Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

หลังจากที่ไม่กี่วันก่อน NASA แถลงข่าวความสำเร็จของโครงการ DART ยืนยันการพุ่งชนดาวเคราะห์น้อยเป้าหมาย ซึ่งตามที่แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ว่านอกเหนือจากข้อมูลภาพที่ได้จากกล้อง DRACO บนยาน DART เองแล้ว ได้มีการใช้กล้อง James Webb และกล้อง Hubble ร่วมบันทึกข้อมูลด้วยนั้น ล่าสุด NASA ได้ปล่อยภาพที่ได้จากกล้องโทรทรรศน์อวกาศทั้ง 2 ตัวออกมาแล้ว

ภาพที่ได้จากกล้อง James Webb นั้นเป็นภาพถ่ายแบบโดยใช้ NIRCam อันเป็นหนึ่งใน 4 เครื่องมือบันทึกภาพของกล้อง James Webb โดย NIRCam นี้เป็นการถ่ายภาพบันทึกคลื่นในช่วงใกล้ความถี่คลื่นอินฟราเรด ภาพที่บันทึกไว้นั้นแสดงให้เห็นถึง Ejecta ซึ่งหมายถึงเศษฝุ่นที่เกิดขึ้นจากการชนและพุ่งกระจายออกรอบตำแหน่งการชน (สามารถดูภาพ timelapse ได้จากเว็บไซต์ของ NASA) โดยกล้อง James Webb ได้ทำการบันทึกภาพการชนนี้รวม 10 ครั้งในระยะเวลา 5 ชั่วโมงคาบเกี่ยวก่อนและหลังการชนของยาน DART

ส่วนกล้อง Hubble นั้นก็สามารถบันทึกภาพ Ejecta ได้เช่นกัน โดยเห็นรูปร่างของ Ejecta แตกต่างจากที่กล้อง James Webb บันทึกไว้ได้เล็กน้อย โดยกล้อง Hubble บันทึกภาพด้วยคลื่นแสงที่มองเห็นได้ ซึ่งแสงจากการชนยังคงมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้กระทั่งในช่วงเวลา 8 ชั่วโมงหลังการชน โดยหลังจากนี้กล้อง Hubble จะยังคงเก็บข้อมูลต่อเนื่องไปอีก 3 สัปดาห์

No Descriptionซ้าย: ภาพจากกล้อง Hubble, ขวา: ภาพจากกล้อง James Webb พร้อมเส้นแสดงทิศทางการชนของยาน DART

ภาพที่บันทึกได้จากกล้อง Hubble เปรียบเทียบกันใน 3 ช่วงเวลาที่บันทึกภาพ

นอกจากภาพที่บันทึกไว้ได้โดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb และ Hubble แล้ว ยังมีภาพถ่ายจากดาวเทียม LICIACube ของ ASI (องค์การอวกาศของอิตาลี) ซึ่งถูกส่งไปพร้อมกับยาน DART ก่อนที่ดาวเทียมจะแยกตัวออกจากยาน DART ในช่วงก่อนการชนไม่นาน โดยภาพดังกล่าวถูกบันทึกไว้ในช่วงไม่กี่นาทีหลังยาน DART พุ่งเข้าชนดาวเคราะห์น้อย Dimorphos

No Descriptionภาพที่บันทึกได้โดยดาวเทียม LICIACube ในช่วงไม่กี่นาทีหลังการชน

ภาพถ่ายเหล่านี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับดาวเคราะห์น้อยได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้การติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้ไปจะช่วยให้ทราบว่าวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยมีการเปลี่ยนแปลงไปตามที่ได้คำนวณวางแผนไว้หรือไม่

ที่มา - NASA - 1, 2

Get latest news from Blognone