแบบนี้
"มูลค่าของบริษัท" << น่าจะเป็น "มูลค่า(หรือราคา)หุ้นของบริษัท" นะครับ
ไม่ว่าจะ Apple หรือ Google ก็ไม่ได้คำนวณอยู่ในดัชนีดาวโจนส์ครับ ปัจจุบันดัชนีดาวโจนส์คำนวณหลักทรัพย์เพียงแค่ 30 บริษัทเท่านั้น ซึ่งในกลุ่ม IT มีเพียงแค่ 5 บริษัทคือ
- Microsoft (Software)
- Intel (Semiconductors)
- IBM (Computer Technology)
- Hewlett-Packard (Computer Technology)
- Cisco (Computer Networking)
การเขียนข่าวมันดู IT ไปนิดนึงครับ คำว่ามูลค่าควรจะเป็นในเรื่องของ Market Capitalization มากกว่า ซึ่งจะเป็นมูลค่าของบริษัทตามราคาตลาด (ราคาหุ้น x จำนวนหุ้น = มูลค่าบริษัทตามราคาตลาด)
ในขณะที่ราคาหุ้นก็คือราคาที่ตลาดกำหนดให้ มีขึ้นลงตามสภาวะตลาด ไม่ใช่มูลค่าที่แท้จริงของตัวบริษัท เนื่องจากแรงขึ้นลงของหุ้นมาจากความคาดหวังของนักลงทุน ไม่ใช่เพราะว่าบริษัทนั้นมีมูลค่าเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง
ส่วนคนที่ต้องการซื้อหุ้น สามารถติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ในไทยบางบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้ครับ และสามารถซื้อได้ตั้งแต่ 1 หุ้นขึ้นไป คนที่เล่นหุ้นไทยอย่าเอามาตรฐานการบริหารงานแบบพื้นบ้านของไทยไปเปรียบเทียบกับต่างประเทศนะครับ โดยเฉพาะเรื่องของราคา Ceiling/Floor ต่างประเทศบางประเทศก็ไม่มีในส่วนนี้เช่นกัน รวมถึงการซื้อขายหุ้นในประเทศยุโรป เริ่มตั้งแต่ 1 หุ้นขึ้นไปสามารถซื้อขายในตลาดหลักได้เลยไม่ต้องซื้อขายในกระดาน Odd lot
หากเทียบเฉพาะมูลค่าของบริษัทตามราคาตลาด Apple จะมีมูลค่าอยู่ที่ 431,958 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (459.99 x 939.06 ล้านหุ้น) ส่วนของ Google จะมีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 215,832 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (806.85 x 267.50 ล้านหุ้น) ดังนั้นในส่วนของราคาไม่สามารถใช้เพื่อเปรียบเทียบว่าบริษัทนั้นดีมากหรือน้อยได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับปริมาณหุ้นที่บริษัทจดทะเบียนนั้นออกด้วย (อ้างอิงราคาปิดวันที่ 19 ก.พ. 2013)
อย่างหุ้น ปตท. บ้านเรา ก็ราคาปิดวันนี้ (20 ก.พ. 2013) ที่ 356 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าตามราคาตลาดก็คือ 1.016 ล้านล้านบาท แต่ถ้าเราไปเทียบกับบริษัทที่ราคาหุ้นแพงที่สุดในตลาดหุ้นไทยเช่น RAM (โรงพยาบาลรามคำแหง) ที่มีราคาหุ้นวันนี้อยู่ที่ 1,790 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าตามราคาตลาดก็แค่ 2 หมื่นกว่าล้านบาทเท่านั้นเอง เหตุผลก็คือโรงพยาบาลรามฯ มีหุ้นจดทะเบียนที่ 12 ล้านหุ้นเท่านั้นในขณะที่ ปตท. มีหุ้นจดทะเบียนมากกว่า 2,856 ล้านหุ้น
นอกจากนี้ยังอาจมาพิจารณาในเรื่องของราคาพาร์ประกอบด้วยก็ได้ อย่าง PTT มีราคาพาร์อยู่ที่ 10 บาท ราคาอยู่ที่ 356 บาทต่อหุ้น ในขณะที่ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ราคาซื้อขายอยู่ที่ 464 บาทต่อหุ้น (ราคาปิดวันนี้) แต่ราคาพาร์ของ SCC อยู่ที่ 1 บาทต่อหุ้น นั่นเท่ากับว่าหากเราเทียบทางด้านมูลค่ากันแล้ว จะเห็นได้ว่าถ้าเทียบในราคาพาร์ที่เท่ากัน PTT มีราคา 356 บาทต่อหุ้น แต่ SCC จะมีราคาอยู่ที่ 4,640 บาทต่อหุ้นเลยทีเดียว (หรือจะเป็น PTT 35.6 บาท แต่ SCC 464 บาทก็ได้ แล้วแต่จะเทียบ)
ที่กล่าวมาทั้งหมดคือจะกล่าวถึงว่า การใช้คำว่ามูลค่า ไม่ถูกต้องเนื่องจากสิ่งที่เป็นมูลค่า กับราคา ในเชิงของเศรษฐศาสตร์ การเงิน และการลงทุน มันเป็นสิ่งที่แตกต่างกัน ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
+1