Tags:
Node Thumbnail

ทุกวันนี้กระดาษโน้ตหลากสีที่มาพร้อมกาวด้านหลังสำหรับแปะโต๊ะทำงานหรือกระดานไวท์บอร์ดกลายเป็นหนึ่งในเครื่องเขียนที่หลายสำนักงานต้องมีติดไว้ใช้งานเสมอ โดยต้นตำรับกระดาษจดบันทึกแบบนี้ก็คือเจ้าของชื่อยี่ห้อ "Post-It" อย่าง 3M ซึ่งตอนนี้ไม่เพียงแต่จะผลิตกระดาษจดบันทึกไว้ใช้บนโต๊ะทำงานเท่านั้น แต่ 3M ได้พัฒนาแอป Post-It เวอร์ชั่นสำหรับ Microsoft Teams ให้ใช้สำหรับการประชุมและทำงานแบบออนไลน์กันด้วย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ 3M พัฒนาซอฟต์แวร์ในชื่อ Post-It ก่อนหน้านี้พวกเขาได้พัฒนาแอปสำหรับสมาร์ทโฟนออกมาก่อนแล้วในปี 2014 ซึ่งตัวแอปมีฟังก์ชั่นหลักคือการถ่ายรูปกระดาษ Post-It ที่เป็นแผ่นแล้วใช้ระบบประมวลภาพดึงเอาข้อความบนกระดาษมาแสดงเป็นกล่องข้อความหลากสีในสมาร์ทโฟนและสามารถส่งข้อมูลไปใช้งานบนแพลตฟอร์มเพื่อการทำงานอื่นได้

สำหรับแอปเวอร์ชั่นสำหรับ Microsoft Teams นี้ก็มีความคล้ายคลึงกัน มันรองรับการถ่ายภาพกระดาษ Post-It ด้วยเว็บแคมที่ใช้สำหรับการประชุม หรือจะดึงข้อมูลมาจากภาพที่ถ่ายด้วยแอป Post-It เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟนอีกทางหนึ่งก็ได้

ในแอปสำหรับ Microsoft Teams ผู้ใช้สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับกล่องข้อความหลากสีในแอปคล้ายกับการคุยงานโดยใช้กระดาษ Post-It จริงๆ บนโต๊ะทำงานหรือกระดานไวท์บอร์ด โดยมีฟังก์ชั่นการใช้งานดังนี้

  • ถ่ายภาพกระดาษ Post-It เพื่อดึงข้อความลายมือบนกระดาษมาแสดงบนแอป
  • Zen Mode สำหรับการเพิ่มสมาธิในการทำงานโดยหยุดแสดงผลการแก้ไขกล่องข้อความของผู้ใช้ Microsoft Teams คนอื่นๆ ในขณะนั้น
  • ค้นหาคำสำคัญและจัดกลุ่มกล่องข้อความที่เนื้อหาซ้ำกัน
  • เชื่อมโยงระบบค้นหาข้อมูลกับ Bing, Wikipedia และผูกเนื้อหากับไฟล์งานอื่นๆ ใน Microsoft Teams
  • ระบบโหวตลงคะแนนในระหว่างคุยงานกันผ่านแอป Post-It
  • การติดแท็กสมาชิกในทีมเพื่อมอบหมายงาน

แอป Post-It เวอร์ชั่นสำหรับ Microoft Teams นี้จะเปิดให้ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน หลังจากนั้นจะคิดค่าใช้งาน 2.99 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือหากเหมารายปีจะมีค่าใช้งานปีละ 31.25 ดอลลาร์ ใครที่สนใจอยากทดลองใช้งานแอปก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่นี่

ที่มา - Tech Xplore, 3M News Center

Get latest news from Blognone

Comments

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 17 October 2022 - 10:41 #1265372
hisoft's picture

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ 3M พัฒนาซอฟต์แวร์ในชื่อ Post-It ก่อนหน้านี้พวกเขาได้พัฒนาแอปสำหรับสมาร์ทโฟนออกมาก่อนแล้วในปี 2014

ส่วนผมที่ใช้มาตั้งแต่ Windows XP (น่าจะ ตัวนี้ แอบตกใจที่เค้ายังเก็บข่าวไว้ด้วย)