Tags:
Node Thumbnail

Tim Cook ซีอีโอของ Apple ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวสัญชาติดัตช์ Bright ว่าสหรัฐอเมริกาควรมีวิชาการเขียนโปรแกรมตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มองว่าการเขียนโค้ดเป็นภาษาสากลที่สำคัญมากสำหรับวงการเทคโนโลยีและเป็นภาษาที่ทุกคนควรเรียนรู้ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา

Tim Cook มองว่าการเขียนโค้ดเป็นภาษาที่สำคัญที่สุดที่ควรได้เรียนนอกเหนือไปจากภาษาแม่ที่ใช้ในการสื่อสาร เพราะการเขียนโปรแกรมเป็นประโยชน์ในการถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์

Tim Cook ได้สนับสนุนการเพิ่มวิชาการเขียนโปรแกรมลงในหลักสูตรปฐมวัยมาตั้งแต่ปี 2019 และก่อนหน้านี้ ก็ได้เป็นหนึ่งในคณะผู้บริหารธุรกิจกว่า 500 รายที่เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับปรุงหลักสูตรการศึกษา K-12 Curriculum ที่ใช้กับการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงเกรด 12 (มัธยมศึกษาปีที่ 6) ในแต่ละรัฐเพื่อให้ครอบคลุมการสอนวิชาการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์

สำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐฯ ประมาณการณ์ว่าสหรัฐจะขาดแคลนแรงงานวิศวกรซฟต์แวร์ถึง 1.2 ล้านคนภายในปี 2026 อย่างไรก็ตามผู้ที่สมัครงานด้านการเขียนโปรแกรมที่มีประวัติการศึกษานอกระบบ (untraditional education) ก็ยังคงประสบปัญหาในการหางาน

ที่มา: Business Insider

Get latest news from Blognone

Comments

By: poa
Android
on 3 October 2022 - 18:31 #1263949

รอดูผลงานของคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช แต่กว่าจะออกผลคงต้องรออีกหลายปี

By: rattananen
AndroidWindows
on 3 October 2022 - 19:23 #1263954

ไม่รู้หลักสูตรการศึกษาของ USA เป็นไง
ผมว่าประถมน่ะเร็วไป มันควรมีทักษะคณิตศาสตร์ระดับหนึ่งก่อน
ไปเริ่มสักมัธยมปลายน่าจะดีกว่า

ทุกวันนี้ แยกตัวประกอบ, ไตรยางค์(ratio), ตรีโกณ, matrix, vector ผมก็ยังใช้อยู่เลย
ยังเสียดายที่ผมลืม integrate ไปแล้วไม่งั้นน่าจะเขียนโปรแกรมง่ายกว่านี้

By: Rote
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 3 October 2022 - 19:25 #1263957 Reply to:1263954

ผมกลับมองว่าเริ่มตั้งแต่ประถมก็น่าจะเหมาะแล้ว แต่อาจจะซัก ป.5 - ป.6 เพราะน่าจะเรียนแก้สมการกันแล้ว
ผมว่ามันเป็นการเสริมกัน ช่วงประถมอาจจะให้เรียนรู้โครงสร้างการเขียนโปรแกรม ให้เขียนโปรแกรมง่ายๆ ได้ เพื่อที่ว่าหากเด็กคนไหนสนใจก็สามารถไปหาความรู้ต่อยอดเอาจากอินเตอร์เน็ตอีกที

By: Kazu
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 3 October 2022 - 20:34 #1263967 Reply to:1263954

ก็เรียนคณิตศาสตร์ไปพร้อมกับเขียนโปรแกรมก็ได้นิครับ
ผมโชคดี สมัยป.4 เมื่อ25ปีที่แล้ว เรียนโรงเรียนเอกชน แล้ววิชาคอมเนื้อหาก็จะขึ้นกับคนสอนเลยว่าอยากสอนอะไร ตอนนั้นเลยได้เรียนเขียนpascal ทำให้สนใจการเขียนโปรแกรมตั้งแต่ตอนนั้น เรียนก็ไม่ได้เอามาทำอะไรยากๆ เขียนpascal วาดรูปบนหน้าจอ เส้นตรง วงกลม สี่เหรี่ยม พวกนั้น แต่ก็ยังจำได้ถึงทุกวันนี้ สมัยนั้นหลังจากออกจากห้องคอม ก็ได้ไปเรียนพิมพ์ดีดต่อเลย มีความคอนทราสกันมาก

By: akira on 3 October 2022 - 20:48 #1263972 Reply to:1263954

เขาน่าจะสอนเพื่อฝึกให้ใช้วิธีคิดแบบ Logic เพื่อฝึกทักษะ มากกว่าการคำนวณเพื่อประมวลผลนะผมว่า ภาษาที่ใช้สอนไม่น่าจะใช้ภาษาที่เราใช้ทำมาหากินกัน น่าจะเป็นภาษาเชิงภาพพวก Scratch อะไรประมาณนั้น

By: rattananen
AndroidWindows
on 4 October 2022 - 10:26 #1264009 Reply to:1263972

จะให้เข้าใจว่าที่เราเรียนไปมันทำอะไรได้ มันควรจะมี use case เป็นตัวอย่างนิดหน่อยครับ
สำหรับผม use case ที่ดีสุดคือเอาไปใช้กับวิชาอื่น จะเคมี ฟิสิกส์ก็ดี เหมาะสุดน่าจะคณิตศาสตร์

และ use case ของ programming ที่ใช้ศาสตร์อื่นน้อยสุดคือ low-level programming (พวก compiler, kernel, server, ...) ซึ่งมัน advance ไป

คือ programming เป็นทักษะที่ไม่จำเป็นต้องใช้กับบริษัท IT อย่างเดียว
เพราะผมก็เป็น programmer สำหรับโรงงานที่ไม่เกี่ยวกับ IT น่ะ

By: Neroroms
Windows
on 4 October 2022 - 14:00 #1264033 Reply to:1264009

คิดว่าอยู่กับเรื่องตรรกศาสตร์​น่าจะเหมาะครับ if else switch case พวกนี้

By: jaybroom on 4 October 2022 - 14:59 #1264038 Reply to:1263972

ผมว่าก็น่าจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกันครับ น่าจะเป็นโปรแกรมง่ายๆ สอนเชิงโลจิก การทำงานง่ายๆของโปรแกรมไรงี้

By: 0FFiiz
Windows PhoneAndroidWindows
on 4 October 2022 - 10:57 #1264011 Reply to:1263954
0FFiiz's picture

มีรุ่นน้อง เริ่มหัด coding ตั้งแต่ประถมนะครับ
ในสมัยก่อนที่ยังไม่ได้มี framework lib tools
หรือแม้แต่รูปแบบการเรียนที่มากเหมือนวันนี้
ก็คือใช้ notepad เขียน code กัน เลย

ซึ่งเขาก็ไปได้นะครับ แถมได้เปรียบคนอื่นเยอะมาก ๆ
ทำงานจริงจังได้ตั้งแต่มัธยมเลย

ผมคิดว่า เด็กสมัยนี้ สามารถเรียนได้นะครับ
coding ไม่ได้ใช้ math ในทุก ๆ อย่างเยอะขนาดนั้น
แล้วสมัยนี้มีรูปแบบการเรียนรู้ coding หลายแบบมาก ๆ

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 4 October 2022 - 15:20 #1264040 Reply to:1263954
lew's picture

เรียนเขียนโปรแกรมเพื่อ แยกตัวประกอบ, ไตรยางค์(ratio), ตรีโกณ, matrix, vector เลยครับ ใช้ให้เป็นเครื่องมือมาตรฐาน


lewcpe.com, @wasonliw

By: rattananen
AndroidWindows
on 4 October 2022 - 17:29 #1264059 Reply to:1264040

จะเอาหมดนี่ก็ต้องงาน CG 2D/3D น่ะครับ น่าจะยากไปสำหรับมัธยม

By: Kazu
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 4 October 2022 - 23:02 #1264107 Reply to:1264059

ผมว่าดีว่ากว่าแก้สมการบนกระดาษอยู่เยอะนะ
และทั้งหมดนั้น ผมก็ได้เรียนตอนมัธยมนะ หลักสูตร20ปีที่แล้วด้วย

By: rattananen
AndroidWindows
on 5 October 2022 - 01:13 #1264116 Reply to:1264107

ผมเองก็ไม่แน่ว่าถ้าสอนมัธยมควรจะเอาระดับไหนครับ เช่นถ้าจะให้จะเขียน function คำนวณ distant

// interface C
ex1: float cal_distant(float x0, float y0, float x1, float y1); //bad

ex2: float cal_distant(Point x, Point y); //good

จะให้สอนสิ่งที่ไม่ดีให้มันก็กระไร
แต่อันสองมันต้องสอน data structure ก็เกรงว่ามากไป

By: zcrach on 4 October 2022 - 15:50 #1264045 Reply to:1263954

ผมเห็นด้วยนะ เริ่มเร็วไปมันจะเป็นภาระให้เด็ก ผมว่ามันยังไม่ถึงวัย

ส่วนประเด็นที่ว่าขาดแคลน เพราะเข้าไม่ถึงจุดมากกว่า ในไทยนี่เกลี่อนเลย เพราะด้อยค่าพวกโปรแกรมเมอร์ ให้เงินเดือนน้อยๆ ให้งานที่ไม่เกี่ยวข้องเยอะๆ หลายคนก็ท้อ ออกจากวงการไปทำอย่างอื่นกันซะเยอะแล้ว

By: api on 3 October 2022 - 19:21 #1263956

ประถมปลายน่าจะได้ ประถมต้นไม่ควรเดี๋ยว ปัญหาเด็กติดจอ สมาธิสั้น พ่วงมาอีก ไหนจะเรื่องปัญหาสายตาตั้งแต่เด็ก

By: konga143
iPhoneAndroid
on 4 October 2022 - 15:33 #1264042 Reply to:1263956
konga143's picture

ขออนุญาตงงครับ

เหมือนบอกว่าอย่าอ่านหนังสืออ่านเล่นเพราะจะทำให้สายตาสั้นแต่อ่านหนังสือเรียนได้ไม่เป็นไร

By: nessuchan
iPhoneAndroidWindows
on 4 October 2022 - 16:33 #1264055 Reply to:1264042
nessuchan's picture

ซึ่งก็ถูกแล้วนี่ครับ หน้าสืออ่านเล่น (นิยาย การ์ตูน) ส่วนใหญ่เราจะใช้สายตาจ้องกับบันในระยะเดิมนาน ๆ หลายสิบนาทีหรือเป็นชั่วโมง ทำให้ใช้สายตาหนักกว่าปกติ

แต่ผมไม่เคยเห็นหนังสือเรียน (ตามหลักสูตร) ที่อ่านในระยะเดิม ๆ เป็นชั่วโมงได้เลยนะครับ มันมีตัวอย่าง แบบฝึกหัดให้ทำสายตามันปรับระยะใกล้ไกลบ่อย ๆ แต่ถามว่าหนังสือเรียนทำให้ตาสั้นได้มั้ย ผมก็ว่าได้นะ แต่อย่างน้อยมันก็มีประโยชน์ (ในสายตาผู้ใหญ่)

ส่วนเรื่องติดจอ สมาธิสั้น มันก็มีผลวิจัยออกมาจริง ๆ ครับ มันจะส่งผลกระทบในเด็กได้มากกว่าผู้ใหญ่ในวัยที่สมองกำลังพัฒนา เด็กสมัยปัจจุบัน ถ้าให้เล่นมือถือดูทีวีแต่เล็ก มีโอกาสเป็นออทิสติกเทียมได้เลยครับ และส่วนใหญ่จะพูดไม่ได้ตามวัยครับถ้าให้เล่นมือถือ/ดูทีวี ส่วนตัวลูกผมไม่ให้เจอเลย เก็บทีวี เลิกเล่นโทรศัพท์ต่อหน้าเค้าใช้เวลากับเค้าให้มาก ประมาณนี้ครับ ส่วนปัญหาเรื่องสายตา มันก็มีระยะเวลาในการได้รับแสงสีฟ้าอีก แต่มันก็มีทางแก้ครับ

By: konga143
iPhoneAndroid
on 13 October 2022 - 15:16 #1265068 Reply to:1264055
konga143's picture

เพิ่งวนมาตอบ อาจจะช้าหน่อยครับ

ในโรงเรียนของลูกผม อ่านหนังสือเรียนกันแบบที่คุณ nessuchan บอกว่าใช้อ่านหนังสืออ่านเล่นนั่นล่ะครับ

By: zda98
Windows Phone
on 3 October 2022 - 19:34 #1263958

Block programming ฝึก logic คิดเป็นระบบดีกว่าครับ เตรียมความพร้อม แล้วเด็กจะสนุกด้วย พอสนุกการเรียนรู้จะก้าวกระโดด เลย

By: popwow on 3 October 2022 - 19:42 #1263961

หัวข้อน่าจะประมาณ Tim Cook แนะนำศึกษาภาษาคอมพิวเตอร์เป็นภาษาที่ 2 รึเปล่านะ

By: Architec
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 3 October 2022 - 20:02 #1263963

ขอพูดในมุมครูนะครับ

สามสิ่งที่มักตีกันไปมาคือ หลักสูตรที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน ตรงกับความต้องการของท้องถิ่น กับตรงกับความต้องการของผู้เรียน

ซึ่งถ้ามองแบบ Nagative Thinking แบบผมแล้วก็จะ Label ไปว่า "เป็นขี้ข้าในบริษัท" "เป็นไอ้โง่ที่ทอผ้ากับต้มเกลือขายไปจนตาย" "วันๆไม่ทำอะไรเอาแต่เต้นลงติ๊กต๊อก"

ปัญหาคือ คุณจะสามารถรักษาจุดร่วมที่ทำให้บริษัทยังมีแรงงานป้อนพนักงานในระบบอย่างไรโดยที่เด็กไม่ต้องอพยพย้ายถิ่นและไม่เลิกเรียนกลางคัน มันเป็นเรื่องที่ยากและถ้าคุณทบทวน modern education ณ ตอนนี้ให้ดี มันเบียวครับ มีตั้งแต่ให้ท่องสูตรคูณตั้งแต่อนุบาล คัดไทยตัวเท่าเหรียญบาทให้สวย โดยลืมไปว่าช่วงวัยของเด็กสามารถหรือไม่สามารถทำอะไรได้ เช่น เด็กอายุไม่ถึง 11 ขวบยังไม่สามารถคิดเชิงนามธรรมได้ เด็กอนุบาลยังมีลักษณะทางกายภาพของมือที่ยังเจริญไม่เต็มที่แต่ครูกลับใช้ไม้เคาะมือเด็กให้คัดไทยให้สวย

สิ่งเหล่านี้เรียกว่า Fast Education เร่งเร้าอยากให้เด็กทำทำทุกอย่างได้จนเด็กหลายคนซิ่งมอไซค์กับเล่นเกมไปวันๆยังมีความสุขกว่านั่งในห้องเรียน

แล้วมันเกิดจากอะไร มันเกิดจากทิฐิของผู้ใหญ่ที่ประสบอะไรบางอย่างที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเขาแล้วพยายาม "ยัด" ให้เด็กได้รับประสบการณ์นั้นด้วย อย่างเช่นคุณจัดแผนแบบหมวก 6 ใบให้กับเด็กประถม คุณยัดภาษาจีน นาฏศิลป์ ดนตรีให้เด็กเรียนทุกชั้นเรียน โดยลืมธรรมชาติของเด็กและความต้องการของเด็กด้วย ถ้าสามารถให้เด็กในโรงเรียนของรัฐเลือกวิชาเรียนได้เอง เด็กคงไม่ออกกลางคันหรอกครับ (แต่ครูภาษาอังกฤษคงนั่งตบยุงสนุกเลย)

หากมีใครมาบอกว่าลูกผมทำได้ เขียนโค้ดได้ พูดภาษาบลาๆได้ ผมขอแสดงความยินดีด้วย(อยากใช้คำอื่นนะ) แต่ไม่ใช่กับเด็กในชนบทที่ไม่มีแม้กระทั่งมือถือ แถมมีคอม AIO ห่วยๆที่จัดสรรมาให้เกิดจอพังทั้งที่ยังไม่สอนเด็กเลยด้วยซ้ำ

By: Rote
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 3 October 2022 - 20:11 #1263965 Reply to:1263963

"เด็กอนุบาลยังมีลักษณะทางกายภาพของมือที่ยังเจริญไม่เต็มที่แต่ครูกลับใช้ไม้เคาะมือเด็กให้คัดไทยให้สวย"
อันนี้เป็นที่คุณภาพของครูรึเปล่าครับ

By: Architec
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 3 October 2022 - 20:29 #1263966 Reply to:1263965

ใช่ส่วนนึงครับ จะโทษครูฝ่ายเดียวเพียวๆก็ไม่ถูกเช่นกัน ในเมื่อครูหนึ่งคนต้องแบกสิ่งที่อยู่บนหัวตั้งแต่ครูอาวุโส ผอ. ไล่ไปจนถึงกระทรวงครับ ถ้าครูไม่สามารถบรรลุความต้องการของบุคลากรหรือองค์กรที่ว่า อย่าคิดว่าจะได้"เลื่อน"เงินเดือนเหมือนคนอื่นครับ ประเมินนี่ไม่ต้องถามเลย ด้วยความเครียดนี่แหละที่ทำให้บางคนต้องไปลงที่เด็กด้วย แต่บางคนก็ไม่สนอะไรนะครับ เห็นปริ้นท์รูปให้เด็กระบายสีแล้วเขียนศัพท์ลงใต้กระดาษ ได้ชิ้นงานนึงแต่เด็กไม่ได้ความรู้อะไรเลย

นี่คือความอุบาทว์นึงที่คงไว้ในพรบ.ครูปี 46 ครับ ครูหน้าใหม่คือฐานพีระมิด ส่วนคนที่อยากไต่เต้าก็ต้องเหยียบหัวคนอื่นขั้นไป คนรุ่นใหม่ถึงลาออกกันครับ

By: iqsk131 on 3 October 2022 - 20:52 #1263968

ส่วนตัวไม่เห็นด้วยเท่าไหร่

ผมมองว่าสิ่งที่จำเป็นจริงๆไม่ใช่การ "เขียน" แต่เป็นการ "อ่าน" มากกว่า (ไม่ได้หมายถึงอ่านโค้ดตามตัวอักษรแต่หมายถึงสามารถเข้าใจการทำงานของมันได้) ซึ่งการอ่านภาษาโปรแกรมนั้น ผมคิดว่าเรียนรู้เรื่องวิธีคิดอย่างเป็นระบบหรือตรรกะอะไรพวกนี้ก็เพียงพอแล้ว

ภาษาเขียนโปรแกรมเกือบทั้งหมดมันก็เป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ถ้าเข้าใจวิธีคิดหรือตรรกะมันก็อ่านรู้เรื่องในระดับนึงและน่าจะเพียงพอก็คนที่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับสายงานนี้อยู่ อีกทั้งยังสามารถนำวิธีคิดไปประยุกต์ใช้ได้อีกด้วย

แน่นอนถ้าเป็นขั้นสูงยังไงก็ต้องเรียนรู้จากการเขียนโปรแกรมแหละ และถ้าได้ทั้งอ่านและเขียนมันก็เป็นเรื่องดี แต่นี่คือกำลังพูดถึงวัยประถม คิดว่ายังไงวัยนี้ก็คงยากที่จะเรียนรู้ทั้งสองอย่างได้พร้อมกัน และด้วยความที่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ประโยชน์จากการเขียนโปรแกรม ผมคิดว่าควรให้ความสำคัญกับวิธีคิดและการอ่านมากกว่า

ส่วนเรื่องการถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์มันก็มีประโยชน์จริง แต่ทุกวันนี้มีเครื่องมือที่ช่วยเรื่องพวกนี้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดมากขึ้นเรื่อยๆ อนาคตยังไงมันก็ต้องมีมากขึ้นแน่นอน ซึ่งถึงตอนนั้นการเขียนโค้ดอาจจะไม่จำเป็นแล้ว แต่ทักษะการคิดเชิงตรรกะอะไรพวกนี้นี่แหละที่ยังต้องใช้อยู่

By: jokerxsi on 3 October 2022 - 21:37 #1263975

อาจเป็นวิชาพื้นฐานให้เด็กรู้จักโปรแกรม รู้จัการทำงานของโปรแกรม และได้ทดสอบความชอบก็พอ
เด็กเองก็ต้องมีพัฒนาการของเด็กด้วย อันนี้ต้อง Balance ครับ
จะแทงสุดซอยก็เสี่ยงต่ออนาคตเด็กมากไปหน่อย

By: AMp
In Love
on 3 October 2022 - 22:24 #1263978

FYI เท่าที่เห็นการเรียนโค้ดดิ้งโรงเรียนไทยตอนนี้ เด็กประถมต้นก็มักจะเป็น unplugged coding หรือ Lego WeDo โตมาหน่อยค่อยจับพวก microbit หรือ scratch ที่ทำงานกับ hardware ไม่ได้ไปนั่งเปิด editor พิมพ์โค้ดอย่างเดียวครับ

By: จักรนันท์ on 3 October 2022 - 23:01 #1263982

บิดาผมเป็นวิศวกรอิเล็คฯ ทำงานกับ Gestetner ประเทศอังกฤษ ตอนประถมผมมีโอกาสได้เริ่มที่เล่น 2SC458 และ CMOS+TTL ครับ สนุกมากและทำให้ได้เข้าใจ Logic ซึ่งเป็นพื้นฐานของทุกอย่างมาเป็นผมทุกวันนี้ (มีบิดาเป็นครูซะเอง)
2SC458+Bulb และ Buzzer ปูความเข้าใจเชิงเส้นให้กับผม (Linear)
CMOS+TTL และ NE555 ปูความเข้าใจเชิงเลขให้กับผม (Digital)
โดยที่ยังไม่ต้องเขียนโปรแกรมใดๆ (ตอนนั้นยังไม่มีภาษาโปรแกรมชั้นสูงเกิดอยู่แล้ว/ผมจึงเชี่ยวชาญ ASM) และไม่ต้องไปคำนึงถึงคณิตศาสตร์ชั้นสูงใดๆ เลย (ผมถูกบิดาหลอกล่อด้วยวงจรกำเนิดเสียงและไฟวิ่ง ตื่นตาตื่นใจมาก)
ดังนั้น ผมพอเข้าใจว่า Tim Cook หมายถึงอะไรสำหรับเด็กประถม
แต่... รุ่นผมโชคดีที่อยู่ในยุค 8086 เพิ่งเกิด (Z80 ด้วย) ทำให้ผมได้พัฒนาตัวเองมาพร้อมๆ กับที่ PC เกิดขึ้นมาบนโลก สะสมความชำนาญตามมาตลอด
สำหรับเด็กเดี๋ยวนี้ นวตกรรมมันทับถมมามาก คงไม่ง่ายเหมือนสมัยผมเริ่มต้นแล้ว

By: threepat on 4 October 2022 - 08:19 #1263998

เขาเสนอความเห็นในส่วนที่เป็นประโยชน์กับเขาด้วยละครับ ถ้าคนเกิดชอบเยอะ เขาก็จะมีโอกาสได้แรงงานในส่วนของเขา แต่มองในอีกมุม เด็กก็ได้เรียนรู้ทักษะ การคิด แก้ปัญหาต่างๆด้วยครับ win win

By: GodPapa
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 4 October 2022 - 09:01 #1264000
GodPapa's picture

เวลาความเป็นเด็กมันหายไปเพราะความคิดของผู้ใหญ่ เอาความคิดตัวเองไปใส่ให้เด็ก วันๆเรียนมันอย่างเดียว

By: waroonh
Windows
on 4 October 2022 - 09:15 #1264004

อ่านข่าวแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเห็นอาม่า อยากให้หลานเรียนหมอ หวังดีแหละ แต่ถามเด็กมันด้วยนะคร๊าบ อยากเรียนจริงมั้ย เพราะส่วนตัวรู้จัก คนที่เอนทรานซ์ ไม่คิด แต่เดินไปขอพ่อมันว่า อยากเรียนหมอครับ ขายสมบัติจ่ายไป 5-6 ล้านให้เรียนหมอแบบเอกชน จบมาก็ได้เป็นหมอผ่าตัด มือต้นๆ ของประเทศได้นะ รักที่จะเรียน กล้าเอามีดผ่าอกคนไข้มั้ย ? มันไม่เกี่ยวกับ ความเก่ง ใจล้วน ๆ (แต่คนนี้หัวใจวาย เสียชีวิตไปแล้ว เสียดายเหมือนกัน)

By: zerocool
ContributoriPhoneAndroid
on 4 October 2022 - 11:19 #1264013
zerocool's picture

ผมไม่เห็นด้วยเท่าไรนะ ควรเน้นสอนวิธีการคิดแบบ critical thinking มากกว่า ถ้าอยากจะไปทางนั้น


That is the way things are.

By: Bigkung
iPhoneWindows Phone
on 4 October 2022 - 11:21 #1264014
Bigkung's picture

สอนน่ะสอนได้ แต่ถ้าจะเอาแรงจูงใจในการเรียนรู้ ต้องให้คนเรียนได้ลองเอาสิ่งที่เรียนใช้ทันทีทีละเล็กละน้อยก็ได้ ไม่ใช่มาแต่ทฤษฏีไว้สอบ ประสบการณ์ส่วนตัวของผมเลย มารู้เลยว่าอะไรต้องใช้ในตอนโตนี่หล่ะต้องกลับไปรื้อฟื้นหาความรู้ใหม่ในที่สิ่งที่เคยผ่านมา ถึงตอนนี้มันจะจำได้เองเพราะมีการใช้งานจริง

By: gift099
Windows PhoneAndroidWindowsIn Love
on 4 October 2022 - 11:40 #1264018

ลูกผมก็เรียน Block programming พวก Scratch และ Code.org จากโรงเรียน
มันมี block พวก If...Else , Loop...for...while
มี Event ต่างๆให้ใช้
กึ่งๆ OOP

กำลังคิดๆว่า ถ้าหากว่า ผ่าน Scratch มาได้ ว่าจะได้ลอง Python

By: darkmaster
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 4 October 2022 - 12:32 #1264021
darkmaster's picture

เขาบอกว่า Coding ไม่ใช่ Programing นะครับ

By: tom789
Windows Phone
on 4 October 2022 - 12:40 #1264023

น่าจะคล้ายๆของไทยที่มีกระแสอยุ่ช่วงหนึ่ง ที่ไ่ม่ใช่การเขียนโค้ด แต่เป็นกให้คิดขั้นตอน ตรรกศาตร์ มีเกมให้เด็กเล่นสนุกๆ

By: Hoo
AndroidWindows
on 4 October 2022 - 16:30 #1264054

เข้าใจว่า ระบบตรรกะ เริ่มทำงานช่วง 7ขวบขึ้นไป
ดังนั้นเร็วสุดน่าจะ ป.ปลาย

อายุน้อยกว่านั้น ระบบความจำทำงานได้ดี ควรเน้นวิชาที่ใช้ความจำอย่างเรื่องภาษา/เลขง่ายๆ จะดีกว่า
ทำให้อ่านหาความรู้เองได้บ้างเมื่อเข้า ป.ปลาย ด้วย