Tags:

ถามว่าประเทศที่ใช้กล้องถ่ายรูป digital ก่อนใครในโลกอย่างญี่ปุ่นและอเมริกา ถือว่าโชคดีกว่าใครในโลก เพราะไม่ต้องห่วงเรื่องขยะจากฟิล์มอีกต่อไปใช่ไหมครับ

Get latest news from Blognone
By: Slimy
AndroidUbuntu
on 19 February 2013 - 12:14 #542538

ขยะจากฟิล์มมันมาก จนมีนัยยะจนต้องซีเรียสเลยหรอครับ

By: doanga2007
AndroidSymbianUbuntu
on 19 February 2013 - 12:23 #542541 Reply to:542538
doanga2007's picture

เวลาใช้ฟิล์ม ใช้ได้แค่ 36 รูป และใช้ซ้ำอีกไม่ได้ ส่วนกล้อง digital ใช้ได้มากกว่า 100 รูปและใช้ซ้ำเท่าไรก็ได้ ไม่มีวันจบ จึงสรุปว่า ประเทศที่ใช้กล้อง digital ก่อนใครในโลก ทั้งโชคดีและทันสมัยที่สุดครับ

By: adente
ContributorSUSESymbianWindows
on 19 February 2013 - 12:27 #542543 Reply to:542541
adente's picture

กลายเป็นขยะ electronic แทนไง lol

By: จักรนันท์ on 19 February 2013 - 20:30 #542747 Reply to:542543

ตัวกล้องใช้ฟิลม์ ไม่ใช่ขยะอิเล็คทรอนิคส์?

By: Architec
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 19 February 2013 - 13:57 #542577

Logic?

ยังอยากใช้ฟิล์มเหมือนเดิม ถึงจะใช้ดิจิตอลก็ตามที อารมณ์ของภาพไม่ถูกใจผมเลย

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 19 February 2013 - 14:30 #542592
PaPaSEK's picture

คิดว่าเมืองไทยโชคร้ายเพราะขยะที่เกิดจากการใช้ฟิล์มเหรอครับ?

By: doanga2007
AndroidSymbianUbuntu
on 19 February 2013 - 15:44 #542634 Reply to:542592
doanga2007's picture

ผมมาชี้แจงว่า

ถ้าไทยมีหรือนำเข้ากล้องดิจิตอลในระยะเวลาใกล้เคียงกับประเทศแม่ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ก็ลดลง เพราะ memcard ไม่มีวันหมด แต่ฟิล์มมีวันหมดครับ และการถ่ายรูปก็สนุกตั้งแต่สมัยปี 1990s แล้วครับ เพราะภาพในกล้องดิจิตอล ถือว่าเป็นภาพที่สดใสที่สุด ไม่อึมทึมอย่างฟิล์มครับ

By: ZiiT
ContributorAndroidWindows
on 19 February 2013 - 17:12 #542679 Reply to:542634

มีข้อมูลมั๊ยครับว่าการที่เราใช้กล้องดิจิตอลนั้น ขยะจากฟิมล์/ขยะจากชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิสก์ เพิ่มขึ้นหรือลดลงในอัตราส่วนอย่างไร อะไรมีผลกระทบมากกว่ากัน

อยากรู้เพิ่มด้วยว่า ช่วงที่มีการใช้กล้องฟิล์ม ขยะจากฟิล์มที่มาจากการถ่ายรูป กับขยะจากฟิล์มที่มาจากการเอ็กซเรย์มีอัตราส่วนอย่างไรบ้าง ..

สุดท้าย .. ผมเข้าใจว่าคุณพยายามสื่อว่า บ้านเราโชคร้ายที่กล้องดิจิตอลเข้ามาช้าทำให้มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ?

By: doanga2007
AndroidSymbianUbuntu
on 19 February 2013 - 20:08 #542738 Reply to:542679
doanga2007's picture

จริงๆ แล้ว ผมพิมพ์แบบประชดประชันว่า ที่ไทย กล้องดิจิตอลมาช้ากว่าที่ญี่ปุ่นและต่างประเทศเป็นสิบปีแล้วครับ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 19 February 2013 - 22:01 #542790 Reply to:542634
PaPaSEK's picture

ที่ผมต้องการจะสื่อคือ เมืองไทยมีขยะที่ไม่ใช่ขยะอิเล็กทรอนิกส์สูงมากๆ ครับ ขยะจำพวกฟิล์มหรือเมมการ์ดมันน้อยมาก

และที่ต้องการจะเน้นคือ ... จะมาโฟกัสอยู่ที่กล้องทำไม ถ้าห่วงเรื่องปริมาณขยะก็ควรใส่ใจในทุกๆ ด้านมากกว่าจะมาสนใจว่ากล้องเข้ามาช้า หรือสนใจแต่ว่ากล้องผลิตขยะจากฟิล์มอะไรแบบนี้ครับ

By: shikima
Windows PhoneAndroidUbuntu
on 19 February 2013 - 15:54 #542644

memory card ทุกชนิด ตั้งแต่ 4MB - 1GB ตอนนี้เป็นขยะเท่าไหร่?
กล้องรุ่นเก่าๆ ที่เสียแล้ว หรือไม่เสีย แต่ไม่มีคนใช้แล้วมีเยอะแค่ไหน
แบตทำลายยังไง เสื่อมแล้วเอาไปทิ้งที่ไหน

ถ้าเทียบกับ ฟิล์ม อย่างเดียว ผมว่าแบบ digital ให้ขยะเยอะกว่าอีก
ที่สำคัญ มัน recycle ยากกว่าฟิล์มอีก

ไม่แน่ใจว่าเอา ตรรกะ ไหนมาคิด อ่ะ

By: doanga2007
AndroidSymbianUbuntu
on 19 February 2013 - 16:43 #542667 Reply to:542644
doanga2007's picture

ที่ผมพิมพ์แบบนี้ เพราะประชดประชัน กล้องดิจิตอลในเมืองไทยมาช้าสุดๆ คือ เริ่มมาในช่วงปี 1999 และเฟื่องฟูในปี 2001 ซึ่งต่างประเทศอย่างญี่ปุ่นและอเมริกานั้น เริ่มมาตั้งแต่ปี 1988-1990 และเฟื่องฟูปี 1992 ทำให้ผมคิดว่า ในช่วงนั้น คนไทยต้องเล็งแล้วเล็งอีก กว่าจะถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์มได้ แต่ฝรั่งและญี่ปุ่นนั้น เขากด แชะ แชะ อย่างสบายๆ ไม่ต้องเล็งตั้งแต่สมัยก่อนแล้วครับ

By: adente
ContributorSUSESymbianWindows
on 19 February 2013 - 17:01 #542672 Reply to:542667
adente's picture

ที่ผมรู้คือบ้านเราตอนนั้นใครใช้กล้องดิจิตอลนี้โดนมองด้วยสายตาเหยียดหยามกันสุดๆเลย

By: doanga2007
AndroidSymbianUbuntu
on 19 February 2013 - 20:54 #542754 Reply to:542672
doanga2007's picture

ผมคิดว่า คิดแบบนี้ จึงอืดอาดไงครับ ผมคิดว่า ถ้ารับเรื่องกล้อง digital อย่างรวดเร็ว ใกล้เคียงกับญี่ปุ่นและอเมริกาแล้ว รับรองว่า social โตเร็วกว่าปัจจุบันสุดๆ ครับ

By: l2aelba
iPhoneAndroid
on 19 February 2013 - 21:09 #542763 Reply to:542672
l2aelba's picture

กล้องพวก SLR ก็ดิจิตอลสะส่วนมากนิครับ :P

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 19 February 2013 - 21:35 #542776 Reply to:542763
hisoft's picture

เค้าหมายถึงสมัยนั้นน่ะครับ ซึ่งเป็นเรื่องจริงเสียด้วย

By: sunback
Contributor
on 20 February 2013 - 00:21 #542881 Reply to:542667
sunback's picture

มาช้า เลยต้องประชดประชัน?

ไทยไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตสินค้ากลุ่มนี้ได้เองในขณะนั้น แถมไม่ใช่ประเทศพัฒนาแล้ว สินค้าบางอย่างเข้ามาช้า ก็เป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจอะไรครับ

อ้อ มีข่าวดีครับ Acer C1 เปิดตัวในไทยเป็นที่แรกในโลก ทำให้ในอนาคตอันใกล้เราก็จะเป็นเจ้าแรกในโลกที่จะมีขยะอิเลคทรอนิกส์อย่างพวกแบตเตอรี่ แผ่น PCB ฟิล์มติดหน้าจอ เคสหุ้มพลาสติก และอื่นๆ อีกมากจากผลิตภัณฑ์ตัวนี้ครับ :P

By: tk719
iPhoneBlackberrySymbianIn Love
on 21 February 2013 - 19:12 #543747 Reply to:542667

ที่ญี่ปุ่นไม่ทราบ แต่ที่อเมริกาไม่ใช่แน่ๆ ตอนผมไปสมัยซัก 7-8 ปีก่อน คนที่นู่นส่วนใหญ่ไม่มีกล้อง Digital ถ้ามีก็รุ่นเก่ามาก ใช้กันแต่พวกถ่ายแล้วทิ้ง แต่คนรอบตัวที่เมืองไทยมีกล้องรุ่นใหม่ใช้อย่างน้อยบ้านละตัวแล้ว

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 22 February 2013 - 22:27 #544296 Reply to:542667
Perl's picture

ก็บ้านเขาผลิตเองนี่ครับ ในขณะที่บ้านเรารอซื้อ

By: zipper
ContributorAndroid
on 19 February 2013 - 22:53 #542818

ถ้าจำไม่ผิดช่วงแรกๆ ที่กล้องดิจิตอลออกมาความละเอียดมันประมาณล้านกว่าๆ และตอนนั้นก็ยังมีคุยกันว่าด้วยความละเอียดขนาดนี้จะอัดรูปได้ใหญ่ขนาดไหน และก็ถ้าจำไม่ผิดภาพขนาดไซส์จัมโบ้ (4x6) ต้องใช้ความละเอียดประมาณ 3 ล้านพิกเซล ซึ่งกล้องสมัยแรกๆ ที่มีความละเอียดขนาด 3 ล้านพิกเซลนี่จะแพงมากกก

เรื่องราคาก็เป็นส่วนนึงในการตัดสินใจเหมือนกัน ส่วนการอัดรูปแล้วภาพมันจะแตกไหมก็น่าจะเป็นเรื่องรอง

By: gamegolf
iPhoneAndroidWindows
on 20 February 2013 - 01:05 #542915

สมัยแรกๆว่ากันตรงๆกล้อง digital ภาพมันยังสู้กล้องฟิล์มไม่ได้ครับ

By: kicub2
iPhoneAndroid
on 20 February 2013 - 09:52 #543022 Reply to:542915

ใช่ครับแถมกล้อง digital แพงฉิบ

By: doanga2007
AndroidSymbianUbuntu
on 20 February 2013 - 10:22 #543046 Reply to:543022
doanga2007's picture

แต่ยุคนั้น ใครมี ถือว่าโชคดีสุดๆ เพราะไม่ต้องกลัวรูปเสียตั้งแต่ปี 1990-1992 ซึ่งมีชัยสุดๆ ครับ

By: nidlittle
iPhoneWindows
on 20 February 2013 - 12:00 #543092 Reply to:543046

ไม่ต้องกลัวรูปเสีย แลกกับรูปคุณภาพต่ำลง คุ้ม? ยุคนั้นเมมก็น้อยราคาก็แพงถ่ายแป๊บๆก็เต็ม ตัวกล้องก็ซดแบตฮวบๆ คุ้ม? ถ้าเป็นคนรวยที่ถ่ายรูปเล่นๆก็คงคุ้มมั้ง

By: doanga2007
AndroidSymbianUbuntu
on 20 February 2013 - 12:28 #543107 Reply to:543092
doanga2007's picture

แบตหมด เมมเต็ม ไม่ต้องห่วง ก็ลบภาพที่ไม่จำเป็นออกและใช้ถ่านแบบชาร์จได้ซิครับ รับรองว่า หมดปัญหาแน่นอนครับ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 20 February 2013 - 12:33 #543112 Reply to:543107
PaPaSEK's picture

อย่างว่าล่ะครับ ต้องรวยพอสมควร หน้างานคงจะมานั่งเลือกลบภาพไม่ได้หรอกครับ ยกเว้นจะมีโน๊ตบุค ถ้าไม่อยากลบก็ต้องมีเมมการ์ดเยอะๆ นั่นแสดงว่าต้องมีฐานะพอควร

ผมว่าคุณไบแอสกับกล้องดิจิตอลพอสมควรเลยนะครับ

By: doanga2007
AndroidSymbianUbuntu
on 20 February 2013 - 13:18 #543135 Reply to:543112
doanga2007's picture

ขอโทษครับ ที่ผมพิมพ์จนเป็นไบแอสแบบนี้ เพราะผมเสียดายที่ซื้อกล้องดิจิตอลช้าเกินไป คือ ซื้อตอนปี 2006 ซึ่งคนส่วนใหญ่ได้สัมผัสกล้องดิจิตอลกันหมดแล้ว ทำให้อารมณ์เล่นกล้องดิจิตอลเหี่ยวทันทีทันใดครับ ขอจบเรื่องเพียงเท่านี้ครับ

By: nidlittle
iPhoneWindows
on 20 February 2013 - 13:09 #543145 Reply to:543107

เมื่อกี๊ผมพิมพ์ยาวมากเลยล่ะ แต่เปลี่ยนใจละ

นั่นล่ะสิครับ กล้องดิจิตอลคือสุดยอดนวัตกรรมกล้อง กล้องฟิล์มไม่มีวันเทียบได้ ตั้งแต่วันแรกที่กล้องดิจิตอลวางขายทุกคนควรเปลี่ยนมาใช้กล้องดิจิตอลกันให้หมด เลิกใช้กล้องฟิล์มกันเลย เพื่อลดปริมาณขยะรักษ์โลก

By: Slimy
AndroidUbuntu
on 20 February 2013 - 15:21 #543191

ทราบหรือเปล่าครับ ว่าตอนนี้วงการภาพถ่ายของญี่ปุ่นยังนิยมใช้ฟิล์มอยู่เยอะ?

By: doanga2007
AndroidSymbianUbuntu
on 20 February 2013 - 15:40 #543195 Reply to:543191
doanga2007's picture

เรื่องนี้ยังไม่ทราบครับ เพราะผมคิดว่าเทคโนโลยีใหม่มา เทคโนโลยีเก่าก็เลือนหายไป โดยไม่รู้เรื่องของ Slimy หรือคนอื่นมาก่อนเลยครับ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 20 February 2013 - 17:19 #543238
mr_tawan's picture

ถ้าการที่เขาพัฒนาเทคโนโลยีเองแล้วนำมาใช้เองถือเป็นความโชคดี ผมว่า .. เราคงไม่ต้องพยามอะไรมากล่ะมั้งครับ รอให้โชคมันวิ่งมาหาก่อนก็ดีนะ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: illusion
ContributorAndroid
on 20 February 2013 - 17:47 #543255
illusion's picture

กล้องดิจิทัลมีมานานแล้วจริง และเข้าบ้านเรามาได้พักใหญ่ๆ แล้ว และอันที่จริงก็มีคนนำกล้องดิจิทัลเข้ามาใช้ในเมืองไทยด้วยช่วงเวลาที่ไม่ต่างจากอเมริกาและญี่ปุ่นหรอกครับ สมัยนั้นคนนำเข้าก็มี หิ้วกันเข้ามาใช้กันตั้งเยอะแยะ จะบอกว่าคนไทยได้ใช้ช้ากว่าเขานั้นคงไม่จริง

แต่เรื่องของความนิยมและแพร่หลาย ก็เป็นอีกเรื่องนึง

ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะกล้องดิจิทัลยุคแรกๆ มันบันทึกข้อมูลผ่านแผ่น Floppy disk (ที่รู้จักกันดีก็ Sony Mavica) ที่ทั้งช้าและจุน้อยแถมความเสถียรต่ำ แต่มันก็เป็นสื่อบันทึกข้อมูลยอดนิยมแบบเดียวที่เรามีในสมัยนั้น ยุคนั้นยังไม่ต้องพูดถึง Flash memory อย่าง SD Card เลย

แล้วความละเอียดที่ได้ ก็ป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ 0.3, 0.8, 1.2, 2 ล้านพิกเซล (แน่นอนรุ่นที่เป็นตัวตลาดราคาพอซื้อได้ มักจะเป็นเซนเซอร์ 0.3 เทียบเท่า VGA 55) ซึ่งก็ถือว่าเทคโนโลยีในสมัยนั้นยังทำได้กันแค่นั้นอยู่ เอาจริงๆ ความละเอียดเท่านี้ถ่ายแล้วยังไงก็สู้ฟิล์มไม่ได้ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงคุณภาพของภาพอีกซึ่งเซนเซอร์ยุคปัจจุบันไปไกลกว่ามาก (กล้องดิจิทัลยุคปัจจุบันนี่โดยเฉพาะตัวแพงๆ ทัดเทียมฟิล์มได้สบายๆ แล้วครับ)

แต่กล้องดิจิทัลสมัยนั้นไม่ว่าความละเอียดจะเท่าไหร่ การใช้งานมันก็ลำบากมากอยู่ดี เพราะสื่อข้อมูลเป็น Floppy disk 1.44MB อย่างภาพความละเอียด 0.3 (VGA) ยังเก็บได้แค่ 10 รูป ไม่ต้องพูดถึง 2 ล้านพิกเซล ภาพสองภาพก็เต็มแผ่นแล้ว นี่ยังไม่นับว่ามันบันทึกข้อมูลช้าอีก กดถ่ายทีนี่ต้องรอบันทึกข้อมูลซักพัก เทียบกับกล้องฟิล์มที่ยังคล่องตัวกว่ามากในสมัยนั้น (ยังไม่ต้องพูดถึงขยะ Floppy disk อีก)

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปัญหาเรื่อง Bad sector ปัญหาคลาสสิกของ Floppy disk อีก โดนทีน้ำตาเล็ด ภาพพัง XD ดังนั้นที่บอกว่าคนใช้กล้องดิจิทัลโชคดีเพราะไม่ต้องกลัวภาพเสีย ผมบอกได้เลยว่าไม่จริง 55

สรุปว่า สมัยก่อนมันมีให้ใช้ก็จริง แถมมีคนนำเข้ามาใช้ในไทยก็พอสมควร แต่มันไม่สะดวกและราคาแพงครับ มันก็เลยไม่เป็นที่นิยม ยังไม่มีความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับกล้องฟิล์มในสมัยนั้น ถึงกล้องดิจิทัลจะได้ภาพทันที ไม่ต้องใช้ฟิล์ม แต่ก็มีข้อจำกัดกว่าฟิล์ม ทั้งเรื่องคุณภาพภาพและสื่อบันทึกที่มันไม่สะดวกเอาซะเลย

ที่ผมต้องย้อนกลับไปไกล เพราะเห็นคุณพูดถึงการใช้กล้องดิจิทัลก่อนใครในโลก เห็นยกไปถึงยุค 90 โน่น ก็เลยต้องพูดถึงกล้องดิจิทัลแบบนี้แหละ :P แต่กล้องดิจิทุลยุคที่ผมว่ามันเริ่มน่าใช้ ก็ตอนที่กล้องดิจิทัลเริ่มเปลี่ยนมาใช้สื่อบันทึกแบบ Flash memory ครับ ทลายกำแพงความจุไปเลย และตัวเซ็นเซอร์ที่เริ่มไปสู่ 3.2 ล้านพิกเซล ซึ่งเริ่มใช้แทนกล้องฟิล์มได้บ้างแล้ว ในช่วงนี้ก็มีคนไทยใช้กันเยอะแล้วนะครับ เพียงแต่มันอาจจะยังแพงไปหน่อย ก็เลยมีจำกัดกลุ่มคนใช้บ้าง

ถ้าเทียบกับกล้องดิจิทัลยุค 90 ที่คุณว่ามา ผมว่าขยะจาก Floppy disk กับฟิล์ม มันก็ไม่ต่างกัน ฟิล์มจุได้ 36 รูปแถมเก็บฟิล์มไว้อัดต่อได้ กระบอกฟิล์มนำไปรีไซเคิลได้ (หรือทำเป็นพวงกุญแจ อิอิ) แต่แผ่น floppy เนี่ย เก็บได้อย่างมากไม่เกินสิบ (ภาพ VGA ด้วยนะ) แถมเจ๊งแล้วเจ๊งเลย ภาพหายหมดด้วย

ที่เดี๋ยวนี้เรานิยมใช้กล้องดิจิทัลแทน เพราะมันถึงจุดของมันแล้วครับ ตรงที่คุณภาพ กับราคา และความสะดวก อยู่ในจุดที่เลยกล้องฟิล์มไปไกลแล้ว มันก็ต้องนิยมเป็นธรรมดา

By: illusion
ContributorAndroid
on 20 February 2013 - 18:01 #543268 Reply to:543255
illusion's picture

เผื่อเด็กรุ่นใหม่ๆ ที่ไม่ทันได้เห็นกล้องดิจิทัลยุคใช้ Floppy disk ครับ

No Description

จะว่าไปตัวนี้ก็ไม่เก่ามากนะ ออกมาตอนปี 1999 เอง

เซ็นเซอร์ 0.3 ล้านพิกเซล (VGA) ซูมได้ 10 เท่า Autofocus บันทึกข้อมูลด้วย Floppy disk 3.5" 1.44MB สูงสุด 10 รูป

ราคาจำไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่ แต่ไม่ธรรมดาหรอกครับ หลายหมื่นอยู่ หุๆๆ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 20 February 2013 - 18:05 #543270 Reply to:543268
PaPaSEK's picture

ตั้งใจพิมพ์ให้อ่านขนาดนี้ถ้าไม่อ่านก็ใจร้ายกันเกินไปล่ะครับ

ดิจิทุล => ดิจิทัล ครับ

ขอนิดนึงน่า ... จะได้รู้ว่าอ่านทั้งหมด

By: doanga2007
AndroidSymbianUbuntu
on 20 February 2013 - 18:12 #543275 Reply to:543270
doanga2007's picture

ตอนนี้ ผมรับทราบว่าอ่านความจริงและรู้ความจริงทั้งหมดแล้วครับ ดังนั้น ขอจบเรื่องทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ครับ ปิดกระทู้ได้ครับผม และผมกลับไปสนใจเรื่องทั่วไป ไม่เป๋อๆ อีกแล้วครับผม

By: EThaiZone
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 20 February 2013 - 18:25 #543283
EThaiZone's picture

ไม่เกี่ยวครับว่าฟิลม์จะกลายเป็นขยะ ความเป็นจริงคือคนถ่ายจะเก็บฟิลม์ไว้อัดซ้ำอยู่แล้ว มันไม่ได้กลายเป็นขยะเลย ส่วนที่กลายเป็นขยะ ก็คือคนไม่เก็บฟิลม์ ที่ไม่เก็บก็คงเพราะถ่ายห่วย ถ่ายไม่ดี ถ่ายเล่นโดยที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์จะเก็บไว้ดูเป็นความทรงจำ ตั้งแต่ใช้กล้องฟิลม์ก่อนผมจะมาใช้กล้องดิจิตอล ผมไม่เคยทิ้งฟิลม์ที่ล้างแล้วสักใบ เกิดทิ้งไปวันไหนจะอัดซ้ำจะหาที่ไหนมาอัด

มันพอๆ กับคนสมัยนี้มักคิดว่าถ่ายฟิลม์แล้วภาพไม่สวย ไม่ใช่กล้องฟิลม์ ม้วนฟิลม์มันผิดนะครับ คนถ่ายต่างหากที่ผิดและถ่ายห่วยเอง

อยากให้ดูภาพในข่าวนี้ ภาพถ่ายจากฟิล์ม Kodachrome ม้วนสุดท้ายของโลก ถ้าคุณถ่ายได้แบบนี้ยังจะกล้าทิ้งฟิลม์ตัวเองลงเหรอ?


มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB

By: doanga2007
AndroidSymbianUbuntu
on 20 February 2013 - 19:38 #543302 Reply to:543283
doanga2007's picture

ตอนแรก ผมเข้าใจผิดเรื่องฟิล์มว่าเป็นขยะ ผมเข้าใจเรื่องฟิล์มใหม่เรียบร้อยแล้วว่า ฟิล์มไม่ใช่ขยะแน่นอน 100% ครับ

ขอโทษครับ ที่ผมพิมพ์โดยไม่หาความรู้ล่วงหน้ามาก่อนครับ

By: mix5003
AndroidUbuntuWindows
on 20 February 2013 - 20:22 #543316 Reply to:543283

มันจะไปสวยได้ไงก็มันใส่ Photoshop ไม่ได้นินา 555

By: doanga2007
AndroidSymbianUbuntu
on 20 February 2013 - 20:28 #543319 Reply to:543316
doanga2007's picture

จริงด้วยครับ เพราะกล้องฟิล์มนั้น ต้องวัดแสงเองทั้งหมด ถ้าไม่สวย ต้อง scan รูปให้เป็น digital ก่อน แล้วค่อยแต่งใน ps ทีหลังครับ

By: lupus147
AndroidWindows
on 22 February 2013 - 17:22 #544143

กล้อง Digital สมัยแรกๆใช้ถ่านซะเยอะนะครับถ่ายแปปๆก็หมดแล้วด้วยเป็นขยะที่เยอะกว่านะครับ